รสรักล่าสวาท

บทที่ 10 อยากลืม แต่ใจกลับจำ (3)



บทที่ 10 อยากลืม แต่ใจกลับจำ (3)

ฟองซัวล์นิ่งเงียบไปพักใหญ่ ในสมองครุ่นคิดอย่างหนัก เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เรื่องนี้ไม่ได้เกินความคาดหมาย ที่ เขาคิดไว้มันต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอด เจ็บใจไม่ได้อยู่ดี เอาเถอะ คิดจะล่อเสือออกจากถ้ำก็ต้อง ลงทุนกัน คราวนี้เขาต้องการถอนรากถอนโคนไม่คิดเก็บ ศัตรูไว้ให้คอยทิ่มแทงใจอีกต่อไปแล้ว ลงทุนแค่นี้ถือว่า เล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาจะได้มันคุ้มเสียยิ่งกว่า

เมื่อคิดได้ดังนั้น ริมฝีปากหนาก็กระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็น ยะเยือก แววตาคมกล้าเปล่งประกายความโหดเหี้ยมให้ได้ เห็น ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาแสนเย็นชา ภายในกลับเต็ม ไปด้วยความเลือดเย็นสามารถวางแผนกำจัดศัตรูทุกคนที่ ขวางทางธุรกิจได้อย่างไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด นี่คงเป็นนิยาม ของนักธุรกิจส่วนใหญ่ ถ้าคิดจะเป็นใหญ่อย่าใจอ่อนให้กับ ศัตรู ครั้งหนึ่งเขาก็เคยเป็นแบบนั้น แล้วเป็นยังไง วันนี้มัน ก็กลับมาทําร้ายเขาได้อย่างไร้จิตสํานึก หลงลืมไปว่าครั้ง หนึ่งเขาเคยปล่อยมันไป ไม่อย่างนั้นมันไม่ได้มีชีวิตมาก ร่างใส่เขาแบบนี้หรอก!

เปลือกตาของชายหนุ่มค่อย ๆ ปิดลง ความเงียบทําให้เขา จิตใจสงบลงได้ไม่ยาก เพราะความเหนื่อยล้าผนวกกับความเครียดทำให้ชายหนุ่มหลับใหลเข้าสู่ห้วงนิทราใน ที่สุด

หากแต่ในฝันกลับปรากฏภาพความเร่าร้อนระหว่างเธอ กับเขา ทุกท่วงท่าลีลา การเคลื่อนไหวที่สอดผสานกันเป็น อย่างดี เสียงครางกระเส่าด้วยความเสียวซ่านของอีกฝ่าย ใบหน้าสวยเย้ายวนวอนขอการเติมเต็มจากเขา ทุกอย่าง ยังคงเด่นชัด จนเขาไม่อาจสลัดมันออกไปได้ ทำเอาจิตใจ ปั่นป่วนร้อนผ่าวไปทั้งตัว ปวดร้าวจนถึงขั้นสะดุ้งตื่นจิตใจ เตลิดไม่สามารถข่มตาหลับได้อีก

ให้ตายสิ ถึงกับตามมาหลอกหลอนฉันถึงในฝันเลยงั้นเห รอ เธอมันยายแม่มดชัด ๆ ชาตินี้ทั้งชาติขออย่าให้ได้เจอะ เจอกันอีกเลย”

ฟองซัวล่ขอปฏิญาณกับตนเองว่าอย่างไรก็ไม่มีทางขอ พบเจอผู้หญิงคนนั้นอีก เธอคือตัวหายนะที่ทำให้เขาไม่ สามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่ว่าจะหลับหรือตื่นก็เอาแต่ คิดถึงเธอ ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผุดขึ้นเป็นฉาก ๆ ตั้งแต่ ที่เขาออกมาจากผับแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังสลัดไม่หลุด เธอ เป็นตัวหายนะที่เขาควรอยู่ให้ห่างไกลที่สุด ก่อนที่ชีวิตเขา จะไร้ซึ่งอิสรภาพต้องถูกผูกมัดติดกับยายแม่มดไปตลอด กาล หัวใจดุจน้ำแข็งของเขากำลังจะละลายเพียงเพราะ ยายแม่มดอย่างนั้นเหรอ…
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรก็ผ่านไปได้หนึ่ง เดือนแล้ว ในทุก ๆ วันที่ผ่านไป ในใจของชาลิตากลับรู้สึก ว่ามันเชื่องช้า เนิ่นนานเหลือเกิน ใจเธอคอยแต่จะหวน นึกถึงชายคนนั้นที่เป็นคนแรกที่ได้ครอบครองเธอและอาจ จะเป็นคนสุดท้ายที่เธอจะยอมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย เธอไม่ เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไรไป ทำไมต้องคอยแต่นึกถึงผู้ชาย คนนั้น ทั้ง ๆ ที่ตัดสินใจแล้วว่าชาตินี้จะไม่มีวันเจอะเจอกับ เขาอีก แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับร่าร้องอยากเจอแต่เขา

เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน มีสิทธิ์ อะไรมาทำให้เธอรู้สึกแบบนี้

วารสาที่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นเห็นพี่สาวแสนสวยกําลัง นั่งเหม่อลอย หัวคิ้วแทบชนกันก็เกิดสงสัย รีบเดินตรง เข้าไปหาด้วยความเป็นห่วงทันที เรือนร่างบอบบางในชุด กระโปรงยาวกรอมเท้าลายดอกไม้ทรุดนั่งที่โซฟา ดวงตา คู่หวานจดจ้องมองพี่สาวที่ยังคงไม่รู้สึกตัวว่ามีใครมานั่ง อยู่ข้าง ๆ แล้ว เกิดอะไรกับพี่ตากันนะ เห็นเป็นแบบนี้ตั้งแต่ เมื่อหนึ่งเดือนก่อนแล้ว ตั้งแต่ที่หายไปคืนนั้นพอกลับบ้าน มา จิตใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แววตาเหม่อลอยคล้ายกับ หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง แถมคิ้วเรียวยังเอาแต่ขมวดมุ่น ราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา
“พี่ตาคะ พี่ตา” เสียงหวานร้องเรียกพี่สาวพลางยกมือ ขึ้นเขย่าตัวของอีกคนเบา ๆ ทำเอาชาลิตาที่กำลังคิดอะไร เรื่อยเปื่อยถึงกับสะดุ้งหันขวับกลับมามองคนเขย่าเขม็ง

“พะ…พี่ตา โกรธสาหรือคะ สาขอโทษคะ สาไม่ได้ตั้งใจ ทำให้พี่ตาโกรธ อย่าโกรธสาเลยนะคะ” วาริสารีบละล้า ละลักบอกเสียงสั่น น้ำตาใสเอ่อคลอดวงตา ชาลิตาที่เพิ่ง ได้สติพอเห็นน้องสาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก็รู้สึกผิดขึ้น มา วาริสาไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก แต่เป็นเธอนี่แหละที่ผิด เต็มประตู

“สาไม่ต้องขอโทษหรอก พี่ผิดเองแหละ พอดีพี่คิดอะไร ไปเรื่อยเปื่อยน่ะ ขอโทษนะที่ทําให้ตกใจ

“อ๋อ ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง สาก็นึกว่าพี่ตาโกรธสา พี่ตาเป็น อะไรหรือเปล่าคะ ปกติพี่ตาไม่เคยใจลอยแบบนี้ สาเรียก ตั้งหลายครั้ง พี่ตาก็ไม่ตอบ หรือว่าเครียดเรื่องค่ารักษา พยาบาลของสาคะ ถ้าเป็นอย่างนั้นสาไม่รักษาก็ได้ค่ะ พี่ตา จะได้ไม่ต้องคิดมากอีก” เห็นแววตาใสซื่อของน้องสาว ชา ลิตาก็ถึงกับปวดใจ เธอรู้ว่าน้องสาวเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะ ทำงานหนักเกินไป จนสุภาพย่ำแย่ แต่จะให้เธอทำอย่างไรได้ในเมื่อร่างกายของน้อง สาวไม่อยู่รอเธอ ต่อให้เหนื่อยหนักสักแค่ไหน เธอก็ต้อง ทำ เพื่อจะรักษาชีวิตของน้องสาวไว้ เหนื่อยแค่นี้สำหรับ เธอกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย

เรามีกันอยู่แค่สองคนนะสา ยังไงก็ต้องหาทางรักษาสา ให้หายให้ได้ แล้วอีกอย่างพี่ก็ไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้น แค่มี เรื่องต้องให้คิดนิดหน่อย สาอย่าคิดมากไปเลยนะ

“แต่ถ้าสาแข็งแรงกว่านี้ พี่ตาก็คงไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้อง ลำบากแบบนี้หรอกค่ะ สาขอโทษนะคะ ขอโทษจริง ๆ น้ำตาใสกลิ้งกลอกไปมาในดวงตาคู่หวาน ชาลิตาที่เห็น แบบนั้นความรู้สึกผิดยิ่งทวีคูณอีกเท่าตัว เพราะเธอเอาแต่ คิดถึงผู้ชายคนนั้น จนทำให้น้องสาวเข้าใจผิด เธอนี่เป็นพี่ สาวที่แย่จริง ๆ

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เดี๋ยวพี่จะออกไปทำงาน อยู่บ้านคน เดียวก็อย่าลืมปิดประตูให้แน่นหนา ลงกลอนให้ดี ถ้าเกิดมี เรื่องอะไรฉุกเฉินก็โทรหาพี่ ห้ามอุบอิบเอาไว้คนเดียวล่ะ ชาลิตารีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะกำชับเสียงเข้ม กลัวว่าน้อง สาวที่อยู่บ้านคนเดียวจะเกิดอันตราย น่าเสียดายที่เธอไม่ สามารถพาน้องสาวไปทำงานด้วยได้ วาริสาถึงต้องอยู่บ้าน คนเดียว
“ค่า ๆ สารู้แล้วล่ะค่ะ พี่ตาพูดแบบนี้กับสาทุกครั้งที่ออก ไปทำงาน จนสาจดจำทุกคำพูดได้ขึ้นใจแล้วค่ะ พี่ตารีบไป ทำงานเถอะนะคะ อย่าเป็นห่วงสาเลย สาดูแลตัวเองได้ค่ะ จริง ๆ นะคะ วาริสาที่ถึงแม้จะมีร่างกายอ่อนแอกว่าคนอื่น แต่อุปนิสัยเป็นคนร่าเริงมักสร้างรอยยิ้มให้คนรอบข้างได้ เสมอตอบรับด้วยน้ำเสียงทะเล้ม รอยยิ้มเย็นตาปรากฏให้ เห็น จนชาลิดารู้สึกวางใจไปได้เปลาะหนึ่ง เธอคลี่ยิ้มเล็ก น้อยก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกอดอีกคน

“พี่ไปทำงานแป๊ปเดียว เสร็จแล้วจะรีบกลับมาทันทีเลย ถ้าง่วงก็เข้านอนได้เลยนะ ไม่ต้องรอพี่ เดี๋ยวอาการจะแย่ ลงไปอีกรู้ไหม”

“ค่ะพี่ตา ถ้าสาง่วงจะนอนหลับทันที ไม่ทำให้พี่ตาเดือด ร้อนแน่นอน”

“ฮี พูดอะไรแบบนั้นยายเด็กแสบ เดือดรงเดือดร้อนอะไร กัน ไม่มีเสียล่ะ รีบกินข้าวกินปลาซะนะ เสร็จแล้วก็เข้าไป นอนเลย ถ้าวันนี้พี่กลับมาแล้วเจอเรานอนอยู่ที่โซฟาข้าง ล่างอีก พี่จะโกรธไม่ยอมพูดด้วยจริง ๆ” ชาลิตา สําทับ เพราะรู้ว่าน้องสาวตัวเองดื้อรั้นขนาดไหน วาริสาที่ได้ยิน แบบนั้นก็ทำหน้ายู่เล็กน้อย ก่อนจะตอบรับเสียงใส
“รับทราบค่ะพี่สาวสุดสวย

“สวยเสยอะไร หน้าตาพี่ก็งั้นๆ แหละ สู้เราไม่ได้หรอก เอาล่ะพี่ต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองดี ๆ นะ เดี๋ยวพี่กลับมา ชาลิตาไม่อาจยืดเยื้อได้อีก เพราะใกล้จะถึงเวลางานแล้ว หลังจากที่ร่ลาน้องสาวเสร็จก็ตรงดิ่งออกจากบ้านรีบขึ้น รถไฟฟ้าใต้ดินมุ่งตรงไปยังผับนอกเมืองทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ