แฟนทนายความของฉัน

ตอนที่ 5 เธอมองเหลียวหลัง



ตอนที่ 5 เธอมองเหลียวหลัง

ตอนที่ 5 เธอมองเหลียวหลัง

หนานจึงยิ้มทั้งน้ำตา “จริงหรือ นั่นแสดงว่าฉันยังมีโอกาส อยู่บ้างสินะ ที่กลับมาไม่เสียเที่ยวใช่ไหม?”

เป้ยฉ่ายเวยเอ่ยอมทีหนึ่ง

ตอนบ่ายที่พาหนานจึงออกไป เป้ยจ่ายเวยไม่ได้ขับรถ เพื่อให้เธอได้คุ้นเคยกับเมืองอวิ๋นอีกครั้ง ทั้งสองพูดคุยกัน อย่างสนุกสนาน ราวกับว่ากลับไปอยู่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยอีก ครั้งหนึ่ง พวกเขาเที่ยวกันอยู่จนกระทั่งตะวันตกดิน

หนานจึงบอกว่าเธอจะพักอยู่ที่นี่สัก 2-3 วันแล้วค่อยกลับ บ้าน เธออยากจะไปพักกับเป้ยจ่ายเวย เป้ยจ่ายเวยบอกว่า “เธอไปพักที่โรงแรมเถอะ ที่บ้านฉันตอนนี้รกมาก กลัวเธอจะรับ ไม่ได้”

“เกี่ยวอะไรด้วยล่ะ อีกอย่างฉันไม่เคยรังเกียจบ้านของเธอ สักหน่อย”

“เธอไม่รังเกียจ แต่ว่าฉันอายน่ะสิ” เบี้ยจ่ายเวยยิ้มไปพูด ไป เธอพาหนานจึงมาที่โรงแรม 4 ดาวแห่งหนึ่ง จ่ายค่าห้องไว้ ให้ 4 คืน หลังจากที่เธอส่งหล่อนเข้าห้องไปแล้ว เธอจึงขอตัว กลับ
เบี้ยจ่ายเลยเพิ่งออกจากโรงแรมก็รับสายทันที เจ๋อหยาง โทรมา “คุณมองมาข้างหลังสิครับ

เธอหันมองไปด้วยความสงสัย เห็นรถยี่ห้อ Maybach ของเจ๋อหยางจอดอยู่ริมถนน แถมยังเปิดไฟกระพริบทิ้งไว้ ด้วย หัวใจของเธอเต้นรัว เห็นหันซ้ายมองขวาก่อน แล้วจึงวิ่ง ออกไปอย่างรีบร้อน

หลังจากขึ้นรถแล้ว เป้ยจ่ายเวยถามว่า “คุณคงไม่ได้ สะกดรอยตามพวกเราตลอดทั้งบ่ายหรอกนะคะ?”

“ผมไม่ว่างขนาดนั้นหรอกครับ” เจ๋อหยางกล่าว พลาง ออกรถอย่างรวดเร็ว “ผมคิดว่าคุณน่าจะพาเธอมาพักที่โรงแรม นี้ หลังเลิกงานผมจึงผ่านมาดู รอสักพักเดียวพวกคุณก็มาถึง

เบี้ยจ่ายเวยเอ่ยอมทีหนึ่ง

เจ๋อหยางพาเบี้ยจ่ายเวยไปทานข้าวที่สวนอาหารแห่ง หนึ่งที่พวกเขาไปด้วยกันบ่อยๆ

วันนี้ไม่ใช่วันหยุด คนไม่มาก ทั้งสองรออยู่ด้านนอกไม่ นานก็ได้ที่นั่ง จากนั้นจึงนั่งลงแล้วสั่งอาหาร

“เท่านี้ก่อนคะ” เบี้ยจ่ายเวยเอาเมนูอาหารคืนให้พนักงาน เสิร์ฟ เมื่อหันกลับมาก็พบว่า เจ๋อหยางดึงกล่องเล็กๆ กล่อง หนึ่งออกมาจากในอ้อมแขน พลางซอมือเธอ

ขณะที่เบี้ยจ่ายเวยยื่นมือออกมานั้น เธอจ้องตาไม่กระพริบ นั่นคือสร้อยข้อมือเล็กๆเส้นหนึ่ง เป็นลายดอกไม้ ที่ปลายของสร้อยนั้นตกแต่งด้วยผลไม้หลายชนิดเป็นเอกลักษณ์ เธอเงย หน้าขึ้นมองเจ๋อหยางด้วยความตกตะลึง

“ให้ฉันหรือคะ?”

เจ๋อหยางเอ่ยอมเพียงคำเดียว “บังเอิญผมเห็นในร้าน คิดว่าคุณน่าจะชอบ ก็เลยซื้อมาให้ครับ

เบี้ยจ่ายเวยจับสร้อยข้อมือไว้แน่น ในใจรู้สึกดีใจมาก

แม้ว่าเธอจะอยู่กับเจ๋อหยางมา 3 ปีกว่าแล้ว แต่ว่าความ สัมพันธ์นั้นไม่ค่อยถูกต้องตามประเพณี เบี้ยฉ่ายเวยก็ไม่เคย คิดว่าเจ๋อหยางจะชอบเธอ เธอรู้ดีแก่ใจว่าเขาชอบหนานจิง ที่ เขายอมอยู่กับเธอก็เพื่อรักษาบาดแผลในใจเท่านั้น

แต่สําหรับเธอแล้ว เธอเต็มใจอย่างยิ่ง จึงใช้โอกาสนี้ได้ อยู่เคียงข้างเขา

เมื่อเห็นเบี้ยจ่ายเวยทำท่าดีใจราวกับเด็กน้อยได้ลูกอม นั้น เนื้อหยางจึงเอ่ยขึ้นว่า “ก็แค่สร้อยเส้นเล็กๆเส้นหนึ่ง ต้อง ดีใจขนาดนั้นเลยหรือครับ? ต่อไปเอาไว้ผมจะมีของขวัญให้คุณ อีก”

ต่อไป……

เป้ยฉ่ายเวยคิดถึงหนานจิงที่พักอยู่ในโรงแรมขึ้นมาทันที เธอรู้สึกละอายใจและเสียใจ แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “คุณ ค่อนข้างยุ่งมาก ยังอุตส่าห์เจียดเวลาไปซื้อของให้ฉัน นี่เป็น เรื่องที่ค่อนข้างยาก ทำไมจะไม่ดีใจละคะ?”
เจ๋อหยางยิ้มๆ จ้องมองเป้ยฉ่ายเวยด้วยสายตาอันลึกซึ้ง “ดังนั้นคุณก็เลยอยากจะขอบคุณผมหรือ?”

สายตาแบบนี้เป็นฉ่ายเวยคุ้นเคยเป็นอย่างดี เธอหน้าแดง ขึ้นมาทันที ก้มหน้าก้มตาหลบสายตาเขา

หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว เจ๋อหยางขับรถไปส่ง เบี้ยจ่ายเวย ขณะกำลังลงจากรถ เขาเอื้อมไปหยิบรองเท้าที่วาง อยู่เบาะด้านหลังส่งให้เธอ “วันนี้ผมว่าง เลยแวะไปเยี่ยมคุณ ร้าน ถึงแม้จะซื้อจากร้านของคุณเอง แต่ว่าเป็นเงินของผม

เป้ยจ่ายเวยส่งยิ้มให้เขา พลางส่งสายตา “คะ ทราบแล้ว คะ ทนายยอดเยี่ยมเลยคะ

เจ๋อหยางมองเธอแวบนึง แล้วปลดเข็มขัดนิรภัยออก เอนตัวลงไปจูบเธอ

รอยจูบนี้เกิดขึ้นกะทันหัน เบี้ยจ่ายเวยมีสีหน้างงๆ มือทั้ง สองข้างโอบไหล่เขาไว้อัตโนมัติ ตอบสนองอย่างเร่าร้อน ภายในรถมีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่ ท่วมท้นไปด้วย อารมณ์หอมหวาน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ