ไหน!!ผู้ใดบอกว่าท่านคือจอมมาร?

บทที่ 10 ช่วยส่งข้าไปหาจอมมาร



บทที่ 10 ช่วยส่งข้าไปหาจอมมาร

ฮวาเย่ห์หยวนยินยอมบอกเคล็ดลับวิชาสะกดจิตผู้คนให้กับ อาเซียนเป็นการแลกเปลี่ยนในการอาศัยอยู่โรงน้ำชาของเขาต่อ สองคนดูจะเข้าอกเข้าใจและสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว จากวัน กลายเป็นเดือนที่ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วความใกล้ชิดทำให้ วาเย่ห์หยวนเริ่มหวั่นใจ ความรู้สึกที่มีต่ออาเซียนนับวันยิ่งรุนแรง ขึ้นเรื่อยๆ เช่นนี้แล้วนางจะข้ามไปยังแดนมารเพื่อทำหน้าที่ได้ อย่างไร

ในฐานะของนักแสดงแห่งโรงน้ำชาปายเสวียนางทำหน้าที่ เต็มที่เรียกแขกมากมายถือว่าสร้างกำไรมหาศาลด้วยรูปโฉม และการแสดงที่น่าตื่นเต้นและงดงาม

หลังเสร็จการทำหน้าที่นักแสดงฮวาเห์หยวนเดินตามหาอา เซี่ยนจนทั่วก็ไม่พบจึงคิดว่าเขาคงวุ่นวายอยู่ในห้องลับเป็นแน่ การเข้ามาในห้องนี้ฮวาเห์หยวนต้องระมัดระวังตนเป็นอันมาก ด้วยหลังๆ มาอาเซียนมักฝึกคิดค้นยันต์แปลกๆ มากมายขึ้นเพื่อ ใช้งาน จนฮวาเห์หยวนเรียกเขาว่าปรมาจารย์แห่งเวทมนต์ไป แล้ว

เพียงลงมาด้านล่าง ฮวาเย่ห์หยวนก็ต้องยกมืออุดหูด้วยมี เสียงระเบิดดังตูมใหญ่พร้อมกับร่างของอาเซียนที่ปลิวออกมา จากเขตอาคมและข้าวของเครื่องใช้ที่แตกกระจายเป็นส่วนย่อย ลอยฟุ้งขึ้นด้านบน ฮวาเห์หยวนสูดฝุ่นและไอออกมาหลายคราจวบจนมองเห็นร่างของคนผู้หนึ่งคลุกอยู่กับพื้นพร้อมฝุ่นผง มากมาย

ฮวาเยห์หยวนตกใจนางรีบวิ่งเข้าไปยังร่างสูงที่นอนอยู่บนพื้น ดินพยุงให้เขาลุกขึ้นด้วยความเป็นห่วง แม้ว่านางจะเริ่มชินกับสิ่ง ที่เขาทดลองและได้รับบาดเจ็บแต่ครานี้ดูจะรุนแรงมากกว่าทุก ครั้งนางมองเข้าไปยังขายอาคมของห้องลับที่เขากางกั้นไว้อย่าง แน่นหนา แม้เสียงระเบิดจะรุนแรงข่ายอาคมกลับไม่สะเทือนเลย แม้แต่น้อย

“เกิดอะไรขึ้น” นางถามเขาพลางช่วยปัดฝุ่นผงออกจาก อาภรณ์สีม่วงงดงามของเขา

“เย่ห์หยวนไม่ต้องใส่ใจข้าลองใช้ยันต์ทำลายที่เพิ่งทำขั้นตอน นี้รู้แล้วว่าได้ผลดี” เขาตอบยิ้มๆ ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วย รอยคําของเขม่าระเบิด

“ข้ารู้ว่าวรยุทธ์ท่านดีเพียงใดแต่เรื่องอันตรายเช่นนี้อาจทำให้ ท่านตายเพียงลำพังอยู่ในนี้”

“ห่วงข้าหรือ”

“ใช่ ท่านเป็นสหายคนแรกของข้า ในแดนมนุษย์นี่ ในที่นี้ นอกจากท่านแล้วจะให้ข้าห่วงผู้ใด

“ก็ได้ ๆ ข้าจะระวังตัวให้มากหากข้าตายเย่ห์หยวนของข้าจะ ไม่มีเพื่อนเหลือเลยสินะนับว่าสำคัญ” เขาหัวเราะเบาๆ

“อย่ามาล้อเล่น”
วาเยห์หยวนส่ายหน้า คนผู้นี้ใช้ชีวิตด้วยความสนุกไม่ค่อย สนใจสิ่งใดแต่เขาเป็นผู้มีจิตใจดีงาม หากเขาตายอาจได้ไปเป็น เทพรับใช้ขั้นต่ำบนสวรรค์ในเวลานั้นนางคงจะตามซื้อให้เขา บำเพ็ญเพียรเพื่อหลุดพ้นจากการเป็นเทพรับใช้จะได้มีอิสรเสรี ทําตามใจตนเองได้

ร่างของอาเซียนขยับว่องไวเมื่อจู่ๆ ก็เกิดเสียงดังกร๊อบขึ้นจาก ด้านหลังเขาดึงนางเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างหนาของ ตนเองบดบังแรงระเบิดที่เกิดขึ้นจนข้าวของหลายสิ่งภายในห้อง ลับกระเด็นออกมากระแทกคนที่อยู่ภายนอก

ฮวาเย่ห์หยวนเงยหน้าขึ้นมองเขาพลันความอบอุ่นก็บังเกิดขึ้น ภายในจิตใจ เสียงระเบิดเบาลงจนเงียบไปแล้วแต่แรงระเบิด ภายในใจของฮวาเห์หยวนยังคงดังกึกก้อง หัวใจของนาง คล้ายจะหลุดออกมาจากอก

“เย่ หยวนเจ้าตกใจหรือ ยันต์ของข้าได้ผลเกินคาดคิดจริงๆ เกือบทําร้ายเจ้าแล้ว” เขาดึงนางออกจากอ้อมแขนตนเอง เชย คางนางขึ้นแล้วถามด้วยความตื่นตระหนก

“อืม” นางตอบเพียงเท่านั้น ใบหน้าร้อนผ่าวขยับขาห่างจาก ร่างสูงโดยฉับพลัน

“ข้าขอโทษนะทำให้เจ้าตกใจแล้ว” ใบหน้าของเขาซีดเผือดดู เป็นห่วงนางจริงๆ

“ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว”

“เช่นนั้นขอข้าเก็บกวาดเสียหน่อย”
อาเซียนดังยันต์เปล่าออกมาจากอกเสื้อวาดบางสิ่งลงไป แล้ว โปรยลงบนพื้นฉับพลันดูเหมือนว่าสิ่งของต่างๆ จะเริ่มจัด ระเบียบตัวเอง พร้อมไม้กวาดไม้ถูพื้นที่ทำความสะอาดพื้นอย่าง ว่องไว

“แม้กระทั่งยันต์เก็บกวาดท่านก็ยังทําขึ้นมา

นางมองสิ่งที่อยู่ด้านหน้าอย่างอดรู้สึกตกตะลึงไม่ได้ การที่ เซียนมีพลังเวทนับเป็นเรื่องปกติ แต่บุรุษที่นางเอาแน่ชัดไม่ได้ว่า เขาอยู่ในจำแนกเผ่าเซียน เผ่ามาร หรือเผ่ามนุษย์เช่นอาเซียน ยากนักที่จะเดาได้ คนผู้นี้แม้จะดูเปิดเผยจริงใจแต่ก็ซ่อนเร้น หลายสิ่งที่นางไม่อาจก้าวล่วงเข้าไปได้

“เพราะข้าไม่มีสาวใช้ และไม่ชอบให้คนอื่นมาวุ่นวายจึง จําเป็นต้องใช้ทางลัด”

เขาปัดมือพร้อมเป่าไล่ฝุ่นก่อนจะส่งยิ้มงดงามให้นางแล้วคว้า

มือน้อยของนางพาไปนั่งยังเก้าอี้นั่งเล่นที่อยู่อีกฝั่ง

เขานั่งลงตรงข้ามแล้วรินน้ำชาให้นางอย่างเอาใจ ผมสีเงิน สลวยของอาเซียนยุ่งเหยิงและเต็มไปด้วยกิ่งไม้ ฮวาเห์หยวนจึง ยื่นมือไปช่วยดึงกิ่งไม้พวกนั้นออกแล้วสางผมให้เขาด้วยนิ้วเรียว ของนาง

อาเซียนมองนางด้วยใบหน้าสดใสยิ้มหล่อเหลาจนแก้มแทบ จะปริจากกันปล่อยให้นางดูแลอย่างมีความสุข จวบจนนางดึงมือ ออกจึงกล่าวคําขอบคุณออกมาเบาๆ

“เมื่อไหร่ท่านจะพาข้าเข้าไปยังแดนมารข้าไม่มีเวลามากนัก”นางเอ่ยถามเมื่อนึกถึงภารกิจที่ต้องรีบทำให้สําเร็จก่อนที่จอม มารจะส่งกองทัพไปบุกสวรรค์

เมื่อคืนนี้นางได้รับสาสน์จากเจ้าแม่กวนอิมให้รีบลงมือได้แล้ว ดูเหมือนว่าฝั่งจอมมารกำลังเริ่มเคลื่อนไหว อีกไม่กี่ร้อยปีข้าง หน้าเง็กเซียนฮ่องเต้ต้องเข้าสู่การกักตนเพิ่มตบะช่วงเวลานั้น สวรรค์ไร้ผู้ปกป้องคาดว่าจอมมารอาจลงมือในเวลานั้น

อาเซียนมองฮวาเห์หยวนด้วยแววตาสงบนิ่ง แล้วรินน้ำชาให้ ตนเองยกขึ้นดื่ม

“ข้าคงไม่อาจรั้งเจ้าไว้ได้สินะ” อาเซียนมองใบหน้าและแววตา ที่เปี่ยมไปด้วยความหวังของนางแล้วทอดถอนใจ

“ข้าขอร้องท่านแล้ว”

“อีกเจ็ดวันเจ้าจงเตรียมตัวข้ามีนัดไว้กับท่านหัวหน้าผู้ฝึกของ แดนมารจะนำเคล็ดวิชาที่คิดค้นไปแลกเปลี่ยนกันในเวลานั้นข้า จะพาเจ้าไปฝากเขาเพื่อเข้าสู่วิถีมารก็แล้วกัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ