อเวจีขยีสวาท

บทนํา



บทนํา

และแล้ว…เจ้าชายกับเจ้าหญิงก็ครองคู่กันอย่างมีความสุข ตราบชั่วนิรันดร์

นั่นเป็นบทสรุปของเทพนิยายที่สาวน้อยชอบอ่านและจําได้ ขึ้นใจ เพราะอ่านมันซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบจนหนังสือที่รบเร้า ให้แม่ซื้อให้สมัยเด็กๆ มีสภาพเป็นแทบดูไม่ได้

ดึกสงัดเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลายๆ คน หลังจากที่ต้อง ตรากตรําทํางานอาบเหงื่อต่างน้ำมาทั้งวัน ทว่ามันกลับเป็น เสมือนห้วงเวลาชวนฝันสำหรับเจ้าของร่างอรชรอ้อนแอ้น แสง จากโคมไฟเก่าๆ ที่บางวันก็ออกอาการเกเรติดๆ ดับๆ ยังคง เล็ดลอดผ่านช่องลมของห้องโกโรโกโสอันแสนคับแคบเท่าแมว ดิ้นตาย ซึ่งตั้งอยู่ท้ายสุด ในบริเวณบ้านพักคนงานของฟาร์ม พอร์ตแมน ฟาร์มปศุสัตว์ขนาดกลาง ในเมืองเล็กๆ ของประเทศ ออสเตรเลีย

มะลิร้อย สร้อยมาลา” เด็กสาวกำพร้าผู้แสนอาภัพ วัยสิบเก้า ปี ชื่นชอบการอ่านเทพนิยายก่อนนอนเป็นชีวิตจิตใจจนติดเป็น นิสัยจากเด็กสู่วัยสาว เพราะมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไป ในโลกแห่งจินตนาการ และลืมความทุกข์ไปชั่วขณะ บางคราเธอ นั้นก็นึกอยากจะลองอ่านนิยายที่สาวๆ ในสมัยนี้นิยมกัน แต่ก็ ต้องตัดใจ เพราะไม่มีเงินมากพอที่จะกระเบียดกระเสียรให้ได้มัน มาเป็นเจ้าของ จึงได้แต่หยิบเทพนิยายเล่มเก่าที่แม่ซื้อให้ขึ้นมาเป็นเพื่อนคลายเหงาและปลดปล่อยความทุกข์เศร้าที่กัดกินหัวใจ ดวงน้อย

ชะตาชีวิตของมะลิร้อยเลวร้ายตั้งแต่เล็กจนโต เริ่มจากตอน แปดขวบพ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตทั้งคู่ ฉะนั้นจากคุณหนูตัวน้อยๆ ที่มีแต่คนคอยพะเน้าพะนอเอาใจ จึง ต้องมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายกับผู้เป็นยาย ในไร่ส้มเล็กๆ ทาง ตอนเหนือของจังหวัดเชียงราย ทว่าต่อมาไม่นานยายซึ่งเป็น ร่มโพธิ์ร่มไทรเพียงหนึ่งเดียวก็มาล้มป่วยและจากไปอย่าง กะทันหัน

เมื่อไร้ที่พึ่งสาวน้อยจึงต้องระเห็จจากไทยมาอาศัยอยู่กับผู้เป็น ป้าที่ออสเตรเลีย ตามคำร้องขอสุดท้ายของยายก่อนจะสิ้นใจ ถึง แม้ป้าของเธอจะเป็นถึงภรรยาเจ้าของฟาร์มซึ่งในเวลานั้นมั่งคั่ง อยู่มากโข ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้นึกเอื้อเอ็นดูหลานสาวในไส้ แต่ กลับโขกสับเยี่ยงทาส มะลิร้อยถูกบังคับให้เรียนถึงแค่มัธยม ปลาย เพื่อที่จะได้มาคอยรับใช้รองมือรองเท้าทุกคนในบ้าน อย่างเต็มที่ เธอถูกจํากัดสถานะให้เป็นเพียง “นางซินก้นครัว’ ที่ โดนคนในครอบครัวพอร์ตแมนกดให้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน และไม่เคย เห็นความสําคัญอะไรเลย

เรื่องราวของมะลิร้อยไม่ใช่เทพนิยาย เพราะมันไม่ได้ขึ้นต้น ด้วยค่าว่า ‘กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว และมันก็ยังไม่ได้มีทีท่าว่า จะลงท้ายด้วยคำว่า ‘แฮปปี้เอ็นดิ้ง’ แถมมันยังอาจจะเลวร้ายกว่า ในเทพนิยายก็เป็นได้ เพราะเธอไม่มีสิทธิ์กำหนดเส้นทางชีวิต ของตัวเองเลย อนาคตช่างมืดมนนัก…มืดเหมือนตกลงไปในหลุมดำ

“นางฟ้าแม่ทูนหัวจ๋า…อยู่ไหนกันนะ ทำไมถึงไม่เห็นออกมา ช่วยมะลิเลย” แม่สาวช่างฝันเอ่ยอย่างเศร้าๆ ไปถึงหนึ่งในตัว ละครของเทพนิยายที่เธอชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจเรื่อง ‘ซินเดอเรล ลา” เพราะมันช่างเข้ากับชีวิตของเธอยิ่งนัก ก่อนจะถอนหายใจ ออกมาเฮือกใหญ่

“เฮ้อ…ถ้าชีวิตเราลงเอยอย่างมีความสุขเช่นในเทพนิยาย คงจะดี” ดวงหน้าสวยหวานเกลื่อนไปด้วยร่องรอยความหม่น เศร้า ท้ายประโยคเธอขยับกลีบปากสีชมพูระเรื่อเอ่ยออกมาด้วย ความท้อแท้แต่ก็ไม่สิ้นหวังเสียทีเดียว ขณะปิดหนังสือลงอย่าง เบามือ จากนั้นก็นำเทพนิยายเล่มโปรดไปซุกไว้ในกล่องใบเล็กๆ ข้างเตียงหลังน้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดโคมไฟ แล้วล้มตัวลง นอน

“ฉันจะรอคุณ เจ้าชายของฉัน และหวังว่าพรุ่งนี้เราจะได้พบ กัน” เสียงหวานพึมพำท่ามกลางความมืดมิดของราตรีกาล ก่อน ที่สาวน้อยจะคว้าตุ๊กตาตัวเก่งมากอดแนบอก แล้วหลับตาลง ด้วยความหวังว่าพรุ่งนี้เธอจะได้พบกับเจ้าชายในฝันของตน แม้ว่า “ใครคนนั้น จะเป็นฝันไกลเกินเอื้อม แต่เธอก็มีความสุข เล็กๆ…สุขที่ได้ฝัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ