บทที่ 6 สาวเอาแต่ใจ 1.1
“หรือว่าน้ำหอมจะรู้เรื่องของพีกับหนูแต้ว เลยทนไม่ไหว หนีไปดื้อๆ แบบนี้”
อรุณวดีสันนิษฐานต่อ และคำพูดประโยคนี้เองที่พีรวัฒน์ เนื้อแทบเต้น หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาจะทําอย่างไร แค่คิด เขาก็เกิดอาการทนไม่ได้แล้ว
“นั่นสิ หรือว่ามันจะเป็นอย่างที่แม่พูดจริงๆ” เพิ่มศักดิ์พูด เสริม
“คุณพ่อคุณแม่อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ ผมยิ่งใจคอไม่ดีอยู่ ด้วย” ผู้เป็นลูกร้อนตัว
“พ่อว่ามันก็น่าคิดนะ ถ้าไม่อย่างนั้นจะติดต่อน้ำหอมไม่ได้ เหรอ”
“เอาอย่างนี้ดีกว่านะ เรายังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่แน่นอน ก็อย่าเพิ่งไปคิดมัน ให้สารวัตรถวิลจัดการตามที่พีต้องการ ก่อน ได้เรื่องกันยังไงตอนนั้นค่อยคิดกันอีกที เอาเรื่องที่ สมควรทำที่สุดก่อนดีกว่า” อรุณวดีคิดว่าเรื่องอักษราไม่ใช่ เรื่องเร่งด่วน ยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องรีบจัดการมากกว่า
“เรื่องอะไรคุณแก้ว?” เพิ่มศักดิ์หันมาถามภรรยา
“ก็เรื่องของหนูแต้วไงคะ?” นางตอบ
“เรื่องของแต้ว เรื่องอะไรครับคุณแม่?”
“พี่อย่าลืมว่า ครอบครัวเราต้องพึ่งพาเงินของหนูแล้วอีก มาก ลำพังเงินค่าหนี้สินงวดสุดท้ายที่หนูแล้วจะให้เราใน อีกไม่กี่วันมันจะพอเหรอ แม่ว่าไม่พอหรอก หมดหนี้สินก็ จริงแต่เราต้องใช้เงินทุนอีกก้อนใหญ่ เราจะไปเอามาจาก ไหนได้ฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียดอกเสียดวงล่ะ ก็ต้องเอากับ หนูแต้วที่ยอมจ่ายโดยไม่ปริปากบ่น เพราะฉะนั้นเรื่องของ น้ำหอมให้ทำเงียบๆ อย่าให้หนูแล้วรู้เด็ดขาด แล้วสิ่งที่ลูก ต้องทำควบคู่ไปด้วยคือทำดีกับหนูแล้วให้มากๆ การที่แม่ เข้ามาในห้องนี้เพราะแม่อยากจะมาบอกพีว่า วันนี้หนูแต้ว ลงมือทำไข่ตุ๋นด้วยตัวเอง แม่อยากให้พีกินไข่ตุ๋นนั่นเยอะๆ หมดได้ยิ่งดี และชมฝีมือของหนูแล้วด้วย ลูกทำแค่นี้แหละ เงินก็มากองตรงหน้าแล้ว
นี่คือเหตุผลที่อรุณวดีแวะเข้ามาในห้องนั่งเล่น เพราะ นางต้องการมาบอกกล่าวลูกชายให้รู้ เพื่อจะได้สร้างความ ดีใจให้กับปนัดดา นางรู้ดีว่าแค่คำชมนิดๆ หน่อยๆ ก็ทำให้ ปนัดดาประเคนทุกสิ่งอย่างที่พีรวัฒน์ต้องการได้อย่างง่ายดาย
“แม่พูดถูกนะพี เรื่องของน้ำหอมให้พ่อจัดการ ส่วนลูกก็ ทำดีกับหนูแต้วเพื่อผลประโยชน์ของเรา
“คุณพ่อคุณแม่รู้หรือเปล่าครับว่า ผมอึดอัดมากแค่ไหน เวลาที่ต้องอยู่ใกล้แต้ว ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้น่าเบื่อชะมัด ไม่ อยากอยู่ใกล้ๆ เลยด้วยซ้ำ อยู่ใกล้แล้วรู้สึกร้อนอยู่ไม่ เป็นสุข แล้วที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ก็ทนไม่รู้จะทนยังไงแล้วนะ ครับ”
พีรวัฒน์รู้ดีว่าหน้าที่ของเขาคืออะไร แต่ทว่าในหน้าที่ที่ ต้องรับผิดชอบก็แบกความอึดอัดไว้เต็มบ่า จนบางครั้งเขา อยากจะผลักความรู้สึกนั้นให้พ้นไปจากบ่าทั้งสองข้าง แต่ เขาทำไม่ได้ ตราบใดที่ยังต้องการเงิน
“พ่อเข้าใจว่าพี่รู้สึกยังไง แต่พ่อก็อยากให้พี่อดทนให้ มากๆ นะลูก ถ้าเราได้ในสิ่งที่เราต้องการแล้วค่อยว่ากันอีก ที ตอนนี้ก็ยอมๆ หนูแต้วไปก่อน ไม่อย่างนั้นชวดเงินแน่
“ใช่พี่ ตอนนี้พีต้องอดทนไปก่อน แล้วค่อยหาทางหย่า ขาดกับหนูแต้วเมื่อเราได้ในสิ่งที่ต้องการ” ผู้เป็นแม่คำพูดอีกคน พีรวัฒน์ถอนหายใจหนักๆ ออกมาคล้ายกับว่า กำลังระบายความกลัดกลุ้ม
“ผมจะพยายามนะครับ ถ้าผมพยุงบริษัทได้ด้วยขาของตัว เองได้เมื่อไหร่ ผมจะเลิกกับแต้วแล้วมาแต่งงานกับน้ำหอม ผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด” เขาเอ่ยบอกความตั้งใจให้กับบิดา มารดาได้รับฟัง
“ถ้าถึงตอนนั้น พีจะทำอะไรพ่อไม่ว่าเลย ตามสะดวก
“แต่ผมมีอีกเรื่องที่เป็นกังวลครับ” พีรวัฒน์ยังมีอีกเรื่องที่ สำคัญไม่แพ้กัน
“เรื่องอะไร?”
“ก็เรื่องพี่ชายของแต้วยังไงล่ะครับ คนอะไรก็ไม่รู้ดอย่าง กับเสือ รักน้องซะโอเวอร์ไม่รู้อะไรถูกอะไรผิด ผมยังคิด ไม่ตกเลยว่าถ้าบอกเลิกแล้วไป ผมจะถูกฆ่าหมกป่าหรือ เปล่า?” ข้อนี้เองที่เขาหนักใจ
“ก็ไม่เห็นยากเลยนี่ เราก็หาเหตุให้มันสมเหตุสมผลสิว่า หนูแล้วมีความผิดอะไรสักอย่างที่ทำให้พีทนอยู่ด้วยไม่ได้ แต่พ่อว่าเรื่องนี้ค่อยคิดกันอีกทีดีกว่า เพราะมันยังไม่ถึงเวลา” เพิ่มศักดิ์แนะนํา
“ครับคุณพ่อ ผมจะทำตามที่คุณพ่อคุณแม่บอก
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วลูก แม่ไปก่อนดีกว่า บอกหนูแล้วว่า จะไปเข้าห้องน้ำ นี่ก็หายมานานเกินไปแล้ว พีก็อย่าลืมที่ แม่บอกล่ะ”
“ครับคุณแม่” พีรวัฒน์รับคำอย่าไม่มีทางเลือก
คนที่เสียมารยาทยืนแอบฟังการสนทนาของพีรวัฒน์และ ครอบครัว รีบวิ่งกลับไปยังห้องครัวทั้งน้ำตา ปนัดดาไม่ได้ ตั้งใจจะยืนฟังตรงหน้าประตูที่เปิดแง้มอยู่ เธอตั้งใจจะเดิน มาหาอรุณวดี เนื่องจากแกงเขียวหวานไก่ในหม้อเดือด พล่าน มะเขือเปราะที่เธอใส่ลงไปสุกได้ที่แล้ว แต่ทว่าร่าง ของอรุณวดียังไม่กลับมา ความที่ทำกับข้าวไม่เป็นจึงไม่รู้ ว่าขั้นตอนต่อไปคืออะไร ประจวบเหมาะกับสาวใช้ที่ช่วย ปรุงอาหารละไปทำงานอย่างอื่น ปนัดดาจึงปิดเตาแก็สแล้ว เดินออกมาตามอรุณวดีที่ไปเข้าห้องน้านานผิดปกติ
เธอเดินหาจนทั่วก่อนที่เท้าจะนำร่างบางมายังห้องนั่งเล่น กำลังจะยกมือเคาะประตูห้อง แต่เสียงที่ถอดออกมาจากช่องประตูทำให้มือเล็กชะงัก ชื่อของหนามยอกใจ อยู่ในหัวข้อสนทนานั้น หัวใจของปนัดดาเต้นแรงเมื่อได้ยิน คําพูดทุกคำพูดที่ไหลผ่านปากสามคนพ่อแม่ลูก
นํ้าตาแห่งความเสียใจหลั่งรินที่ตนเองเป็นเพียงแหล่ง เงินทุนที่พร้อมจะทุ่มให้กับพีรวัฒน์เพราะคำว่ารักคำเดียว เขาไม่เคยหันมามองเธอเลยแม้แต่หางตา ไม่ใช่สิ แม้แต่ ในความคิดของเขาต่างหาก ทุกอย่างที่ทำเพียงเพื่อเงิน เท่านั้น
ทว่าปนัดดาก็ยอมเป็นคนโง่ในสายตาของพีรวัฒน์และ ครอบครัว รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่รัก ไม่สนใจ เธอยอมเพิกเฉยกับ ความรู้สึกทั้งหลายเหล่านั้น เพียงแค่ได้อยู่ใกล้คนที่ตน รัก ต่อให้เจ็บมากกว่านี้ปนัดดาก็ยอม แล้วจะทำทุกอย่าง ทุกทางที่จะได้พีรวัฒน์มาเป็นของเธอเพียงคนเดียว ตาม ประสาคนเอาแต่ใจแม้ว่าวิธีการของเธอนั้นจะผิดและทําให้ ชีวิตของหญิงสาวอีกคนหนึ่งเปลี่ยนไปก็ตาม
เธอไม่สน…ขอเพียงกระชากพีรวัฒน์มาอยู่ใกล้ตนได้ เท่านั้นเป็นพอ
ปนัดดาประคองร่างของพีรวัฒน์ที่เมาจนแทบจะทรงตัว ยืนไม่อยู่เข้ามาในห้องพักของเธออย่างทุลักทุเล ดีที่ว่าได้การ์ดของผับสุดหรูช่วยพาไปส่งที่รถ แล้วพอมาถึงคอนโดก็ได้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ช่วยพยุงมาถึงหน้าห้อง ต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเธอ
หลังจากที่ออกจากบ้านของเพิ่มศักดิ์ พีรวัฒน์บอกว่า ต้องการไปนั่งดื่มฟังเพลงคลายเครียด ปนัดดา รักเขาจน ไม่มีสติมีหรือจะไม่ตามใจ พาพีรวัฒน์ไปยังผับหรูที่มีเพียง สมาชิกเท่านั้นที่จะเข้าได้ พอเข้าไปนั่งฟังเพลงขับกล่อม อารมณ์ในจิตใจให้ผ่อนคลาย พีรวัฒน์ก็เอาแต่ดื่มบรั่นดี ชนิดที่เรียกว่าแก้วต่อแก้ว ส่วนเธอก็นั่งมองและคอยริน บรั่นดีเพิ่มไม่ต่างกับโฮสเตสหรือสาวนั่งดริงก์
ในเวลานั้นพีรวัฒน์คงไม่รู้ว่าปนัดดาร้องไห้ เธอร้องไห้ที่ เขาเอาแต่เรียกชื่ออักษราไม่ขาดปาก พึมพำนํารัก ความ ห่วงใย โอบกอดเธอเพราะเห็นว่าเธอเป็นอักษรา ซึ่ง ปนัดดาเองก็ยอมเป็นเงาของคนที่ตนเองเกลียดชัง เพื่อที่ จะได้อยู่ใกล้เขา
คำพูดบนโต๊ะอาหารก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ปนัดดาเสียใจ คําเยินยอเรื่องรสชาติอาหารที่ไม่ได้กลั่นมาจากใจของ ครอบครัวพีรวัฒน์ สร้างความเจ็บปวดให้กับเธอไม่น้อย แม้ว่าไข่ตุ๋นฝีมือเธอจะหมดไม่มีเหลือ แต่ก็ไม่ได้สร้างความดีใจให้กับปนัดดาเลยสักน้อยนิด ตรงกันข้าม กลับมีแต่ความเจ็บปวดที่ประดังเข้ามา ทว่าปนัดดาก็ไม่เข็ด หลาบกับความรู้สึกซ้ำซากนั้น
“พีพี เดี๋ยวแต้วเช็ดตัวให้นะคะ พีพีจะได้นอนสบายๆ” ปนัดดาเดินเข้ามาร่างสูงโปร่งที่นอนเหยียดตัวบนเตียง พร้อมกับน้ำในชามแก้วใบขนาดพอดีและผ้าขนหนูเนื้อนุ่ม
สาวเอาแต่ใจเช็ดใบหน้าขาวสะอาดของเขาเป็นอันดับ แรก จากนั้นก็ปลดกระดุมเสื้อของพีรวัฒน์ออก ใช้ผ้า ขนหนูเช็ดไปตามเนื้อตามตัว ระหว่างที่เธอกำลังง่วนอยู่ กับการทําหน้าที่ของตนอยู่นั้น พีรวัฒน์ที่ตกอยู่ในอาการ มึนเมา มองใบหน้าของปนัดดาเป็นอักษราคนรัก เขาจึงใช้ ล่าแขนโอบรัดร่างสาวไว้ในอ้อมแขน ปากพูดพร่าค่ารัก คำ คิดถึงไม่หยุด แล้วคำพูดของเขาก็สร้างความร้าวรานใจให้ กับปนัดดามากมาย
“น้ำหอม น้ำหอมของพี่ น้ำหอมกลับมาหาพี่แล้วใช่ไหม อย่าหนีพี่ไปไหนนะ อย่าหนีพี่ไปไหน พี่รักน้ำหอมคนเดียว พี่ไม่ได้รักแต้ว ไม่ได้รัก น้ำหอมอย่าหนีพี่ไปไหนนะ
ปนัดดาน้ำตาร่วง เหมือนมีหนามแหลมคมทิ่มเข้ามาในใจ ระบบร้าวจนเธอแทบจะหยุดหายใจ ไม่ว่าตอนมีสติ หรือไม่มีสติ พีรวัฒน์ก็ไม่เคยรักเธอเลย ไม่แม้แต่เศษเสี้ยว ของหัวใจ
“น้ำหอมไม่มีวันหนีพี่พีไปไหนคะ น้ำหอมรักพี่พี
ปนัดดาพูดด้วยความชอกช้ำใจ ในเมื่อเขาเห็นเธอเป็น อักษรา เธอก็จะเป็น ยอมเจ็บ ยอมทน ยอมโง่ทั้งที่รู้ว่า อะไรเป็นอะไร เพราะคำว่ารักคําเดียว
รักโดยไม่ลืมหูลืมตา ไม่พิจารณาสิ่งใดๆ
“พี่รักน้ำหอมที่สุดในโลก”
พีรวัฒน์พลิกกายสาวให้อยู่ใต้ร่างของตนเอง ก่อนจะ ระดมจูบไปทั่วดวงหน้าของปนัดดาที่เขาคิดว่าเป็นอักษร าด้วยความรักและคิดถึง พรมจูบจนกระทั่งมาหยุดจุมพิต เรียวปากสาวอวบอิ่มเนิ่นนาน ซึ่งปนัดดาก็เต็มใจรับจูบของ พีรวัฒน์ด้วยความเต็มใจ
เนิ่นนานกว่าที่เขาจะถอนปากให้ออกห่างปากสาว แต่มิ วายจูบซ้ำๆ หลายครั้ง ในความรู้สึกของพีรวัฒน์กับการ จุมพิตในครั้งนี้ ต่างกว่าครั้งไหน เพราะคิดว่าคนที่ตนเองจูบอยู่คืออักษรา ความรัก ความคิดถึงและโหยหาจึง ถูกถ่ายทอดทุกครั้งที่เขาบดคลึงเรียวปาก ทุกจังหวะที่ลิ้น สะบัดพลั้วลิ้นเล็ก เพลิงปรารถนาในกายก็พลุ่งพล่านอย่าง ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“น้ำหอมของพี่ หวานเหลือเกินคนดี”
พีรวัฒน์กล่าวชมรสชาติหวานหอมที่เขาได้รับจากโพรง ปากสาว ปนัดดายิ้มทั้งน้ำตากับคำชมนั้น รู้เต็มอกว่าเขา มองเห็นเธอเป็นใคร ทว่าปนัดดาไม่ใส่ใจคิด
“พี่พีขา หอมน้ำหอมทั้งตัวเลยนะคะ” ปนัดดาเว้าวอนเสียง พร่า ใช้ลำแขนโอบรอบลำคอหนา
“ได้สิจ๊ะที่รักของพี่
พีรวัฒน์พูดเหมือนคนละเมอ ก้มหน้าจูบปากอวบอิ่มของ ปนัดดาอีกครั้ง มอบความอ่อนโยนและความรักที่เขามีต่อ อักษราจนหมดหัวใจ ถ่ายทอดลงไปกับจุมพิตสะท้านทรวง ในครั้งนี้ ปนัดดาถึงกับเคลิ้มไปกับจูบที่แตกต่างจากครั้ง ก่อนๆ
เปลือกตาของพีรวัฒน์หลับพริ้ม บรรจงจุมพิตสตรีใต้ร่างด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า เลือดลมในกายสูบ ฉีด ร้อนรุ่มจนเขาแทบทนไม่ไหว จะว่าไปเขารอเวลานี้มา หลายปี ต้องการจะจูบ จะลูบคลาร่างกายสะโอดสะองขอ งอักษราทุกลมหายใจ ทว่าเขายับยั้งชั่งใจมาตลอด ให้ เกียรติเธอเรื่อยมาแล้วคิดว่าเขาจะครอบครองร่างกายขอ งอักษราในคืนวันแต่งงาน แต่วันที่เขาปรารถนามาไวกว่าที่ คิด
พีรวัฒน์ถอนปากออกห่างจากปากนุ่มที่ตนบดจูบ เปลือก ตาของพีรวัฒน์ค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า เขาต้องการ เห็นหน้าอักษราเวลานี้เหลือเกิน อยากจะเห็นว่าดวงหน้า เธอจะเป็นเช่นไร อาบซ่านแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย มากแค่ไหน ทันทีที่เขาลืมตาเขาก็พบว่า ใบหน้าของคนที เขาจูบหาใช่อักษรา แต่เป็นสตรีอีกคนหนึ่งที่เขาไม่เคยคิด จะรัก
แต่เดี๋ยวก่อน….เขาอาจจะดวงตาพร่ามัวจากพิษบรั่นดีที่ดื่ม เข้าไป พีรวัฒน์จึงหลับตาแล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง ทว่าภาพนั้น ก็ยังคงเดิม
“เธอไม่ใช่นํ้าหอม ไม่ใช่น้ำหอม
พีรวัฒน์ผละจากร่างของปนัดดาราวกับเป็นของร้อน อีก ฝ่ายหน้าซีดเผือด ดีดตัวลุกขึ้นนั่งเจ็บปวดใจยิ่งนักกับท่าทางรังเกียจของเขา
“นําหอมไงคะ ไม่ใช่คนอื่น” ปนัดดายอมเป็นเงาของอักษ รา
“ไม่ใช่ ถึงฉันจะเมาแต่ฉันก็นําหน้าน้ำหอมได้ไม่มีวันลืม เธอไม่ใช่นํ้าหอม” เสียงคนเมาพูดไม่หยุด เดินโซซัดโซเซ ไปนอนแผ่หลาบนโซฟาปลายเตียง
“เธอไม่ใช่น้ำหอม ไม่ใช่ น้ำหอมของพี่อยู่ไหน พี่คิดถึง น้ำหอมที่สุดเลย น้ำหอมจ๋า” เสียงของพีรวัฒน์ค่อยๆ เบา ลง เช่นเดียวกับเปลือกตาที่ปิดสนิทแล้วหลับไปในที่สุด
“อือ…ฮือ..ฮือ ทำไม ทำไมพี่ไม่หันมามองแต้วบ้าง ฮือ”
คนที่นั่งอยู่บนเตียงร้องไห้คร่ำครวญปานขาดใจ คำพูด และการกระทำทั้งหลายของพีรวัฒน์ติดอยู่ในตา ก้องอยู่ ในหู เธอกับเขาทุกอย่าง มองข้ามในสิ่งที่เห็นและรับ รู้ ปิดกั้นความจริงที่พยายามหลีกหนี ขอเพียงให้เขาอยู่ กับเธอ แต่ทว่าสิ่งที่ปนัดดาได้รับคือความเจ็บปวดรวดร้าว ตลอดมา
เพราะอะไร…เพราะอะไร ก็เพราะอักษรานั่นไง ใช่เพราะ อักษราคนเดียว
อยู่ๆ คําพูดของพีรวัฒน์และครอบครัวทีสนทนากันใน ห้องนั่งเล่นก็ก้องในหู พีรวัฒน์พูดว่า หากเขาได้เงินตามที่ ต้องการจะขอเลิกกับเธอเพื่อไปแต่งงานกับอักษรา จะไป ใช้ชีวิตคู่กันอย่างมีความสุข แล้วปล่อยให้เธอทนทุกข์ใจ อยู่คนเดียวตามลำพัง
ไม่…ปนัดดาไม่มีวันยอม หากไม่มีอักษราสักคน พีรวัฒน์ ก็ต้องเป็นของเธอคนเดียว ฉับพลันนั้นความคิดหนึ่งก็แล่น เข้ามาในสมอง เป็นความคิดที่จะสามารถดึงอักษราให้ออก ห่างจากชีวิตของพีรวัฒน์ได้อย่างถาวร
“ฉันไม่มีวันยอมให้แกเสวยสุขกับพี่พีแน่ น้ำหอม
เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของปุณณ์ที่กำลัง ดวลดื่มเชี่ยงชุนอยู่กับคนงานในเกาะ เขาล้วงหยิบมือถือ ราคาแพงออกมาจากกระเป๋า มองดูหมายเลขบุคคลที่โทร เข้ามา ก่อนจะกดรับสาย
“ว่าไงแต้ว?” เขากรอกเสียงตามสาย
“พี่ปุณณ์ พี่พี่ยังไม่ลืมมัน ฮือ พี่พีไม่รักแต้ว ฮือ”
ปนัดดาเข้าโหมดโศกร้องห่มร้องไห้ราวกับคนเสียใจสุด แสน คนเป็นพี่เนื้อแทบเต้นเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของ น้องสาวที่บาดหัวใจพี่ชายเหลือเกิน
“ให้พี่ไปฆ่าไอ้พีมันเลยดีไหม แล้วจะได้ไม่ต้องร้องไห้ อีก” ปุณณ์พูดอย่างคับแค้นใจ คนที่โทรเข้ามาตกใจไม่ น้อยที่ได้ยินเช่นนั้น
“ไม่ได้นะคะพี่ปุณณ์ ถ้าพี่ปุณณ์ทำอะไรพี่พี แล้วจะไม่พูด กับพี่ปุณณ์อีกเลยตลอดชีวิต โกรธสิบปีอย่ามาดีร้อยชาติ ด้วย คนที่พี่ปุณณ์ควรจะจัดการคือน้ำหอมต่างหาก ถ้าไม่มี น้ำหอมพี่พีก็ไม่สนใจมันหรอกค่ะ” ปนัดดาโต้กลับด้วยคำขู่ เล็กๆ น้อย
“พี่ก็จัดการน้ำหอมให้แล้วไงล่ะ ไอ้พีมันยังละเมอเพ้อ พกอีกเหรอ?” น้ำเสียงยิ่งเพิ่มความไม่พอใจขึ้นทุกขณะ ดู เหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเสียงสะอื้นของน้องสาวดังข้างห
“จัดการแค่นั้นไม่พอหรอกค่ะพี่ปุณณ์ พี่พีคลั่งมากเลยที่ น้ำหอมหายตัวไป บอกว่าจะออกไปตามหาน้ำหอมแต้วไม่ให้ไปก็ต่อว่าต่อขานแล้วใหญ่เลยค่ะ หนำซ้ำยัง บอกด้วยว่าถ้านําหอมกลับมาจะให้น้ำหอมมาเป็นเมียอีก คน ฮือ…ฮือ พี่ปุณณต้องจัดการนํ้าหอมให้แล้วนะคะ อย่า ให้มันมีหน้ากลับมาหาพี่พีอีก ฮือ..ฮือ ไม่อย่างนั้นพี่ปุณณ์ ต้องได้ยินแล้วร้องไห้ไปตลอดชีวิตแน่ๆ ค่ะ ฮือ”
ปนัดดาใช้ไม้เดิมที่ได้ผลทุกครั้ง จุดอ่อนของปุณณ์คือ รักปนัดดามาก ถึงขั้นมากเกินไป อาจเป็นเพราะก่อนที่บิดา มารดาจะเสียชีวิต ได้ฝากฝังให้เขาดูแลปนัดดาอย่างดี ที่สุด เขาทําตามคำสั่งของบุพการีอย่างดี ตามใจน้องสาว ทุกอย่าง อยากได้อะไรเขาประเคนให้หมด ไม่เคยดุด่าว่า กล่าวใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าสิ่งนั้นน้องสาวของเขาจะเป็นคนผิด ก็ตาม พี่ชายคนนี้ก็จะมองข้ามเสมอ และนั่นทำให้ปนัดดามี นิสัยเอาแต่ใจตัวเองอย่างแรงกล้า อยากจะได้อะไรต้องได้ ไม่อย่างนั้นก็จะร้องห่มร้องไห้จนพี่ชายใจอ่อน
“แล้วแล้วจะให้พี่จัดการยังไงล่ะ?”
“พี่ปุณณ์ต้องจับมันทำเมีย ให้มันอยู่ที่นั่นไปสักสองสาม เดือนแล้วค่อยเยี่ยมันทิ้ง น้ำหอมมันคงไม่กล้ากลับมาหาพี่ พีแน่ๆ ค่ะ” ปนัดดาบอกแผนการที่ตนคิดไว้
ปุณณ์ตกใจกับสิ่งที่น้องสาวจะให้ทำ คราแรกเขานึกว่าจับตัวน้ำหอมมาไว้ที่นี่จนกว่าจะผ่านพ้นงานแต่งงานของ น้องสาว แต่ไม่เป็นเช่นนั้น ปนัดดาจะให้เขาทำในสิ่งที่ไม่ คิดจะทำ
“ไม่มีทางอื่นหรือแต้ว พี่ไม่คิดว่าการที่พี่ได้น้ำหอมมาเป็น เมียจะทำให้ไอ้พีไม่หันมามองน้ำหอม สมัยนี้เขาไม่สนใจ กันหรอกว่าจะมีลูกมีผัวมีเมียมาก่อนหรือเปล่า หาทางอื่นดี ไหม ฆ่าทิ้งเลยเป็นไง” เขาคิดว่าวิธีหลังสุดคือวิธีที่ดีที่สุด แก้ปัญหาได้แบบถาวร ไม่ต้องมารำคาญใจภายหลัง
“ไม่เอาค่ะ ใช่วิธีของแต้วนั่นแหละดีแล้วค่ะ” ปนัดดาแย้ง พี่ชายทันควัน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ