บทที่ 6 ผู้บุกรุกยามวิกาล
กําหนักผิงอัน
ร่างอวบอิ่มของสตรีวัยกลางคนเส้นผมยาวสลวยที่เคยดกา เงางามในวัยสาวเริ่มมีสีขาวแซมขึ้นมาพระพักตร์งดงามแม้อายุ ล่วงเลยมามากแล้วริมฝีปากที่แย้มยิ้มอ่อนโยนอยู่เป็นนิจนั้น ตอนนี้เม้มสนิท เนตรคมเฉียวจ้องไปยังบุรุษร่างสูงที่ประทับอยู่ ตรงหน้าบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นเสาหลักบัลลังก์มังกรผู้มีปรีชา สามารถ ซินอ๋องฉินเฟยหมิง โอรสองค์รองของพระนางเอง
“ว่าอย่างไรหมิงเออร์ที่แม่ถามเจ้า”
“ก็ตามที่นางทูลฟ้องพระองค์นั่นแหละพะยะค่ะ”
“หึ ฟ้องงั้นหรือแม้แต่ชื่อเจ้ายังเคยออกจากปากนางด้วยซ้ำ อย่าได้เอานิสัยสตรีของเจ้ามาเปรียบเทียบกับฟางเออร์”
“เช่นนั้นเสด็จแม่รู้เรื่องได้อย่างไร”
“เจ้าคิดว่าแม่หูตามืดบอดอย่างเจ้างั้นหรือ
“เสด็จแม่ ลูก..”
“หยุด แม่ยังพูดไม่จบเรื่องนี้ขนาดคนภายนอกยังรับรู้ทำไมไท เฮาอย่างแม่จะมิรู้ในเมื่อเรื่องมันหลุดมาจากวังของเจ้ามลอง ตรวจสอบดูหน่อยเล่า ว่าเป็นคนของผู้ใดกันแน่หรือว่าเจ้ากลัว ความจริง”
“เหตุใดลูกต้องกลัวพะยะค่ะ
“ไม่กลัวก็ดีแล้ว บางทีหูตาเจ้าจะได้สว่างขึ้นมาบ้างขาเบื่อเต็ม ทนแล้ว”
“ลูก”
“หมิงเออร์ เจ้ารู้ดีกว่าใคร อย่าให้แม่ต้องยื่นมือเข้าไปจัดการ เอง ความจริงก็คือความจริงเจ้าจะหลอกตัวเองต่อไปก็แล้วแต่สติ ปัญญาของเจ้าเถิด แต่แม่ขอเตือนไว้ก่อนห้ามให้เกิดสิ่งใดขึ้นกับ ฟางเออร์มิเช่นนั้นอย่าหาว่าแม่มิเตือน”
“โถ เสด็จแม่ลูกเป็นโอรสของท่านนะพะยะค่ะ”
เสียงออดอ้อนตัดพ้ออย่างไม่จริงจังของชินอ๋องเรียกรอยยิ้ม หมั่นไส้จากไทเฮาได้เป็นอย่างดี
เห็นทีพระองค์ต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างเสียแล้วพระองค์รักอิง เออร์ก็จริงอยู่แต่สิ่งใดที่เป็นภัยต่อบัลลังก์ก็ควรระวังไว้มิใช่หรือ ทรงยอมรับว่ากลัวความจริงอยู่เหมือนกันเสด็จแม่พระองค์มิเคย มองสิ่งใดพลาด
วังเสิ่นหยางกงนําหนักเฟยเทียน
“เป็นนางกำนัลตำหนักใหญ่พะยะค่ะ เป็นคนของคุณหนูหลาน จริงๆ พวกนางติดต่อส่งข่าวผ่านสาวใช้คนสนิทของคุณหนูหลาน พะยะค่ะ”
เหมือนสวรรค์จะไม่เข้าข้างพระองค์ เป็นคนของนางจริงๆ
“แล้วเรื่องอื่น”
“ตอนนี้ทางฝั่งนั้นยังมิเคลื่อนไหวสิ่งใดคุณหนูหลานก็มิได้มีสิ่ง ใดน่าสงสัยพะยะค่ะ”
“อืม ตามต่อไป”
“พะยะค่ะ”
“แล้วนางกํานัลคนนั้นจะให้กระหม่อมจัดการเช่นไรพะยะค่ะ”
“เก็บเอาไว้ก่อน อย่าให้นางรู้ตัว”
“พะยะค่ะ”
“หานอี้”
“พะยะค่ะท่านอ๋อง”
“นางเป็นเช่นไรบ้าง”
นางที่พระองค์หมายถึงคงเป็นซินหวางเฟยสินะ
“ทูลท่านอ๋อง พระชายาทรงสำราญดีพะยะค่ะ ตอนเช้าทรงลุก ขึ้นมารดน้ำแปลงดอกไม้ที่ทรงปลูกใหม่ช่วงสายๆ รับสำรับแล้ว ก็ออกมาเดินเล่นจิบชาอ่านตำราไม่ก็คัดตำราพระสูตรช่วงเย็น หลังจากเสวยก็ทรงเข้าห้องพระสวดมนต์แล้วก็มาคัดตำราต่อสัก พักก่อนเข้าบรรทมพะยะค่ะ อ้อ บางวันก็ทรงเข้าครัวทำอาหาร เองพะยะค่ะ”
“นางได้เอ่ยถึงเป็นหวางบ้างหรือไม่”
“ไม่พะยะค่ะ”
พระพักตร์คมบึงตึงขึ้นมาทันทีหางคิ้วกระตุกไม่หยุด
“ดี เราจะไปดูนางสักหน่อยมิต้องให้คนไปแจ้ง
“กระหม่อมจะออกไปเตรียมเกี้ยวเดี๋ยวนี้พะยะค่ะ”
ได้ยินรับสั่งเช่นนั้นเกาลงกงรีบทำหน้าที่ทันทีหน้าที่เขาคือดูแล ท่านอ๋องและทำให้ท่านอ๋องทรงโปรดพระชายาให้ได้
“มิต้องเกากงกง เดี่ยวเป็นหวางไปเองเจ้าไปพักผ่อนเถิด” “เช่นนั้นก็ได้พะยะค่ะ”
ร่างชรายืนยิ้มอย่างพึงพอใจไทเฮากระหม่อมชื่นชมแผนการ ของพระองค์ยิ่งนักพะยะค่ะ นับถือ นับถือ
ตำหนักหลันเทียน
“พวกเจ้าไปพักเถิด ข้าคัดตำราเล่มนี้เสร็จก็จะเข้านอนแล้ว”
“เพคะ”
ร่างเล็กของทั้งสองออกไปแล้วเหลือเพียงร่างบอบบางนั่งคัด ตำราอยู่เพียงลำพังตำราพระสูตรนี้นางคัดมาหลายร้อยเล่มแล้ว เพื่อส่งไปยังอารามและสถานที่ปฏิบัติธรรมต่างๆ ทั่วเมืองหลวง และนอกเมืองการคัดตำราทำให้นางจิตใจสงบมีสมาธิและมีสติ มากขึ้นผู้ใดจะรู้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยเช่นนี้นางเป็นคนใจร้อน เพียงใดสิ่งเหล่านี้ทำให้นางใจเย็นขึ้นและควบคุมตัวเองได้ดียิ่ง
“เป็นภรรยาแต่กลับไม่รู้จักปรนนิบัติสามี นี่หรือสะใภ้แสนดีของเสด็จแม่”
ร่างบอบบางที่กำลังตั้งใจคัดตำราสะดุ้งตกใจเสียงทุ้มยียวน
นั้นของผู้บุกรุกยามวิกาล
“มิใช่เป็นรับสั่งของพระองค์เองหรือเพคะ”
“หี ยอกย้อนเก่งเสียด้วย”
เมื่อเห็นร่างสูงตรงหน้าตรัสกวนอารมณ์ไม่หยุดนางจึงคร้านจะ ใส่ใจหยิบพู่กันมาคัดตำราต่อปล่อยให้บุรุษที่ยืนพิงหน้าต่าง ลอบมองนางอย่างพินิจ
เจอกันครั้งนั้นพระองค์มิได้สังเกตใบหน้านางให้ชัดเจนวันนี้ ใบหน้าเล็กไร้ซึ่งเครื่องประทินโฉมใดๆ เส้นผมดำสนิทปล่อย ยาวสยายถึงเอวเล็กเงางามราวไหมชั้นดีใบหน้าเนียนใสผิวแก้ม ขาวอมชมพูเปล่งปลั่งมิได้ขาวซีดเซียวเหมือนวันนั้นริมฝีปาก อวบอิ่มแดงจัดอย่างคนสุขภาพดีคางเรียวกลมกลึงจมูกเล็กโด่ง เป็นสันคิ้วเรียวได้รูปงดงามรับกับหน้าผากเนียนดวงตาเฉี่ยวคม กลมโตหวานฉ่าแพขนตาดกหนางอนยาว ยามกระพริบราวผีเสื้อ ขยับปีกทําเอาพระทัยมังกรสั่นไหว
นี่มิใช่งดงามเกินไปหรือ? เหตุใดถึงมีข่าวลือว่านางอัปลักษณ์ ความงามเด็ดขาดเพียงนี้มีใครกล้ากล่าวว่าตนงดงามต่อหน้า นางได้ แต่! เดี๋ยวนะ แล้วรูปลักษณ์ซีดเซียวราวคนป่วยอมโรค ในวันนั้นคือนางตั้งใจหลอกพระองค์นั้นสินะ ยายตัวแสบ!!
ร่างบางที่ตอนนี้ในใจมิได้นิ่งเหมือนใบหน้าและกิริยาที่ แสดงออกมา คนบ้าน จะกล่าวสิ่งใดก็ไม่กล่าวมายืนมองนางอยู่ได้เป็นนานแล้วอีกทั้งวันนี้นางมิได้ประทินโฉมคงรู้แล้วว่าวันนั้น นางตั้งใจหลอกพระองค์
“นี่เจ้ามิเห็นหรือว่าเป็นหวางยืนอยู่”
“เห็นเพคะ”
ร่างบางถอนหายใจก่อนลุกเดินมาที่โต๊ะน้ำชาในน้ำชาหอม กรุ่น ใส่ถ้วยก่อนเชิญอีกคน ให้นั่ง
“เชิญประทับก่อนเพคะ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ