แฟนทนายความของฉัน

ตอนที่ 3 พวกเราไม่เกี่ยวข้องกัน



ตอนที่ 3 พวกเราไม่เกี่ยวข้องกัน

ตอนที่ 3 พวกเราไม่เกี่ยวข้องกัน

แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไงล่ะ?” หนานจึงรู้สึกไม่ค่อย พอใจ วางตะเกียบลงแบบกระแทกกระทั้น “พ่อแม่ของฉันก็เป็น เจ้าหน้าที่ระดับสูง มีหน้ามีตา ถ้าเกิดฉันอุ้มลูกสาวกลับมาด้วย ใครเห็นก็ต้องหัวเราะเยาะนะสิ?”

“เวยเวย เราสองคนก็เป็นเพื่อนรักกันมานานแล้ว” หนาน งดึงมือของเป้ยจ่ายเลยมา พลางออดอ้อนขอร้องให้เธอช่วย “เรื่องนี้จะให้พ่อแม่ของฉันรู้ไม่ได้เป็นอันขาดนะ รวมถึงอาเจ๋อ ด้วย ได้ไหม?

“ฉันรู้ว่าทีแรกถ้าไม่ใช่เพราะอาเจ๋อบอกเลิกก่อน ฉันคงไม่ โกรธจนหนีออกนอกประเทศไปแบบนั้นหรอก จนเรื่องบาน ปลายขนาดนี้ แต่ว่าฉันชอบเขาจริงๆนะ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ เลิกกับเจมส์เพื่อกลับมาหาเขาหรอก เวยเวยขอร้องละนะ เรา ทำดีที่สุดแล้ว ตอนอยู่มหาวิทยาลัยเธอก็ช่วยฉันมาตลอด ครั้ง นี้เธอก็คงไม่ปฏิเสธใช่ไหม?

เบี้ยจ่ายเวยเงยหน้าขึ้น มองสายตาที่เต็มไปด้วยความ หวังของหนานจิง ที่เหมือนกับตอนที่อยู่มหาวิทยาลัย

ตอนที่เพิ่งจะขึ้นชั้นปี2หนานจึงบอกว่า อีกหน่อยจะพาเปีย จ่ายเลยไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน ไปทุกๆที่เพื่อเก็บความทรงจำของพวกเขาไว้ เธอยินดีจะให้เบี้ยจ่ายเวยมีส่วนร่วมในชีวิต ทุกๆเรื่อง แต่ยกเว้นเจอหยางเรื่องเดียว

“ฉันคลั่งไคล้ผู้ชายคนนี้มากเลยล่ะ!” เธอพูดถึงแฟนขึ้นมา ใบหน้าของหนานจิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ดังนั้นฉันคงแบ่งอา เจ๋อให้เธอไม่ได้หรอกนะ เวยเวย เธอคงไม่คิดจะแย่งเขาไปจาก ฉันหรอกนะ?”

ในตอนนั้นเป้ยจ่ายเวียงุนงง แล้วจึงยกมือขึ้นทำท่า สาบาน พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “เธอสบายใจได้ ถ้า เกิดฉันแย่งผู้ชายของเธอละก็ ขอให้ฟ้าผ่าเลย จนวันที่พวกเธอ แต่งงานกัน ฉันจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้คนแรก!

หนานจึงมองเป้ยจ่ายเวย แล้วยิ้มหน้าบานพลางกล่าวว่า “เธอสาบานทำไมกัน จริงจังอะไรขนาดนั้น ฉันก็แค่พูดเล่น ฉันรู้ ว่าเธอคงไม่ทำแบบนั้นหรอก ฉันรู้จักเธอดีน่า

เบี้ยจ่ายเวยคิดอยู่เงียบๆ หนานจึงเข้าใจเธอ แต่ไม่เข้าใจ ความรักที่เธอมีต่อเจ๋อหยางว่ามากมายแค่ไหน

ในชั้นเรียนหนานจึงแอบเอารูปใบหนึ่งส่งให้เบี้ยจ่ายเวย ดูในห้อง ตอนนั้นเธอบอกว่าเธออยากจะตามจีบคนคนนี้ คนใน รูปเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่ คิ้วตาคมเข้ม ทำให้เบี้ยจ่ายเวย ตกหลุมรักในทันที

หนานจึงเป็นนักเรียนทุนอันดับ 1 สาขาวิทยาศาสตร์ ประจำจังหวัด เธอหน้าตาดีจนผู้ชายเกือบครึ่งโรงเรียนดอย ตามเธออยู่แทบทุกวัน แต่ว่าเธอเขียนไม่ค่อยเก่ง เธอใช้ความพยายามสุดความสามารถที่จะเขียนจดหมายรัก แต่สุดท้าย ต้องให้เบี้ยจ่ายเวยช่วยทุกครั้ง

“เวยเวย เธอแต่งเพลงในสตูดิโออยู่บ่อยๆ ไม่ใช่หรือ เธอ ต้องเก่งเรื่องเขียนแน่ๆ เธอช่วยฉันหน่อยนะ!”

สําหรับเพื่อนรักอย่างเธอ เป้ยฉ่ายเวยไม่ปฏิเสธอย่าง แน่นอน เธอช่วยหนานจึงแต่งจดหมายอยู่ทั้งคืน ที่บอกว่าช่วย หนานจิง แต่ความจริงเนื้อหาในจดหมายนั้นพรรณนาถึงความ รู้สึกจากใจจริงของตนที่ซ่อนเร้นเอาไว้ แต่ไม่มีใครรู้

นอกจากจดหมาย เป้ยจ่ายเวยยังช่วยหนานจึงวางแผน

ด้วย เวลาไม่ถึง 1 เดือน หนานถึงก็จับมือถือแขนเจ๋อหยางมา อวดต่อหน้าเบี้ยจ่ายเวย พลางยิ้มหน้าระรื่น “เวยเวย ฉันขอ แนะนำหน่อย นี่แฟนฉันเอง เจ๋อหยาง”

“เวยเวย เวยเวย?”

หนานฉิงใช้มือเขย่าเบี้ยจ่ายเวยให้ตื่นจากภวังค์ ร้อง ตะโกนแบบใส่อารมณ์นิดๆ “เธอช่วยฉันคิดหน่อย อย่าเพิ่ง ใจลอย ใส่ใจฉันบ้างไหมเนี่ย?!

“เออ เออฉันกำลังคิดถึงเรื่องที่ร้านอยู่นะ” เบี้ยจ่ายเลยตื่น จากภวังค์ รีบส่งยิ้มให้หนานจิงทันที “เอาสิ

“จริงหรือ?” หนานจึงดีใจเนื้อเต้น หอมแก้มเป้ยจ่ายเวย หนึ่งครั้ง “เวยเวย ฉันรักเธอ! เออนี่ ที่ทำงานของอาเจออยู่แถว นี้หรือเปล่า พวกเธอ2-3ปีมา นี้ได้ติดต่อกันบ้างไหม?
ฉันยังจะตาย ไม่มีเวลาติดต่อเขาหรอก” เบี้ยจ่ายเวย บอก พลางคืบเนื้อปลาใส่ในชามของหนานจิง “อีกอย่างตอนนี้ เขาโด่งดังแล้ว รับคดีก็ตั้งมากมาย คงจะยุ่งมากเลยนะ

“ฉันคิดว่าพวกเธอยังติดต่อกันอยู่เสียอีก ฉันอยากจะขอ เบอร์เขากับเธอสักหน่อย!” หนานจึงเบ้ปาก “ช่างเถอะ ฉันก็มี ติดต่อเพื่อนที่มหาวิทยาลัยอยู่บ้าง เอาไว้ฉันค่อยขอจากเขาละ น

เป้ยจ่ายเวยตอบรับแค่ม

จากนั้นหนานจิงก็คุยเรื่องสัพเพเหระกับเบี้ยจ่ายเวยต่อ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ