รสรักล่าสวาท

บทที่ 4 การหายตัวไปของสาวนิรนาม… (1)



บทที่ 4 การหายตัวไปของสาวนิรนาม… (1)

แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านผ้าม่านบางเบาสีม่วงอ่อน ไปยังด้านใน ห้องทั้งห้องสว่างวาบปรากฏภาพเหตุการณ์ด้านใน ได้อย่างชัดเจน ร่างสองร่างกำลังนอนกอดก่ายกันบนเตียงกว้าง ในขณะที่ร่างของทั้งสองคนเปลือยเปล่าเปล่งประกายระยิบระยับ นวลเนียนราวกับภาพวาดสีน้ำมันราคาแพง ชายหนุ่มรูปร่างกำยำ กอดรัดร่างนุ่มนิ่มในอ้อมแขนเอาไว้แน่นอย่างหวงแหน ใบหน้า ซีกหนึ่งที่ตกกระทบแสงจนสะท้อนเป็นสีเหลืองอ่อน ขับให้เขาดู หล่อเหลาราวกับเทพบุตรกรีก ขณะที่หญิงสาวกอดเอวหนาแน่น พลางซุกใบหน้าลงกับอกแกร่ง ดวงหน้าเรียวสวยในยามหลับ ช่างเหมือนกับเทพธิดาจำแลง เธอดูบอบบางลงไปถนัดตาทันที ที่มาอยู่ในอ้อมกอดของเขา

เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนแสงแดดเริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ร่าง เพรียวเริ่มรู้สึกตัวขยับตัวยุกยิกไปมาอย่างรู้สึกอึดอัด เปลือกตา บางหนักอึ้ง จนหญิงสาวต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการ กะพริบตาปริบๆ เพื่อลืมตาขึ้นพลางปรับสายตาให้เข้ากับแสง เมื่อลืมตาสำเร็จ เธอก็รู้สึกขนลุกซู่เพราะแอร์เย็น ๆ ที่รดรินลงบน ผิวกายเปลือยเปล่า ร่างกายที่บอบช้ำจากศึกหนักเมื่อคืนทำให้ กลีบปากอิ่มเม้มแน่นกลั้นเสียงครางด้วยความเจ็บ

ชาลิตารู้ดีและจดจำเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ทั้งหมด ทุกรายละเอียดและสัมผัสจากเขา ผู้ชายแปลกหน้าที่เธอลงทุน ฉุดกระชากตัวมาเพื่อปลุกปล้ำ แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นเธอเสียเองที่โดนเขาทั้งปลุกและปล้าจนหนําใจ กว่าจะได้ นอนก็ปาเข้าไปตีสี่ ตอนนี้ร่างกายเธอปวดระบมไปหมด แม้แต่จะ ขยับตัวยังยากลำบากเลย ไม่คิดว่าครั้งแรกมันจะเจ็บปวดและวาบ หวิวขนาดนี้ เป็นอารมณ์สองอย่างที่ต่างกันสุดขั้ว จนแยกไม่ออก ว่าอย่างไหนมีมากกว่ากัน

เอาเป็นว่าเธอรู้สึกดีกับเขา…แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นแหละ ดีที เป็นเขาที่ผ่านมา อย่างน้อยเธอก็มั่นใจในระดับหนึ่งว่าเขาไม่ใช่ คนเลวที่กล้าทําเรื่องต่ำทรามพรรค์นั้นอย่างเช่น…แบล็คเมล์ เธอ หวังว่าเธอจะไม่คิดผิดไปหรอกใช่ไหม แต่จะทำไงได้ล่ะถึง โวยวายไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะคนที่เริ่มก่อนคือเธอ มองยังไง คนที่ผิดก็คือเธออีกเช่นกัน เขาแค่ซวยที่ผ่านมาทางนั้นพอดีเลย ถูกเธอลวนลามและลากเข้ามา…

ฟังดูเลวร้ายชะมัด

เมื่อตั้งสติได้แล้ว ชาลิตาก็ค่อย ๆ ยกแขนตัวเองที่พาดอยู่บนเว หนาออกช้า ๆ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ทำให้อีกคนตื่น แม้มันจะ ช้าเหมือนเต่าคลาน แต่สุดท้ายก็สําเร็จ แต่ว่าสิ่งที่เธอเครียดอยู่ ตอนนี้คือจะเอาแขนสองข้างของเขาออกจากตัวเธอได้อย่างไร หนักซะขนาดนี้ตอนแรกเธอนึกว่าโดนกระสอบทรายทับร่างเสีย ด้วยซ้ำ

เฮ้อ…ชีวิตเธอมันจะชวย าซวยซ้อนอะไรหนักหนาเนี่ย?!
ดวงตาคู่สวยฉายแววหงุดหงิดงุ่นง่านพลางเค้นสมองครุ่นคิดหา วิธีการลากเอามือปลาหมึกและแขนหนักราวกระสอบทรายออก จากตัวเธอ ไม่นานริมฝีปากอิ่มก็ผุดยิ้มขึ้นเมื่อนึกออกว่าควรจะทำ อย่างไร

ดูก็รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายหลับลึกแค่ไหน ถ้างั้นก็ลงมือปลุกเสีย หน่อยแล้วกัน!

ตบ!

มือเรียว เป็นกําปั้นหลวม ๆ ลงมือทุบลงไปบนแผ่นหลังกว้าง เต็มแรง ก่อนจะรีบหลับตาแสร้งทำเป็นว่าหลับ ทันทีที่ได้ยินเสียง ทุ้มร้องด้วยความเจ็บและชักมือกลับไปแตะหลังตัวเอง

“โอ๊ย!” ฟองซัวล์ตื่นขึ้นมาด้วยอาการงุนงงคล้ายยังไม่ตื่น ดวงตาสีฟ้าเข้มฉายแววหงุดหงิดเมื่อถูกรบกวนเวลานอน แล้ว ที่สำคัญหลังของเขาก็ถูกประทุษร้ายโดยใครบางคนอีกด้วย ไม่ ต้องสงสัยว่าใคร ดูก็รู้ว่ามีอยู่คนเดียว ยายแม่มดจอมยั่วที่หลับ ไม่รู้เรื่องรู้ราวเป็นคนทุบหลังเขา

หน่อยแน่ะ! นี่ถึงขนาดละเมอทำร้ายร่างกายเขาเลยเหรอ มันจะ มากไปแล้วนะยายแม่มด

ฟองซัวล์ได้เข่นเขี้ยวเข็ดฟันจ้องมองคนหน้าสวยเขม็ง สองมือที่กอดรัดร่างนุ่มก็เปลี่ยนมาลูบคลำแผ่นหลังแทน ระดับความ เจ็บแค่นี้ไม่ระคายผิวเขาหรอก มันแค่แสบ ๆ คัน ๆ พอให้รู้สึก เหมือนโดนไม้สะกิดเท่านั้นเอง ช่างเถอะ ตอนนี้เขาง่วงมากและ ต้องการหลับต่ออีกสักจีบ ตื่นมาค่อยคุยกับแม่สาวจอมยั่วอีกที

เปลือกตาหนาค่อย ๆ ปิดลงอีกครั้งโดยไม่ลืมตวัดวงแขนแข็ง แรงรัดรอบเอวบางพลางดึงเข้าหาตัวและซุกหน้าลงกับเรือนผม ดกหนาสูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ อีกนิด แล้วผล็อยหลับไปในที่สุด…

สรุปคือสิ่งที่เธอทำมันไม่ได้ผลสินะ

ชาลิตาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เมื่อแผนการไม่สำเร็จ แถมยังเพิ่มความยุ่งยากเข้าไปใหญ่ ใช่ว่าเธอเป็นสาวอ่อนแอ บอบบางทีพอตื่นมาเห็นตัวเองนอนกอดกับผู้ชายแล้วจะร้องกรี๊ด ๆ เต้นเร่า ๆ ให้อีกฝ่ายรับผิดชอบ ถ้าคิดแบบนั้นล่ะก็…ผิดมาก ผิด มหันต์เลย! เธอไม่เคยมีความคิดนั้นในหัวเลยสักนิด ถึงแม้จะแอบ เสียใจและเสียดายที่ไม่ได้มอบความบริสุทธิ์ของตัวเองให้กับคน ที่รัก แต่เพราะมันเป็นความผิดพลาดของตัวเองก็เลยต้องทำใจ ยอมรับมัน

เอาเถอะ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดมากเรื่องนั้น เธอควรจะหนีออก ไปจากที่นี่ก่อนที่เขาจะตื่นและทำให้เธอต้องอับอายไปมากกว่านี้
ชาลิตาตัดสินใจดูท่าทีอีกฝ่ายไปอีกสักพัก พอเห็นว่าร่างสูง หลับลึกเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ เธอก็เริ่มขยับตัวยก แขนหนักอึ้งออกจากเอว ก่อนจะตามติดด้วยการยกขาตัวเองออก จากขาข้างหนึ่งของเขาและยกขาของเขาข้างหนึ่งที่ทับเธอออก พูดง่าย ๆ ว่าทับแบบไขว้กันซ้อนเป็นชั้น ๆ เลย สภาพดูน่าทุเรศท รังอย่างไรก็ไม่รู้ หมายถึงเธอนะ

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกค่อย ๆ กลิ้งตัวไปด้านข้างช้า ๆ ทำให้ศีรษะของชายหนุ่มที่เกยอยู่บนศีรษะเธอค่อย ๆ หล่นลง ไปอยู่บนหมอน ในช่วงวินาทีนั้นชาลิตารู้สึกเหมือนหัวใจตัวเอง กระเด้งกระดอนจะออกมาเต้นนอกอกเสียให้ได้ แต่พอทุกอย่าง ผ่านไปไร้การเคลื่อนไหวของอีกคน เธอก็ถึงกับโล่งอกพ่นลม หายใจออกมายาวเหยียด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ