ฉันเสียเธอไปแล้วจริงๆ

บทที่ 5 ปล่อยเธอไปไม่ได้



บทที่ 5 ปล่อยเธอไปไม่ได้

ในเวลากลางคืน ซุนลู่ซินที่กินซูชิไปอิ่มท้อง ก็ได้นอน หลับสนิทในอ้อมแขนของฮันอี้

ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ ซุนลู่ซินต้องให้ฮันอี้อยู่เป็นเพื่อน ทุกวันถึงจะนอนหลับและฮันอี้เองก็ชินกับมันแล้ว ไม่ว่า เขาจะทำงานกลับดึกขนาดไหน ก็ต้องกลับมากล่อมเธอ นอนเสมอ

ฮันอี้อาจเพราะเหนื่อยเกินไป เมื่อซุนลู่ซินหลับไปได้ สักพักหนึ่ง เขาเองก็ผล็อยหลับเหมือนกัน แต่เขากลับ นอนอย่างไม่เป็นสุข เพราะมัวแต่หลับฝันถึงใบหน้า ของ เยนลี่ซู ที่เปื้อนเลือดอยู่

เลือด!

ฮันอี้ตื่นขึ้นมาในทันใด ความเงียบรอบๆ ตัวเขาทำให้ เขานึกถึงเมื่อตอนเขาออกมา เยนลี่ซูล้มลงบนโต๊ะชา โต๊ะชานั่นแตกหัก แล้วเธอ……

เขาลุกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนสวมเสื้อคลุมเดินออก จากบ้านของซุนลู่ซิน แล้วสตาร์ทรถ โดยที่เขาเองก็ไป อาจหาเหตุผลหรือคำอธิบายใดๆ ให้กับตัวเองได้

ในที่สุดเมื่อเขาก็ยืนอยู่ที่ประตูบ้านตัวเอง ถึงจะสงบ ลงได้ กำกุญแจ เขาอดหัวเราะไม่ได้ นี่เขากำลังทำอะไร อยู่ กำลังเป็นห่วงผู้หญิงคนนั้นเหรอ?
เป็นไปได้อย่างไร? มันจะเป็นไปได้อย่างไร?!!

เขาควรภาวนาให้ผู้หญิงคนนั้นตายอย่างเยนจื้อจงสิ อย่างนี้ถึงจะชดใช้ให้เขาและซุนลู่ซินได้!

แต่ว่าเพราะอะไร เขาถึงรีบกลับมาตอนนี้ ทำไมเขา ต้องกลัวเธอเป็นอันตรายด้วย?

เขาบ้าไปและเหรอ?

ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น!

เขาแค่กลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นอะไรไป ก่อนที่เขา จะทรมานเธอ!

ใช่แล้ว เป็นเพราะเหตุผลนี้แหละ!

เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว ฮันอี้ก็ประตูใหญ่และเดิน เข้าไป ภายห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ไม่มีใครอยู่ แต่ยังคง หลงเหลือรอยเลือดเปื้อนบนพื้น อันน่าสยดสยอง

“เยนลี่ซู!”

“เยนลี่ซู ลงมาหาฉันเดี๋ยวนี้!”

ให้ตายเถอะ ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ได้นอนหลับอยู่ข้าง บนหรอกนะ?!

เมื่อนึกถึงซุนลู่ซินที่อยู่ในอ้อมแขนเขาเมื่อครู่ ร่างกายสั่นคลอนทั่วตัว จนเผลอหลับไป ในใจของฮันอี้ก็รู้สึก โกรธขึ้นมาอีกครั้ง

“อย่าตะโกนเรียกเลย เธอตอนนี้ลงมาหาคุณไม่ได้ หรอก”

คนที่ตอบฮันฮี้ไม่ใช่ เยนลี่ซู แต่เป็น ซูมิง

เมื่อก้าวออกจากห้องนอนและปิดประตูเบาๆ ซูมิงก็ ยืนข้างราวบนชั้นสอง ก่อนก้มศีรษะลงมองฮันอี้ที่ทำตัว ราวกับสัตว์ร้าย

เธอไม่มีวันเข้าใจได้เลยว่าผู้ชายอย่างฮันอี้ นอกจาก รูปร่างหน้าตาที่ดีแล้ว มีอะไรที่คู่ควรต่อความรักของ เยนลี่ซู

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีจิตใจที่คับแคบและตายด้าน……..

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” เมื่อเผชิญหน้ากับซูมิง ท่า ทางของฮันอี้ก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไร

เพื่อนสนิทของเยนลี่ซูจะดีไปกว่ากันได้ขนาดไหน เชียว?

“ประธานฮันควรจะดีใจ ที่ฉันอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ”

โชคดีที่เธอรู้สึกไม่สบายใจจนกลับเข้ามาดูอีกรอบ ไม่งั้นเยนลี่ซูคงเลือดออกหมดตัว ตายไปโดยไม่มีใครรู้ ด้วยซ้ำ!!
“ทำไมล่ะ? หรือว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีหน้ามาสู้ผมได้?”

ฮันอี้กระตุกมุมปากอย่างไม่แยแส “หรือว่า…….ทนาย ซูมิง จะมาคุยกับเยนลี่ซูเรื่องที่จะโอนทรัพย์สินลับหลัง หลังผม?”

“ฉันมาทําอะไรที่นี่ ประธานฮันขึ้นมาดูตัวเองก็คงจะรู้ แล้วไม่ใช่เหรอ?” ซูมิงพูดและทำท่าทางเชิญเขา

ฮันอี้ชะงักไปสองสามวิ ก่อนจะก้าวขึ้นบันได เขา อยากรู้ว่า เยนลี่ซูจนถึงตอนนี้ทำไมถึงยังไม่ปรากฏตัว ให้เห็น หรือกำลังเล่นอะไรอยู่

ฮันอี้ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนบนชั้นสองก่อน จับลูกบิดประตู แต่ในขณะที่กำลังจะเปิดประตูนั้น โทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาก็ดังขึ้น

เมื่อหยิบขึ้นมารับ เป็นเสียงของ หลินซูเจิน: ฮันอี้คุณ อยู่ที่ไหน ลู่ซินตื่นขึ้นมาและไม่เห็นคุณ ร้องไห้ตลอด เลย คุณว่างไหม? มาดูเธอหน่อยได้หรือเปล่า?”

“น้าหลินไม่ต้องกังวล ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้”

ฮันอี้วางสายโทรศัพท์ ก่อนหันหลังกลับและเดินลง บันไดไป

“ฮันอี้!”

ซูมิงคว้าข้อมือของเขา: คุณจะจากไปอย่างนี้เหรอ?ภรรยาของคุณยังนอนไม่รู้สึกตัวอยู่ในห้อง แล้วคุณจะ กลับไปเพราะผู้หญิงอีกคนเนี่ยนะ คุณยังมีความเป็น มนุษย์อยู่ไหม?!”

“ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ไหม?”

ฮันอี้หันกลับมาและยิ้มประชด: “ทนายซูมิงคุณแน่ใจ เหรอว่าจะเอาคนในตระกูลเยนมาเปรียบความเป็น มนุษย์กับผม”

คนในตระกูลเยนทำไมเหรอ?

ถึงยังไงคนในตระกูลเยน ก็ไม่เคยติดหนี้ฮันอี้คุณสัก บาทเลย!!

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้จนเกือบจะหลุดปากไป แต่ก็คิดถึง คำพูด เยนลี่ซูที่ขอร้องเธอไว้ ซูมิงก็ได้แต่กลืนคำพูด กลับเข้าไปในลำคอ

เธอสัญญากับเยนลี่ซูแล้ว ว่าจะไม่พูดอะไร……

“ทำไมล่ะ? แม้แต่ทนายซูมิงก็ไม่มีอะไรจะพูดเหรอ?”

เมื่อเผชิญกับความเงียบของซูมิง ฮันอี้ก็เริ่มพูด ถากถาง เยนลี่ซูนะเยนลี่ซู เธอต้องเลวร้ายถึงขนาด ไหนกัน ถึงต้องให้เพื่อนมาโต้แย้งให้เธอพ้นผิดแทน?!

“ฮันอี้”
ซูมิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพยายามทำใจให้สงบ: “นี่ คุณไม่นึกห่วงใยเยนลี่ซูเลยจริง ๆ เหรอ นี่คุณไม่กลัวว่า เธอจะตายเหรอไง?!”

ตาย?

หลังจากฮันอี้ได้ยิน ก็หัวเราะอย่างไร้ปราณี: “แม้ว่า ทุกคนบนโลกจะตายกันหมด แต่คนที่ทั้งเห็นแก่ตัวและ ไร้ยางอายอย่าง เยนลี่ซู ไม่มีทางตายแน่นอน!”

เขาสะบัดมือของซูมิงออกและเดินลงไปข้างล่างโดย ไม่หันกลับมามองอีก

แผ่นหลังของฮัน ที่เยือกเย็นไม่แยแส เป็นเหมือน ของมีคมที่ทิ่มแทงมาในดวงตาของซูมิง ก่อนที่เธอจะ อดตะโกนออกไปไม่ได้ว่า: “ฮันอี้ไอผู้ชายสารเลว แล้ว วันหนึ่งคุณจะต้องเสียใจ -!”

เมื่อเห็นประตูเปิดออกและถูกผลักปิดลงมา น้ำตาของ ซูมิงก็ระเบิดออกมา

หมุนตัวหันกลับมาและเปิดประตูห้องนอน บนเตียง ขนาดใหญ่มีร่างเยนลี่ซูที่ใบหน้าและลำตัวซีดขาว บอบบางราวกับกระดาษนอนอยู่ฝั่งหนึ่งของเตียง บาดแผลที่ถูกบาดด้วยแก้วนั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่งบน ผิวหนัง พร้อมมือบางๆที่ถูกเจอะให้น้ำเกลือ

คิดกลับไปเมื่อตอนที่ตัวเธอมาถึง แล้วจะพา เยนลี่ซู ไปที่โรงพยาบาล แต่ไม่ว่าอย่างไงเจ้าตัวก็ไม่ยอมไปเพราะกลัวว่าถ้าถูกพบอยู่ที่โรงพยาบาล อาจจะทำให้ ฮันอี้มีข่าวในเชิงไม่ดีได้ ในท่าทางที่ดูเป็นห่วงเป็นใยนั้น ทำให้หัวใจของซูมิงเจ็บปวดเกินกว่าจะยอมรับได้

คุ้มเหรอ?

ลี่ซู มันคุ้มจริงๆเหรอ?

ผู้ชายที่เธอคอยห่วงใยอยู่เต็มหัวใจ คนที่ไม่ว่ายังไง ก็ไม่อาจทำร้ายได้ลง แต่เพื่อผู้หญิงอีกคน เขาหันหลัง กลับไปโดยไม่คิดจะเปิดประตูห้องเธอเลยด้วยซ้ำ……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ