บทที่ 2 คุณหนูตระกูลหลาน
ทางด้าน นอ๋องที่รีบร้อนออกมาก็เจอกับสาวใช้ของสตรีอัน เป็นที่รักยืนรออยู่อย่างกระวนกระวายจึงทรงถามขึ้นอย่างร้อน พระทัย
“อิงเออร์เป็นเช่นไรบ้างเหตุใดปล่อยให้นางโดดน้ำได้
สุรเสียงเอ่ยออกมาอย่างพอพระทัย
“คุณหนูเสียใจเรื่องที่พระองค์ทรงอภิเษก จึงทำให้คิดสั้น เพคะ”
สาวใช้เอ่ยรายงานพร้อมเช็ดน้ำตาไปด้วย
“พระองค์ทรงรีบเสด็จไปดูคุณหนูของบ่าวเถิดเพคะตอนนี้คุณ หนูยังมีฟื้นเลยเพคะ”
“หรงใจไปเตรียมม้ามา ให้เป็นหวางเดี๋ยวนี้”
“ท่านอ๋อง แต่ตอนนี้ พิธี…”
“ช่างพิธีมันเถิด เปิ่นหวางมิได้สนใจรีบไปเอาม้ามา
“พะยะค่ะ”
ทรงได้รับคำสั่งอย่างจำใจเขารู้สึกสงสารชนหวางเฟยยิ่งนัก ทั้งๆ ที่เป็นวันแต่งงานแท้ๆ แต่พระสวามีกลับรีบร้อนไปหาสตรี อื่นปล่อยให้นางนอนเฝ้าเรือนหอเพียงลำพัง
จวนตระกูลหลาน
ตระกูลหลานเป็นตระกูลที่รับใช้ราชสำนักมานานหลายรุ่น ผู้นําตระกูลคนปัจจุบันคือ หลานซื้อเค่อ ดำรงตำแหน่งเสนาบดี กรมพระคลังนับเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ในแคว้นฉันด้วยบุตร สาวคนโตแต่งเข้าวังเป็นสนมของฮ่องเต้ดำรงตำแหน่งเสียนเฟย บุตรสาวคนรองก็กำลังผูกวาสนาอยู่กับชินอ๋อง นับว่าบุตรีตระกูล หลานนั้นมีวาสนาเรื่องความรักและรูปโฉมยิ่งเพราะคุณหนูรอง หลานกุ้ยอิงนั้นได้รับตำแหน่งสาวงามอันดับหนึ่ง พร้อมกับ ตำแหน่งสตรีที่มีความสามารถในด้านการบรรเลงเพลงพิณเป็น อันอับหนึ่งอีกด้วย ด้วยรูปโฉมและศักดิ์ฐานะเหมาะสม อีกทั้งใน อ๋องก็มีพระทัยให้คนทั้งเมืองหลวงต่างรับรู้และมั่นใจว่าคุณหนู หลานผู้นี้คือว่าที่ซินหวางเฟยแน่แท้
แต่เมื่อสามวันก่อนราวกับมีฟ้าผ่าลงมากลางตระกูลหลาน เมื่อได้ข่าวว่ามีราชโองการจากไทเฮาเป็นพระราชโองการ ประทานสมรสให้แก่ ชินอ๋องฉันเฟยหมิงกับบุตรีคนเล็กแห่งจวน จงเฉิงโหวโดยพิธีจะมีขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า คนตระกูลหลาน รวมทั้งชาวเมืองต่าง งงงวยกันถ้วนหน้า คุณหนูเล็กจวนโหวผู้นั้น จะเป็นผู้ใดได้นอกจากคุณหนู เฉินรุ่ยฟาง ที่มีข่าวลือว่านางนั้น ทั้งอ่อนแอและรูปโฉมธรรมดาสามัญต่างจากพี่ชายทั้งสองลิบลับ ทั้งยังมีข่าวลืออีกว่านางนั้นสวมแต่ชุดขาวตลอดเวลาราวคนไว้ ทุกข์อีกทั้งอาการป่วยยังทำให้นางผอมแห้งผิวพรรณขาวซีด หมดความสดใสของวัยสาวอีกด้วย แต่อย่างไรราชโองการก็ ออกมาแล้วอีกทั้งศักดิ์ฐานะของตระกูลเฉินก็มิได้ด้อยไปกว่าตระกูลหลานออกจะมีมากกว่าด้วย อย่างไรหากมองข้าม ความอัปลักษ์ของนางไปก็ถือว่าไม่มีสิ่งใดที่ไม่เหมาะสม คงได้ แต่เห็นใจคุณหนูหลานเสียแล้วที่พลาดโอกาสแต่งเข้าวังเงิน หยางกงเบนซินหวางเฟย
ร่างสูงใหญ่ของบุรุษผู้มีใบหน้าหล่อเหลาสวมอาภรณ์สีดำเนื้อ ปักลายกิเลนด้วยด้ายสีทอง เดินเร็วมายังเรือนของคุณหนูรอง ตระกูลหลานอย่างเร่งรีบเหล่าบ่าวรับใช้ต่างหยุดงานที่ทำอยู่ ถวายความเคารพทันทีใบหน้าก้มเห็นเพียงชายฉลองพระองค์ สีดำพริ้วผ่านไปอย่างมิได้สนใจผู้ใด เข้าไปในห้องที่มีร่าง บอบบางของสตรีที่มีใบหน้างดงามแต่ทว่าซีดเซียวด้วยอาการ ป่วยนอนอยู่บนเตียงมีสาวใช้คอยดูแลไม่ห่างเมื่อเห็นวรกายสูง เข้ามาก็รีบถวายพระพรก่อนออกไปรอรับคำสั่งอยู่หน้าห้องทันที
ร่างสูงประทับลงบนเตียงพระหัตถ์หนาจับมือบางนุ่มนิ่มมาจับ ไว้ยกขึ้นมาจุมพิศแผ่วเบาสายพระเนตรอ่อนโยนทอดมอง ใบหน้างามอย่างเป็นห่วงและรู้สึกผิด
ราวกับรับรู้ถึงสัมผัสของร่างสูง เปลือกตาบางค่อยๆ ลืมขึ้น ก่อนกระพริบตาเพื่อปรับการมองเห็น เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดที่อยู่ ตรงหน้าก็ตกใจจะซักมือกลับทันที ดวงตาหวานหลุบต่ำลง ใบหน้าหมองเศร้าระคนตัดพ้อ
“อิงเออร์ อย่าหลบตาพี่แบบนี้เลยพี่เห็นแล้วปวดใจนัก” สุรเสียงอ่อนโยนออดอ้อนก่อนจับมือบางขึ้นมาจุมพิศอีกครั้ง
“ทรงปล่อยมือหม่อมฉันเถิดเพคะท่านอ๋อง หากมีคนมาเห็นจะมงาม”
น้ำเสียงสั้นๆ กับค่าเรียกขานที่ห่างเหินทำให้คนตัวโตยิ่ง
กระวนกระวายพระทัย
“อิงเออร์ เจ้าอย่าใจร้ายกับพี่เช่นนี้เลย”
“เป็นพระองค์ต่างหากที่พระทัยร้าย”
พูดจบน้ำตาเม็ดโตก็ร่วงลงมาตามแก้มเนียนราวไข่มุกอิงเออร์ ของพระองค์แม้ยามร้องให้นางยังงดงามเพียงนี้ร่างกายบอบบาง กลับต้องมาเจอเรื่องราวเช่นนี้มีหรือจะรับไหวพระหัตถ์หนายกขึ้น มาใช้นิ้วเรียวยาวเกลี่ยหยาดน้ำตาจากแก้มนางก่อนดึงร่างเล็ก เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
“พี่แต่งกับนางเพราะเสด็จแม่บังคับเท่านั้น นางมิได้มีความ สำคัญใดๆ กับพี่ในใจของพี่มีเพียงเจ้าเท่านั้น”
ริมฝีปากหยักกดจุมพิศเบาๆ บนหน้าผากเนียน
“อย่างไรนางก็แต่งเข้าอย่างถูกต้องตามประเพณีแต่งเป็นซิน หวางเฟย”
พูดจบร่างบางก็สะอื้นไห้อีกครา
“พี่จะแต่งเจ้าเข้าวังเสิ่นหยางให้เร็วที่สุด”
“จะให้หม่อมฉันแต่งเข้าไปในฐานะใดเพคะ ชายารองหรืออนุ งั้นหรือเพคะ”
“พี่ขอโทษอิงเออร์ เจ้าจะให้พี่ทำเช่นใดอยากแต่งกับเจ้าอยากให้เจ้าเป็นหวางเฟยเพียงคนเดียวที่จะไม่แตะต้องนางจะรอ จนเจ้ายอมแต่งให้พี่
“พระองค์กลับไปเถิดเพคะหม่อมฉันอยากอยู่คนเดียว”
แม้พระทัยจะอยากอยู่กับนางต่อแต่ด้วยความรู้สึกผิดจึงทำได้ เพียงทําตามคําขอของนาง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ