หมอยาเจ้าเล่ห์ พิษใจเทพสงคราม

บทที่ 15 เสียของ



บทที่ 15 เสียของ

บทที่ 15 เสียของ

หลานเยาเยาเพิ่งจะรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ถ้าดูจาก เหตุการณ์เมื่อกี้ อ๋องเย่คงจะให้ความสำคัญกับโรคที่องค์หญิงจาว หยางเป็นอย่างมาก

ในเมื่อให้ความสำคัญ ก็ควรจะส่งยอดฝีมือจำนวนมากมาปกป้อง ลานนี้มิใช่หรือ?

แต่เมื่อครู่ที่ลาน นอกจากองค์หญิงจาวหยางแล้ว ก็ไม่เห็นว่า จะมีคนอื่น กระทั่งว่าเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังไม่มีองครักษ์ลับ ปรากฏตัวออกมาแม้แต่คนเดียว

จึงพอสรุปได้ว่า: นางถูกวางกับดักแล้ว!

หลานเยาเยาตีหัวตัวเอง แล้วถอนหายใจยาวๆหนึ่งที แต่ก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายลงไปได้

ถูกวางกับดักก็ช่าง อย่างน้อยก็ไม่ได้ฆ่าคน ก่อความวุ่นวาย อีก ทั้งยังได้ตั๋วเงินมากมายมหาศาลอีก ทำไมจะไม่ทำ
ยังไม่ทันออกจากประตูจานอ๋องเย่ หลานเยาเยาก็นำมุกเย่หมิ งกับตั๋วเงินปึกใหญ่เก็บไว้ในระบบ เหลือไว้เพียงตั๋วเงินมูลค่าหนึ่ง พันไว้หนึ่งใบ

เหอะๆ!

ตอนนี้นางสามารถกินดื่มได้เต็มที่แล้ว

อีกทั้งออกจากจวนอ๋องเย่ ก็จะพบกับถนนสายหลักที่มีผู้คน คึกคัก ถัดไปนิดเดียวก็จะเจอกับ “ถนนของกินดัง” ผ่านทุกๆร้าน ไม่ว่าจะอร่อยหรือไม่อร่อยก็ต้องสั่งมาชิม

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง!

“โอ๊ย! กินเยอะเกินไปแล้ว”

หลานเยาเยานั่งลงที่มุมถนนอย่างไม่ห่วงสวย ลูบท้องป่องๆ ของตัวเองที่เหมือนกับคนท้อง ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นโดยรอบ ล้วนเป็นสิ่งที่เธอต้องการ

กำลังเตรียมตัวจะออกกำลังกายซะหน่อย หางตาก็เหลือบไป เห็นรูปร่างที่ดูคุ้นเคย พอรีบหันไปมอง ก็พบกับชายวัยกลางคน กำลังเดินลับๆล่อๆเข้าไปในตรอก
เอ๊ะ?

นั่นไม่ใช่พ่อบ้านที่จวนหรอกหรือ?

ดูเหมือนว่ากำลังจะทำเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้นะ!

หลานเยาเยาเหลือกตา และยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วจึงรีบ เดินตามไป

ลึกเข้าไปในตรอก

เนื่องจากกำแพงทั้งสองด้านสูงมาก จึงปิดกั้นแสงสว่างจนเกือบ หมด ทำให้ตรอกแห่งนี้ทั้งมืดและอับ ตราบใดที่ยังอยู่ข้างในก็จะ สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก

พ่อบ้านยังคงเดินตรงไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ลืมที่ จะหันกลับมามองด้านหลังเป็นครั้งคราว ใบหน้ามีความวิตกและ หวาดกลัว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีจุดประสงค์ที่ชัดเจน พอได้ยิน เสียงนกหวีด เขาก็ยิ่งเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น

หลานเยาเยาซึ่งแอบตามมาข้างหลัง ใบหน้าเริ่มดูเหนื่อยเล็ก

น้อย!

นางรู้สึกได้ถึงการหักหลังอะไรบางอย่าง
ไม่นาน หลังจากเดินผ่านไปสองโค้ง พ่อบ้านก็รีบเดินเข้าไปทาง ประตูที่เปิดแง้มไว้ให้ครึ่งหนึ่ง

หลานเยาเยามาถึงที่ประตู ก็แอบชะโงกหัวเข้าไปดู

ข้างในเต็มไปด้วยหญ้ารก ตัวบ้านและห้องก็เก่าทรุดโทรม มีใย แมงมุมเต็มไปหมด อีกทั้งยังมืดสลัว

มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นบ้านที่รกร้างมานาน

นางรีบเข้าไปในบ้าน และแอบซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า เมื่อทุก อย่างสงบลง ก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวภายในห้อง

“ไม่ใช่สิบเหรียญเงินหรอกหรือ? ทำไมตอนนี้เจ้าถึงจะเอายี่สิบ เหรียญเงินล่ะ?”

นี่เป็นเสียงของพ่อบ้าน ที่เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจกับการโก่งราคา ในครั้งนี้

“ท่านพ่อบ้าน ของที่ท่านต้องการท่านก็ได้เห็นหมดแล้ว งูพิษ มากมายขนาดนี้ จะจับก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ! อีกทั้งจำนวนที่ท่าน ต้องการยังเพิ่มเป็นสองเท่า เพราะเหตุนี้ คนของข้าเกือบจะถูกฉก ตายแล้ว เพิ่มอีกสิบเหรียญเงินถือว่าไม่มากเกินไปแล้ว
คนที่กําลังพูดอยู่ก็ดูเหมือนจะโหดเหี้ยมไม่เบา แสดงออกต่อพ่อ บ้านอย่างไม่เคารพให้เกียรติเลย

“ ! คิดจะทําธุรกิจแบบนี้ สิ่งที่สําคัญคือความน่าเชื่อถือ ตอนนี้ ยังคิดจะมาโกหกข้า เจ้าคิดว่าจวนแม่ทัพเป็นเพียงแค่ของตกแต่ง อย่างนั้นหรือ?” ได้รับการสนับสนุนจากจวนแม่ทัพ พ่อบ้านจึงพูด อย่างไม่เกรงกลัว

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็แลกเปลี่ยนตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ตอน แรก”

“เจ้าคิดจะทำอะไร?” พ่อบ้านโกรธมาก

“ทําอะไรนะเหรอ? ก็เอางูพิษออกมาครึ่งหนึ่งนะสิ แบบนี้ถึงจะ แลกเปลี่ยนกันอย่างยุติธรรม!” ผู้พูดพูดด้วยน้ำเสียงที่เหยียด หยามเล็กน้อย

“ทําไมหรือ เมื่อก่อนพ่อบ้านเองก็ได้กำไรไปเยอะ วันนี้เท่าเทียม กันสักหน่อยก็ไม่ยินดีแล้วอย่างนั้นหรือ?” เสียงของคนผู้นั้นเริ่ม พูดเยาะเย้ย

นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
พ่อบ้านหรี่ตาลง แล้วมองออกไปยังท้องฟ้าด้านนอก สุดท้ายจึง โยนเงินสิบเหรียญเงินให้ แล้วคว้ากระสอบใส่เดินออกไปด้วย ความโกรธ

หลังจากพ่อบ้านเดินออกไป ก็มีเสียงพูดตามหลังออกมา

“พี่ใหญ่ หากขัดใจท่านพ่อบ้านเช่นนี้ อีกหน่อยเขาจะยังกลับมา หาเราไหม?” หนึ่งในบรรดาลูกน้องถามด้วยความกังวล

“หึ! จะกลัวอะไร? ตอนนี้ข้าหาธุรกิจที่ดีกว่านี้ได้แล้ว” ไม่เช่นนั้น วันนี้เขาจะกล้าขัดใจท่านพ่อบ้านหรือ?

ถึงตอนนี้!

หลานเยาเยาลุกยืนขึ้น แล้วค่อยๆเดินเข้าไปในบ้าน ในมือถือตัว เงินมูลค่าหนึ่งพันไว้สามใบแล้วพัดไปมาอย่างช้าๆ

จากนั้นจึงเปิดปากพูดอย่างช้าๆ

“พี่ชายท่านนี้ สนใจจะทำธุรกิจใหญ่ๆบ้างหรือเปล่า?

“ใครน่ะ?”

ทันทีที่ได้ยินว่ายังมีเสียงของคนอื่นดังขึ้นที่นี่ คนที่อยู่ในบ้านก็รีบดึงดาบขนาดใหญ่ที่พกอยู่ที่เอวออกมาอย่างรวดเร็ว

แต่ละคนจ้องมองหลานเยาเยาที่ปรากฏตัวอยู่ที่ประตูห้อง ณ ตอนนี้อย่างดุร้าย

เมื่อมองเห็นนางอย่างชัดเจน

สายตาของพวกเขาก็เปลี่ยนจากสายตาที่ดุร้ายมาเป็นประหลาด ใจเล็กน้อย หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นแปลกใจอย่างมาก สุดท้าย ดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้าง แต่ละคนถูกดึงดูดให้จ้องมองตั๋วเงิน ในมือของนางอย่างไม่ว่างตา……

เมื่อตะวันลับขอบฟ้า หลานเยาเยาก็กลับถึงลานของตัวเองแล้ว

เป็นอย่างที่คาดไว้ ไม่มีใครสนใจการเข้าออกของนาง ไม่มีใครที่ จะสังเกตเห็น แม้แต่สาวใช้ที่นำยามาส่ง ก็เพียงแค่นำยามาวางไว้ ให้บนโต๊ะแล้วก็จากไป

หลานเยาเยาเดินไปที่โต๊ะ แล้วเอามือแตะที่ขอบชามเบาๆ ยัง ร้อนอยู่ ดูเหมือนว่ายาเพิ่งจะถูกส่งมาไม่นาน อีกทั้งพ่อบ้านก็ คงจะกลับมาจากตรอกนานแล้ว
ดังนั้น

ยาในถ้วยนี้ นอกจากจะเพิ่มพิษที่ทำให้โรคเรื่องรังแล้ว ยังเพิ่ม ผงยาที่จะช่วยให้ดึงดูดอีกด้วย

อ๋อ!

ที่แท้งูพิษเหล่านั้นก็เตรียมไว้ให้นางนี่เอง

หลานเขาเขาเดินดูรอบๆบ้าน ก็พบกลับคราบน้ำที่ยังไม่แห้งอยู่ บนพื้น จากนั้นจึงเดินไปที่เตียง แล้วหยิบผ้าปูที่นอนขึ้นมาคมด

ดวงตาที่งดงามหรี่ลงเล็กน้อย แล้วค่อยๆถอนหายใจ

ช่างมีความพยายามจริงๆ

ดังนั้นนางจึงนำชามยามาวางไว้กลางห้อง แล้วจงใจใส่ตัวยา เพิ่มเข้าไป

รอให้ฟ้ามืด ก็จะหนีออกไปทางหน้าต่าง เป้าหมายคือมุ่งหน้าไป ที่บ้านของพ่อบ้านโดยตรง
“อ้า…….ท่านพ่อบ้าน ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ข้าเกือบจะทนไม่ ไหวแล้ว อ้า…..ท่านช่วยเร็วขึ้นอีกหน่อยได้ไหม” เสียงของผู้ หญิงคนหนึ่งร้องดังออกมา

“โอ้ แม่นาง เจ้าช่างงามนัก ตอนนี้ข้ามีพลังเต็มเปี่ยม คืนนี้เจ้าจะ ต้องตายแน่ๆ”

เมื่อเห็นเรือนร่างอันเย้ายวนของสาวงามที่อยู่ตรงหน้า พ่อบ้าน ก็ขยับร่างกายอย่างเร่าร้อน อีกทั้งใช้มือลูบคลำไปมา ราวกับจะ กลืนกินสาวงามเข้าไปทั้งตัว

หลานเยาเยาที่แอบมองลอดผ่านรูหน้าต่าง เห็นร่างของทั้งคู่ ทั้งขาวและดำกอดรัดกันอยู่บนเตียง

ผิวของสาวงามนั้นทั้งขาวและนุ่มนวล แต่ของพ่อบ้านนั้น ทั้งตัว กลับดูหยาบกระด้าง ผิวหนังซีดเซียว ดวงตาเบิกกว้าง……..

โธ่เอ๋ย!

กะหล่ำปลีถูกหมูจัดการไปเสียแล้ว (เสียดายของจริงๆ)

ตกใจจนต้องรีบโยนยาเข้าไปหนึ่งเม็ด เมื่อยาสัมผัสพื้น ก็จะ เปลี่ยนเป็นก๊าซที่ไร้สีไร้กลิ่น นางเดินได้ไม่ทันถึงสองก้าวภายในบ้านก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆแล้ว

จากนั้นก็ไปที่ลานของหลานชั่วหยุน เพราะว่าฟ้าเพิ่งจะมืดได้ ไม่นาน ห้องของหลานชั่วหมุนจึงยังส่องสว่างไปด้วยแสงเทียน ภายในมีเงาของคนสองคนนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง ดูจากลักษณะการ เคลื่อนไหว น่าจะกำลังเย็บปักถักร้อยสิ่งของบางอย่าง

ส่วนด้านนอกเองครักษ์ คนยืนคุ้มกันอยู่ พวกเขาจะหันไปดูเงา ของคนที่หน้าต่างอยู่เป็นระยะๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ