บทที่ 6 การหายตัวไปของสาวนิรนาม… (3)
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฟองซัวล์ก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำ สภาพ เปลือยท่อนบนคงทำให้สาว ๆ ที่เห็นกรดได้ไม่ยาก กล้ามเนื้อ หน้าท้องเป็นลอนสวย ซึ่งมีหยดน้ำเกาะแพรวพราวทำให้เขาดู เซ็กซี่น่าขยานไปอีก ส่วนใบหน้านิ่งเรียบแสนเย็นชาก็เป็นอะไร ที่ดึงดูดเพศตรงข้ามได้เป็นอย่างดี แต่คงไม่เท่านัยน์ตาสีฟ้าเข้ม ลึกล้าที่ชวนให้คนที่สบตาด้วยรู้สึกเหมือนกำลังหลุดเข้าไปอยู่ใต้ ท้องทะเลลึกยากที่จะตะเกียกตะกายขึ้นมา ทั้งมีเสน่ห์และน่ากลัว ในเวลาเดียวกัน…
ร่างสูงกำยำก้าวเข้าไปทรุดนั่งที่ข้างเตียง ขณะที่เอื้อมมือไปยก โทรศัพท์ไร้สายประจำห้องกดเบอร์โทรหาใครบางคน รอเพียงไม่ นานปลายสาย รับและทักทายกลับมา
สวัสดีครับ มีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่า]
“ให้คนเอาเสื้อผ้าขึ้นมาให้ฉันด้วยและตามตัวแม่บ้านมาทำความ สะอาดห้องหนึ่งคน ขอคนที่ปิดปากเงียบไม่พูดมาก” ฟองซัวล์พูด รัวเร็วไม่คิดสนใจคนที่เอาแต่อึ้งคล้ายฟังไม่ทัน น้ำเสียงราบ เรียบแฝงแววเย็นชาทำให้เจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์ถึงกับอ้าปาก ค้างรู้สึกหวาดหวั่นอย่างบอกไม่ถูก
[เอ่อ…ครับ คุณคือ
“เอดิซา มีอะไรจะถามอีกไหมถ้าไม่มีฉันจะว่าง
โอะ…เอ่อ คุณคือ…คือ…]
“แค่นี้ล่ะ” ชายหนุ่มไม่สนใจจะฟังเสียงอึกอักอันน่ารำคาญของ อีกคนรีบวางสายไป
ฟองซัวล์นั่งกอดอกพลางขมวดคิ้วหน้ายุ่ง สายตาจับจ้องไปยัง หยดเลือด เคลื่อนไปมองผ้าปูเตียงสีขาวที่ยับย่นจนดูไม่ได้แล้วก็ ถอนหายใจ เมื่อคืนนี้มันค่อนข้างหนักหน่วงสําหรับเขา เป็นครั้ง แรกที่เขารู้ล็กเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ มันคงน่าอายมาก ถ้า ใครมารับรู้เรื่องนี้เข้า เพราะฉะนั้นจะไม่มีใครได้รู้เรื่องนี้….
หมายถึงเรื่องที่เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ ส่วนเรื่องที่เขามีอะไรกับ สาวนิรนาม พอลงไปถึงข้างล่างเดี๋ยวพวกเพื่อนวายร้ายของเขา มันก็วิ่งแจ้นเข้ามาถามอยู่ดี ต่อให้โกหกไปก็ไม่มีประโยชน์ ป่านนี้ พวกมันคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นหมดแล้ว อย่าลืมว่าที่นี่เป็นผับของพวก เขา ถึงอย่างไรก็ต้องมีหมาแมวคาบข่าวไปบอกพวกมัน
ฟองซัวล์ถอนหายใจระบายความเครียดที่เริ่มปะทุขึ้นมาอย่างไม่ ทราบสาเหตุ ชายหนุ่มสะบัดศีรษะสองสามครั้งติด ก่อนจะเดินไป ที่หน้าประตู เมื่อได้ยินเสียงกริ่ง ทันทีที่เปิดประตูดวงตาคมก็ฉาย แวววูบไหวไปเล็กน้อย เพราะคนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูคือเพื่อนวายร้ายสองคนที่กําลังยืนกอดอก ยักคิ้ว ยิ้ม ๆ ส่งให้เขาอยู่
“เข้ามา” น้ำเสียงหัวนสั้นของเพื่อนหนุ่ม ทำให้เดโรครอปและ เจเรมี่ถึงกับเบ้ปาก ก่อนจะเดินตามชายหนุ่มที่หันหลังเดินกลับ เข้าไปก่อน
สิ่งแรกที่สายตาของพวกเขาโฟกัสทันทีที่เข้ามาถึงห้องนอนก็ คือผ้าปูเตียงที่ยับย่นและคราบเลือดบนเตียง ทั้งเดโรครอปและเจ เรมี่หันมาสบตากันโดยมิได้นัดหมาย ก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์พลาง เหลือบสายตาขนมองคนที่ทําหน้าเครียด ขมวดคิ้วบ่นโดยไม่รู้ตัว
“แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ หายไปไหนแล้ว” เดโรครอปเริ่มเปิด ประเด็นก่อนใครเพื่อน ซึ่งเจเรมี่ก็พึงพอใจกับคำถามนี้เลยไม่ได้ คัดค้านอะไร ร่างสูงโปร่งของนักแสดงหนุ่มเดินไปนั่งลงที่โซฟา ในห้องตรงริมหน้าต่าง ก่อนจะสบตากับเจ้าของร่างสูงที่เป็นข้อ หัวสนทนา
“ฮะ!” ไม่ใช่แค่เจเรมี่ที่ตกใจ แม้แต่เดโรครอปก็ยังหลุดสีหน้า เหวอ ๆ ออกมา ฟองซัว ไม่คิดจะสนใจสีหน้าของเพื่อน ก้าวเท้า เข้าไปกระชากชุดสําหรับใส่ไปทํางานออกจากมือของเดโรครอป แล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำทันที เป็นการหลีกเลี่ยงคําถามชวนอึดอัดและชวนหงุดหงิดเป็นที่สุด…
“เรื่องประหลาด ๆ แบบนี้มันมีจริงด้วยเหรอ” ดูเหมือนเจเรมี่ที่อึ้ง ไปนานจะเพิ่งได้สติเลยครางเสียงเบาหวิวถามอย่างไม่อยากเชื่อ
“เออ ฉันก็เพิ่งเคยได้ยินเรื่องแบบนี้แหละ ที่จริงผู้หญิงคนนั้น ควรจะโวยวายก่อน หรือไม่ก็เรียกร้องค่าเสียหาย หรือไม่ก็ค่า ตอบแทนเพราะดูจากสภาพเตียง เมื่อคืนมันยิ่งกว่าสมรภูมิรบเสีย อีก แล้วทําไม…ทําไม…” ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าดิบเถื่อนถึงกับ อึ้งพูดไม่ออก รู้สึกเหมือนสมองถูกช็อตจนมึนงงไปชั่วขณะ ไม่ ต่างจากหนุ่มหน้าหวานใจโฉดที่ได้แต่ทำหน้าปลงตก
“หนีไปง่าย ๆ แบบนี้เนี่ยนะ? หมดกัน แบบนี้มันก็ไม่สนุกน่ะสิ
“หมายความว่าไง?” เดโรครอบหันไปมองคนพูดอย่างไม่เข้าใจ พลางเลิกคิ้วถาม
“ก็…ฉันคิดว่าสาวสวยคนนั้นจะมาทำให้หนุ่มน้ำแข็งของเราลุก ขึ้นมาเต้นได้น่ะสิ…” เจเรมีขมวดคิ้วแน่นครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“ฉันว่าเรายังพอมีหวัง”
“ยังไงวะ”
“ก็ดูสีหน้าไอ้มนุษย์น้ำแข็งเมื่อกี้นี้สิ มันแทบจะฆ่าคนได้อยู่แล้ว ท่าทางจะหงุดหงิดที่ตื่นขึ้นมาแล้วผู้หญิงคนนั้นหายตัวไป” หนุ่ม หน้าโหดบ้าอำนาจยักไหล่เบาๆ พลางเหล่ตาไปมองทางประตู ห้องน้าที่เงียบกริบแต่มีการเคลื่อนไหวเบา ๆ ในนั้น เจเรมีมอง ตามไป แล้วก็เริ่มจะเข้าใจความหมายของอีกคน แปลว่าไม่พลาด สินะ ตำแหน่งมาดามเอดิซาใกล้จะหลุดลอยไปตกอยู่ในมือของ สาวสวยคนนั้นแล้ว
ต่างฝ่ายต่างกระตุกยิ้ม ขณะที่สมองเริ่มลงมือวางแผนการร้าย งานนี้เห็นทีคงต้องพึ่งกามเทพแผลงศรรักใส่เพื่อนกับผู้หญิงคน นั้นแล้วสิ เรื่องป่วนและกลั่นแกล้งคนอื่นโดยเฉพาะเพื่อนตัวเอง ขอให้บอกพวกเขา รับรองว่าพวกเขาเต็มใจและยินดีทำอย่างไม่ คิดเกี่ยงงอนเลยทีเดียว
“กําลังคิดอะไรกันอยู่ หวังว่าในบทสนทนาจะไม่มีฉันรวมอยู่ด้วย หรอกนะ” เสียงนิ่ง ๆ เย็น ๆ ของฟองซัวล่ ทําให้เพื่อนสองคนถึง กับสะดุ้งหลุดจากภวังครีบหันขวับกลับไปมองคนร่างสูงในชุดสูท เรียบหรูด้วยสายตาเลิกลักคล้ายคนทำความผิดที่กำลังจะถูกจับ ได้ ท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้ฟองซัวล์หรี่ตาลงจ้องเขม็งเพื่อนตัว เองอย่างบนเคือง
พวกมันต้องมีแผนอะไรอีกแน่ ๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ