๓.๑ ตีตราจอง
ตีตราจอง
เมื่ออยู่บนเตียงกว้างแล้ว ยศสิตาก็ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น อาการปวดข้อเท้าทุเลาลง หากแต่หญิงสาวกลับพลิกกระสับ กระส่ายไปมา นอนไม่หลับด้วยรู้สึกว่ากิริยาและคำพูดของตัว เองเมื่อสักครู่นั้นช่างไม่น่ารักเอาซะเลย สิ่งที่หล่อนแสดงออก เหมือนคนไม่รู้จักบุญคุณคน มิหนำซ้ำยังพูดจาไม่ดีกับเขาไปตั้ง เยอะ
“เฮ้อ…” หญิงสาวระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้น จากเตียง คว้าเสื้อคลุมมาสวมทับไว้และเดินออกจากห้องด้วย ฝีเท้าเบาที่สุด
ร่างอรชรเดินเกาะไปตามกำแพงช้าๆ โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้มี ใครบางคนเดินตามหลังมาไม่ห่างกันนัก เท้าเล็กๆ เลี้ยวไปหยุด ยืนอยู่หน้าห้องนอนใหญ่ หากเกิดอาการลังเลว่าจะยกมือขึ้น เคาะประตูห้องเขาดีหรือไม่
ผู้เป็นเจ้าของห้องยืนกอดอกอมยิ้มมองดูท่าทางลังเลของหญิง สาวอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่ร่างกายจะเดินเข้าไปยืนซ้อนหลังแล้ว สอดมือรอบเอวรวบเอาร่างบางเข้าไปกอดไว้แน่น ยศสิตาตกใจ สะดุ้งเฮือกพร้อมทั้งส่งเสียงอุ้ยอ้ายออกมาเบาๆ
ใบหน้าหล่อคมฉวยโอกาสก้มลงจุมพิตบนเรือนผมดำขลับ ยาวสลวยอย่างรวดเร็ว หญิงสาวดิ้นขลุกขลัก ชายหนุ่มจึงหมุน ร่างนั้นให้หันมาเผชิญหน้า
ร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่านทอดตัวก้มลงมองด้วยแววตา แพรวพราว อาการตกใจของหล่อนแปรเปลี่ยนเป็นความเขินอาย จึงแสดงออกกลบเกลื่อนด้วยเสียงการแผดเสียง ใส่เขา
“ปล่อยนะ!”
เสียงหวานติดหวนพร้อมทั้งดิ้นฟีดฟัดต่อเนื่องเพื่อให้ตัวเอง เป็นอิสระจากอ้อมแขนอันแข็งแรงของเขา ภูริภัชร์ยิ้มอย่าง พอใจที่สามารถยั่วให้หล่อนแง่งอนได้อีกครั้ง ชายหนุ่มจึงแกล้ง รัดวงแขนให้แน่นขึ้นกว่าเดิมก่อนจะยั่วยุยศสิตาด้วยการกดจมูก ลงบนเรือนผมนุ่มสลวยของหล่อนสอง แต่เพียงแค่สัมผัสแผ่ว เบานั้นก็ทำเอาหล่อนอ่อนเปลี่ยราวกับกำลังจะหลอมละลาย
“นอนไม่หลับเหรอ” เขาพูดชิดริมฝีปากด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก ลม หายใจปะทะลมหายใจให้ความรู้สึกอุ่นวาบจนยศสิตาคิดอะไร ไม่ออก
ภูริภัชร์ใช้มือข้างหนึ่งผลักประตูห้องเข้าไป ร่างกำยำขยับเข้า มาแนบชิดทำให้ยศสิตาต้องก้าวถอยหลังเข้าไปตามทางที่เปิด โล่งเอาไว้ ชายหนุ่มดันประตูให้ปิดลงและรวบร่างบางเข้ามาก อดไว้เช่นเดิม
“ปล่อยนะ เอยจะกลับห้อง” ยศสิตาประท้วงขึ้นทันทีเมื่อได้สติ
“คุยกันก่อนนะ” น้ำเสียงที่เคยห่างเหินเย็นชาราวกับลมหนาวนี้ลึกออดอ้อนอย่างน่าฟังเล่นเอายศสิตามึนงงไปครั้ง ความอ่อนโยนเขาทำให้หล่อนอยู่ในภวังค์อย่างไม่ยาก นัก เขาทําราวกับจงใจง่ายดาย
อะไร เอยอะไรจะด้วยหญิงพูดด้วยเสียงที่ พยายามควบคุมให้เมื่อนัยน์ตาคมก้มลงมองลึกดวงตากลมโต
ไม่ไม่คุยพูดเหมือนตามใจขณะตามองยศนั่งราวกับสะกดให้หล่อนต้องของเขา และเพียงถึงใบหน้าหล่อก้มหน้าลงซุกที่ซอกคอนุ่มอย่างรวดเร็ว
“กอด” เสียงทุ้มส่งเสียงกระซิบแหบพร่าอย่างเว้า มือหนาเลื่อนมากอบกุมสะโพกกลึงหวั่นแน่นเอาวอน อย่างชิดเชื้อเสมือนจับจองการเป็นเจ้าของร่างอรชร
“ไม่” หญิงสาวปฏิเสธผาดแผ่วเสียงเท่าละเมอ
ถ้าผมจูบนะเสียงห้าวพูดชิดใบหู ยศสิตาขนลุก เกรียวหนักหัวใจเต้นแรงระรัวดังกึกก้องราวกับกลองศึก
“คนบ้าอำนาจชอบบังคับหล่อนเหมือนคนไม่สติเพราะ จมูกโด่งคมที่กำลังคลอเคลียอยู่กับซอกทำเอาหญิงสมาธิ
“กอดผมเอย” เขาอีกครั้ง ถ้ากอดผมจูบ”
คราวนียศสิตารีบทำตามทันที โดยยกมือขึ้น โอบรอบคอเขา ทั้งที่ยังไม่ลืมตาขึ้น มือบางซุกไซ้แทรกเข้าไปในกลุ่มผมดำสนิท ของเขาอย่างไม่รู้ตัว
“ดีมากคนสวย” ชายหนุ่มครางเสียงแหบพร่าด้วยความพอใจ ยศสิตาสะดุ้งเมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวเลื่อนขึ้นมาพรมจูบที่ข้าง แก้มนวล ภูริภัชร์ตักตวงเก็บเกี่ยวเอาความหอมละมุนนั้นอย่าง ไม่ยอมพลาดโอกาส ร่างอรชรใจเต้นรัวขึ้นเมื่อจุมพิตที่เร่าร้อน พร่างพรมลงมาบนดวงหน้าผุดผ่องของหล่อน แล้วเขาก็ทำให้ หล่อนรู้สึกเหมือนจะล่องลอยยามเมื่อริมฝีปากเขาเข้าครอบ ครองเรียวปากอิ่มเต็มแล้วบังคับกลีบปากนุ่มให้แยกออกจากกัน ด้วยลีลาอันเจนจัด
ปลายลิ้นอุ่นๆ ค่อยสอดแทรกผ่านริมฝีปากและฟันขาวสะอาด เข้าไปควานหาความหวานด้านในนั้นทันที
“อือ…” เสียงครางเริ่มหลุดจากปากของทั้งคู่
ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกหลังจากดูดดื่มความหวานจน
พอใจแล้ว อ้อมแขนแข็งแรงโอบกระชับร่างนุ่มนิ่มแนบชิดอก
แกร่งมากยิ่งขึ้น เขารู้สึกถึงความนุ่มหยุ่นเคร่งครัดของเนินเนื้อ
ใต้ชุดนอนตัวบางเบาเป็นอย่างดี จมูกโด่งบรรจงไล้ไปตามพวง
แก้มใส และเลยลงไปซุกไซ้ที่ซอกคอหอมกรุ่น กลิ่นกายสาวช่าง
เย้ายวนใจปลุกให้มังกรตัวจิ๋วที่ห่อตัวอยู่ใต้กางเกงนอนพุ่งชูชัน
ขึ้นมาเป็นลำอย่างรวดเร็ว
ภูริภัชร์ใช้ความเจนจัดของเขาปลุกเร้าเจ้าของร่างขณะดื่มกับความหวานของผิวเนื้อบริเวณนั้น หญิงสาวแหงนหงายศีรษะ ไปข้างหลังเพื่อให้ชายหนุ่มคลุกเคล้าส่วนนั้นได้ถนัดถนี่ยิ่งขึ้น ริมฝีปากเร่าร้อนกดฝังที่แอ่งชีพจรทำเอาร่างอรชรสั่นระริกไหวไป ทั้งร่าง มือบางลูบไล้ไปตามหมั่นเนื้อไหล่กว้าง ความแข็งแรงนั้น ช่างน่าหลงใหล
อากาศภายนอกหนาวเหน็บแต่อุณหภูมิภายในห้องกลับร้อน ระอุด้วยองศาของไฟรักที่ทวีความเร่าร้อนมากขึ้นทุกขณะ
ยศสิตาอ่อนระทวยไปทั้งร่างยามที่ริมฝีปากร้อนผ่าวเลื่อนขึ้น ไปวนเวียนอยู่ตรงใบหูขาวสะอาด
ชายหนุ่มลากลิ้นไปตามร่องอกที่โผล่พ้นเสื้อคลุม สองมือ ลูบไล้แผ่นหลังอย่างแผ่วเบา
“ด…ค…คุณ…”
เขาทำให้ยศสิตารู้สึกประหนึ่งราวกับกำลังล่องลอยอยู่ในห้วง สวรรค์ มือหนาเลื่อนลงไปกระตุกสายเสื้อคลุมให้หลุดออกจาก กันก่อนจะผลักเสื้อตัวนั้นให้หลุดลงไปกองที่พื้น ทั้งเนื้อทั้งตัวของ ยศสิตาตอนนี้จึงมีแค่ชุดนอนสายเดี่ยวเนื้อดี อกอวบปราศจาก บราเซียร์ห่อหุ้ม ส่วนล่างมีเพียงบิกินีเนื้อบางปกปิดอยู่
“อืม…นี่นางในฝันชัดๆ”
เขาครางอื้อเมื่อทรวงอกสวยได้รูปดีดตัวออกมาท้าทาย สายตา ภาพที่เห็นช่างเหมือนสาวสวยที่เขาฝันถึงเมื่อค่ำคืนที่ ผ่านมาไม่มีผิด กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเนื้อสาวและผิวขาวผ่องเขียน ละมุนซึ่งเขาสัมผัสอยู่ด้วยมือและปากตัวเองชวนให้สมองพร่างพรายจนตกอยู่ในห้วงเสน่หาของความเย้ายวนนั้น
ร่างของหญิงสาวสะเทิ้นหวามด้วยอารมณ์ปั่นป่วนเมื่อภูริภัชร์ โน้มใบหน้าลงดอมดมความละมุนบนลาดไหล่กลมมน ฝ่ามือ ใหญ่เลื่อนขึ้นไปเกาะกุมและเคล้นทรวงอกคับแน่นผ่านผ้าเนื้อ บางเบาของชุดนอนเย้ายวนอย่างกระสันจนเสื้อตัวสวยยับยู่ยี่ เขาบีบเคล้นเบาๆ อย่างเชี่ยวชาญจนรู้สึกได้ว่าปลายมันเริ่มต้น เสื้อนอนออกมา ชายหนุ่มบีบคลึงอย่างช่ำชองจนยศสิตาเนื้อตัว อ่อนปวกเปียกราวกับขี้ผึ้งต้องเปลวไฟ ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะป้องกัน ตัวเองแม้แต่น้อย ตอนนี้ใบหน้าสวยหวานกำลังหลับตาพริ้ม หายใจหอบหนัก แหงนหน้าเกิดสะบัดไปมาด้วยความซ่านเสียว สะท้านใจ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ