ฉันเสียเธอไปแล้วจริงๆ

บทที่ 3 เราหย่ากันเถอะ



บทที่ 3 เราหย่ากันเถอะ

“ฮันอี้ ฉันหิวแล้ว……”

ในห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบ เสียงของซุนลู่ซินก็ดังขึ้น ชัดเจนในอีกด้านของโทรศัพท์ เสียงของเธอเพราะมาก ด้วยความนุ่มนวลของผู้หญิงภาคใต้ แต่ในหูของเยนลี่ซู กลับได้ยินราวกับเป็นเสียงฝันร้าย

ห้าปีแล้ว นับจากวันที่เธอกับฮันอี้แต่งงานกัน เสียง โทรศัพท์ของซุนลู่ซินก็มักจะดังขึ้นอย่างไม่เลือกเวลา เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเวลากินข้าว นอนหลับหรือแม้กระทั่ง ตอนที่ทำเรื่องอย่างนั้นอยู่

และฮันอี้ก็เลือกจะรับโทรศัพท์ของซุนลู่ซินก่อนเสมอ อย่างเช่นตอนนี้ ขณะที่เธอเจ็บปวด นอนอยู่บนพื้นหิน อ่อนอันแสนเย็นนั้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดฮันอี้ ที่กำลัง ตั้งใจฟังคำพูดของคนในอีกด้านหนึ่งอย่างซุนลู่ซินได้

น้ำตา ในที่สุดก็ไหลออกมา แม้ว่า เยนลี่ซูจะปิด เปลือกตา ก็ยังไม่สามารถหยุดน้ำตาร้อนที่ไหลผ่าน แก้มเย็นๆได้

“อยากทานอะไรล่ะ? ซูชิหรือหม้อดิน? ผมได้ยินมาว่า มีร้านซูชิญี่ปุ่นเพิ่งเปิดใหม่ ดูน่ากินเลยทีเดียว”

ความรู้สึกที่แสนเย็นชาเมื่อสักครู่นั้นผิดกับขณะนี้ อย่างสิ้นเชิง ในขณะนี้ฮันอี้กลับใช้น้ำเสียงที่ดูอบอุ่น และอ่อนนุ่ม แม้แต่ใบหน้าของเขา ก็ดูอ่อนโยนขึ้นมาทันทีภายใต้แสงประทีป

“ตราบใดที่เป็นคุณ ผมทานอะไรก็ได้”

“ครับ ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้”

ฮันอี้วางสายและลุกขึ้นจากไป

ทันใดนั้นดวงตาของเยนลี่ซู เบิกโพลงขึ้น ก่อนจับไป ที่แขนเสื้อของเขาแรงจนปลายนิ้วซีดขาว

“ปล่อย! เธอไม่รู้หรือว่าเพราะความดื้อรั้นของเธอ มัน ทำให้ฉันรังเกียจยิ่งขึ้น?!”

ฮันอี้สะบัดมือที่จับอยู่บนแขนเสื้อของเขาออก แต่เขา ไม่คิดว่า มือนั้นจะคลำและกระชับแขนของเขาอีกครั้ง

“ฮันอี้ ฉันขอถามคุณอีกครั้ง คุณไม่เคยรักฉันสักนิด เลยจริงๆเหรอ?”

บนพื้นหินอ่อนที่แสนเย็นนั้น เยนลี่ซูพยายามที่จะลุก ขึ้นยืน ยกใบหน้าของเธอขึ้นและมองเข้าไปในตาของ เขาเพื่อหาคําตอบ

แต่ก่อนที่เธอจะได้คำตอบ เขาก็บีบคางเธอแน่น เสียง เย็นของฮันอี้ที่ดังขึ้น รู้สึกเย็นกว่าหินอ่อนที่อยู่เบื้องล่าง ด้วยซ้ำ

“เยนลี่ซู ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย คนที่ฉันรักคือซุนลู่ซิน คนที่เธอเคยคิดจะฆ่าด้วยน้ำมือของเธอเอง!!”

พอแล้ว พอแล้วจริงๆ

ที่จริงเธอก็รู้คำตอบดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?

ตามเสียงของเขา เธอบิดใบหน้าด้วยรู้สึกปวดใจจน แทบจะหายใจไม่ออก ได้แต่ยิ้มเบาๆ บอกเขา: “ฮันอี้ เราหย่ากันเถอะ”

หย่า?

เมื่อฮันอี้ได้ยินประโยคนี้ ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ไม่ช้า เขาก็ยิ้มออกมา ในดวงตาที่เย็นชานั้นหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนที่นิ้วของเขาจะใช้แรงบีบคางของเธอหนักขึ้น

“เธอฝันหรือเปล่า!”

.ทำไมล่ะ?”

เยนลี่ซูไม่เข้าใจ เขาบอกว่าเขารักซุนลู่ซินไม่ใช่เห รอ? เขาบอกว่ารังเกียจตัวเธอไม่ใช่เหรอ? ทำไมในตอน ที่เธอกำลังจะปล่อยมือเขาไป แต่เขากลับไม่เห็นด้วย?

ฮันอี้ใช้กำลังบีบคางเธอด้วยความเกลียดชังโดยไม่ สนแม้เธอจะขมวดคิ้วเพราะความเจ็บปวดก็ตาม

“ตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกเจ็บปวด คิดอยากจะหย่าแล้วเห รอ? ตอนนั้นที่เธอขอให้ เยนจื้อจง บีบบังคับให้ฉันแต่งงานกับเธอ ทำไมถึงไม่คิดอย่างวันนี้ล่ะ?! เยนลี่ซูจะ บอกอะไรให้นะ ตอนนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นของความเจ็บ ปวดเท่านั้น ฉันจะให้เธอถือกรรมสิทธิ์เป็นคุณนายฮัน ไปตลอดชีวิต! ฉันจะทำให้ชีวิตเธอต่อจากนี้รู้สึกราวกับ ตายทั้งเป็น!!”

ฮันอี้สะบัดคางเธอทิ้งก่อนเดินออกไปอีกด้านของโต๊ะ เปิดกระเป๋าเอกสารแล้วหยิบเอกสารข้อมูลจำนวนหนึ่ง พร้อมรูปถ่ายโยนลงไปที่เยนลี่ซู

เยนลี่ซูที่ตาพอจะเริ่มปรับเห็นได้ชัดเจน ก็หยิบ ภาพถ่ายที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นขึ้นมาดู ในภาพเหล่า นั้นเป็นเธอทั้งหมด เป็นภาพเธอที่เข้าไปในสำนักงาน กฎหมายและนั่งอยู่ในห้องของทำงานซูมิง ก่อนที่เธอจะ ออกมาจากสำนักงานกฎหมาย………..

เธอเงยหน้าขึ้นพร้อมเสียงสั่นคลอน: “ฮันอี้นี่คืออะไร? คุณจ้างให้คนแอบตามฉันเหรอ?”

หรือว่าเขารู้แล้ว?

เธอกระวนกระวายปืนขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะวิ่งไปตรง หน้า ฮันอี้แต่ก่อนที่เธอจะหยุด ฮันอี้ก็ผลักเธอออกอยาก ไร้ความรู้สึก

“ไปให้พ้น! อย่าเข้าใกล้ฉัน!”

“อา -!”
เยนลี่ซูถูกผลักลงบนโต๊ะชาอีกครั้งจนโต๊ะชารวมถึง เธอก็กระแทกลงไปที่พื้น เศษแก้วแตกทะลุผิวหนังและ มาดเข้าแก้มของเธอ

ฮัน ไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะล้มไปที่โต๊ะชา อยากจะ ก้าวไปข้างหน้าเพื่อดู แต่เมื่อเห็นเธอกำลังพยายามลุก ขึ้นอีกครั้ง ก็รีบหยุดตัวเองลง

ผู้หญิงคนนี้ต้องลงทุนถึงขนาดเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยง เพื่อทำเรื่องอย่างนี้เลยเหรอ น่ารังเกียจจริงๆ!

ทันใดนั้นฮันอี้ยิ้มขึ้นอย่างเฉยเมย: “ถ้าฉันไม่จ้างให้ คนตามเธอ ก็คงไม่รู้นะว่าคุณนายฮันจะทำเรื่องอย่าง นี้ได้….……อนหน้านี้ไปที่สำนักงานทนายความเพื่อโอน ทรัพย์สินแล้วจากนั้นก็วิ่งมาหาฉัน ทำตัวน่าสงสาร เพื่อ ขอให้ฉันหย่าด้วย…….”

ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้น เธอไม่ได้..…………

“คุณนายฮัน เธอไม่แม้แต่ทำตัวราคาถูก แต่ยังทำตัว น่ารังเกียจจนฉันอยากอาเจียนด้วย!”

“ตึง -!”

ประตูบานใหญ่ถูกกระชากเปิดออกและกระแทกกลับ เข้ามา ในที่สุดห้องนั่งเล่นก็กลับมาเงียบอย่างเดิม

เลือดสด ย้อมตามเสื้อผ้า เป็นดวงๆ ราวกับดอก กุหลาบที่แพร่กระจาย เยนลี่ซูมองไปทางประตูที่ปิดสนิท ยังคงตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหลับตารับรู้ความ เจ็บปวดอย่างช้าๆ

เธอยิ้มออกมา เพราะดูเหมือนว่าเขายังไม่รู้เรื่องที่เธอ กำลังจะตาย

แต่ถึงยังไง เธอก็ยังร้องไห้ออกมาท่วมหน้า เพราะพอ จะดูออกว่า เขาอยากเห็นเธอตายขนาดไหน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ