บทที่ 14 การทดสอบของผู้บังคับบัญชาอันดับสอง
ตอนนี้คือแปดโมงเช้า ผมคิดว่าเยฉันน่าจะตื่นแล้ว อย่างที่คิด เสียงรอสายดังไปสองวินาที เฉันก็รับแล้ว “เจ้าตัวแสบ คิดถึงฉันเร็วจังเลยนะ? ”
“มีหรอ? ” ผมแสร้งพูดแบบลึกลับไปว่า “อื้ม? ” เสียงของเฉันรีบลงไปเลย มีความจริงจังเล็ก น้อยว่า : “ไม่คิดถึงหรอ? ”
ผมฉีดยิ้ม แล้วพูดว่า : “ไม่ใช่คิดถึงเร็ว คือคิดถึงทุกๆ วินาที
เสียงโทรศัพท์ด้านในมีเสียงหัวเราะ เฉันพูดว่า “เจ้าตัว
แสบ นายว่า นายคิดถึงฉันทุกๆวินาทีอะไร? ”
ผมส่ายหัวแบบช่วยไรไม่ได้ไม่กล้าคิดเลยเย่นตอนยังวัยรุ่น จะเป็นยังไง ?
บางที อาจจะคล้ายผมกับเสี่ยวเฟย ประมาณนั้น ?
“เจ้าตัวแสบ เป็นอะไรไปไม่พูดอีกแล้ว ? ” เฉันพูดขึ้นมา
อีก
“กําลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวจะออกไปทำงาน” ผมใส่เสื้อผ้า อยู่จริงๆ เวลานี้ก็ควรที่จะเตรียมตัวไปที่ทำงานแล้วเหมือนกัน
“โอเคร
*รอแปบ
งั้นไม่รบกวนนายละ
ยังไม่ได้ถามเรื่องนั้นเลย ผมก็ไม่สามารถ
วางสายได้ ” พี่ เธอให้น้องผมไปออดิชั่นหรอ? ” “ใช่แล้ว ยิ้ม? ไม่ใช่ ” เฉันรีบเปลี่ยนคำพูด แล้วรีบ ถามผมว่า : “นายยังไม่ได้บอกน้องสาวนายหรอ ว่าวันนี้มา ออดิชั่นอะ? ”
“อืม ผม…. ผมลืมไปเลย” ถึงแม้น้ำเสียงสงสัยจะเป็นผมที่ แกล้งทําออกมา แต่ผมก็ลืมไปเลยจริงๆ
“หม รู้อยู่แล้วว่านายจะลืม เพราะฉะนั้นเมื่อคืนฉันได้ส่ง ข้อความให้น้องสาวนายแล้วว่าให้เธอตอนเช้ามาออดิชั่นงาน เยฉันพูดแบบนี้ทำให้ผมวางใจขึ้นมาหน่อย ในเวลาเดียวกัน มันก็ทำให้ผมรู้ว่า ตะกี้เธอกำลังทดสอบตัวผมอยู่
ลองคิดดู ทั้งๆที่เฉินได้ส่งข้อความให้เสี่ยวเฟยไปออดิชั่ นงานแล้ว แต่กลับใช้น้ำเสียงแบบนั้นถามว่าผมได้บอกน้อง สาวผมไหมว่าให้ไปออดิชั่นงาน?
หึมทั้งๆที่อยากให้ว่าผมจะตอบสนองยังไง ดีนะผมได้ เตรียมพร้อมไว้ก่อน
กับเย่นต้องค่อยระมัดระวังไว้ค่อยรับมือกับเธอ ไม่งั้น ไม่ทันระวังก็เกมโอเวอร์แน่เลย
“ทำไมไม่พูดอีกแล้วละนาย ? ” เยฉันพูดขึ้นมาในโทรศัพท์อีก ครั้ง
ผมจงใจอยู่แล้ว
“ไม่มีไร กำลังจัดคอปกอยู่ เตรียมจะออกจากไปละ
ตะกี้พี่พูดอะไรนะ? ” ผมต้องแกล้งทำเป็นไม่สนใจเรื่องที่น่าสาว จะแคสงานเป็นนางเอก แบบนี้ถึงจะได้ไม่ให้เฉันมีโอกาส สงสัยได้
“โอเคร ไม่มีอะไร ฉันก็จะออกจากบ้านแล้ว ไว้คุย กัน “เฉันพูดมาแบบนี้ และคำพูดดูใจเย็นๆ แต่ผมได้ยิ้ม อยู่ว่ามีเสียงหัวเราะ
ดูเหมือนว่า ทุกอย่างจะอยู่ในกำมือผม ไม่เลวเลย
“อืม ไว้คุยกันนะพี่ บาย
“บาย ”
วางสายจากโทรศัพท์แล้วผมก็ออกจากบ้านเลย นี้ถึงเวลาที่ผมต้องออกไปทำงานพอดีเลย
ถึงที่ทำงานแล้ว ผมพบว่าผู้บังคับบัญชาอันดับสองของ หน่วยเฉินหลานกำลังนั่งโต๊ะทำงานของผมจ้องมองคอมพิวเตอร์ ของผมอยู่นาน
แปลกจัง ผู้บังคับบัญชาอันดับสองของหน่วยคนนี้มานั่งที่ ของผมทําไม ?
ยังไม่รอผมถามอะไร เฉินหลานเห็นผมสักก่อน แล้ว
โบกมือเรียกผมแล้วพูดว่า : หลี่เจิ้ง รีบมาดูให้ฉันหน่อย ดิสก์ U ของฉันเหมือนจะโดนไวรัสอะ
ดิสก์ โดนไวรัส เป็นสงสัย ผมก็เดินขึ้นเพราว่า เฉินหลานอย่าง น้อยก็เป็นบังคับบัญชาอันดับสองของหน่วย ผมเรื่องด้วย ไม่ได้
พี่หลาน แล้ว แล้วจะเป็นบังคับบัญชาอันดับสองของหน่วยงาน ดังผมควรจะเรียกว่าหลาน
แต่ว่า เฉินหัวใจจมทันที หรือว่าผมพูดอะไรไปหรอ? “หลี่เจิ้ง ตอนนายเท่าไหร่
ผมรู้สึกได้เมื่อก่อน ผมเรียกเธอพี่ส่วนเธอ
เรียกผมว่าเสี่ยวหลี แต่วันนี้ เธอกลับเรียกชื่อเต็ม? สัญชาตญาณบอกผม เรียกชื่อเต็มๆ ใช่แค่บังเอิญ
แน่
แต่ในเวลาผมไม่ข้างในอะไรซ่อนอยู่ แต่ว่า ผมคิดไม่นาน
น่าจะเร็วๆ นี้
“พี่หลาน ทำไมอยู่ดีถึงถามอันนี้? ปีนี้อายุ 24คงไม่ใช่จะแนะนำผู้หญิง ให้ผมหรอนะ ? ” ภายใต้การจ้องมอง ของเฉินหลานมีความหมายบางอย่าง ผมยิ้มรับแล้วตอบไป
เฉินหลานยิ้มจางๆครั้งหนึ่ง และก็ไม่ได้พูดอะไร หันไป แล้วที่คอมพิวเตอร์ว่า : “ดิสก์ U ของฉันเป็นอะไรไม่รู้ไม่อ่าน เอกสารเลย ฉันฟังเพื่อนร่วมงานว่าเธอชำนาญด้านนี้ ดังนั้น เลยมาให้เธอช่วยดูหน่อย
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ในใจผมรู้สึกโล่งไปเลย ไม่ได้โม้นะ
เรื่องคอมพิวเตอร์ผมมีการวิจัยหลายๆอย่างถ้าไม่ใช่ให้เขียน โปรแกรมพวกนั้นก็พอ ปัญหาปกตินั้นผมก็เอาอยู่
ผมยังไม่ทันได้คิดอะไรเยอะเลย เฉินหลานน่าจะมาหาผม
เพียงเพราะปัญหาของดิสก์
แต่ว่าน่าเสียดาย
ที่จริงๆแล้ว
ผมคิดผิดไป
ผมพึ่งยื่นมือไปกดเมาส์ที่หน้าดิกส์ U บนจอคอมพิวเตอร์ จากนั้นได้ยินที่เฉินหลานพูดว่า : “เป็นยังไง คุยกับเยฉันเป็น ยังไงบ้าง? ”
ผมได้ยินคำนี้แล้วรู้สึกมีอะไรบางอย่างผิดปกติ ทำไมอยู่ดีดี เฉินหลานถามถึงเยฉัน?
และในตอนนี้ เฉินหลานนั่งอยู่ ผมยืนอยู่ข้างๆเธอแล้ว เอียงตัวลงไปดูหน้าจอคอมพิวเตอร์
ได้ยินที่เธอพูดแล้ว ผมหันกลับไปมองเธออย่างอัตโนมัติ
แค่แวบหนึ่งไปเหลือบไปเห็น อกขาวที่น่าหลงใหลของเฉินหลาน
ผมสาบานได้เลยว่าผมไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นรีบหันหน้ากลับไป
มองที่หน้าจอคอมอีกครั้ง
อาจเป็นเพราะท่าทางผมดูจนใจเกิน เฉินหลานเลยถามขึ้น ว่า : “ทำไมหรอ? ”
ในใจผมรีบตื่นเต้น ชัดเจนที่ผมหันหน้ากลับไปอย่าง กะทันหันทำให้เฉินหลานรู้สึกได้แล้ว
ถึงแม้คำพูดของเฉินหลานจะดูเย็นชาแต่ว่าผมก็ยังจะดูเกรงๆ
“ไม่มีไร ดิสก์ โดนไวรัสแล้วจริงๆ เดียวผมล้างไวรัสให้
คุณแปบนะครับ” เฉินหลานไม่ได้พูด ดูเหมือนจะจ้องมองหน้าผมอย่างเดียว
แน่นอนผมแค่เดา เพราะว่าผมกำลังดูจอคอมอยู่ ไม่
สามารถสังเกตสายตาและสีหน้าของเฉินหลานได้
แต่ว่า เพราะผมกับเฉินหลาน ในตอนนี้ชิด ใกล้กันมาก นั้น ผมสามารถได้กลิ่นน้ำหอมจางของบนตัวเธอได้
ดัง
ดูเหมือนจะเป็นน้ำหอมมาจากเยอรมัน ของแพ งแพงแบบนั้น เพราะผมมักไปเดินช้อปร้านเครื่องสำอางกับเสี่ยวเฟย ดังนั้น ผมเลยรู้จักน้ำหอมนิดหน่อย
ผ่านไปไม่นาน ดิสก์ก็ซ่อมเสร็จแล้ว ผมหันกลับไป……
ผมหันกลับไปพบว่า เฉินหลานกำลังจ้องมองผมอยู่ และสองดวงตานั้นมีแสงสว่างที่ผู้ชายรู้กันหมดว่ามันหมายความว่า ไง
แต่แค่พริบตาเดียวเฉินหลานเห็นว่าผมหันกลับมาก็รีบเปลี่ยน
สีหน้าถามว่า : “ซ่อมเสร็จแล้วหรอ ?” “อืม ซ่อมเสร็จแล้ว ” แน่นอนผมทำท่าพยักหน้าอย่างจริงจัง ตอบไป ในตอนนี้ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร ไม่งั้นผมกับ
เฉินหลาน มองหน้ากันไม่ติดแน่
แน่นอน ผมก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ถ้าให้เฉินหลานผู้บังคับ บัญชาอันดับสองของหน่วยมองหน้าไม่ ผมละก็ ผมซวยแน่ๆ
และต่อมา ผมรู้สึกชัดเจนเลยว่าดวงตาที่สืบอะไรสักอย่างของ เฉินหลานปรากฏขึ้นแล้วสลายไปในพริบตา ผมยืนยังว่าผมไม่ ได้มองผิด
และเฉินหลานก็ยังไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็เอนตัวไปถึง ดิสก์ปออกจากตัวคอมลงมา ในตอนนี้
ผมก็ไม่ทันระวังไปมองเห็นอกใหญ่สีขาวน่าหลงใหล
ผมไม่ได้จงใจจริงๆ แต่ผมรู้สึกเฉินหลานจงใจ เพราะว่า
ผมยืนอยู่หน้าคอม เธอที่เป็นถึงผู้บังคับบัญชาอันดับสองของ หน่วยสามารถสั่งให้ผมหยิบดิสก์ U ให้เธอได้เลย หวังว่าผม จะคิดมากไปเองนะ จริงๆ เยฉันก็ทำให้ผมปวดหัวแล้ว ถ้ายัง จะมีคนแบบที่จะทำงานอยู่ด้วยกันมองหน้ากันทุกวันแบบผู้บังคับ
บัญชาอันดับสองหน่วยอีกละก็ ถึงตอนนั้นผมเครียดแน่
และก็ผมจะหักหลังเสี่ยวเฟยอีกไม่ได้แล้วเด็ดขาด
“หลี่เจ๋ง คืนนี้ว่างไหม ? ” เฉินหลานยืนขึ้นแล้วถามผม
กระทันหัน
ผมนิ่งไปพัก จะชวนผมออกไปอีก
?
“คืนนี้ ? ” ผมทําเป็นคิดสักพัก จากนั้นใช้น้ำเสียงลังเลว่า :
“วันนี้รู้สึกว่าต้องไปวันเกิดเพื่อนคนหนึ่ง ทำไมหรือ พี่ หลาน ? ”
“ไม่เป็นไร ” เฉินหลานพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ สีหน้าที่เปลี่ยน เป็นผู้บังคับบัญชาอันดับสองของหน่วยที่ควรมี และยัง แสดงออกความเยือกเย็นนิดๆ
“ข้างบนมีงานเลี้ยง กะว่าจะเรียนนายไปพร้อมกัน แต่ถ้า นายมีธุระก็ช่างเถอะ ” เฉินหลานพูดขึ้นมาอีก เหมือนกำลัง อธิบายอยู่
“เป็นแบบนี้หรอ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ พี่หลาน
“ไม่เป็นไร นายยุ่งของนายเลย ฉันกลับโต๊ะทำงานละ เฉินหลานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาตัดคำพูดที่ผมจะพูดต่อแล้ว หันกลับไปเดินออกจากประตู
ผมยืนมองแผนหลังของเฉินหลาน แต่ว่าไม่ใช่ดูหุ่นที่น่า หลงใหลมีเสน่ห์ แค่มองดูแผนหลังของเฉินหลานที่จางไป
ในขณะเดียวกันผมก็คิด ตะกี้ผู้บังคับบัญชาอันดับสองของหน่วยพูดถึงเฉินหรือว่า
รู้เรื่องระหว่างผมกับเย่นแล้ว?
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงละก็ เกรงว่า
ผมจะมีปัญหาแน่
เพราะว่า ผมกับเฉันไม่อย่าให้ใครรู้ถึงความสัมพันธ์ ระหว่างเราสองคนเลย ต้องทราบว่าทุกวันนี้ข่าวลือในสังค มนี้ค่องข้างที่จะปวดหัวมาก
แต่ว่า ในขณะเดียวกันผมก็คิดว่า : เฉินหลานน่าจะเห็นวันนั้นที่ สงสัยขึ้นมา
ทานข้าวด้วยกันแล้วผมส่งเฉันกลับบ้าน ดังนั้นถึงได้เกิด
ถ้าเป็นแบบนี้ละก็
เฉพาะ
วันนี้เฉินหลานจงใจมาทดสอบผมโดย
ส่วน เฉินหลานคิดที่จะทำอะไรนั้น ผมไม่ต้องเดาก็รู้แล้วว่า คราวก่อนเธอได้ชวนผมหลายรอบแล้ว ถึงแม้ทุกครั้งผมจะ หาเหตุผลปฏิเสธไปหลายรอบ แต่ว่าเห็นได้ชัดว่า ผู้บังคับ บัญชาอันดับสองของหน่วยนั้นก็ยังไม่ยอมล้มเลิก
ธรรมชาติแล้วผู้ล่าเยื้อก็จะเริ่มก่อน แต่สำหรับผู้หญิงที่อยาก จะให้ล่าละก็ ก็จะเป็นการเริ่มล่าก่อนอย่างสูง พอดีเฉิน หลานก็เป็นผู้หญิงแบบนี้
ช่างเถอะ อย่าพึ่งสนเฉินหลาน เลยทำงานของตัวเองก็แล้ว รอฟังข่าวดีผลออดิชั่นของเสี่ยวเฟยดีกว่า
เวลาพักกลางวัน ข่าวดีมาแล้ว
“ที่รัก ฉันออดิชั่นผ่านแล้ว เซ็นสัญญาเป็นนางเอกแล้วนะรักคุณน่ะจ๊ปๆๆ ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ