ตอนที่ 15 ฉันต้องการแค่เธอ
ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ทุกครั้งที่เจอเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะต้องโอบ กอดเธอไว้แน่นแล้วจูบลงบนริมฝีปากอันอ่อนนุ่ม ราวกับต้อง มนตร์สะกด
เดิมทีก็แค่จะเบาๆแล้วหยุด แต่เมื่อได้จูบไปแล้วก็ไม่สามารถ หยุดมันได้ ลมหายใจระหว่างทั้งสองคนเริ่มเร่าร้อนขึ้นเล็กน้อย
แนบแน่นอยู่ด้วยกัน จึงเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ ผลักหรงโม่ออกไป มีเพียงแค่สายตาที่เย็นชาคู่นั้นเริ่มเปล่ง ประกายแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนที่ยากจะเข้าใจ
จนกระทั่งริมฝีปากของเธอค่อยๆอ้าปากค้างเล็กน้อย ทรงโม่ ยังไม่ค่อยเต็มใจที่จะปล่อยเธอ เขา ยังคงกอดเธอไว้แน่นในอ้อม แขน
ครั้งนี้เธอไม่ได้ขัดขืนเขา และยังคงอ้าปากเล็กน้อย อย่าง เงียบๆ ขณะซบอยู่ในอ้อมกอด
ได้ยินเสียงหัวใจอันทรงพลังเต้นอย่างรวดเร็วในหน้าอกเขา หัวใจนั้นเต้นเร็วมาก ราวกับว่าเป็นเช่นนี้ก็เพราะเธอ ภายในใจมี ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้
“เธอคิดถึงฉันมั้ย”
สักพักหนึ่ง เสียงที่ทุ้มต่ำของทรงโม่ได้ลอดเข้าไปยังหูของจึง เหยียน
เมื่อมองไปยังริมฝีปากอันแดงของผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขน และกำลังถูกตนเองจูบนั้น ปากที่อ่อนช้อยดูน่ารัก แววตาที่แดงก็ ค่อยๆนําสนิท ประกายตาดำแดงนั้นเปล่งประกายขึ้น แล้วถาม ไปเบาๆ
จึงเหยียน ยังคงนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร หรง โม่ โอดครวญเล็ก น้อย มีความกังวลทุกข์อยู่หัวใจลึกๆ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนใจแข็ง จริงๆ ไม่นึกเลยว่าเธอจะไม่คิดถึงเขาเลยแม้แต่น้อย
“เรื่องบริษัทตระกูลซู เป็นฝีมือคุณใช่มั้ย” มู่วิ่งเหยียนถามเขา อีกครั้งหลังจากเงียบไปช่วงหนึ่ง
“ใช่” ทรงโม่ตอบอย่างเรียบๆไม่ได้มีเหตุผล หรือข้อแก้ตัว ใดๆ
“เพราะอะไร” มู่วิ่งเหยียนประหลาดใจ มีบางอย่างที่เธอยังไม่ ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำ แต่ไม่อาจเงยหน้าขึ้นมอง สายตาที่เยือกเย็นและลึกล้ำของทรงโม่ได้
“นั่นเป็นเพราะเธอ พวกเขารังแกเธอ ฉันก็เลยทำให้พวกเขา ต้องสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุด ขอแค่มีฉันอยู่ ฉันจะไม่ยอมให้ใคร มากลั่นแกล้งเธอได้
ทรงโม่พูดอย่างเยือกเย็น ความเย็นชาและเย่อหยิ่งในตัวเขา เผยให้เห็นถึงความสูงส่งและเอาแต่ใจ
เมื่อมจิ่งเหยียนได้ฟังคําตอบของทรงโม่ หัวใจก็รู้สึกจุกขึ้นมา ทันที แววตาที่เฉยเมยเริ่มพร่ามัว และนิ่งเงียบอีกครั้ง
ภายในรถตอนนี้ ทั้งคันเต็มไปด้วยความเงียบอย่างผิดปกติ ผ่านไปห้วงเวลาหนึ่ง เขาคิดว่า จึงเหยียนกำลังหลับอยู่ในอ้อม แขนตนเอง มีเพียงเสียงลมหายใจเบาๆของมู่จิ้งเหยียน
“นายต้องการอะไรจากฉัน”
“ฉันแค่ต้องการเธอ!” ทรงโม่ตอบอย่างจริงจัง แววตาที่ลึกล้ำ นั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะให้ได้ดั่งใจ ไม่กี่คําสั้นๆ ที่เด็ดขาดตรงไปตรงมานั้น ทำให้หัวใจของมู่จึงเห
ยียนเริ่มสั่น
“หรือว่านายชอบฉันเหรอ”
มู่จิ้งเหยียนมองตรงไปยังทรงโม่ สายตาอันเยือกเย็นมอง เข้าไปยังหัวใจของทรงโม่ จู่ๆก็เอ่ยปากขึ้น
ทันทีที่ได้ยินคำไม่กี่คำนั้น ร่างกายของทรงโม่ก็เริ่มสั่น
ใบหน้าของเขาก็เริ่มแดงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
เขาก็ไม่รู้ว่าเขาชอบรึเปล่า เขาแค่รู้ว่าเพิ่งจะได้พบกับผู้หญิง คนนี้เพียงไม่กี่ครั้ง แต่ดูเหมือนว่ายิ่งทำให้ความรู้สึกของเขาที่มี ต่อเธอนั้นมันยิ่งฝังรากลึกไปภายในใจ
หากไม่ได้พบเธอ เขารู้สึกลนลานอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดถึง เธอมาก จนไม่สามารถหลีกหนีออกจากผู้หญิงคนนี้ไปได้
นี่คือผู้หญิงคนแรกที่ไม่ทำให้เขารู้สึกรำคาญใจ และยังเป็นผู้ หญิงที่ทำให้เขารู้สึกอยากใกล้ชิดมาก
เขาต้องการที่จะมอบความอ่อนโยนให้กับผู้หญิงคนนี้ และ ดูแลเธอให้ดีๆ ถ้าทำได้ เขาคิดที่จะมอบทั้งชีวิตนี้เพื่อให้ความ อ่อนโยนเยียวยาเธอจากความอ้างว้างและเย็นชา
“ถ้าฉันตอบตกลง คุณเต็มใจที่จะอยู่กับฉันไปตลอดใช่มั้ย” ตาของทั้งคู่จ้อง สายตาของทรงโม่มองจ้องไปยังวิ่งเหยียน สายตาข มองกัน อย่างไม่มีใครยอมใคร ทรงไม่ถามออกไปอย่างจริงจัง
“ไม่มีทาง!”
มู่นิ่งเหยียนตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล โดยไม่ได้เบือนหน้าหนี แต่ก็ไม่กล้ามองเขาเต็มตา ดูเหมือนว่ากลัวที่จะถล่เข้าไปใน ดวงตาอันลึกล้ำของเขา
สีหน้าของทรงโม่เริ่มหนักอึ้ง แววตาอันลึกล้ำเริ่มแสดงรัศมี ของความเย็นชา แล้วถามออกไปอย่างหงุดหงิด “เพราะอะไร”
“เพราะฉันไม่ได้ชอบนาย!” เธอตอบออกไปอย่างเด็ดขาด โดยไม่ลังเลสักนิด
เสียงที่เย็นชา โดยไม่ผันผวนแม่แต่น้อย เหมือนดาบที่แทงทะลุ เข้าไปยังหน้าอกเขา มันทำให้เขาตกตะลึงไปราวกับถูกฆ่า
ริมฝีปากอันเย้ายวนถูกเม้มไว้แน่น ทรงโม่มองไปยังใบหน้า
ของมู่จิ้งเหยียนอย่างสับสน
รัศมีของอำนาจนั้นสะกดผ่านออกมาจากดวงตาอันลึกล้ำ พูด ไปอย่างเยือกเย็น แฝงไปด้วยความเผด็จการและเอาแต่ใจ “วัน หนึ่งฉันจะทำให้เธอชอบฉันให้ได้ ฉันเชื่อว่าวันนั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว!”
“นายแน่ใจเหรอว่าจะทำให้ฉันชอบนายใต้” มู่จิ้งเหยียนอด ไม่ได้ที่จะพูดถากถาง ผู้ชายคนนี้ไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจาก ไหนกัน
ชอบ เหอะ ตั้งแต่สามปีก่อนที่เธอถูกคนสองคนทรยศหักหลัง มู่วิ่งเหยียนก็ไม่เคยเชื่ออะไรในความรัก!
“ใช่!”
ทรงโม่พยักหน้า ไม่ใช่เพราะเขาหยิ่ง แต่เป็นเพราะเขามั่นใจ มากพอ มั่นใจว่ามีเสน่ห์ที่มากพอจะทำให้ผู้หญิงคนนี้รักเขา อย่างสุดหัวใจ
มู่วิ่งเหยียนไม่แสดงความเห็น ได้แต่ยิ้มอย่างเฉยเมย
รอยิ้มที่เย็นชาแลดูขัดหูขัดตา ความไม่มีเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ พอใจและขมวดคิ้ว รัศมีของดวงตาเขาตอนนี้เผยให้เห็นความ ลึกล้ำที่ดูอันตราย มองที่เธอเบาๆ
“ทรงโม่ ไม่ว่านายจะมีเป้าหมายอะไร แต่ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็ ไม่มีทางอยู่กับนาย หลังจากนี้ขอให้นายอย่ามาหาฉันอีก ลา ก่อน”
เสียงที่เยือกเย็นนั้นไม่มีอะไรจะเปรียบ คำต่อคำที่เคาะตีลงไป ในหัวใจของทรงโม่ มันทำให้ใจของเขาจุกแน่น
เมื่อเขารู้สึกตัว ก็พบว่ามู่วิ่งเหยียนได้ลงจากรถไปแล้ว ร่างกายที่อ่อนแอ นยังคงตั้งตรง เขารู้สึกโดดเดี่ยวและเฉยเมยทำให้ทรงโม่อดไม่ได้ที่จะปวดใจและสงสารตัวเอง
รัศมีของดวงตานั้นบ่งบอกถึงความสับสน เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ ใจแข็งอย่างกับหิน แต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธโดยสิ้นเชิงแบบนี้ โดยไม่มีทางหนีทีไล่เลยสักนิด
เขาได้แต่ฝืนยิ้ม มือเอื้อมไปหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด
แววตาแสดงออกถึงความรู้สึกโดดเดี่ยว ลอดผ่านหมอกควัน ไปยังประตูของมหาวิทยาลัยที่มีคู่รักเดินไปมากันอยู่ หัวใจรู้สึก ขมขื่น เต็มไปด้วยความชื่นชมและเปลี่ยวเหงาอย่างบอกไม่ถูก
โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อเขาก็ดังขึ้นมาพอเหมาะพอดี ทรงโม่ ขมวดคิ้ว มีเสียงสําลักควันบุหรี่ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมารับ สาย ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะอันดูเจ้าเล่ห์ดังสวนมาจากปลาย สาย
“ได้ข่าวว่า หัวใจอันหนักแน่นไม่หวั่นไหวมาสามสิบปี ของคุณ ทรงถูกสั่นไหวซะแล้ว ผู้หญิงจากไหนกัน จะมีเสน่ห์มากพอจน ทำให้ผู้มีจิตใจเยือกเย็นดั่งโพธิสัตว์ สามารถหวั่นไหวได้ ฉันนี่ อยากรู้จริงๆ!”
เสียงหัวเราะอันเย้ยหยันแสนเจ้าเล่ห์นั้น ทำให้ทรงโม่ไม่พอใจ จนขมวดคิ้ว รัศมีความเยือกเย็นได้แผ่ซ่านออกมาจากแววตาอัน ลึกล้ามืดด่า
“ช่วงนี้นายคงจะว่างมากสินะ ดูเหมือนว่า ฉันจำเป็นจะต้องไป เตือนคุณปู่ของนาย ให้รีบจัดการวางแผนเรื่องการนัดดูตัวแล้ว หละ…”
“โธโธ่ ได้ กับฉันนี่ไม่เห็นบอกอะไรเลยนะ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ว่า เพราะฉันใส่ใจคุณเหรอ เป็นยังไง เมื่อไหร่จะกลับมาให้ฉันดูสัก หน่อย มาเติมเต็มความอยากรู้อยากเห็น ให้ฉันหน่อย
เสียงเย้ยหยันนั้นยังคงพูดต่อไป เขาคือเพื่อนที่โตมาด้วยกัน กับทรงโม่ ชื่อ ลู่เหวินเย
ไปให้พ้น
“ไม่ใช่สิ อย่าบอกนะว่านายยังจัดการเรื่องผู้หญิงคนนั้นไม่ เรียบร้อย ห
เป็นถึงฮ่องเต้น้อยผู้สูงส่งอันดับหนึ่งของเมืองหลวง แต่ไม่ สามารถจัดการเรื่องผู้หญิงคนเดียวได้ หรือว่านายต้องการให้ฉัน ไปช่วย ถ้าฉันลงมือให้นะ รับประกันว่าคว้ามาได้แน่นอน!!
ลู่เหวินเยู่หัวเราะเยาะเย้ย ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
“ถ้านายไปยุ่งกับเธอ ฉันจะจัดการกับนายก่อน!
“ไม่ใช่ล่ะ นี่นายเอาจริงเหรอ”
“ก็นายพูดเอง!”
ทรงโม่พูดออกไปอย่างเย็นชาเพียงไม่กี่คำ ก็รู้สึกถึงได้ความ ไม่ปลอดภัย รัศมีอันดำมืดเผยให้เห็นถึงดวงตาอันลึกล้ำที่ไร้จุด สิ้นสุด ทำให้ลู่เหวินเที่อยู่ปลายสาย ตัวสั่นอย่างไร้เหตุผล
เหี้ยเอ้ย พ่อพระหัวใจสั่นไหวแล้ว มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ