ตอนที่6 ผมมาไถ่เธอ
แก้วใจก้าวถอยหลังออกมาสองก้าวอย่างสติหลุด ใน หัวปรากฏภาพใบหน้าที่เย่อหยิ่งของตุงคิน น้ำเสียงอัน เย็นชาของเขาที่พูดว่า “ถ้าโดนขาย อยากคิดว่าผมจะ ไปไถ่ออกมา”
คำพูดพล่อยๆของเขา วันนี้เป็นจริงแล้ว ผู้ชายปาก พล่อย
“อารอง อย่าทําอย่างนี้”
“แก้วใจ อาขอร้อง อาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”
ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆหรือ เธอถอนหายใจอย่าง แรง กวาดสายตาไปมองกันทรช้าๆ ช่วยบ้านด้วยวิธีนี้ ทําไมไม่ให้กันทรล่ะ
จะให้คนอย่างแก้วใจเป็นผู้หญิงที่ต้องเอาตัวเข้าแลก หรอ เธอไม่ได้ใจดีขนาดนั้น และเธอก็ไม่ได้โง่
“อารอง ขอโทษจริงๆที่หนูทำให้ไม่ได้ หนูคิดว่าพ่อ ของหนูก็คงไม่อยากเห็นหนูตกไปอยู่ในสภาพนั้น เหมือนกัน”
เธอจำเป็นต้องเอาชื่อพ่อมาอ้างขู่อารองและบอก ตรงๆว่าเธอจะไม่มีทางยอมมอบร่างกายให้คุณเทพทัต แน่ เธอไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นและเธอก็ไม่มีงานอดิเรก ประเภทนั้น
“แก้วใจ หนูอยากเห็นอาตายก่อนใช่ไหมถึงจะยอม ช่วย” ธนชาตเช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นเดินไปทางระเบียง ของโรงพยาบาล “บริษัทล้มละลายแล้ว ลุงก็ไม่อยากมี ชีวิตอยู่อีกต่อไป”
กันทรรีบเดินไปดึงธนชาตไว้ และยังไม่ลืมที่จะมอง แก้วใจด้วยสายตาตำหนิ “ผู้หญิงใจดำ กินอยู่บ้านฉัน ตอนนี้พอบ้านฉันมีปัญหาก็จะปัดก้นทิ้งไปเฉยๆ”
นัยย์ตาของแก้วใจหม่นแสงลง เขาทําราวกับว่าเป็น ความผิดของเธอที่เธอไม่ช่วย เขาหลอกใช้ความไร้ เดียงสาของเธอ แต่เธอยังไม่ได้โง่ถึงขั้นนั้น
เพียงแค่
สายตาของเธอจ้องมองไปยังอารองที่กำลังจะตาย สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหว “อารอง อย่าทำอย่างนี้ จะให้หนู ทำอะไร”
สายตาของธนชาตเปี่ยมไปด้วยประกายความหวัง รีบเช็ดน้ำตา “วันที่ได้กำหนดไว้หมดแล้ว อีก 3 วันหนู ต้องแต่งงานกับคุณเทพทัต ภรรยาเก่าของคุณเทพทัต ได้เสียไปแล้ว จะทำงานใหญ่ไม่ได้ หนูต้องเข้าใจเขา
ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนโดนหลอก วันที่ก็ถูกกำหนด ไว้หมดแล้ว เหมือนจะรู้อยู่แล้วว่ายังไงเธอก็ต้องยอม แต่งงานกับคุณเทพทัต
เธอถูกขายแบบนี้หรอ แต่ห้าสิบล้านก็เหมือนจะไม่น้อยแล้ว ก็ควรจะพอใจแล้วหรือเปล่า
เธอหัวเราะด้วยความขมขื่น พยักหน้าลงแล้วพูด “งั้น ก็ทําตามที่อารองว่าก็แล้วกันค่ะ”
เธอออกมาจากโรงพยาบาลอย่างไร้วิญญาณ เพราะ ครอบครัวอารองอยู่โรงพยาบาลทั้งหมด ดังนั้นบ้าน ทองพิทักษ์จึงเงียบลงมาก
เสียงปิดประตูดังขึ้น เธอถอดเสื้อคลุมออก เธอเห็น ทัตตินั่งอยู่มุมหนึ่ง ความอึดอัดใจของเธอก็เพิ่มขึ้น อย่างทนไม่ไหว เมื่ออยู่ข้างนอกเธออาจจะควบคุมได้ดี แต่เมื่อเจอคนในครอบครัว เธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
“น้องชาย”
ทัตติแสดงสีหน้าตกใจ พร้อมยืนขึ้นด้วยความกังวล “พี่ เกิดอะไรขึ้น”
“อารองให้พี่แต่งงานกับคุนเทพทัต พี่ตอบตกลงไป แล้ว” เธอเดินไปกอดน้องชาย สะอื้นจนตัวโยน “อีกสาม วันแต่งงาน”
“ผมรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาดี” ทัตติพูดออก มาด้วยความโกรธเกรี้ยว “พี่ เราไปกันเถอะ”
ไป จะไปที่ไหนได้ ออกไปจากที่นี่แล้วสถานการณ์ ของพวกเขาจะดีขึ้นกว่าเดิมสักเท่าไหร่ เธอยังจำสิ่งที่ คุณเทพทัตบอกได้ ถ้าเธอแต่งงานกับเขา เขาจะช่วยพ่อ
บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสที่จะช่วยให้พ่อของเธอล้า งมลทิล
“ให้พี่อยู่เงียบๆสักพัก” แก้วใจตาแดงก่ำนั่งอยู่อีกฟาก หนึ่ง สมองมีแต่ความยุ่งเหยิงอย่างคิดไม่ตก
“พี่ พวกเราไปหาคุณตุงคินกัน”
แก้วใจค่อยๆยกสายตาขึ้นไปมอง ช่างเป็นคำแนะนำ ที่โง่จริงๆ เมื่อก่อนเธอบอกจะแต่งงานกับเขา ตอนนี้ให้ ไปหาเขา ก็เพียงแต่จะให้ตัวเองอับอายขึ้นกว่าเดิมก็ เท่านั้น
ไม่ว่าจะทางไหนก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ ตอนนี้เธอ ต้องการอยู่เงียบๆ
“ทัตติ แกออกไปก่อน พี่เหนื่อยแล้ว อยากนอนสัก หน่อย”
ทัตติมองเธอเหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ไม่พูดออกมา ก่อนจะมองเธออีก แล้วถอนหายใจออกมา จากนั้นจึง เปิดประตูออกไป
ปลายฤดูใบไม้ร่วง มีฝนตกลงมาปรอยๆจนถนนเปียก ไปทั่ว ฝนตกลงมากระทบหน้าต่างห้องอัยการก่อนจะ ตกลงสู่พื้น มองเห็นร่มหลากสีสันข้างนอกหน้าต่าง บรรยากาศที่มืดหม่นข้างนอกยิ่งทำให้จิตใจเขาหม่นตามเพิ่มขึ้นไปด้วย
ใบหน้าของตุงคินดำหม่น ริมฝีปากค่อยๆปิดลงจนเป็น เส้นตรง จนเหมือนโกรธใครก็ไม่ปาน
บุหรี่ที่อยู่บนนิ้วมีควันลอยฟุ้ง ก่อนจะมีเสียงเปิดประตู ดังขึ้น สายลมที่พัดเข้ามาทำให้ควันฟุ้งกระจัดกระจาย ไปทั่ว ก่อนจะตกลงบนพื้น
“คุณอัยการตุงคิน คดีนี้กำลังจะปิดแล้ว คุณยังมีเวลา พักอีกสามวัน” นภวัตเดินเข้ามานำเอกสารวางไว้บนโต๊ะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน เขายืนอยู่ตรงนั้นมาทั้ง วันแล้ว ไม่กิน ไม่ดื่ม ไม่พูดไม่จา เหมือนโกรธใครอยู่
ใช่แล้ว วันนี้แก้วใจบอกจะมา แต่ก็ไม่มา
“วันนี้ฝนตก อาจจะมานําบาก”
“พูดมาก” ตุงคินเหลือบมามองเขา แล้วกวาดสายตา มองไปที่เอกสารบนโต๊ะ คำพูดของนภวัตทำให้ความ กังวลใจของเขาลดลงไปมากทีเดียว
“เลื่อนวันหยุด”
สามวัน เธอหมกอยู่ในห้องสามวันเต็มๆ จมอยู่ กับความคิดสามวันเต็มๆ แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางออก นอกจากถูกอาสะใภ้บังคับให้ใส่ชุดแต่งงาน
“แก้วใจ เธอแต่งเข้าบ้านคุณเทพทัตต้องมีความสุขแน่นอน ถึงแม้ว่าคุณเทพทัตจะไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ เขาอายุมากกว่าเธอ เขาจะต้องรักเธออย่างแน่นอน”
ใบหน้าของแก้วใจเย็นชา กำลังปล่อยให้ชนัดดามวย ผมให้เธอ ใจของเธอลึกๆรู้สึกมืดบอด ถ้าเขาดีขนาดนั้น ทําไมไม่ให้กันทรแต่งกับเขาล่ะ
จะมีอะไรดีๆเข้ามาหาเธอบ้างมั้ย เว้นแต่จะมีพาย ตกลงมาจากฟ้า
ฝนตกในฤดูใบไม้ร่วงยังคงดำเนินต่อไป บรรยากาศ ยังคงมืดมัวเช่นเดียวกับอารมณ์ของแก้วใจ ยังคงหดหู่ อย่างหนัก
สายตาชำเลืองมองที่นามบัตรบนโต๊ะเขียนหนังสือ ค่อยๆกำมือจนเป็นกำปั้น ตุงคิน ฉันถูกขายแล้วจริงๆ คุณจะมาไถ่ฉันไหม
เก็บทุกอย่างเสร็จแล้วเธอก็ไปนั่งรอที่ห้องนั่งเล่น นั่ง รอตั้งแต่เช้าจนเที่ยงคุณเทพทัตถึงโทรมาบอกว่าช่วง ค่ำถึงจะมารับไปแต่งงาน เรียกว่ารักในช่วงปลายของ อายุ เป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี
พระเจ้า โชคดี ใครแต่งกับเขาแล้วจะโชคดีกัน
แก้วใจหิวจนเสียงท้องร้องโครกคราก นั่งบิดขี้เกียจ อย่างทนไม่ไหว ใบหน้าเล็กซีดเซียวและเต็มไปด้วย ความหงุดหงิด อยากจะตะโกนด่าใส่หน้าแรงๆสักที
น่าเสียดาย ที่เธอไม่ได้พูดออกไป
“คุณเทพทัตนี่ก็จริงๆเลย ทำไมไม่บอกเราก่อน” อา รองไขว้มือไว้ข้างหลังพร้อมมองออกไปตรงสนามข้าง นอก เห็นได้ชัดว่าเขารอไม่ไหวแล้ว
“น่าจะมาแล้ว” ชนัดดาก็มองออกไปข้างนอกเหมือน กันทันใดนั้นก็เกิดความประหลาดใจปนยินดีบนใบหน้า ของเธอ ขี้ไปที่รถที่ค่อยๆขับเข้ามาอย่างช้าๆ “มาแล้ว เจ้าบ่าวมาแล้ว”
เจ้าบ่าว ผู้ชายอายุห้าสิบปีก็เรียกว่าเจ้าบ่าวได้หรอ เรียกว่าจิ้งจอกเฒ่าเถอะ ยังจะกินหญ้าอ่อนอีก
รถค่อยๆขับเข้ามา และค่อยๆจอดลงอย่างนิ่มนวล หน้าบ้านทองพิทักษ์ ประตูที่นั่งข้างคนขับถูกเปิดออก บอดี้การ์ดรีบเดินมากางร่มออกอย่างรวดเร็ว
แค่นี้เพียงพอแล้วจริงๆ อารองและอาสะใภ้หัวเราะไม่ หยุด ก่อนจะมองขึ้นไป
แต่คนที่อยู่ในห้องผู้โดยสารยังไม่ลงมา ก็มีรถโฟล์ก สวาเกนสีดำคันหนึ่งขับจอดตรงหน้าบ้านของทอง พิทักษ์เช่นกัน
“อะไรกัน ทำไมมาสองคันล่ะ” อารองถามด้วยความ สงสัย
“ไม่รู้สิ” เห็นได้ชัดว่าชนัดดาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเป็นอย่างนี้ ได้แค่ยืดคอรอคนบนรถลงมา
ประตูรถข้างหลังเปิดออก รองเท้าสีดำเงาขลับวางลง บนพื้นอย่างมั่นคง ร่างสูงสง่าปรากฏอยู่ใต้ร่ม แต่เพราะ ร่มบังอยู่จึงทำให้มองไม่ชัดว่าเป็นใครกันแน่
“นี่ แกเป็นใคร” เทพทัตลงจากรถโฟล์กสวาเกน ร่าง เตี้ยสั้นของเขายืนอยู่ตรงหน้าชายที่อยู่ภายใต้ร่มคันนั้น เวลานี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าใครที่มีออร่าโดดเด่นกว่า กัน
คอของเทพทัตใส่สร้อยขนาดเท่านิ้วก้อย เห็นได้ชัด ว่าเป็นเศรษฐีใหม่
ร่มค่อยๆยกขึ้น ทำให้ใบหน้าที่ถูกบดบังด้วยร่มถูก เปิดเผยออกมา ใบหน้าที่หล่อเหลา ร่างกายเหมือนมี ประกายรัศมีสีทองแผ่ออกมา เขาช่างโดดเด่น
ที่แท้ก็ตุงคิน
สายตาของแก้วใจถูกดึงดูดด้วยคนที่ยืนอยู่นอกประตู หัวใจของเธอเต้นอย่างแรง ตื่นเต้นจนน้ำตาแทบไหล ออกมา
เขายังมีเมตตาที่รีบมาไถ่เธอ
“คุณอัยการตุงคิน ทำไมอยู่นี่ เกิดอะไรขึ้น” เทพทัต ถามอย่างสงสัย มองดูครอบครัวทองพิทักษ์ด้วยความ ประหลาดใจ
อารองและชนัดดาก็มองตุงคนด้วยความงงงวย พวก เขาไม่เคยข้องเกี่ยวกับตุงคืนมาก่อน ดูไม่ออกเลยจริงๆ ว่าเขามายืนอยู่ที่หน้าประตูครั้งนี้หมายความว่าอย่างไร
ดุงคืนเพียงแค่เม้มปากและกวาดดวงตาสีเข้มของเขา ไปทั่วอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเจอกับร่างของแก้วใจที่เน อยู่ในห้องนั่งเล่น
มุมปากของเข้าค่อยๆยกขึ้นด้วยความดูถูก มือข้าง
หนึ่งสอดไว้ในกระเป๋ากางเกงและก้าวขายาวๆเข้าไป ข้างใน
“คุณตุงดิน คุณคือ” ธนชาตถามด้วยความสงสัย
“ผมมาเพื่อ” มุมปากของตุงคินกระตุกเล็กน้อย สายตาของเขาช่างโหดร้าย เสียงต่ำค่อยๆเปล่งออกมา “ไถ่ตัวคนโง่”
ไถ่ตัว ธนชาตและชนัดดามองตากันอย่างรู้สึกไม่ถูก ต้อง
เขาสิโง่ เขาทั้งบ้านเป็นคนโง่ทั้งหมด
แก้วใจมองไปอย่างขุ่นเคือง เธอไม่ได้ขอให้เขามาไถ่ ตัวสักหน่อย มาด่าเธอได้ยังไง ครั้งนี้เป็นเขารีบมาเอง รีบมาอย่างไม่คุ้มค่าเงินเลยสักนิด
“คุณอัยการตุงคินอาจจะมาผิดบ้านแล้ว”
เขายกยิ้มมุมปากและยกคิ้ว “จริงหรอ”
ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงถึงความผิดปกติใดๆ แต่ นัยน์ตาของเขากลับมืดมิดเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
ยัยผู้หญิงไม่รู้เรื่องรู้ราว ตอนนี้ยังจะมาถากถางเขา อีก ไม่รู้หรือไงว่าเขาเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยเธอ ได้แล้ว
“คุณแก้วใจล้างตัวเองซะสะอาดเชียว ผมคิดว่าคุณคง ไม่ลืมสิบเอ็ดล้านหรอกใช่ไหม”
คนบ้า เอาเงินมากดดันเธออีกแล้ว ถึงแม้จะเป็นเรื่อง จริง แต่เธอก็ไม่พอใจ เธอตกอยู่ในสภาพนี้แล้ว ภาย หลังจะไม่ถูกเขาเอาแต่กดขี่หรือ
“หึ ตอนนี้ฉันขึ้นราคาแล้ว ห้าสิบล้าน”
“คุณเป็นหมูหรอ ขึ้นราคาทุกวัน”
บ้าชิบ โดนดุอีกแล้ว เขาสิหมู ทั้งบ้านของเขาเป็นหมู ทั้งหมด
“คุณตุงคิน นี่มันอะไรกัน” ธนชาตยิ้มแหยๆถามออก มา ดวงตาเต็มไปด้วยความคาดเดา
“เธอเป็นภรรยาที่ผมซื้อมาอย่างถูกต้อง” ตุงคินชี้ไป ที่แก้วใจ หัวเราะด้วยความเยือกเย็น “คิดไม่ถึงว่าแปบ เดียวก็ถูกพวกคุณสองคนขายอีกแล้ว”
หมายความว่าไง หมายความว่าไง เธอเป็นสินค้าหรือ อะไรคือขายซ้ำสอง ถึงแม้จะเป็นสินค้า แต่เธอก็เป็น สินค้าที่มีแต่คนต้องการนะ
“คุณธนชาต คุณต้องรับผิดชอบนะ สัญญาก็เซ็นแล้ว หลานสาวคุณเป็นภรรยาคนอื่นไปแล้ว คุณตั้งใจจะล้อ ผมเล่นหรอ” เทพทัตเห็นสถานการณ์ไม่ถูกต้อง จึงถาม ออกไปด้วยเสียงอันดัง
ธนชาต ก็งงเช่นเดียวกัน เธอขายตัวเองไปแล้ว และ ขายให้กับตุงคิน ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมเขาไม่เข้าใจ เลยสักนิด
“ผู้หญิงสารเลว นี่มันอะไรกัน” ชนัดดาข่มอารมณ์เอา ไว้ไม่ไหว ด่าเธอออกมาด้วยเสียงอันดัง
แก้วใจตีหน้านิ่งๆ น้ำเสียงเยือกเย็น ไม่ได้ยอมรับ
เพียงแต่ตอบไปว่า “ไม่รู้ ถามเขาเอาเอง”
“คุณแก้วใจ คุณทำแบบนี้มันไม่ถูกนะ ตอนที่อยู่ใน คลับคุณเป็นคนขอให้ผมเลือกคุณนี่นา ตอนนี้ปีนขึ้นสูง แล้ว จะทำเป็นไม่รู้จักกันเลยหรอ” ตุงคินหัวเราะอย่าง เยือกเย็น นําเงินออกมาสองร้อยห้าสิบบาท “นี่เป็นหลัก ฐาน”
คนบ้า อะไรไม่จริงเขาก็ยังกล้าพูด เธอไปขอร้องเขา ตอนอยู่ในคลับตอนไหนกัน มีด้วยหรอ สมองของเธอ ประมวลผลอยู่แบบหนึ่ง ก่อนจะมีท่าทีเสียใจออกมา เหมือนจะมีเรื่องนี้อยู่จริงๆ
“สองร้อยห้าสิบบาท สองร้อยห้าสิบบาทเธอก็ยอม ขายตัวเองแล้วงั้นหรอ” ชนัดดาตะลึงและตะโกนด่าว่า “เธอราคาถูกขนาดนี้จริงๆ”
ให้ตายสิ ใครจะราคาถูกขนาดนี้กัน สองร้อยห้าสิบ บาท คนบ้า เขาทำให้เธออับอายได้ขนาดนี้เชียว ที่น่า เสียใจที่สุดคือ เธอน้ำท่วมปาก พูดไม่ออก ไม่รู้จะพูด อย่างไรดี สู้ เธอสู้เขาไม่ได้จริงๆ แถมเธอยังไม่อยากสู้ อีกด้วย
ไม่งั้นเธอก็ต้องแต่งงานกับคนที่แทบจะลงโรงแล้ว ครึ่งตัว เธอไม่ได้มีรสนิยมแบบนี้
ตุงคินนั่งลงบนโซฟา ตบสองร้อยห้าสิบบาทลงบนโต๊ะ ชา พร้อมกับพูดเสียงมั่นคง “ผมมาที่นี่เพื่อไถ่เธอ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ