ตอนที่ 17 ฉันคือพ่อของเธอ
จิ้งเหยียนได้ถอนหายใจอย่างทำอะไรไม่ถูก ได้นึกถึงเรื่อง ทั้งหมดที่กง ออและฉินหยูนข่ายได้ทำกับเธอ สายตาก็เต็มไป ด้วยความอาฆาตเยือกเย็น
สําหรับเรื่องการหายตัวไปอย่างกะทันหันของเธอนั้น ที่ได้ถู กกงสืออนส่งตัวเข้าโรงพยาบาลจิตเวช โดยตั้งใจจะไม่ให้เยซู เซียได้รับรู้ ไม่อย่างนั้นนางผู้หญิงบ้าคนนี้ จะต้องตามมาเช็คบิล สองคนนั้นแน่นอน
เธอเคยพูดไว้ว่า พวกเขาติดหนี้บุญคุณเธอ เธอจะค่อยๆทาง คืนมันกลับมา!
ได้เจอมวิ่งเหยียนที่มีสีหน้าเฉยเมย เย่ชูเซียนึกว่าความทุกข์ ทรมานของเธอจากวันนั้นยังไม่ดีขึ้น ได้ตะโกนออกไปอย่างแรง ว่า
“เชี่ยเอ้ย เธอไม่ควรกลับไปนึกถึงผู้ชายเลวๆแบบนั้นนะ ฉันจะ บอกเธอให้นะ ถ้าเธอกำลังต้องการจะคิดผิดไปหาผู้ชายคนนั้น เธอก็ไม่ต้องมารู้จักกันชั้น
เธอจะไปเสียใจทำซากอะไร เธอไม่รู้หรอว่ามันเลวมากี่วันกี่ปี แล้ว ไปที่ไหนก็เจอแต่พวกเลวๆ กูนะขยะแขยงซะจริงๆ
“สบายใจเถอะ ฉันปล่อยมานานละไปเถอะ ท้องชั้นร้องแล้ว!” มู่จิ่งเหยียนได้พูดตัดบท เพราะไม่อยากที่พูดเรื่องนี้มากเกินไปแต่ภายใต้จิตใจของเธอนั้นได้ตะโกนออกมาด้วยความเกลียด ซังและเยือกเย็นอย่างไม่รู้จบ
กงออวี ฉลินหยูนขาย หากฉันไม่อยู่ พวกเธอคงจะอยู่กัน อย่างมีความสุขจริงๆ ใช่ไหม งั้นฉันจะคอยดูว่าพวกเธอมีความ สุขกันได้นานสักเท่าไหร่
หวังว่าพวกเธอคงจะไม่รีบตายไปซะก่อน ไม่อย่างนั้นคงจะไม่รู้ สึกถึงความเจ็บปวดทรมานของฉันที่ผ่านมา พวกเธอเคยติดค้าง อะไรชั้นไว้ ชั้นก็จะค่อยๆทางมันคืนกลับมา
“ไปๆๆ กูจองที่นั่งไว้ละ จะพามึงไปหาอะไรกินอร่อยๆ!”
เย่ซูเซียก็ไม่ต้องการให้คนเลวทรามสองคนนั้นมาทำลาย บรรยากาศ และได้ดึงมูวิ่งเหยียนไปที่รถของเธอ และขับรถไป ออก
จากมานานหลายปี เมืองหลวงได้เปลี่ยนไปไม่น้อย และทั้ง สองก็ได้มาถึงหน้าโรงแรมหวงเฉา
บริเวณนี้เป็นย่านที่มีความเจริญรุ่งเรืองและหรูหรามากที่สุด ในเมืองหลวง เป็นจุดที่เต็มไปด้วยคนรวย และที่มากที่สุดก็คือ พวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ
มู่วิ่งเหยียนได้จองห้องวีไอพีเพรสซิเดนสูทของโรงแรมหวง เฉาไว้เรียบร้อยตั้งแต่แรก หลังจากที่ได้จัดการกับกระเป๋าเดิน ทางเสร็จ ทั้งสองคนก็ได้ลงไปกินข้าวข้างล่าง
สถานะทางบ้านของเยซูเซียนั้น จัดได้ว่าเป็นคนที่ร่ำรวยระดับหนึ่ง พ่อของเธอเป็นประธานกรรมการของบริษัทตระกูลอีกแม่ของเธอยังเกิดในครอบครัว
ตอนเป็นผู้อำนวยการของสำนักการศึกษา อีกทั้งยังโชคเป็นตระกูลมีน้ำใจและภูมิหลังดี แต่นั่นไม่ได้ทำให้เยซูเซีย เหมือนกับลูกคุณหนู
ตนเองและแสดงออกไปให้โลกได้รับรู้
เธอเป็นหนึ่งจิตรกรอิสระ นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งวิ่งเหยียน สามารถเป็นเพื่อนสนิทของเธอได้
ทั้งสองเดินไปยังห้องวีไอพีของภัตตาคาร จึงเหยียนอาหารทั้งสองเคยกินกันมาก่อนหน้านั้น
คิดก่อนว่าที่อื่นเปลี่ยนไปมาก แต่ไม่เปลี่ยนไปเลย
สัก
รอดผ่านหน้าต่างจากห้องวีไอพี ที่จากพื้นจรดเพดาน จึง เหยียนได้มองเห็นบรรยากาศยามประดับด้วยไฟนีออนสวยงาม ทำให้เผลอเหม่อลอยเล็ก น้อย
“เหยียนเหยียน เธอบอกฉัน
มั้ย
ในตอนเธอก็จากไปไม่พูดอะไรคำ เป็นเพราะคนชั้นคู่นั้น แล้วจู่ตอนนี้กลับมา คงไม่นะ
หลังจากเงียบสักพัก เยซูเซียก็อดไม่ได้ที่จะต้องถามออกไป ด้วยความใส่ใจ จ้องมองไปยังวิ่งเหยียน ด้วยแววตาที่เต็มไป ด้วยความกังวลและกระวนกระวายใจ
มู่จิ้งเหยียนได้แต่ส่ายหน้าพร้อมสีหน้าที่เย็นชาและเฉยเมย ภายใต้ประกายคริสตัลที่สะท้อนแสงวิบวับ
“ชั้นกลับมาครั้งนี้เพราะว่ามีธุระ และก็มีเรื่องเกี่ยวกับสองคน นั้นด้วย แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะคิดมากแบบนั้น เธอวางใจเถอะ
สำหรับฉินหยูนข่ายที่ได้หักหลังฉันและพาฉันไปลงนรก ฉันก็ เลิกกับเขาตั้งแต่แรกแล้ว!!
ตอนนี้ฉันกับพวกเขาก็เหลือแต่เพียงความเกลียดชังเท่านั้น
ใช่ เมื่อสี่ปีก่อนตั้งแต่ที่ถูกพวกเขาหักหลัง เธอก็ได้เลิกลากับ เขาไปแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่ากงออวี่จะทำเรื่องเลวทราม พาเธอไป
ส่งเข้าโรงพยาบาลจิตเวช
แต่เดิมเธอไม่สามารถใช้อำนาจกำลังของเธอได้เลย เพียงแต่ ตอนนั้นได้แต่กลัวว่าฉินหยูนข่ายจะหักหลังตัวเอง แต่เธอก็ยัง คาดหวังในตัวเขา จึงทำให้กงออวี่มีโอกาสใช้ประโยชน์จาก จุดนี้
ตอนนี้จริงๆก็คิดว่าตัวเองเป็นคนโง่ ถ้าไม่ใช่เพราะความ แข็งแกร่งของเธอ ตอนนี้ก็คงจะเป็นบ้าจริงๆอยู่ในโรงพยาบาล จิตเวชแล้ว
ในปีนั้น ร่างของเธอเต็มไปด้วยสายต่างๆระโยงระยาง ทุกวันถูกทรมานอยู่ภายใต้เครื่องมือซีทีสแกน เหมือนกำลังจะใกล้ตาย แต่สุดท้ายก็ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง จนถึงตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นบ้า หรือตายแล้ว!
ในปีที่เจ็บปวดทรมานของมู่จึงเหยียน ทุกครั้งเมื่อนึกถึงฝัน ร้ายขึ้นมาเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดผวา
ในปีนั้นที่เธอป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหาร เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ของความเกลียดชังต่อกงออและฉินหยูนข่ายที่ได้รุนแรงขึ้น เรื่อยๆ
ในเวลาที่อาการกำเริบ หิวโหย เกือบตายอยู่หลายครั้ง แต่ เธอไม่เต็มใจ ความแค้นยังไม่ถูกชำระ เธอยังตายไม่ได้!
“เหยียนเหยียน เธอรู้มั้ยว่า อาทิตย์หน้าพวกเขาจะหมั้นกัน
แล้ว!” เยซูเซี่ยมองไปยังวิ่งเหยียนที่บ้างก็เป็นทุกข์ บ้างก็เป็น
กังวลใจ!
หมั้นเหรอ ดูเหมือนว่าเธอจะมาถูกเวลา งั้นเธอควรจะส่งของ ขวัญชิ้นใหญ่แบบไหนให้พวกเขาดีนะ วิ่งเหยียนเม้มริมฝีปาก พร้อมกับแววตาที่จะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่มีทางยอมให้ทั้งสองคนได้เข้า ร่วมพิธีกันง่ายๆแน่ พวกเขาทำให้เธอต้องตกนรก เธอจะปล่อย ให้พวกเขาได้รู้รสชาติว่าการตกนรกมันเป็นยังไง
หลังจากทานอาหารเย็นกับเย่ชูเซียเสร็จ มู่วิ่งเหยียนได้กลับไปยังห้องเพรสซิเดนท์สูท จริงๆเยซูเซียยังไม่ต้องการที่จะกลับ แต่ เมื่อเธอได้รับโทรศัพท์จึงมีธุระต้องจัดการเลยรีบจากออกไป
กลับมาถึงห้อง เธอได้อาบน้ำและกำลังจะนอนก็มีเสียง โทรศัพท์ดังขึ้น
“ใครคะ”
“ฉันเอง!” เสียงเรียบนิ่งของชายวัยกลางคนมาจากปลาย โทรศัพท์ ทำให้รู้สึกถึงการอยู่ภายใต้การโดดบีบบังคับ
ทันทีที่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ จึงเหยียนได้ทรุดตัวลงอย่าง รวดเร็ว แววตาของเธอแสดงถึงความสับสนและเย็นชา ขมวดคิ้ว และมีน้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึกและไม่แยแสใดๆ “มีอะไร
“นี่เธอใช้น้ำเสียงแบบนี้คุยกับฉันเหรอ ฉันเป็นพ่อเธอนะ หาย ไปนานหลายปีไม่เคยคิดที่จะกลับมาบ้านเลย!” เสียงที่ดูเป็นการ บังคับมีอาการโกรธเล็กน้อย ดูจริงจังอย่างบอกไม่ถูก
“เหอะ พ่อ ฉันไม่กล้าที่จะมีพ่อแบบคุณแล้วหละ นี่ยังจะมาสอน ชั้นอีกเหรอ ไม่มีประโยชน์หรอก
ฉันไม่กลับไปที่บ้านหลังนั้นเด็ดขาด ตั้งแต่แม่จากไป คุณก็เอา ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอยู่ที่นั่นมันก็ไม่ใช่บ้านฉันอีกต่อไป!
มู่วิ่งเหยียนได้พูดน้ำเสียงเย้ยหยัย เต็มไปด้วยคำพูดที่มีหนาม เสียดสี ฟังเสียงจากโทรศัพท์ก็ได้พลางขมวดคิ้ว
“เหยียนเหยียน…..” ในตอนท้ายของโทรศัพท์ก็ได้ยินเสียง ถอนหายใจเบาๆอย่างช่วยไม่ได้ ความรู้สึกที่ไร้อำนาจของชายวัยกลางคน อีกทั้งมวิ่งเหยียนได้พูดขัดจังหวะอย่างไร้ความ ปราณี
“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรฉันจะวางแล้วนะ วันหลังก็ไม่ต้องโทรมา
อีก!” พูดแล้วก็ไม่รอให้อีกฝ่ายได้เอ่ยออกมา
หลังจากที่จะได้รับโทรศัพท์ อารมณ์ของมวิ่งเหยียนก็เริ่มแย่ ลงเรื่อยๆ มองเห็นแสงลอดออกไปทางหน้าต่างจากพื้นจรด เพดาน ก็ทำให้รู้สึกถึงความเหน็บหนาวที่ขมขื่น
ใบหน้าที่เฉยเมยถูกปกคลุมราวกับน้ำค้างแข็ง ภาพที่อยู่ใน ใจก็ลอยอยู่ในหัวอย่างไม่อาจคาดเดาได้
ดูเหมือนว่าคนทั้งคนจะถูกรายล้อมไปด้วยแรงบีบคั้นอัน มืดมน พร้อมกับความหนาวเหน็บที่ขมขื่น ไม่สามารถหลุดพ้น ออกไปจากตัวเองได้ และโทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ