ฉันเสียเธอไปแล้วจริงๆ

บทที่ 8 ฝีมือของใคร



บทที่ 8 ฝีมือของใคร

เจ็บปวดใจ? หรือกังวลใจ?

เป็นครั้งแรกในรอบห้าปีตั้งแต่แต่งงานมา เยนลี่ซูเพิ่ง เคยเห็นใบหน้าของฮันอี้ ที่แสดงออกนอกเหนือจากการ เสียดสีเยาะเย้ยและเกลียดชัง

ภายใต้โต๊ะนั้น มีนิ้วมือบิดแน่นจนเล็บจมลึกลงไปใน เนื้อ และเกิดความเจ็บปวดขึ้นในใจอีกครั้ง

เธอคิดว่าถ้าฮันจี้ถามเธอในเวลานี้ เธอก็จะบอกเขา

เธอกำลังจะตาย เธอไม่สามารถรักเขาต่อไปได้อีก แล้ว……

“เยนลี่ซู เธอ……”

“ประธานฮัน”

ก่อนที่จะพูดเสร็จ ประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเปิดโดย เลขานุการ

เลขานุการเดินไปข้างฮัน และมองดู เยน ที่นั่ง อยู่ด้านตรงข้าม ก่อนจะพูดขึ้นอย่างกระสับกระส่าย “ประธานฮันคะ ท่านได้ถูกพาดในหัวข่าวของวันนี้คะ”

ในขณะที่พูดนั้น ก็ได้เปิดหนังสือพิมพ์วางบนโต๊ะ ทํางานไปด้วย
‘ผู้อำนวยการตระกูลเยน แอบพักค้างคืนในคฤหาสน์ หรูส่วนตัว’

บทความไม่กี่คำนั้น สะท้อนให้เห็นในสายตาของ เยน ลี่ซู และยังทิ่มแทงอยู่ในใจของ ฮันอี้ด้วย

เนื่องจากโรคซึมเศร้าของซุนลู่ซิน ฮันอี้จงใจซื้อบ้าน พักตากอากาศที่ห่างไกลจากตัวเมือง เพื่อให้สภาพ แวดล้อมที่เงียบสงบและปกป้องความเป็นส่วนตัวของ ซุนลู่ซิน เขาไม่ต้องการให้เรื่องซุนลู่ซินถูกเผยแพร่ไป ยังเหล่านักข่าว กังวลว่าจะยิ่งทำให้สภาพจิตใจของซุน ลู่ซินแย่ลงกว่าเดิม

แต่ว่าตอนนี้!!

“ไปให้พ้น!

เสียงตวาดดัง ทำให้เลขานุการกลัวจนไม่กล้าที่จะ หยิบหนังสือพิมพ์ ก่อนรีบเดินออกจากห้องทำงาน

ฮันอี้ยืนขึ้นจากเก้าอี้ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความน่า กลัวเดินออกจากโต๊ะทำงาน เอื้อมมือไปจับแขนของ เยนลี่ซูดึงเธอออกจากเก้าอี้

“เยนลี่ซู ฉันเกือบจะดูไม่ออกแล้วนะว่าเธอกำลังเล่น ละครตบตา?”

นัยน์ตาของ เยนลี่ซูว่างเปล่า: คุณหมายความว่ายัง ไง?”
“หมายความว่ายังไง? ถึงตอนนี้แล้วเธอยังจะถามฉัน ว่าหมายความว่ายังไง?!” แววตาของ ฮันอี๊ดุดันขึ้น และ ใช้มือบีบเข้าที่สําคอเธออย่างแรง ราวกับจะให้ขาด อย่างไรอย่างนั้น

“อุตส่าห์วิ่งมาหาฉันเพื่อมาแสดงละครให้ดู และยัง แสร้งทำเป็นคนดี แต่จริงๆ แล้วเธอแค่อยากจะหาข้อ อ้างมารั้งฉันไว้ เพื่อที่เหล่านักข่าวจะได้ไปที่บ้านพัก ตากอากาศเพื่อไปก่อกวนซุนลู่ซิน เยนลี่ซู ผู้หญิงอย่าง เธอทำไมถึงโหดร้ายขนาดนี้ อยากจะทำลายทุกอย่าง เลยหรือไง?!”

โดนยัดข้อกล่าวหาอีกแล้วเหรอ?

เหมือน 5 ปีก่อนอย่างไรอย่างนั้น?

เยนลี่ซู เงยหน้าขึ้นหลังเสียงตวาดของเขาจบลง ด้วย อาการสั่นและอ่อนแรง ก่อนกระพริบไร่น้ำตาในเบ้าออก สะอื้นอยู่สองสามครั้งและพูดกับเขาเบาๆว่า “ถ้าฉันบอก ว่าฉันไม่ได้ทำ คุณจะเชื่อไหม?”

“ไม่ได้ทำ? หึ……”

ฮันอี้เย้ยหยันและเขย่าร่างกายของเธออย่างแรง: “เรื่องที่ซุนลู่ซินอยู่ที่บ้านพักตากอากาศ ยกเว้นฉันก็มี เธอที่รู้เรื่อง เธอบอกว่าไม่ใช่เธอ คิดว่าฉันจะเชื่อไหม?!”

เป็นไปอย่างที่คิด…….
เขาไม่เชื่อ หรือไม่เขาก็ไม่เคยเชื่อเธอมาตั้งแต่ไหน แต่ไรแล้ว

ร่างของเธอสั่นเหมือนดั่งใบไม้ที่พัดอยู่ในพายุเฮอ ริเคนภายใต้แรงเขย่าของเขา หัวของเธอ อยู่ๆก็ปวด อย่างรุนแรง ดวงตาของเธอค่อยๆสูญเสียการมองเห็น และความเจ็บปวดก็โลดแล่นไปทุกเส้นประสาทในตัว เธอ

ก่อนที่สติจะเริ่มพร่ามัว เยนลี่ซูได้ยินเสียงโทรศัพท์ ของ ฮันอี้ดังขึ้น เป็นหลินซูเจิน ที่โทรเข้ามา

“ฮันอี้ คุณรีบมาที่นี่หน่อยได้ไหม ลู่ซิน เธอพยายาม จะฆ่าตัวตาย !!”

“อะไรนะครับ? ได้ครับ เดี๋ยวผมจะไปเดี๋ยวนี้”

ฮันอี้วางหูโทรศัพท์แล้วโยนร่างที่อ่อนแรงของเธอไป ด้านข้างราวกับทิ้งขยะ

“ปีก -!”

ในขณะที่ เยนลี่ซูล้มลงกับพื้น เธอกระตุ้นริมฝีปาก ของเธออย่างเงียบๆ จริงๆแล้วมันดีที่มองไม่เห็น อย่าง น้อยเธอก็ไม่ต้องมองเห็นว่าในเวลานี้ที่เขาเลือกทิ้งเธอ เพราะผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกันที่บ้านพักตากอากาศ

หลินซูเจินวางสายโทรศัพท์และหันหลังไปมองซุนลู่ ซิน ที่ถือมีดผลไม้อย่างลังเลที่จะขยับไปที่แขนของตัว เอง ก่อนจะเดินเข้าไปหาอย่างร้อนใจ

“ทำไมถึงไม่ลงมือซะที เจ้าเด็กฮันอี้กำลังจะมาที่นี่ แล้ว”

พูดง่ายนี่ แต่นี่ถึงขั้นกรีดเส้นเลือดเลยนะ!

ซุนลู่ซินมองดูสายตาร้อนใจของหลินซูเจิน และครู หนึ่งเธอก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

ผู้หญิงที่นั่งตรงหน้าเธอยังเป็นแม่ของเธออยู่หรือ เปล่า!

“แกนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ!”

ในขณะที่ซุนลู่ซินยังคงตกตะลึง หลินซูเจินก็จับมือ ของซุนลู่ซิน อย่างไม่ลังเล ก่อนลงมีดผลไม้กรีดบนข้อ มือสีขาวนั้น…….

เมื่อเนื้อถูกกรีดออก เลือดก็พุ่งออกมาทันที

ข้อมือค่อยๆเย็นขึ้นและหัวใจของซุนลู่ซินก็ค่อยๆเย็น ขึ้นเช่นกัน ก่อนที่จะหลับตา ก็เห็นร่างของฮันอี้วิ่งเข้ามา หาเธอ ในตอนนั้นเธอคิดแล้วว่า ไม่ว่าอย่างไรจะต้องได้ แต่งงานกับฮันอี้ให้ได้ เพราะว่าบนโลกนี้ นอกจาก ฮันอี้แล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะพึ่งใครได้อีก

ฮันอี้รีบออกจากบ้านพักตากอากาศ พร้อมกับอุ้มร่าง ซุนลู่ซินที่ไม่รู้สึกตัวของเธอ ไปที่โรงพยาบาล จนเวลา ล่วงเลยมาถึงตอนบ่าย ซุนลู่ซิน ถึงได้ออกจากห้อง ฉุกเฉิน

ในหอผู้ป่วย ซุนลู่ซินเป็นเหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิต นอนอยู่ บนเตียงอย่างเงียบ ๆ ที่ข้อมือของเธอปรากฏให้เห็น บาดแผลที่ถูกเย็บปิดสนิทก่อนพันด้วยผ้าพันแผล

ฮันอี้นั่งลงข้างเตียง จ้องใบหน้าของซุนลู่ซินด้วยความ รู้สึกผิด ถ้าเขามาถึงช้ากว่านี้อีกนิดเดียว ไม่อยากจะคิด เลยว่าจะเป็นอย่างไร……

“ฮันอี้”

หลินซูเจิน ใช้โอกาสเมื่อเห็นความรู้สึกผิดและโทษ ตนเองในสายตาของ ฮันอี้ก่อนยืนอยู่ข้างหลังเขาและ ร้องไห้ขึ้น: “ถ้าไม่อย่างนั้น…..หลังจากนี้คุณไม่ต้อง มาดูแล ลู่ซิน แล้วก็ได้ อารมณ์โกรธของคุณเยนน่า กลัวนัก ไม่ว่าวิธีไหนก็ทำได้ ป้าไม่ว่าอะไรหรอก แต่ลู่ ซิน…..”

“พี่ฮัน…..……

ซุนลู่ซินนอนอยู่บนเตียงค่อยๆลืมตา และมองไปที่ ดวงตาที่รู้สึกผิดคู่นั้นของฮันอี้ก่อนจะยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรคะ แต่พี่อย่าทิ้งฉันนะ หลังจากนี้ฉันจะ เชื่อฟัง หรือไม่ ฉันจะไปขอร้องพี่ลี่ซู? จะบอกพี่เขา ว่า ฉันจะเชื่อฟัง ถือว่าสงสารลู่ซิน อย่าให้พี่ฮันอี้ทิ้งลู่ซิน เลย……….

“ลู่ซิน!”

หลินซูเจินคุกเข่าอยู่หน้าเตียง และพูดด้วยน้ำเสียง อย่างเจ็บปวดใจพร้อมน้ำตาที่ไหลไม่หยุดของเธอ “คุณเยนพวกเราสู้ด้วยไม่ไหวหรอกนะ ลูกลืมไปแล้วเห รอว่าตอนนั้นเธอต้องการจะฆ่าลูก ลูกอยากจะตายด้วย น้ำมือเธอจริงๆเหรอ?!!”

ซุนลู่ซินที่ยอมเชื่อฟังและความโศกเศร้าของหลินซู เจิน เหมือนกลับมีหนามมาทิ่มแทงหัวใจของฮันอี้

จนถึงตอนนี้แล้ว ซุนลู่ซินไม่เพียงจะไม่โทษโกรธ แต่

ยังคิดจะไปร้องขอ

เยนลี่ซู ผู้หญิงจอมเสแสร้งคนนั้น ทำไมช่างเลวร้าย ได้ขนาดนี้!!

พอแล้ว พอแล้วจริงๆ!

“น้าหลิน ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เรื่องนี้ปล่อยให้ผม จัดการเถอะ”

ฮันอี้ สูดลมหายใจ พยายามจะระงับความโกรธใน หัวใจของเขา ก่อนเอื้อมมือออกมาลูบผมของซุนลู่ซินเบาๆ : ซิน คุณพูดเสมอว่า อยากจะมีครอบครัวไม่ใช่ เหรอ? ตอนนี้ผมจะให้คุณเอง”

ความสุขของซุนลู่ซินสะท้อนออกมาผ่านดวงตา ใน ขณะที่ฮันอี้ลูบผมอยู่ ก่อนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แต่ หลินซูเจินซึ่งยืนอยู่ข้างๆเห็นสายตาที่เย็นชาของ ฮั่นอี้ ราวกับโดนแช่แข็ง ก่อนจะก้มหัวลง ไม่กล้ามองไปอีก เป็นครั้งที่สอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ