ฉันก็เคยรักนาย

บทที่ 3 เธอทรยศฉัน



บทที่ 3 เธอทรยศฉัน

สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปเล็กน้อยซึ่งไม่อาจ รอดพ้นจากสายตาของซ่งหมิงเยี่ย เขาถามด้วย ความเป็นห่วงอย่างมากกว่า”ฉ่ายหมุย คุณรู้สึกไม่ สบายหรอ?” เสิ่นฉ่ายหมุยแสร้งส่ายหัวอย่างเข้มแข็ง สายตามองไปยังคนที่พูดถึงในรถแล้วรีบหันกลับมา “ไม่…..ไม่มี ไม่มีอะไร” ทว่าในชั่วพริบตาเขาก็เข้าใจ แน่นอนว่าเป็นเพราะยังผู้หญิงสารเลวคนนั้นนั่นเองที่ ทำให้เสิ่นฉ่ายหมุยไม่สบายใจ ซ่งหมิงเยี่ยหงุดหงิดไป ครู่หนึ่ง คาดไม่ถึงว่าตนเองจะประมาทจนลืมไปว่าก่อน หน้านี้เธอทำร้ายฉ่ายหมุยไว้อย่างไร!

ชายหนุ่มพูดปลอบขวัญเสิ่นฉ่ายหมุยไปไม่กี่ประโยค ทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออกด้วยความแรงอย่างรวดเร็ว แล้วพูดกับคนในรถเสียงเย็นว่า“ลงรถ”

เสิ่นฉ่ายเวยรู้สึกลังเลใจจึงไม่ยอมขยับตัว ใครจะ คิดว่าซ่งหมิงเยี่ยจะจับข้อมือของเธอแล้วดึงออกจากรถ กัน

“ซ่งหมิงเยี่ยคุณจะทำอะไรน่ะ!”เธอไม่สนในภาพ ลักษณ์อีกต่อไปแล้วตะโกนออกมาสุดเสียง

ชายหนุ่มแสยะยิ้มร้าย“ฉ่ายหมุยเห็นหน้าเธอแล้วไม่ สบาย รีบไสหัวไปได้แล้ว”

“ซ่งหมิงเยี่ยคุณมันจะมากเกินไปแล้วนะ! คุณ สั่งให้ฉันมาก็มา จะสั่งไล่ให้ฉันไปก็ต้องไปอย่างนี่หรอ?”เสิ่นฉ่ายเวยเอ่ยขึ้นเสียงเย็น ดวงตาคมจ้องมอง ไปยังน้องสาว ราวกับจะแทงให้พรุน “เธอทำไปได้ยังไง เขาเป็นพี่เขยของเธอ!”

“ฉัน…………นฉ่ายเวยยืนก้มตัวลงด้วยความหวาด กลัว ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความน่าสงสารมากขึ้นไปอีก เธอเม้มปากแล้วเริ่มส่งเสียงสะอื้นร้องไห้ “พี่คะ ก็เข้าใจ ชัดเจนอยู่แล้วว่าหมิงเยี่ยและฉันเรามาก่อน…….

“น้ำเสียงแบบนี้ของเธอพี่สาวคงรับไม่ได้”ชายหนุ่ม มองไปที่เธอด้วยสายตาเย็นยะเยือก มีเพียงอารมณ์ เกลียดชังและรังเกียจยิ่งขึ้น เสิ่นฉ่ายเวยจ้องไปที่ ใบหน้า แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป!

ซ่งหมิงเยี่ยรีบพาเธอเข้ารถและกอดเธอไว้ นัยน์ตา ลึกกำลังมีพายุก่อตัวขึ้น “ถ้าหากฉ่ายหมุยเกิดเรื่องไม่ คาดคิดขึ้น ฉันก็มีวิธีที่จะทำให้เธอรู้จักความเจ็บปวด มันเป็นยังไง!” แผ่นหลังของหญิงสาวรู้สึกแข็งชะงักไป ชั่วครู่ รถเคลื่อนตัวออก ไม่สนอกสนใจแล้วยังไปแบบ ไม่บอกไม่กล่าวกันเลย!

เสียงลมหวีดร้องเสียงแหลม หนาวเย็นไปถึงกระดูก

เสิ่นฉ่ายเวยยืนโดดเดี่ยวในอาคารสนามบิน ร่างกาย สวมเพียงชุดอยู่บ้านบางๆ กลางดึกในฤดูหนาวนั้นลม แรงจนทำให้ตัวสั่น เธอเพิ่งนึกได้ว่าจะโทรศัพท์หา ทางบ้านของตัวเอง แต่ทว่าเมื่อคลำไปทั่วร่างแล้ว อย่า พูดถึงโทรศัพท์เลย แม้แต่เศษเหรียญสักเหรียญยัง ไม่มีเลยแม้กระทั่งรองเท้าทั้งสองข้างของหญิงสาวยังไม่เหมือนกันเลย รอบทิศต่างมีสายตามองมาด้วยความ ประหลาดใจ ประหนึ่งว่าเธอกำลังเปลือยกายเข้ามา อยู่ต่อหน้าสาธารณะชนอย่างไรอย่างนั้น ช่างน่าอัปยศ อดสูที่สุด!

ในขณะที่เสิ่นฉ่ายเวยไม่รู้จะทำยังไงต่อไป รอบ ดวงตาก็เริ่มแดงขึ้น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเล็กๆอันคุ้น เคยมาจากด้านข้าง “เวยเวย?”

ชายหนุ่มในชุดสูทรีดเรียบกริบกำลังใช้แววตาไม่น่า เชื่อมองมาที่เธอ หญิงสาวที่เริ่มรู้สึกตัวก็รีบจัดการกับ สภาพของตัวเอง “ข่ายเจ….ทําไมเธอกลับมาแล้วล่ะ?”

ขายเจ่คือเพื่อนสมัยเด็กของหมิงเยี่ย เป็นหมอที่ เก่งกาจฉลาดหลักแหลม คิดไม่ถึงว่าในเวลาที่เธอจน ตรอกขนาดนี้ไม่นึกเลยว่าจะเจอกับคนคนนี้

“เกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน? แล้วหมิงเยี่ยล่ะ?”เขารีบโยน สัมภาระทิ้งไป เร่งเดินเข้ามานำเสื้อคลุมของตนคลุม ร่างให้เธอ เสื้อตัวนี้ยังมีกลิ่นกายของข่ายเจ๋ติดมา

“ฉันจะโทรหาเขา”

“ไม่! ไม่เอา!”หญิงสาวเอ่ยห้าม สายตาของชาย ตรงข้ามเต็มไปด้วยคำถาม แล้วพูดโกหกยัดเหตุผล ไปว่า“คือฉันโมโหจนวิ่งออกมาเองน่ะ” ข่ายเจ๋ขมวด คิ้วแล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “สรุปแล้วเธอรู้สภาพ ร่างกายของตัวเองหรือเปล่า? อากาศเย็นขนาดนี้ยัง สวมมาแค่นิดเดียว หากป่วยหนักขึ้นมาอาจถึงชีวิตของเธอเลยนะ!”

เสิ่นฉ่ายเวยเม้มปากไม่พูดไม่จา ชายหนุ่มเสียความ มั่นใจไปครู่ใหญ่ แล้วพูดเสียงดังขึ้น “งั้นเธอไปบ้าน ฉันก่อนเถอะ รถฉันเป็นอยู่ด้านนอก อยู่ใกล้สนามบินนี้ พอดี” หญิงสาวสูดจมูกขึ้น ท่าทางหมดอารมณ์และจน ตรอกค่อยๆพยักหน้า

ข่ายเจ๋ออกไปขับรถเข้ามา ขณะที่เสิ่นฉ่ายเวยกำลัง จะก้าวขึ้นรถนั้น ทันใดนั้นข้างๆหูก็ได้ยินเสียงตะโกนดัง ลั่น “เสิ่นฉ่ายเวยฉันดูเธอไม่ผิดจริงๆ! ฉันไปนานเพียง แค่เท่าไหร่ เธอก็ก้าวขึ้นรถคนอื่นแล้วหรอ?”

เธอหันกลับไปทันที ซึ่งพอดีกับที่สายตาดุร้ายของ ชายหนุ่มกำลังจ้องมา รวมถึงเสิ่นฉ่ายหมุยที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา แต่เพียงแค่เจอเสิ่นฉ่ายหมุยใช้มือปิดทาบอก คิ้ว เล็กๆก็ขมวดปมเข้าหากัน ดวงตาที่ยังมีน้ำตาคลอกระ พริบถี่ “พี่ ฉันไม่คิดเลยว่าตอนที่พี่อยู่ต่อหน้าคุณพ่อเขา พี่ก็แสดงให้ตัวเองน่าเอ็นดู แต่ส่วนตัวจริงๆแล้วกลับเป็น คนแบบนี้ พี่ ทำไมพี่ถึงทรยศหมิงเยี่ยล่ะ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ