บทที่12 ฉันสั่งให้หมอบลง
บทที่12 ฉันสั่งให้หมอบลง
บอกตามตรง ฉันขับรถไม่เป็น ในหมู่บ้านของเรามีรถแทรกเตอร์ รวมกันไม่ถึง10คัน ฉันเรียนขับรถ ฉันบ้าเหรอ ?!
หยู่ถึงได้ยินว่าฉันจะแข่งรถกับเขา เธอก็ยิ้มทันที แถมยังยิ้ม อย่างสดใส ทําให้ใบหน้าที่หม่นหมองของฉันหายไปทันที
“ฉันรู้สึกว่าถ้าอยู่กับนายแล้วมันทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย ฉันคิดไม่ผิดจริงๆ
หยู่ถึงสตาร์ทรถ จากนั้นก็พาฉันไป
ฉันถามเธอว่าไปไหน เธอตอบกลับมาว่าไปเปิดห้องที่โรงแรม.
“ไปที่ที่เจิงห้าวอยู่.”
หญ่ถึงอึ้งเล็กน้อย “นายจะแข่งรถกับเขาจริงเหรอ ? เท่าที่ฉัน นายไม่มีแม้แต่รถ ฉันสามารถให้นายยืมรถได้ แต่เกมนี้ไม่ อนุญาตให้ยืมรถ”
“ฉันยืมรถทำไม พวงมาลัยฉันไม่เคยแตะด้วยซ้ำ ฉันขับรถไม่ เป็น”
“แล้วนายไปทำไม?
“ไร้สาระหน่าฉันเป็นผู้ชาย แม้ว่าฉันจะทํางานขายตัว แต่ฉันก็ มีศักดิ์ศรีในการขายด้ว, แม้แต่หนึ่งล้านฉันไม่ก็รับ ฉันสามารถ ทำให้เขาพูดจาอ้อน ๆ
ฉันยืนยันที่จะไป หยู่ถึงก็ไม่ได้พูดอะไร พาฉันไปที่ที่พวกเขา แข่งรถบ่อยๆ.
นี่คือถนนที่คดเคี้ยว มันถูกสร้างขึ้นโดยพวกลูกคนรวย ประกาศ ให้คนนอกรู้ว่าให้คนที่อยู่บนเขาใช้ชีวิตที่ดี แต่ความจริงแล้ว พวก เขาแค่อยากเปิดถนนให้พวกเขาสามารถแข่งรถได้ในตอนกลาง คืน.
หลังจากหนึ่งชั่วโมง หยู่ถึงพาฉันมาถึงสถานที่ที่พวกเขาแข่ง
รถ.
เวลานี้ ถนนบนภูเขาถูกปิด จะมีก็แค่รถ10กว่าคันของพวกเขา แถมยังมียี่ห้อรถแข่ง หลากหลาย ฉันก็ไม่รู้จัก แต่ดูแล้วมัน หรูหรา ถึงโลโก้รถจะแปลกไปหน่อย มีทั้งม้า มีทั้งควาย และยังมี การใช้ส้อมมาแทนโลโก้.
เจิงห้าวฟังอยู่ที่หัวรถของเขา พอเห็นฉันมาถึง ใบหน้าก็แสยะ ยิ้มออกมา “ไม่เลวๆ อย่างน้อยก็ไม่กลัวจนไม่กล้ามา แต่ว่าฉัน อยากรู้ นายจะแข่งกับฉันยังไง จะใช้สองขาของนายแข่งกับสี่ล้อ ของฉันแข่งเหรอ?
คำพูดของเขา ทำให้คนรอบข้างนั้นหัวเราะออกมา แล้วมองมาที่ ฉันเหมือนดูคนโง่
ฉันพูดตรงๆ “ฉันขับรถไม่เป็น ดังนั้นเกมของนายฉันไม่เล่น
เจ๊งห้าวสงสัย : งั้นนายมาที่นี่เพื่อสารภาพกับฉันเป็นการส่วน ตัว หรือแสดงความจริงใจ ? *
คำพูดของเขา ทำให้ทุกคนรอบข้างหัวเราะหนักกว่าเดิม
“เจ๋งห้าว นาย……..
หยู่ถึงกำลังจะพูดอะไร ฉันจึงดึงมือเล็กๆของเธอไว้ ห้ามไม่ให้ เธอพูด
“กฎในหมู่ของพวกเรา ผู้ชายทำงาน ผู้หญิงห้ามพูดแทรก
ฉันพึ่งพูด ทุกคนรอบข้างก็อึ้ง รวมถึงเพิ่งห้าวด้วย แต่ที่ทําให้อ้งกว่านั้นก็คือหญ่ถึงกลับพยักหน้าตอบรับ ก้าวถอยหลังไป แล้วก็ไม่พูดแทรกจริงๆ
ฉันไม่ได้สนใจพวกเขา แล้วก็พูดกับเจิงห้าวโดยตรง สถานที่ นายเป็นคนเลือก ส่วนกฎก็ควรจะเป็นฉันตั้ง ฉันไม่ได้อยู่ในแวดวง สังคมเดียวกับพวกนาย ดังนั้นกฎของพวกนายใช้ไม่ได้กับฉัน แต่ เนื่องจากนายอยากเล่นเกมที่มันน่าตื่นเต้น และคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ ผู้ชายควรจะเล่น งั้นฉันก็จะทำให้นายพอใจ
พูดจบ ฉันก็มองไปรอบๆ แล้วข้างๆจะมีเวทีอยู่ ซึ่งสูงจากพื้น ประมาณ10เมตร น่าจะเป็นที่ที่พวกเขาใช้ดูรถแข่งตอนกลางคืน
และแล้ว ฉันก็ที่ไปที่เวทีตรงนั้น “ฉันเป็นคนบ้านนอก ถ้าพวกเรา จะเล่นเกมที่ผู้ชายเล่นงั้นก็ง่ายนิดเดียว เราอยู่นั้นแล้วกระโดดลง มาพร้อมกัน มาใครหักแสดงว่าคนนั้นโชคร้าย ”
ฉันไม่มองเจิงห้าว ก็ตรงไปที่ที่เวทีนั้นตั้งอยู่หมู่ถึงดึงฉันไว้จาก ด้านหลัง ฉันส่งยิ้มไปให้กับเธอ แล้วก็กระโดดขึ้นไปบนเวที ยืน อยู่ที่ขอบเวทีแล้วลงไปหาเจิงห้าว
“นายใช่ไม่ใช่ผู้ชาย กล้าๆหน่อย ถ้าไม่กล้าก็รีบนั่งฉี่เหมือนผู้ หญิง.
จะหาเรื่องไม่ใช่เหรอ มาสิ ดูสิฉันจะทำยังไงกับนาย !
เจิงห้าวขึ้นมาแล้ว เขากำลังทำใจอยู่หรือคิดอะไรอยู่ฉันไม่รู้ แต่ ว่าก็ขึ้นมาแล้ว.
หลังจากเขาขึ้นมาเขาก็ดูสงบ แววตานั้นแสดงความขี้ขลาดฉัน เห็นจากในหมู่บ้านเยอะแล้ว “กระโดดยังไง”
“กระโดดตามฉันก็พอแล้ว ฉันกระโดดก่อนแล้วนายค่อยตาม และยังเป็นคำเดิม ใครขาหักก่อนคนนั้นโชคไม่ดี ถ้านายไม่กล้า ล่ะก็นั่งฉี่ให้เพื่อนที่อยู่ในวงนั้นดู
เจิงห้าวไม่พูดอะไรสักนาที แต่สุดท้ายก็พยักหน้า, บนเวทีมี หลายคนที่เป็นพยาน ข้างล่างหญิงและคนอื่นๆร่วมเป็นสักขี พยาน ฉันก็ไม่กลัวที่เขาจะหลอกฉัน ดังนั้นเขาจึงหันไปยืนบน แท่นสูงกว่าหนึ่งเมตร
ระยะในตอนนี้ สูงจากพื้นดินประมาณ 11 เมตร
ลมตอนกลางคืน เป็นลมที่เย็นสบาย ฉันก้มหน้าลงไปมองหญิง “ถ้าฉันชนะ ฉันอยากจูบเธอต่อหน้าพวกเขาได้ไหม?
หญ่ถึงเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วตอบกลับมาว่า “ถ้านายลงมาตอนนี้ ฉันจะไปเปิดห้องกับนายทันที.
ไม่พูดไม่ได้ มันเป็นเงื่อนไขที่น่าสนใจมาก แต่น่าเสียดาย ฉันไม่ อยากตอบรับ!
พอกระโดดลงมา ก็ได้ยินเสียงลมที่อยู่รอบตัวฉัน ฉันพยายามที่ จะทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพราบไปกับพื้น ทำให้คนข้างล่างกรี๊ด ออกมาด้วยความตกใจ
ฉันรู้ว่าพวกเขาร้องเรียกกันทำไม พวกเขาต้องคิดว่าท่าที่ฉัน กระโดดลงมา จะทำให้เขาตกลงมาตาย
แต่พวกเขาไม่รู้ว่าฉันกำลังมองเสาที่อยู่ข้างหลังพวกเขา
เมื่อยังมีระยะห่างประมาณสองเมตร เขาถีบแรงๆไปรอบหนึ่ง แล้วเขาก็ม้วนตัวในเวลาเดียวกัน ฝ่ามือทั้งสองข้างกุมหัวของเขา
ไว้
ทันใดนั้น ก่อนที่จะถึงพื้น ทั้งตัวของฉันก็กลิ้งลงพื้น ถึงจะเป็น แรงที่ทำให้ฉันเจ็บ แต่9เปอร์เซ็นต์ที่กระแทกมันไม่ได้ส่งผลกระ ทบร้ายแรง อย่าพูดถึงแผลเลย.
ท่ายืนที่งดงาม และผลของความเฉื่อย ทั้งตัวของฉันก็ยืนอยู่บน พื้น. ในคําพูดของหยู่ถึง ก็เหมือนกับคูสตั๊นท์แมนในหนัง
พอก้าวไปถึงหมู่ถิงที่ยังคงอึ้งอยู่ ฉันก็จับหน้าของเธอแล้วจูบลง ไปที่ริมฝีปากบางๆนั้นอย่างดูดดื่ม แล้วก็ใช้วิธีที่เพิ่งเรียนกับดี้ชิง โถงก่อนหน้านี้โดยสอดลิ้นเข้าไปในปากของเธอ
ถึงจะไม่คล่องแคล่ว แต่กลับทำให้รู้สึกติดใจ ริมฝีปากบางนั้น รสชาติที่หวานนั้น ทำให้ฉันรู้สึกเมารู้สึกหลง
หลังจากนั้น ฉันก็โดนหมู่ถึงตบหน้าไปหนึ่งที ตบนั้น ทำให้ฉัน มึนเหมือนกับเห็นดวงดาวอยู่ตรงหน้า ผลกระทบนั้นแรงกว่าตอน ที่ฉันโดดลงเวทีอีก
“นายบ้าไปแล้วเหรอ นั้นเป็นเวทีที่สูง10กว่าเมตร ถ้านายตกลง มาตายแล้วจะทำยังไง!!!
หญ่ถึงโกรธมาก เธอแทบจะตะคอกออกมา แต่เสียงตะคอกที่ โกรธนี้ กลับทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจ.
แล้วฉันก็กุมมือของเธอไว้ พูดเบาๆที่ข้างหูของเธอว่า “ถึงฉันจะ เป็นผู้ชายขายตัว แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ข้างเธอได้อีกนานแค่ไหน ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่นาทีเดียว ฉันก็ไม่อยากให้ใครมาพูดถึงเธอว่า ผู้ชายที่อยู่ข้างๆหยู่ถิงเป็นคนขี้ขลาด
หญ่ถึงตะลึง เห็นได้ชัดเธอนั้นคิดไม่ถึงว่าฉันจะออกตัวเพื่อเธอ. จากนั้น เธอมีบางอย่างที่สูญเสียไป แบมือทั้งสองข้างไม่รู้จะพูดยังไงดี.
ในที่สุด มือทั้งสองข้างของเธอจับที่แก้มฉัน จูบฉันอย่างหนักดุ เดือดจน เกือบบ้าแล้ว
เป็นเวลานาน เธอหยุดจูบและกระโจนเข้าสู่อ้อมแขนของฉัน “ขอบคุณ.”
ร่างกายที่บอบบางของเธออบอุ่นมากฉันชอบมันมาก แต่ฉันไม่ ลืมเจิงห้าวที่ยืนมองอยู่บนเวที
หญ่ถึงอยู่ในอ้อมแขนของฉัน ฉันชี้ไปที่เจิงห้าว “กระโดดลง เหมือนผู้ชาย หรือนั่งลงเหมือนผู้หญิง !!!”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ