ใครกล้าหือกับข้า

บทที่ 5 การผลิตพืชผักในปริมาณมาก



บทที่ 5 การผลิตพืชผักในปริมาณมาก

“หลังจากที่ใส่ต้นกระเทียมของพันธุ์ใหม่ที่คุณส่งให้เรา เป็นเครื่องปรุงในจานอาหาร คุณภาพของอาหารก็ดีขึ้น เลยค่ะ”เฉินเจียนั่งลงที่ลานหน้าบ้าน พลางสอดส่องมองดู รอบๆของลานบ้านอันทรุดโทรม แล้วพูดขึ้นมาว่า”มะเขือ เทศก็เหมือนกัน ทำให้กิจการที่ร้านฝูหมั่นโหลวดีขึ้นมา ฉะนั้นที่ฉันมาในวันนี้ ฉันต้องการมาดูว่าผู้เชี่ยวชาญคน ใดกันที่สามารถพัฒนาส่วนผสมที่สำคัญได้ขนาดนี้”

“เซี่ยหยาง คุณจบคณะเกษตรศาสตร์หรอคะ? “ไม่รอ ให้เซี่ยหยางเอ่ยปาก เฉินเจียก็ถามต่อ

“ไม่ใช่ครับ ตั้งแต่ตอนม.ปลาย ผมก็ชอบที่จะศึกษาวิจัย พืชผลพวกนี้อยู่แล้ว”เซี่ยหยางอาศัยตอนที่รินน้ำชาหนึ่ง แก้ว พูดขึ้น

“ฉะนั้นผมพึ่งสอบตก และเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้

“ด้วยทักษะที่คุณมีในตอนนี้ ถ้าไปเรียนมหาวิทยาลัย คงจะเสียเวลาเปล่า”เฉินเจียพูดอย่างยิ้มๆ

หลังจากพูดคุยกันไม่กี่ประโยค เซี่ยหยางก็วิ่งไปที่มุม หนึ่งของลานหน้าบ้านเพื่อเก็บแตงกวาสองสามลูกที่ สองวันก่อนเขาใช้น้ำแร่จากโลกแผ่นหยกรดน้ำ ล้างให้ สะอาดแล้วจัดวางใส่จานยกไปที่โต๊ะ พูดขึ้นมาว่า “ที่
บ้านนอกไม่มีผลไม้ดีๆอะไรต้อนรับ กินแตงกวาฬบ

กระหายให้เย็นชื่นใจก่อนนะครับ”

พูดจบ เซี่ยหยางก็หยิบแตงกวาเรียวยาวขนาดใหญ่ ขึ้นมาเริ่มกัดกินเสียงดัง’กร๊อบๆ’ขึ้น เมื่อวานเขาเคยลอง ชิมดูแล้ว น่าแปลกมากเขาตกใจกับความหวานอันเป็น เอกลักษณ์นี่ ในเวลานี้ถึงเขาจะอยู่ต่อหน้าสาวสวยคน หนึ่ง เขาก็ขี้เกียจจะรักษาภาพพจน์อะไรแล้ว ใช้เวลาไม่ นานก็จัดการแตงกวาจนเกลี้ยง หลังจากนั้นก็ล้วงบุหรี่ขึ้น มาจุดสูบอย่างสบายใจ

“อิๆ ดูคุณกินสิ อร่อยขนาดนั้นเลยหรอคะ? “เฉินเจีย ยื่นมือไปหักแตงกวาครึ่งหนึ่ง แล้วกัดคําเล็กๆ รสชาติ หอมหวานสดชื่นแทรกซึมเข้ามา กรุบกรอบเป็นอย่างมาก กลับเป็นรสชาติอร่อยที่ไม่เคยลิ้มรสมากก่อนเลย!

ทันใดนั้นเฉินเจียก็ลืมท่าทางการกินไปชั่วขณะ เก็บ กวาดแตงกวาหมดไปในชั่วพริบตาเดียวเช่นกัน หลัง จากนั้นก็ยื่นมือไปหยิบส่วนที่เหลือ เงยหน้าขึ้นมาก็ มองเห็นเซี่ยหยางกำลังจ้องริมฝีปากอันจิ้มลิ้มของตัว เองอยู่ ใบหน้าของเธอแดงเป็นระเรื่อ แล้วพูดอย่าง ยิ้มแห้ง”แตงกวาปลูกได้อร่อยมาเลยค่ะ ฉันไม่เคยกิน แตงกวาที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย นี่ถือว่าเป็นพันธุ์ใหม่ ไหมคะ? ”

“ใช่ครับ นี่คือสายพันธุ์ใหม่”เซี่ยหยางเกาหัวแกรกๆอย่างเขินๆ

“ผลิตในจำนวนมากได้ไหมคะ? “ไม่รอให้เซี่ยหยาง พูด เฉินเจียก็เปิดปากพูดขึ้นมาอีกว่า”ถ้าแตงกวานี้คุณ สามารถผลิตในจำนวนมากได้ เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา!

“ได้ครับ หลังจากหนึ่งเดือนไปพวกคุณสามารถมาเก็บ ได้เลย”เซี่ยหยางคิดในใจชั่วครู่ จากต้นกล้าถึงการเก็บ เกี่ยว ใช้การกระตุ้นระยะเวลาหนึ่งเดือนก็น่าจะเพียง พอแล้ว”หรืออาจจะเร็วกว่านั้น”

“จริงหรอคะ! ? “เฉินเจียดีใจกับข่าวดีที่คาดไม่ถึง”งั้น ถือว่าเราตกลงกันแล้วนะคะ ขายให้ฉันได้แค่เจ้าเดียว เท่านั้น คนอื่นมาถาม คุณจะขายไม่ได้นะ ถ้าฉันพบว่า คุณผิดข้อตกลง จะตีนายละ!

“พูดคำไหนคำนั้นครับ”เซี่ยหยางพูดอย่างมีความสุข

ในตอนที่ทั้งสองพูดคุยกันนั้น ก็ลุกขึ้นเดินไปยังไร่ มะเขือเทศ พึ่งเดินไปถึง คนหลายคนก็เก็บเกี่ยวกันเสร็จ เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงบางส่วนที่ยังสุกไม่เต็มที่อีก เล็กๆน้อย

ครั้งนี้รวมกันทั้งหมดเจ็ดร้อยห้าสิบกิโล เต็มคันรถ คนที่ เป็นหัวหน้าเอาเงินออกมาหกหมื่นยื่นให้กับเซี่ยหยางไป หลังจากนั้นก็โบกมือลา ขนเอามะเขือเทศออกจาก หมู่บ้านตงเจียวไป

“เอ๋ เห็ดกับกวางตุ้งพวกนี้คุณเป็นคนปลูกเองหรอ? “ใน ตอนนี้เอง จู่ๆ เฉินเจียก็พบว่ามีผักปลูกอยู่ในทุ่งนาขนาด สองส่วนซึ่งอยู่ไม่ไกล รูปลักษณ์มันดูดีมาก เธอนั่งยองๆ แล้วลูบไล้และสังเกต ลำพังเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก ของมันก็มีค่ามากแล้ว

“ใช่ครับ นี่ก็เป็นพันธุ์ใหม่ครับ”เซี่ยหยางพูดพลาง หัวเราะไปด้วย

เฉินเจียยืนขึ้นยืดเส้นยืดสาย แล้วหัวเราะพูดขึ้นมา ว่า”งั้นวันนี้ก็เป็นบุญปากของฉันแล้ว! ”

“เอ้อนิ้ว อ่ะ เอากลับไปให้พ่อฉันทำกับข้าวสักสองสาม อย่าง”เซี่ยหยางเด็ดเห็ดออกมาหลายชิ้นกับผักกวางตุ้ง สองหัวยื่นให้หลี่เอ้อนิ้ว

หลี่เอ้อนิ้วรับผักสดมาถือไว้ เขากระซิบและหัวเราะ“พี่ หยาง เดี๋ยวผมไปซื้อเบียร์ที่ร้านขายของชำนะ มอมเหล้า ให้สาวสวยคนนี้เมาแล้วให้พี่จัดการดีไหม?

“ยุ้ย”เซี่ยหยางด่าแล้วเตะหลี่เอ้อนิ้วไล่หลัง”คนอย่างฉัน ยังต้องใช้วิธีต่ำๆแบบนี้อีกหรอ?”
เฉินเจียนานๆมาที่บ้านนอกหนึ่งครั้ง จึงให้เซี่ยหยางพา เธอเดินลัดเลาะริมแม่น้ำ เวลานี้ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว ปล่องควันทุกบ้านต่างพากันลอยคละคลุ้งออกมา ทั้งสอง เองก็เริ่มหิวขึ้นมาแล้ว พอเดินมาถึงลานหน้าบ้านพอดีกับ ได้กลิ่นหอมหวนที่ไม่อาจต้านทานได้ลอยฟุ้งออกมา

“หยางจื่อ พาสาวนี้เข้ามาล้างมือกินข้าวได้แล้ว”เซียซาน เข็นรถเข็นไปยังด้านนอกหมู่บ้าน พลางพูดขึ้นมาว่า”พ่อ ของเอ้อนิ้วบอกให้ฉันไปดื่มเหล้าที่บ้านเขา

“คุณลุงคะ ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นก็ได้ค่ะ”เฉินเจียมอง ไปที่เซี่ยหยาง แล้วพูดด้วยความเขินอาย พ่อของคุณขึ้ เกรงใจเกินไปแล้ว”

“เดี๋ยวผมจะขอกลับไปกินเหล้าให้พวกเขาก่อนนะ ครับ! “เวลานี้เองหลี่เอ้อนิ้วยกจานสุดท้ายมาวางบน โต๊ะ หัวเราะแล้วเดินตามหลังของเซี่ยซานไป เข็นรถของ เขาไปยังบ้านของตนเอง ในตอนที่ทั้งสองทํากับข้าวได้ ปรึกษากันแล้ว ว่าจะสร้างโอกาสให้กับเซี่ยหยาง

“คนในบ้านนอกล้วนพิธีรีตอง ไม่เป็นไรหรอกครับ” เซี่ย หยางพูดโต้แย้งเหตุผลอย่างไม่ใส่ใจ แล้วพูดขึ้นมา ว่า”เรากินข้าวกันเถอะครับ”
พออาหารเข้าปากไป เฉินเจียถึงกลับตกตะลึงไปเลย

เธอเป็นคนที่เปิดภัตตาคารระดับดาว เชฟที่อยู่ในมือก็ ล้วนแต่เป็นทีมชั้นนํา มีอาหารประเภทไหนบ้างที่เธอไม่ เคยกิน? อาหารชั้นเลิศที่เป็นอาหารป่าและอาหารทะเล ไหนที่เธอไม่เคยกินมาบ้าง?

แต่ ผัดผักธรรมดาๆในวันนี้ กับไก่ตุ๋นเห็น ทำให้เธอรู้สึก เปิดโลกทัศน์ไปเลย บนโลกนี้กลับยังมีผักที่อร่อยขนาดนี้ เชียวหรือ !

เฉินเจียรับรู้ได้ทันทีว่าไม่เกี่ยวกับเชฟ นี่เป็นรสชาติของ วัตถุดิบ การผัดให้สุกเป็นเพียงเพื่อปลดปล่อยรสชาติ ของตัวมันเองเท่านั้น!

เซี่ยหยางก็คิดว่ามันอร่อยมากเช่นกัน ทั้งสองไม่ได้พูด อะไรกันอีก กินอาหารที่อยู่บนโต๊ะจนเกลี้ยงภายในพริบ ตา หลังจากนั้นก็นั่งจิบชาพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้

“เซี่ยหยาง”

“หืม? ”

“แตงกวา ผักกวางตุ้ง เห็ด ทั้งสามอย่างนี้ผลิตในปริมาณ มากได้ไหม !? “เฉินเจียพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง”ฉันรู้ว่า คุณทำได้ ถ้าคุณขาดเหลืออะไรบอกกับฉันได้นะคะ”

“ผลิตได้ครับ”เซี่ยหยางจุดบุหรี่ แล้วพูดอย่างดีใจ ขอแค่ ราคาเหมาะสม

“แปลงผักสองส่วนนั้นที่เราเห็นตอนเช้าในไร่ ฉันขอ เดี๋ยวนี้นะคะ”เฉินเจียจับโทรศัพท์มือถือ แล้วพูดขึ้นมา ว่า“ตอนนี้ฉันจะโทรให้คนมาเก็บ คุณบอกราคามาได้เลย

“ตรงนั้นอย่างน้อยก็ต้องมีประมาณห้าร้อยกิโล”เซี่ย หยางแสร้งทำเป็นคิดคำนวณต้นทุน หลังจากนั้น ก็พูดขึ้น มว่า“ไม่ว่าจะประเภทไหน ผมขอขายมันในราคาหนึ่งร้อย หยวนต่อครึ่งกิโล

“ได้ ฉันเหมาหมดเลย แต่ว่า ถ้าฉันเอาไปแล้วขายไม่ดี คราวหน้าก็ไม่เอาแล้วนะ! “เฉินเจียพูดเพื่อให้เซี่ยหยาง เผื่อใจไว้ แต่เธอมั่นใจอย่างยิ่งว่าอาหารง่ายๆเหล่านี้ สามารถเปลี่ยนเป็นอาหารจานอร่อยต่างๆบนโต๊ะได้

“ไม่มีปัญหา”เซี่ยหยางพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ร้านฟู หมั่นโหลวที่เป็นภัตตาคารห้าดาว ในตัวอำเภอล้วนเต็ม ไปด้วยคนมีเงิน เขาไม่เชื่อว่าหากคนได้กินหนึ่งครั้งจะไม่ อยากลิ้มรสอีกเป็นครั้งที่สอง
รถกระบะสองคันที่เฉินเจียเรียกมาถึงหมู่บ้านตงเจียว อย่างรวดเร็ว มีคนหกเจ็ดคนเดินลงมาแล้วเริ่มยุ่งกับงาน ที่อยู่ในทุ่ง ผ่านไปสองชั่วโมงก็จัดการเก็บผักทุกอย่างจน เสร็จ พอชั่ง ก็ได้น้ำหนักทั้งหมดสี่ร้อยเจ็ดสิบห้ากิโล

หลังจากนั้น เฉินเจียก็ยื่นเงินสดหนึ่งแสนให้เซี่ยหยาง อย่างใจกว้าง

ในเวลาตอนเที่ยง เซี่ยหยางเพิ่งส่งเฉินเจียและคนอื่นๆ ไป หลังจากที่หลี่เอ้อนิ้วส่งเซี่ยซานกลับบ้านเพื่อพักผ่อน เขาก็รีบวิ่งไปหาเขาด้วยรอยยิ้มและถามไปว่า “พี่หยาง เป็นอย่างไรบ้าง? ”

“ไม่มีอะไร ตอนนี้เต็มที่ก็เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน เท่านั้น! “เซี่ยหยางพูด”ไปกันเถอะ วันนี้ยังเช้า เราไปจับ ปลาที่แม่น้ำกันเถอะ”

หลี่เอ้อนิ้วที่ได้ยินว่าจับปลาก็ดีดเหมือนกินยาชูกำลัง เข้าไป รีบวิ่งกลับบ้านไปเอาอุปกรณ์ หลังจากนั้นทั้งสอง ก็มาถึงริมแม่น้ำ สวมกางเกงในตัวเดียวแล้วเริ่มทำการจับ ปลาทันที

ทั้งสองจับปลากันจนถึงค่ำ จับปลาธรรมชาติมาทั้งหมด สิบกว่าตัวเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ปลาตะเพียนกับปลาคาร์พ อย่างละครึ่ง หลังจากที่เอาปลาทั้งหมดโยนเข้าไปในบ่อ ปลาที่พึ่งสร้างเสร็จ เซี่ยหยางก็ยื่นเงินให้หลี่เอ้อนิ้วห้านหยวน แล้วหัวเราะพลางพูดขึ้นมาว่า”เอ้อ นิ้ว เงิน นายเอาไปใช้ซะนะ ไปซื้อของให้ที่บ้านหน่อย ไม่มีเงินก็ให้บอกกับฉันนะ”

หลี่เอ้อนิ้วที่ยื้อยุดอยู่ครู่หนึ่งสุดท้ายก็รับเอาไว้ นี่ยิ่ง เป็นการตอกย้ำว่าทำงานกับพี่หยางสามารถสร้างรายได้ ได้จริง

ในวันที่สองหลี่เอ้อนิ้วจับปลาที่ริมแม่น้ำต่อ จับปลาที่ได้ ลงในบ่อปลาหมด เซี่ยหยางคอยยุ่งอยู่กับงานที่ไร่ เขา ขุดดินขึ้นมาจนหมด หลังจากนั้นก็หว่านเมล็ดผักกวางตุ้ง ลงไป ในคืนนั้นเขาก็ได้ตักน้ำในโลกแผ่นหยกออกมารถ ผักกวางตุ้งพวกนี้ เช้าวันที่สอง ก็มองเห็นเมล็ดผักกวางตุ้ง เริ่มงอกขึ้นมา สีเขียวอ่อนลอยสะบัดไปตามลม จนทำให้ เขารู้สึกดีใจมาก

คืนวันที่สาม เซี่ยหยางยุ่งมาก หลังจากที่เซี่ยหยางรีบ เข้าไปในโลกแผ่นหยก เพื่อยกน้ำจากในโลกแผ่นหยกเท ลงในบ่อปลา ยุ่งจนถุงดึกดื่น จนกระทั่งน้ำในบ่อปลาเป็น น้ำหนึ่งส่วนสี่มาจากน้ำในโลกแผ่นหยก เขานอนแผ่พัก ผ่อนแล้วสูบบุหรี่ในกระท่อม

ยังนอนไม่หลับก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวที่เหมือนมา จากริมแม่น้ำ เขาลุกขึ้นมาดู ก็เห็นชายสองสามคนแบก จอบวิ่งเข้ามาทางแปลงผักของตนเอง
“เจ้าฉาย ไป! “เซี่ยหยางตกใจมาก แบกท่อนไม้ขึ้นมา แล้วตามเจ้าฉายอยู่ด้านหลังจากนั้นวิ่งตามคนสองสาม คนไป

“โฮ่งๆๆๆ ! “ร่างกายของเจ้าฉายผ่านการชำระล้างมา จากน้ำแร่ในโลกแผ่นหยกมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว มัน เปลี่ยนเป็นแข็งแรงมาก รูปร่างสูงใหญ่เหมือนหมาป่า ลำพังแค่เสียงร้องก็สามารถทำให้คนที่ได้ยินขาข่าอ่อน แล้ว ชายสองสามคนคิดไม่ถึงว่าแปลงผักแห่งนี้จะมีสุนัข ที่โหดร้ายแข็งแกร่งขนาดนี้ ทำให้พวกเขาตกใจจนร้อง เสียงหลง โยนจอบเสียมทิ้งแล้ววิ่งไปหนีไป

“โฮ่งๆ! แฮ่! “เจ้าฉายรีบวิ่งไปขวางทั้งสามคนไว้ เวลานี้ เองเซี่ยหยางก็ตามมาทัน เห็นหน้าทั้งสามคนชัดเจน ชาย สองคนในนั้นอายุค่อนข้างน้อย อีกคนเป็นชายหัวโล้น อายุอานามมากเล็กน้อย เขาก็คือชายเลี่ยงชาวบ้านคน ของหมู่บ้านเกาตี้ที่อยู่ติดกัน

“โอ้ นี่คือชายเลี่ยงเถ้าแก่ช่ายไม่ใช่หรอกเหรอ? “เซี่ย หยางถือไม้ขึ้นมา แล้วมองไปที่ช่ายเลี่ยงอย่าง ติดตลก”ทำไมถึงได้เป็นหัวขโมยได้ล่ะ?

“โต้ม ! “ในตอนนี้เอง ชายหนุ่มอีกสองคนอาศัยจังหวะ ที่เซี่ยหยางไม่ระวัง กระโดดไปที่แม่น้ำเพียงพริบตาเดียว แล้วว่ายไปที่ฝั่งตรงข้ามอย่างบ้าคลั่ง
เจ้าฉายร้องเสียงดังด้วยความโกรธ ฉีกขาออกเตรียมจะ พุ่งลงน้ำเพื่อไล่ตาม

“เจ้าฉาย หยุดไล่ได้แล้ว! “เซี่ยหยางพูดออกไปหนึ่งคำ เจ้าฉายถึงได้เชื่อฟังและหยุดเท้าลง แล้วใช้สายตาจ้องม องชายเลี่ยงอย่างระมัดระวัง

“ลุงชาย ต้องขอโทษด้วยนะ! ”

“ไอ้หมาตัวนี้ทำกูตกใจหมด!”

ชายทั้งสองคนว่ายไปจนถึงที่ปลอดภัย จึงเริ่มแหกปาก อธิบายกับชายเลี่ยง หลังจากนั้นก็เงียบเพื่อรอเซี่ยหยาง ผลลัพธ์ของการแก้ไขปัญหา

ช่ายเลี่ยงเกลียดจนกัดฟันกรอด แล้วด่ากราดไป ว่า“ไสหัวไปซะ ไอ้พวกเด็กเวร!

“พูดมา มาแปลงผักฉันทำไม? “เซี่ยหยางยิ้มอย่างเย็น ชา แล้วถามกลับ

“แค่ผ่านทาง ยังจะทำอะไรอีก? “เห็นได้ชัดว่าช่ายเลี่ยง ไม่กลัวเด็กหนุ่มที่ยังไม่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ที่อย่างเขา จึง พูดขึ้นอย่างหน้าด้าน“ถ้าวูล์ฟด๊อกตัวนี้กล้ากัดฉันละก็ ฉัน ก็กล้าที่จะเข้าไปพักของพวกแกสักครึ่งปี”
“บหมา นี่คิดจะหลอกเงินจากผมอีกขั้นหรอ? “เป็น หยางพูดอย่างดูถูก คุกกี้อายุอานามมากขนาดนี้แล้วไม่ อายคนอื่นบ้าง ไงกัน? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ