คุณจะไม่พบฉันอีก

บทที่ 10 เธอสลบไปแล้ว



บทที่ 10 เธอสลบไปแล้ว

นิ้วมือที่หยุดนิ่งชะงัก สีหน้าดนัยที่หวาดกลัว ต่อ เลขา ทวนถามทีละถ้อยคำ “นายพูดว่าอะไรนะ พูดอีกที!”

ระยะเวลาของเลขาที่ตามติดเจ้ามานาน ย่อมรู้ดีกับ อารมณ์สีหน้าเจ้านายว่าผลจะเป็นอย่างไร

เช่น ตอนนี้ จริง ๆ เลย

และเขาก็พูดเท็จไม่ได้ ได้แต่ตั้งสติเอ่ยพูดด้วยเสียง สั่นหวิวอีกรอบ “ท่านประธานครับ คุณหนูเธอ”

เพียงยังไม่ทันพูดจบคำ ข้าวของเอกสารที่วางบน โต๊ะทำงานถูกปัดกระจายเกลื่อนพื้น เขาลุกยืนขึ้น ด้วยน้ำ เสียงเฉยเย็น “ตามหา สั่งกำลังคนทั้งหมดออกตามหา รอดต้องเห็นคนตายต้องเห็นศพ”

พอเลขาได้รับคำสั่ง รีบออกจากบริษัท ใครที่ไหนก็ ไม่กล้ายั่วยุ่งกับดนัยตอนนี้

หลังจากเลขาเดินจาก ดนัยก็ทิ้งวางงาน ตรงไปยัง บ้านกระกูลพวงมาลัย

เท้าที่ปกติก้าวสามก้าวกลายเป็นสองก้าว ตรงไปยัง ห้องรดิณมา ห้องที่ว่างเปล่าไม่มีแม้เงาใคร

ข้าวของในห้องกระจายเคลื่อนด้วยน้ำมือเขาเองเธอไปแล้วจริง ๆ เสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวก็ไม่เอาไป ไปโดยตัว เปล่า

หรือว่าเธอคิดจะฆ่าตัวแล้วจริง ๆ ถึงได้ไม่เหลือเชื่อ ใยใด ๆ เลย?

ร่างสูงใหญ่ค่อย ๆ ทรุดตัวลงกับพื้น ทุกครั้งที่หมด หวังทำอะไรไม่ถูก เขามักจะกุมจับผมเขาไว้ แน่นอนว่า สภาพเขาในแบบนี้คงไม่มีใครได้เห็นง่ายๆหรอก

ครู่ต่อมาเขาได้รวบรวมสติกลับมา เดินออกจากห้อง คนที่ถูกสั่งให้มาคุมดูแลรติณมาแต่ละคนนิ่งจนกลัวสั่น

เพราะคราวแล้วที่ปล่อยเธอหนีไปได้ จึงเปลี่ยนชุด ใหม่มา ดนัยสั่งเน้นย้ำ ห้ามพลาดตกบกพร่องใด ๆ อีก แต่ รอบนี้กลับพลาดอย่างหนักหนา จนติณมาฆ่าตัวเลย

สายตาอาฆาตที่ตะหวาดทีละคนอย่างดนัย เมื่อ สายตาจ้องมองหยุดนิ่งเฉยตรงยังป้าที่ดูแลหญิงสาว ถ้อยคำจู่จง “ป้าพูด!”

คนที่ถูกเลือกให้เข้ามาทำงานที่นี่ จะถูกคัดเลือก อย่างเคร่งครัด คนที่รู้สึกละอายใจอย่างป้า แต่ใบหน้าก็ยัง คงนิ่งเฉยไว้
เธอพยายามให้สตินิ่ง แล้วเอ่ยพูด “แพรววาเป็นคน พาตัวคุณหนูไปค่ะ เธอกล่าวว่าเป็นคำสั่งของคุณ เลย”

ถ้อยคำหลังยังไม่ทันพูดจบ แต่ความหมายมันสื่อ ชัดเจนอยู่แล้ว

เธอพูดความจริง ถ้าไม่ใช่แพรววา ไม่ว่าใครหน้าไหน ที่กล้าหาญแค่ไหนก็ไม่อาจกล้าปล่อยรติณมาไปง่าย ๆ แบบนี้

แพรววามีสัญญาหมั่นไว้กับดนัย แถบเป็นน้องสาวรติ ณมาอีก พวกเขาคงไม่กล้าคัด

เมื่อดนัยจับต้นชนปลายสถานการณ์ถูก ไม่รอช้า รีบ มุ่งหน้าไปหาแพรววา เมื่อทุกคนเห็นดนัยเดินจากไป จึง โล่งอกไปที ราวกับถูกปล่อยออกจากคุก

ให้คนเช็คว่าตอนนี้รติณมาอยู่ไหน พอได้บ่อแส ดนัย ขับรถแล่นมุ่งสู่แม่น้ำเพื่อตามหาเธอ

เมื่อถึงคูเมืองแม่น้ำ แพรววายืนอยู่ และคนที่ดนัยสั่ง มาตามหาเธอก็อยู่ ไม่มีนอกจากนี้อีก

คูเมืองแม่น้ำนี้ใหญ่กว้างขวาง ซึ่งจะมีคนมาน้อยมาก
เขาลุกลงจากรถ แพรววาก้าวมาหาเขา น้ำตาไหล อาบแก้ม “ดนัย พี่สาว พี่สาวเธอ”

สะอึดสะอื้อพูดไม่ออกถ้อยคำหลัง ลำคอระหงแห้ง ผากไม่มีเสียง

“เธออยู่ไหน?” ดนัยถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ

แพรววาปัดเช็ดน้ำตา เอ่ยพูดต่อ “พี่สาว เธอกระโดด ลงจากนี้ไปแล้ว!”

“หุบปาก!” ท่าทีนิ่งแข็งกร้าว พร้อมความโกธรร้าย ราวสายฟ้า ตะคอกออกมา

แพรววา ก็ตกอกตกใจกับดนัยแบบนี้ เธอยอมรับว่าไม่ เคยเข้าใจดนัยอย่างแท้จริง ตัวเขาแบบนี้ที่ยิ่งไม่เคยเห็น มาก่อน

แม้จะหวาดกลัว แต่ก็พยายามเอ่ยพูดต่อ “ดนัย ฉัน ไม่ได้หลอกคุณ พี่สาวโดดลงไปแล้วจริง ๆ ฉันเห็นกับตา ตัวเอง”

มือที่คว้าไปจับบีบปลายคางแพรววาของรดนัย ด้วย แรงอันทรงพลัง ทำให้หน้าเธอแดงก่ำไปในพริบตา เขา เอ่ยพูด “ใครอนุญาตให้คุณพาเธอออกมา
เขาเคยกําชับเตือนแล้ว ไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหน เข้าใกล้ตัวเธอ พาเธอออกมา คนที่คิดว่ามีสิทธิ์ไม่เหมือน ใครอย่างแพรววา

ถ้อยคำที่พูดออกยากขึ้น “เธอเป็นพี่สาวของฉัน อยู่ แต่ห้องที่อบอ้าวทั้งวัน ฉันก็ทนเห็นไม่ได้ เธอบ่นว่าอยาก ออกมาข้างนอก ฉันเลยใจอ่อน ฉันก็คิดว่าเธอแค่อยากมา สูบอาการที่นี้ ไม่คิดว่าเธอจะฉวยเวลาที่เผลอฉัน แล้วโดด ลงไปในนํา”

ดูเหมือนว่าดนัยจะไม่เชื่อ ย้อนถาม “คุณดีกับรติณมา แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

ปกติแล้วเขาเพียงไม่เอ่ย แต่เรื่องราวทั้งหมดอยู่ใน สายตาเขาตลอด แพรววาเป็นคนรอบคอบ เป็นไปไม่ได้ที่ แพรววาจะทําดีด้วย ไม่เหมือนรติณมา ที่มีจิตใจงดงาม

แพรววาดูเหมือนจะเศร้าเล็กน้อย กับการโต้พูดเพื่อ ตัวเอง “ไม่ว่ายังไง เธอก็เป็นพี่สาวของฉัน ถึงฉันจะร้าย ยังไง ก็ไม่ได้อยากให้เธอไปตาย”

ดนัยดูเหมือนจะทนฟังต่อไปไม่ไหว ลดมือลง จนร่าง บางล้มลงกับพื้น

เขาเร่งฝีก้าวสู่ถามเลขา “ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
เลขาตั้งสติแล้วเอ่ยตอบ “ยังสรุปไม่ได้ครับ ผมตรวจ สอบรอบละแวกนี้แล้ว แต่ไม่เห็นล่องรอยว่าคุณหนูจะโดด ลงไป”

สีหน้าซีด ลงของดนัย จากนั้นเขาก็หยิบคว้า โทรศัพท์ออกมา ทั้งโทรไปด้วยและสั่ง “แจ้งความ ฉันจะ ยืมกำลังแรงทั้งหมดเพื่อตามหาเธอ”

โทรศัพท์ยังไม่ทันกดโทรออก ก็ถูกมือบางแพรววาก ระชากแย่งไป เอ่ยพูด “ดนัย คุณบ้าไปแล้วเหรอ? คุณ จะแจ้งความไม่ได้เด็ดขาด”

เวลานี้เลขาก็เอ่ยขวางเจ้านายด้วย “ท่านประธาน ครับ เรื่องนี้จะแจ้งตำรวจไม่ได้นะครับ”

ดนัยจะไม่เข้าใจความหมายนั้นได้อย่างไร ตอนนี้ ท่านประธานเก่าพวงมาลัยกรุ๊ปเพิ่งจากไป หากมีข่าวของ เธอเผยออกไป ไหนจะตระกูลเธอ และตัวเธอ จะส่งผลกระ ทบเสียหายได้

หรือหากแจ้งความ ทางตำรวจก็ต้องสอบถามอย่าง ชัดเจน แล้วสิ่งที่เมื่อครั้งอดีตได้ทำกับเธอไว้ ก็จะถูกโยง ขึ้นศาลได้ เพราะฉะนั้นทั้งสองจึงขัดขวางห้ามไว้

ถ้าหากตอนนี้ไม่แจ้งความ แล้วเรื่องตายร้ายดียังไงของรติ มาที่ไม่แน่นชัดหละ

ไม่ เขาทำไม่ได้!

เขาคิดจะแย่งโทรศัพท์ที่อยู่ในมือเธอมา ไม่รู้ว่าสิ่งใด ถูกกระตุ้นให้แพรววา โยนโทรศัพท์ในมือขว้างลงไปในน้ำ

“ดนัย คุณตื่นเถอะ พี่สาวโดดลงไปแล้ว เธอโดดลง ไปแล้ว คุณเคยบอกกับฉันว่ารติมาเป็นศัตรูของคุณ ตอนนี้เธอได้ตายไปแล้ว คุณควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ? แล้ว ทำไมคุณถึงต้องปวดร้าวเจียนตายถึงเพียงนี้ คุณปวดร้าว ถึงเพียงนี้ให้ใครดู?”

เลขาซับเช็ดเหงื่อที่ริมไหลออก กับภาพตรงหน้านี้ ไม่กล้าขยับทําอะไร

ดวงตาที่มองเห็นโทรศัพท์ถูกโยนลงสู่น้ำ ราวเหมือน เป็นบ้าไปแล้ว ด้วยท่าทีอยากจะกลืนกินแพรววาในไม่ช้า

เลขาแสดงอาการค้านออก ก็โอบกอดร้างเจ้านายไว้ มิให้ทําอะไรต่อแพรววา

เอ่ยพูดข้างหูดนัย “ท่านประธานครับ ตอนนี้เรายัง ทำอะไรแพรววาไม่ได้ ถ้าหากอยากทวงพวงมาลัยกรุ๊ปคืน จริง ๆ ท่านต้องอดทนรอไปก่อนนะครับ
เมื่อหลังจากเลขาพูดจบ อารมณ์ดนัยนิ่งกลับสู่โหมด ปกติ แต่ก็ยังดูออกว่าเขากำลังอดทน

เมื่อเลขาอยากเอ่ยพูดต่อ ทันใดนั้นน้ำหนักทั้งตัว ของเขาทับลงสู่หน้าอกกว้างของเลขา

ดนัย บัดนี้วุบสลบไปแล้ว……


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ