ฝันชะตา:ชายาเกิดใหม่

ตอนที่ 21 ใส่เหมือนกัน



ตอนที่ 21 ใส่เหมือนกัน

“ยโหร่วถวายบังคมองค์ชาย “ จางยวี่โหร่วถวาย บังคมตามธรรมเนียม เป่ยจื่อห้าวรีบพยุงนางให้ลุกขึ้น

“โหร่วเอ๋อ ระหว่างเจ้ากับข้าต้องมากพิธีขนาดนี้ด้วย หรือ เจ้าเป็นชายาของข้า ไม่จำเป็นต้องมากพิธีหรอก”

จางยวี่โหร่วเอามือออกจากมือของเป่ยจื่อห้าวอย่าง ไม่ให้ผิดสังเกต แล้วจึงพูดขึ้นเสียงเรียบๆว่า “คนไร้ ธรรมเนียมคือคนไม่เต็มคน ความสัมพันธ์ระหว่างเราถึง แม้เราต่างก็รู้ดีแก่ใจ ทว่าไม่อาจมองข้ามสายตาตำหนิ จากคนนอกไปได้ ไว้รอวันที่ไร้ซึ่งยศถาบรรดาศักดิ์แล้ว ค่อยว่ากันเถอะเพคะ”

เขาย่อมต้องสังเกตได้ถึงความเย็นชาที่นางกำลังเป็น อยู่ในตอนนี้ แต่เขากลับนึกไปว่าเป็นเพราะนางไม่พอใจ ที่เขาไม่สามารถช่วยนางพ้นจากสถานการณ์ยุ่งยาก ตรงหน้าได้

ด้านนอกซุบซิบอะไรกันอยู่นั้น ใช่ว่าเขาจะไม่รู้เรื่อง จางยวี่โหร่วได้กลายเป็นนางมารร้ายหน้าสวยตาม ขี้ปากของคนภายนอกไปเรียบร้อยแล้ว ไม่อย่างนั้นจะ ทำให้องค์ชายสามกับอ๋องชิงผิน แย่งชิงนางกันไม่เลิก ได้หรือ ดังนั้นถึงนางจะอารมณ์ไม่ดีก็เป็นเรื่องที่เข้าใจ ได้

จ้าวซินซินเดินยิ้มไปด้านหน้าพูดว่า “เป็นเพราะว่าพี่ย วี่โหร่วสวยออกอย่างนี้ สายตาที่องค์ชายสามมองมาที่พี่ถึงได้ทั้งตะลึงทั้งหลงเสน่ห์ อย่าว่าแต่องค์ชายสามเลย แม้แต่ข้าเองก็ต้องยอมก้มหัวให้พี่เรื่องนี้เช่นกัน”

“น้องจ้าวพูดเกินไปแล้ว เอ๋ กระโปรงลายก้อนเมฆสี ฟ้าที่เจ้าใส่วันนี้สวยจังเลย พอได้เห็นก็รู้สึกสบายตา จริงๆ” พูดถึงตรงนี้ นางก็เปลี่ยนสายตาไปที่ร่างของ เป่ยจื่อห้าว “ช่างเข้ากันได้ดีกับองค์ชายสามอย่างน่า ประหลาด”

เป็นเพราะเป่ยจื่อห้าวก็ใส่ชุดคลุมยาวสีฟ้าเช่นกัน เขา เป็นโอรสฮ่องเต้ ย่อมต้องมีผ้าทอเซียจิ่นที่งามล้ำค่าซึ่ง เป็นเครื่องบรรณาการที่แคว้นหนานมอบให้ เนื้อผ้าของ ชุดที่จ้าวซินซินสวมใส่อยู่ ย่อมไม่อาจเอามาเปรียบกัน ได้ แต่สีของเสื้อผ้าของทั้งสองคนกลับกลมกลืนเข้ากัน ได้ดีเป็นอย่างยิ่ง

จ้าวซินซินทำหน้าตื่นตะลึง รีบคุกเข่าลงกับพื้น “ท่าน พี่ ข้าไม่ได้ตั้งใจสวมชุดสีเดียวกับองค์ชายสามเลยนะ คะ ข้าสมควรตาย บังอาจล่วงเกินองค์ชายสาม ขอองค์ ชายสามกับท่านพี่โปรดอภัยให้ข้าด้วย

ถ้าเป็นเรื่องแบบนี้แล้ว เป่ยจื่อห้าวกลับหัวไวรู้ว่าไม่ ควรพูด หากเขาช่วยพูดให้จ้าวซินซิน ยิ่งพูดจะยิ่งเข้า ตัวเองเสียมากกว่า

แต่เรื่องนี้จ้าวซินซินสมควรตายจริงๆ ช่างใจกล้ามาก เขามั่นใจว่า นางตั้งใจทำทั้งๆที่รู้ดี

หากทำให้เสียเรื่องล่ะก็ เขาจะไม่มีวันปล่อยนางไว้แน่
จางยวี่โหร่วพูดพร้อมกับยิ้มๆว่า “ดูเจ้าสิ ข้าเพียง แค่ล้อเล่นเท่านั้น ชุดพวกนี้มีทำออกมาแค่ไม่กี่สี ถึงสี จะซ้ำกันจริงก็ไม่เห็นแปลกนี่ น้องจ้าวทำไมต้องตกใจ ถึงขนาดนี้ด้วย ยังไม่รีบลุกขึ้นมาอีก เจ้าทั้งอ่อนโยนนุ่ม นวล ผู้ชายคนไหนเห็นเข้า ก็มีแต่ทั้งรักทั้งหลง”

จ้าวซินซินเหงื่อชุ่มโชกไปทั้งตัว ปากของจางยวี่โหร่ว ทำไมถึงได้ร้ายขนาดนี้ แค่คำแรกที่นางพูดก็ทำให้นาง ถึงกับหมดเรี่ยวแรงต่อต้าน

นางทำได้แค่เพียงรีบลุกขึ้น เหลือบสายตามองไป ที่องค์ชายสาม ก็เห็นว่าเขากำลังมองนางด้วยสายตา ที่แสนจะเย็นชาโดยที่ไม่พูดอะไร ในใจนางจึงยิ่งรู้สึก กังวลหนักขึ้น

“พี่ยวี่โหร่วต่อไปห้ามล้อเล่นแบบนี้กับข้าอีกนะ ข้าเป็น คนขี้กลัว ตกใจเสียแทบแย่ ที่จริงข้ามาวันนี้คิดว่าจะอยู่ เป็นเพื่อนพี่ให้พี่สบายใจ แต่ในเมื่อองค์ชายสามมาชวน พี่ไปเดินเล่น งั้นข้าคงต้องขอตัวไปก่อน ไว้วันหลังค่อย มาหาพี่ใหม่”

จางยวี่โหร่วนั้นแค่เรื่องเล็ก แต่ทำให้องค์ชายสามไม่ พอใจนี่สิเรื่องใหญ่ เริ่มต้นก็ไม่ดีแล้ว จ้าวซินซินไหนเลย จะกล้าอยู่ต่อ ในใจเต็มไปด้วยความกังวลใจกำลังจะ กล่าวอำลา แต่ว่าจางยวี่โหร่วกลับส่งสายตาบางอย่าง รั่วสุ่ยจึงเดินเข้ามาหยุดนางไว้

“คุณหนูจ้าว ท่านเป็นเพื่อนสนิทกับคุณหนูของเรา ออกไปเที่ยวเล่นสนุกกันจะไม่พาท่านไปด้วยได้ยังไงล่ะ แล้วเมื่อคืนวานคุณหนูก็บอกด้วยว่าอยากให้มีคน มาชวนไปชมดอกไม้ที่บี่ชูถิงด้วย คาดไม่ถึงว่าองค์ชาย สามมาได้จังหวะพอดี ไปเดินเที่ยวเล่นก็ดี ชมดอกไม้ก็ ดี เพิ่มมาอีกคนก็จะได้สนุกยิ่งขึ้น ท่านก็ไปด้วยกันเถอะ นะ”

“นี่…” จ้าวซินซินมองดูที่สีหน้าทั้งของจางยวี่โหร่ว และขององค์ชายสาม ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาไม้ไหนกัน

นางย่อมต้องอยากไปด้วยแน่ เพียงแต่หาข้ออ้างไม่ ได้เท่านั้น

จางยวี่โหร่วยิ้มพลางพูดว่า “น้องจ้าวคงเห็นแก่หน้าพี่ ใช่ไหม”

จางยวี่โหร่วพูดถึงขนาดนี้แล้ว เป่ยจื่อห้าวคงต้องมี ปฏิกิริยาอะไรบ้างเป็นแน่

“ในเมื่อเจ้าสองคนรักใคร่เป็นพี่น้องกันมากขนาดนี้ก็ ดี ก่อนนี้ข้ายังกลัวอยู่เลยว่าเป็นเพราะข้าจะไปทำลาย ความสัมพันธ์ของพวกเจ้าหรือไม่ ถ้าเป็นอย่างงั้นข้าคง ละอายใจแย่”

จ้าวซินซินเห็นสถานการณ์แล้วก็รีบถวายคำนับ “ข้า น้อยเคารพองค์ชายเทียบเท่าชีวิตเพคะ”

เห็นท่าทางของนางแบบนี้ แม้แต่รั่วสุ่ยยังอดขนลุกไม่ ได้ ฮึ….เห็นชัดๆว่านางอยากอยู่ต่อแทบแย่
จ้าวซินซินช่างเป็นคนหนังหน้าหนา นึกถึงเมื่อก่อน เวลาออกไปข้างนอกทีไรต้องพานางไปด้วยทุกครั้ง ทำให้นางถือโอกาสทำความรู้จักกับชนชั้นสูงและเหล่า ขุนนางไปได้ไม่น้อย

ถึงแม้ฐานะของนางจะด้อยกว่าอยู่บ้าง แต่เนื่องจาก ความสัมพันธ์กับจางยวี่โหรว บวกกับการที่มักแสดง ท่าทีน่าสงสารทำให้คนรู้สึกสงสารเห็นใจ คนพวกนั้นจึง ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของนาง

แต่หลังจากที่นางตามยวี่โหร่วมารู้จักกับองค์ชายสาม แล้ว ก็มองไม่เห็นหัวคนพวกนั้นอีกต่อไป เพราะแม้พวก เขาจะร่ำรวยขนาดไหน ก็ไม่มีทางเทียบได้กับเชื้อพระ วงศ์เป็นแน่ ดังนั้นจึงคิดจะจับองค์ชายสามไว้ไม่ปล่อย ให้หลุดมือ

ถ้าแบบนี้ สู้ใช้ความสัมพันธ์กับนางที่”รักกัน”ฉันท์พี่ น้อง มาช่วยอีกแรงน่าจะดีกว่า

คนทั้งหลายเดินออกจากประตู ขึ้นไปนั่งบนรถม้าคัน เดียวกัน จ้าวซินซินก็แสดงกิริยาเอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง

“พี่คะ เมื่อคืนวานข้าได้ทำของหวานเองกับมือ กะว่า จะไว้ทานระหว่างเดินทาง หวังว่าท่านกับองค์ชายสาม จะไม่รังเกียจนะคะ”

“น้องจ้าวพูดจาเกรงใจไปแล้ว เจ้ามีทั้งฝีมือและสติปัญญา เกรงว่าขนมที่เจ้าทำจะอร่อยกว่าของห้องเครื่อง ด้วยซ้ำ องค์ชายสามก็ลองชิมสิเพคะ ”

เป่ยจื่อห้าวจึงหยิบขนมขึ้นมาชิ้นหนึ่งอย่างเสียไม่ได้ ชิมไปคำหนึ่งจึงพูดตามน้ำไปว่า “จริงด้วย อร่อยจริงๆ”

เขากินขนมของจ้าวซินซิน แต่เบื่อที่จะกินอีก

ทุกครั้งที่นางมาหาเขา หรืออยู่ด้วยกันเพียงสองคน นางจะนำกล่องใส่ขนมที่ทำเองมาด้วยทุกครั้ง แต่เพราะ อยู่ต่อหน้าจางยวี่โหร่ว เขาจึงต้องแสร้งทำเป็นว่าเป็น ครั้งแรกที่ได้ทาน จะให้นางผิดสังเกตไม่ได้เป็นอันขาด

“น้องจ้าวเอาใจใส่ถึงเพียงนี้ ทั้งฉลาดทั้งมีฝีมือ หาก ใครได้แต่งงานด้วยนับว่าได้ทำบุญสั่งสมมาหลายชาติ และตอนนี้ก็ถึงวัยที่เจ้าจะแต่งงานได้แล้ว ในฐานะที่ข้า รักใคร่เป็นพี่น้องกับนางจะไม่สนใจดูแลเรื่องใหญ่ทั้ง ชีวิตเรื่องนี้ของนางคงทำไม่ได้ องค์ชายสามรู้จักคนดีๆ ที่ไหนบ้างไหมเพคะ ที่เหมาะให้นางเลือกเป็นคู่ชีวิต”

เป่ยจื่อห้าวยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบอะไร สีหน้าของ จ้าวซินซินก็เปลี่ยนไปทันที

“ท่านพี่ก็พูดไปใหญ่แล้ว ข้ายังไม่คิดแต่งงานสัก หน่อย หากแต่งไปจริง ต่อไปข้าก็มาอยู่เป็นเพื่อนพี่ไม่ ได้แล้วน่ะสิ สำหรับข้าแล้ว ท่านพี่เป็นคนสำคัญที่สุด

เสมอค่ะ” ฮึ….ปากหวานก้นเปรี้ยวเสียจริง พอได้ยินคำพูดประจบประแจงที่แสนหลอกลวงนี้แล้ว จางยวี่โหร่ว รู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมา

“องค์ชายสาม เห็นเป็นยังไงเพคะ?” นางแสร้งผ่านคำ สนทนาไปยังองค์ชายสาม ดูทีว่าเขาจะยอมปล่อยจ้าว ซินซินให้แต่งงานไปหรือไม่

“ความผูกพันธ์ของพวกเจ้าช่างลึกซึ้งนัก ข้าจึงไม่ อยากพูดมาก พวกเจ้าก็ปรึกษากันเองดีๆก็แล้วกันนะ” เป่ยจื่อห้าวตอบได้กลิ้งเป็นปลาไหล


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ