บทที่ 6 ซุนลู่ซินและแม่ซุนลู่ซิน
“ใช่ รบกวนถ่ายแบบละเอียดและชัดเจนหน่อยนะ แล้วพรุ่งนี้หลังจากเผยแพร่ออกไป อย่าลืมโอนเงินเข้า มาที่บัญชีของฉันล่ะ”
ในบ้านพักตากอากาศ หลินซูเจินวางหูโทรศัพท์และ หันไปหาซุนลู่ซิน ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเตียงพร้อมรอยยิ้ม ในดวงตาของเธอไม่มีความน่าสงสารและความกังวล ใดๆอย่างเมื่อครู่ ทั้งหมดล้วนเป็นแค่การแสดงตบตา เท่านั้น
“อย่าห่วงเลย เรื่องทั้งหมดจัดการหมดแล้ว”
“ในเมื่อหมดเรื่องแล้ว แม่ก็ออกไปได้แล้ว”
ซุนลู่ซินพยักหน้า ก่อนละสายตาอันแสนเบื่อหน่าย กลับจากใบหน้าของหลินซูเจิน
“ลู่ซิน!”
แทนที่หลินซูเจินจะออกไปข้างนอก แต่กลับพุ่งร่าง อวบอ้วนไปนั่งลงข้างซุนลู่ซิน ก่อนพูดด้วยน้ำเสียง ลำพองใจ: “ผ่านมาห้าปีแล้ว และตอนนี้เยนจื้อจงก็ได้ ตายไปแล้ว แต่เจ้าเด็กฮันอี้นั่นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอม มาขอลูกแต่งงาน แม่ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าลูกอย่าได้ เสียเวลาอีกต่อไปเลย ลูกต้องรีบบีบบังคับ ฮันอี้ให้หย่า ให้เร็วที่สุด!
“เร่งเร่งเร่ง! นอกจากเร่งแล้ว แม่รู้อะไรอีกบ้างไหม?”
ในขณะซุนลู่ซินที่อยู่ในห้วงความคิด ใบหน้าเต็มไป ด้วยความปลื้มปริ่มเฉยเมย: “หนูจะบอกอะไรให้นะ เรื่องนี้หนูมีวิธีจัดการในแบบของหนู แต่แม่ก็ระวังตัว ด้วย อย่าให้พี่ฮันจี้รู้เรื่องเข้าล่ะ”
เมื่อเผชิญหน้าอันแสนน่ากลัวของซุนลู่ซิน หลินซูเจินรู้ สึกก้าวไม่ออกและไม่กล้าพูดอะไรต่อ แต่เมื่อเธอลุกขึ้น ก็ได้พูดออกมาเสียงเบา: “ทำตามที่แม่บอก ถึงแม้แม่จะ ไม่มีทางให้เขารู้เรื่อง แต่เขาก็ไม่คิดจะแต่งงานกับลูก อยู่ดี เพราะเขามองลูกเป็นเพียงน้องสาวเท่านั้น”
“ปีก -!”
ซุนลู่ซินหยิบหมอนบนเตียงโยนไปทางหลินซูเงินด้วย ท่าทางไม่พอใจอย่างมาก ก่อนพ้นถ้อยคำรุนแรงออก มา
“แม่มีสิทธิ์อะไรมาพูดอย่างนี้? แม่ยังมีหน้ามาสอนหนู อีกเหรอ?”
หลินซูเจินหงุดหงิดด้วยความโกรธเคือง: “แม่เป็นแม่ ลูก ทำไมจะพูดไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่วางแผน คิดเห รอว่าเจ้าเด็กฮันอี้จะตายใจอยู่ดูแลลูกจนถึงตอนนี้?!”
“แม่เป็นคนวางแผนมันก็สมควรอยู่แล้ว แต่อย่าลืมนะ ว่า ถ้าไม่ใช่ตอนนั้นแม่………..!!”
“แกร๊ก -!”
ก่อนที่จะพูดจบ ก็มีเสียงเปิดประตูของบ้านพักตาก อากาศดังขึ้น
เมื่อหลินซูเจินได้ยินเสียงก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นทุกข์ ใจ ก่อนวิ่งไปข้างซุนลู่ซินและตั้งใจเปล่งเสียงพูดอย่าง จงใจ: “ลู่ซิน ลูกจะให้เป็นอย่างนั้นไปตลอดไม่ได้หรอก ฮันฮี้แต่งงานแล้ว เขาไม่สามารถอยู่กับลูกได้ตลอด
ซุนลู่ซินมองหลินซูเจินที่ชอบแสร้งทำเป็นคนดีต่อหน้า ของเธออย่างนึกรังเกียจ แต่เมื่อเห็นประตูถูกเปิดออก เธอก็รีบเก็บสายตาอันน่ารังเกียจคู่นั้น ก่อนจะทำท่า ทางเศร้าโศกเสียใจเหมือนเด็ก
“หนูต้องการพี่ นอี หนูต้องการ ……..
“ลูซิน”
เมื่อฮันอี้ผลักประตูเข้ามา เขาก็เห็นดวงตาที่กำลัง ร้องไห้ด้วยความทุกข์ของซุนลู่ซินและนึกตำหนิตัวเอง ก่อนจะรีบเดินไปตรงหน้าซุนลู่ซิน
ย่อตัวลงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษนะ ผมไม่ควรออกไปจากที่นี้เลย”
ภายในห้องในขณะนั้น ดวงตาของผู้หญิงทั้งสองคน มองมาที่เขาพร้อมกัน หลินซูเจินจ้องไปที่ด้านหลังของเขาด้วยความโลภ แต่ซุนลู่ซินไม่เพียงมองเขาด้วย น้ำตาพร่ามัว แต่ยังมองเขาด้วยใจจริง
เธอรักผู้ชายในชุดสูทคนนี้ รักในใบหน้าที่มีคุณสมบัติ ครบถ้วนและดวงตาที่น่าหลงใหลคู่นั้น
“พี่ฮันอี้…” ด้วยความรักที่ท่วมท้น ซุนลู่ซินก็ร้องไห้ โผกอดไปในอ้อมแขนของเขา
ฮันอั๊ตบหลังเธอเบาๆ เกลี้ยกล่อมด้วยความรักเหมือน เด็ก: “ไม่ต้องร้องแล้ว ผมกลับมาแล้ว วันนี้ผมจะไม่ไป ไหนอีกแล้ว”
“แต่ว่า…………….….”
ซุนลู่ซินฝังศีรษะของเธอไว้ในอ้อมแขนของฮันอี้ และ ยังคงร้องไห้ต่อไป “แม้ว่าวันนี้พี่จะไม่ไปไหน แต่ในวัน พรุ่งนี้พี่ก็ไปอยู่ดี ฉันอยากให้พี่อยู่กับฉันทุกวัน”
“ซิน ลูกจะทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเลยไม่ได้นะ”
หลินซูเจินพูดขึ้นโดยไม่รอให้ฮันอี้ได้มีโอกาสพูดต่อ ดวงตาที่หลบซ่อนไปด้วยความโลภคู่นั้น เปลี่ยนไปทำ เหมือนเข้าใจความรู้สึก: “ฮันอี้แต่งงานแล้ว เขาจะมาอยู่ กับลูกทุกวันได้อย่างไร?”
ซุนลู่ซินได้ยินคำพูดเหล่านั้น ก็ยิ่งร้องไห้สั่นไหวใน อ้อมแขนของฮันอี้
ฮันอี้ขมวดคิ้วอย่างปวดใจ: “น้าหลิน ต่อจากนี้อย่าพูด เรื่องนี้ต่อหน้าลู่ซินเลยครับ”
“แต่…… ฮัน นี่คือเรื่องจริง หรือว่าคุณคิดจะหย่ากับ เยนลี่ซูจริงๆ?”
หลินซูเงินแสร้งทำเป็นประหลาดใจ ก่อนถอนหายใจ ด้วยความเห็นอกเห็นใจ: อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะ หย่ากับ เยนลี่ซูตอนนี้ก็ไม่มีผลอะไรกับคุณ เยนจื้อจง ตายไปแล้วและตอนนี้คุณก็คือผู้อำนวยการของตระกูล เยนอยู่ดี……”
“น้าหลิน!”
“ป้ารู้ว่าป้าไม่ควรพูด….ป้าแค่กังวลว่าลู่ซินอาจคิดไม่
ถึงเท่านั้น……”
หลินซูเจินหยุดปากของเธอ และหันกลับเดินออกจาก ห้องไป ถึงแม้ว่า ฮันอี้จะเป็นคนที่เธอมองดูเขาเติบใหญ่ มากว่าครึ่งชีวิต แต่เธอก็ยังไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ ของเขาได้
ในตอนดึก ภายในห้องพักเงียบสงบ
ซุนลู่ซินนอนคิดอยู่บนเตียงเกี่ยวกับบทสนทนาของ หลินซูเจินกับฮันอี้วันนี้ เธอรู้ว่าคำพูดของ หลินซูเจินวัน นี้จงใจอยากให้เธอได้ยิน อย่าคิดว่า ฮันอี้ที่ตอนนี้ดูเป็น ห่วงเป็นใยเธอ สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงเพราะเขารู้สึกผิด ตราบใดที่ฮันฮี้ไม่ได้หย่าหรือไม่ได้แต่งงานกับเธอ ฮันอี้ยังไงก็ไม่ได้เป็นของเธออยู่ดี
ซุนลู่ซินหันมาดูใบหน้าที่หลับลึกของฮันอื้อย่าง ระมัดระวังและจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลา เพ้อฝันนึก อยากครอบครองอย่างหลงใหล
ก่อนยื่นมือและสัมผัสบนร่างกายของนั้นเบา ๆ และ ค่อยๆเข้าใกล้เขาอย่างช้าๆ
แต่เมื่อซุนลู่ซินกำลังจะจูบลงบนริมฝีปากนั้นอย่าง ปรารถนา เขาก็จับมือเธอ แต่ไม่ได้ตื่นขึ้นมา เพียง แต่เปล่งเสียงออกมาราวกับฝัน: “เยนลี่ซู หยุดเล่นได้ แล้ว……
ซุนลู่ซินร่างกายแข็งทื่อขึ้นมาทันทีราวกับคนถูกฟ้าผ่า
เมื่อครู่นี้เขาเรียกชื่อของใครนะ? เยนลี่ซูเหรอ? ทำไม เขาถึงเรียกชื่อผู้หญิงคนนี้ในขณะที่ยังไม่รู้สึกตัวด้วย ซ้ำ?!
เขาควรจะเกลียดตระกูลเยนสิ ควรจะเกลียดผู้หญิง คนนั้นไม่ใช่เหรอ?!!
แต่ทำไม ทำไม………
น้ำตาไหลลงอาบสองแก้ม ซุนลู่ซินกัดริมฝีปากล่าง ของเธอแน่นพร้อมสายตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ อย่างอิจฉาเยนลี่ซู!!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ