บทที่ 4 สิทธิพิเศษที่แสนน่ากลัว
โรงแรมเทียนเฉิง ภายในห้องของท่านประธาน
เฉินหยุนที่แต่งกายทันสมัยหรูหรา กำลังนั่งอยู่บนโซฟาอย่าง สง่างาม สีหน้าท่าทางใจดีมีเมตตาแถมดูเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เล็กน้อย พอเธอได้รับข้อความจากลูกชาย ก็ลุกขึ้นมานั่งตรง ทันที
“ลูก คิดออกแล้วใช่ไหม?
“แม่ ผมรู้ดีว่าทายาทที่อยู่ในใจของแม่ไม่ใช่ผม ผมก็ไม่อยาก จะไปแก่งแย่งกับพวกเขาเหมือนกัน แม่วางใจได้เลย ผมแค่ อยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบๆสักหน่อยเท่านั้น แม่เข้าใจใช่ไหม?
เฉินหยุนถอนหายใจออกมา อารมณ์ซับซ้อนไม่น้อย
“แม่เข้าใจ วางใจเถอะ ไม่ว่าลูกจะตัดสินใจยังไง แม่ก็จะ สนับสนุนลูก”
จูหมิงในใจอึ้งตะลึงไม่น้อย ผู้หญิงคนนี้พูดจาดีแบบนี้ตั้งแต่ เมื่อไรกัน? เขารู้สึกไม่เข้าใจ
เฉินหยุนพอเห็นเขาสีหน้ามึนงง ก็ยิ้มอย่างสวยงามออก มา“ลูกเอ๋ย ลูกก็เป็นหัวใจของแม่เหมือนกัน จะไม่ให้แม่เป็นห่วง ลูกได้ยังไงล่ะ? แถมลูกเชื่อฟังขนาดนั้น ไม่อยากเป็นทายาท สืบทอดต่อ แม่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่สนับสนุนลูก”
คำพูดนี้พูดจนจูหมิงขอบตาเริ่มร้อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัส ได้ถึงความรักของแม่ที่มากมายขนาดนี้
“ได้ แม่ แม่ช่วยผมอำนาจคืนกลับมาเป็นเหมือนเดิมก็แล้ว
อำนาจของลูกหลานของตระกูลจูน่ากลัวแค่ไหน เขารู้ดี ตระกูลจูแทบจะเป็นตัวหลักตัวสำคัญในด้านเศรษฐกิจเกือบครึ่ง หนึ่งของทวีปเอเชีย ใช้คำว่ามีทรัพย์สินเทียบเท่าทรัพย์สินระดับ ประเทศมันยังน้อยเกินไป ขอแค่เอ่ยชื่อตระกูล ก็สามารถทำให้ รถไฟหยุดวิ่ง เครื่องบินหยุดบินได้แล้ว ต่อให้เป็นตระกูลที่ ตระกูลหลินพยายามประจบสอพลออย่างสุดชีวิตนั่น ในสายตา ของตระกูลจูก็เป็นแค่ฝุ่นเท่านั้น
“ได้สิ แต่ลูกต้องรู้นะว่า การเอาอำนาจกลับคืนมาเหมือนเดิม นั้นมันจะก่อให้เกิดอะไรขึ้น เพื่อให้พวกเขาสบายใจ แม่คิดวิธีดีๆ ออกแล้ว แม่จะถือว่าเป็นการทดสอบลูกก็แล้วกัน”
“ทดสอบ? วางใจได้ แม่ ผมจะต้องทำให้สำเร็จแน่นอน!
จูหมิงยิ้มมุมปาก ขอแค่ให้หลินเสี่ยวเขือมีความสุข การ ทดสอบแบบนี้สําหรับเขาแล้วถือเป็นเรื่องกล้วยๆ
หลังจากที่รอจูหมิงกลับไปแล้ว เฉินหยุนก็โทรศัพท์ออกไป “พ่อ จัดการตามคําสั่งของท่านแล้วค่ะ”
“ทำได้ดีมาก ท่ามกลางลูกหลานทั้งหมด จูหมิงเหมือนกับฉัน มากที่สุด ลูกจำไว้นะ ไม่ว่าจะเป็นยังไง ก็ต้องพาเขากลับมาให้“วางใจได้ อีกไม่นานค่ะ! “เฉินหยุนมุมปากยิ้มอย่างเย้ยหยัน
หลังจากผ่านไปสองวัน มีข่าวใหญ่ดังกระหึ่มไปทั่วเมืองไ เทียน บริษัท อสังหาริมทรัพย์ทานชื่อ บริษัทที่ใหญ่ที่มีชื่อเสียง ภายในประเทศได้จัดตั้งบริษัทย่อยที่เมืองเมืองไห่เทียน แถมยัง ซื้อที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ที่ฝั่งตะวันตก เพื่อที่จะสร้างย่านการค้า แบบครบวงจร
พอข่าวออกมา ทั้งเมืองไห่เทียนก็เดือดกันใหญ่ ทุกคนต่าง มองในอนาคตแล้วว่า ฝั่งตะวันตกที่รกร้างในตอนนี้ก็จะกลาย เป็นที่ที่หรูหราไฮโซที่สุดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นอสังหาริมทรัพย์ที่ ราคาถูกและขายไม่ดีบริเวณรอบๆนั้นก่อนหน้านี้ ราคาก็พุ่งสูงขึ้น มาเท่าตัวภายในวันนั้น ถึงขั้นที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการด้วย
ตระกูลหลินก็เปิดการประชุมอย่างเร่งด่วนทันที แม้แต่ทาง ส่วนของหลินเสี่ยวเบ่อเองก็ถูกเชิญให้ไปด้วย
ตระกูลหลิน ใช้งานรับเหมามาสร้างธุรกิจให้กับตระกูล ได้
สร้างบริษัท รับเหมาก่อสร้างหลินชื่อในช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุด
ผูกขาดวิศวกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์เกือบครึ่งหนึ่งของทั้งเมือง
ต่อมาก็ขยายไปถึงการขายปลีก อาหารเครื่องดื่มเป็นต้น แต่
เนื่องจากการจัดการไม่ค่อยดี ธุรกิจรองอื่นๆ ในตอนนี้ก็ขาดทุน
ชักหน้าไม่ถึงหลัง เหลือเพียงแค่สายงานสถาปนิกที่ทำงานด้วย
กันมานานเท่านั้น ที่ยังคงสนับสนุนหน้าร้านที่ยังหลงเหลืออยู่ของตระกูลหลินอย่างสุดกำลังอยู่
ถ้าเกิดสามารถรับงานวิศวกรรมที่ฝั่งตะวันตกของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ทานชื่อได้ ตระกูลหลินก็จะสามารถพลิกกลับขึ้น มาได้อีกครั้ง ตำแหน่งตระกูลชั้นนำกลับคืนมาได้ ต่อให้เป็นแค่ วิศวกรมเล็กๆพวกนั้น ก็มากพอที่จะสามารถทำให้พวกเขาลืมตา อ้าปากได้แล้ว
ในตอนนี้บริษัทรับเหมาก่อสร้างและพวกที่ค้าขายวัสดุ ก่อสร้างต่างมุ่งเน้นไปที่โปรเจกต์ฝั่งตะวันตก หวังว่าจะได้รับส่วน แบ่งงานด้วยเช่นกัน ตระกูลหลินก็ส่งพวกตัวแทนไปด้วยเหมือน กัน แต่น่าเสียดายที่วิ่งจนขาแทบหัก แม้แต่หน้าของคนจัดการ ยังไม่ได้เจอ
“ย่า ผมรู้สึกว่าโปรเจกต์ฝั่งตะวันตกภายในเขาได้กำหนดไว้ เรียบร้อยหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเราก็คงเข้าไปได้แล้วล่ะ” หลินเฉิงเจี๋ยหาข้ออ้าง
“ก็ใช่ ได้ยินมาว่าไม่มีบริษัทไหนที่สามารถเข้าไปได้เลย”
“ถ้าตระกูลหมั้นเร็วกว่านี้ได้ล่ะก็ ไม่แน่อาจจะช่วยได้ก็ได้นะ หลินหวั่นฉิงสีหน้าภาคภูมิใจ
คุณนายใหญ่หลินใบหน้าเย็นชา ขอแค่ผลมันยังไม่ออกมา ภายในวันเดียว พวกเราก็ยังมีโอกาส โปรเจกต์นี้พวกเราจะ ปล่อยไปไม่ได้ พวกแกไปอีกรอบ ต่อให้ต้องผลัดกันเฝ้าหน้า ประตู ก็ต้องเอาโปรเจกต์มาให้ได้”
พอคำพูดนี้ออกมา พวกหลินเฉิงเจี้ยก็หน้าบึงกันทันที ให้เฝ้าตรงประตู คนมาเห็นน่าอายพวกเขารับปากได้ยังไง
หลินไปเห็นหลินเสี่ยวเขือเงียบพูดอะไร จู่ใจ ก็กระตุกขึ้น
ย่า ไม่ใช่เพราะว่าตัวไร้น้ำยาเอาไหนหลินเสี่ยวอดันไปทำให้จะช่วยให้พวกเราได้ครอบครองฝั่งตะวันแล้วได้ แล้ว ให้หลินเสี่ยวเข่อจัดการกว่า ถือเป็นการชดใช้ไป ด้วยเลย”
“ใช่ๆๆ หลินเสี่ยวเข่อไป
“ประโยคเดียว พวกเราโปรเจกต์นี้อยู่ในมือตั้งนานแล้ว เรื่องให้เธอไปจัดการจะกว่า ถ้าไม่สำเร็จ ก็หัวพวกออกไปซะ แต่จะสิ้นเปลืองข้าวสุกเปล่าหลินเฉิงรีบพูดเสริมขึ้น
หลินเสี่ยวเข่อรู้สึกโมโหเล็กน้อย ปกติแล้วเธอจะรับผิดชอบ ไชต์งานก่อสร้าง ประสบการณ์ถ้าพวกเอาไม่ไหว แล้วเธอจะจัดการได้ยังไง แถม เห็นได้ชัดหลินเฉิงเจียอยากถีบออกด้วยเหมือนกัน
พอได้แล้ว”คุณนายใหญ่หลินตบโต๊ะหนึ่งทั้งห้องเงียบ ลงทันที
ฉันเห็นด้วยกับความของเฉิงเจี้ย หลินเสี่ยวเขือเรื่องฝากแกด้วยแล้วกัน แกก็ได้ยินแล้ว ถ้าทำไม่ได้ ก็ออกไปจากตระกูล หลินซะ ถึงยังไงอยู่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี”
อะไร? หลินเสี่ยวเข่อกระวนกระวาย “ย่า เรื่องนี้……
“ไม่มีแต่ ตัดสินใจตามนี้! หรือแกจะปฏิเสธ แล้วใสหัวออกไป จากตระกูลหลินก็ได้”คุณนายใหญ่หลินพูดตัดประโยคของเธอ ด้วยความรําคาญ
ในขณะนี้เอง มือถือก็สั่นเพราะว่ามีข้อความเข้า เป็นข้อความ ที่จูหมิงส่งมา”เรื่องที่ต้องแบกรับโปรเจกต์ฝั่งตะวันตก ผมจะช่วย คุณเอง”
หลินเสี่ยวเข่ออึ้งตะลึง จูหมิงรู้ได้ยังไง แถมเขาจะเอาอะไรมา ช่วยตนเอง แต่รอยยิ้มเยาะเย้ยของพวกหลินเฉิงเจี่ยทำให้เธอรับ ไม่ได้ เลือดสูบฉีดขึ้นมาทันทีได้ ย่า หนูรับปาก!
พวกหลินเฉิงเจี๋ยดีใจสุดๆ ขอแค่หลินเสี่ยวเข่อรับปาก มันก็
ล้มเหลวเรียบร้อยแล้ว เรื่องที่พวกเขาทำไม่ได้หลินเสี่ยวเข่อจะ
ทําได้ยังไง
“ย่า เพื่อป้องกันไม่ให้เธอตบตาแล้วแอบไป ผมแนะนำให้ส่ง คนไปตามติดด้วย”
“พูดถูก เสี่ยวเข่อแกก็ไม่มีประสบการณ์ทางด้านนี้ ก็ให้เฉิง เจียส่งคนที่มีประสบการณ์ตามไปประกบด้วยก็แล้วกัน จะได้ช่วย แกได้ด้วย”
คุณนายใหญ่หลินพยักหน้า
หลินเสี่ยวเข่อโกรธสุดๆ หลินเฉิงเจี้ยไร้ยางอายจริงๆ คิดไม่ ถึงว่าจะส่งคนมาคอยจับตาดูเธอด้วย
“ก็ได้ ย่า ถ้าหนูทําไม่สำเร็จก็จะยอมออกจากตระกูลหลิน ถ้า
เกิดทำสำเร็จ หนูหวังว่าหลินเฉิงเจี่ยจะต้องมายกน้ำชาขอโทษ หนู” หลินเฉิงเจี่ยเริ่มโมโหขึ้นมา กำลังจะพูด จู่ๆก็ถูกคุณนายใหญ่
หลินขัดไว้ก่อน
“ได้ เอาตามนี้แล้วกัน ! ”
“หลินเสี่ยวเข่อ ฉันจะรอดูแล้วกันว่าเธอจะทำยังไง”หลินเฉิง เจีย โกรธจนกัดฟันกรอดๆ คิดไม่ถึงว่าเธอยังกล้ามาเล่นกับเขา ขนาดนี้
พอกลับมาบ้านก็พูดอธิบายเรื่องทั้งหมดหนึ่งรอบ หลิวหลาน โกรธจนแทบจะกระโดดขึ้นมา เห้อ เสี่ยวเข่อ ลูกจะเอาอารมณ์ เป็นหลักไม่ได้นะ หลินเฉิงเจี้ยจงใจที่จะวางแผนให้ลูกติดกับชัดๆ เรื่องที่พวกเขาจัดการไม่ได้ ลูกจะไปจัดการไหวได้ยังไง หมดกัน ถูกเฉดออกจากตระกูลหลินพวกเราไม่มีอันจะกินแน่นอน
“ใช่ๆเสียวเข่อ ลูกไปขอร้องย่าอีกครั้งดีกว่านะ ต่อให้ทำไม่ สำเร็จก็ไม่ถึงกับต้องออกจากตระกูลหลินหรอก”หลินเจี้ยนให รู้สึกกังวลเช่นกัน
หลินเสี่ยวเขือพอเห็นว่าขนาดพ่อก็ไม่เชื่อในตัวเธอ ก็รู้สึกหดหู ใจ แต่จูหมิงที่กำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว กลับยกนิ้วโป้งให้ กับเธอ ทำให้เธอมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นมากอย่างบอกไม่ถูก
หลินเสี่ยวเข่อไม่ได้สนใจพ่อแม่ เธอแอบเข้าไปในห้องครัว เกาะที่หลังของจูหมิงเหมือนกับตัวสลอธ
“คุณสามี คุณบอกว่าจะช่วยฉัน จะช่วยยังไงเหรอ?”
จูหมิงหันหน้ามาจุ๊บลงที่ปากเล็กๆของเธอ ก่อนจะพูดขึ้นด้วย น้ำเสียงเบาๆ “คนที่จัดการเป็นพวกเพื่อนๆของผมทั้งนั้น คุณ เข้าไปหาได้ตามสบายเลย ผมบอกพวกเขาไว้เรียบร้อยแล้ว”
หลินเสี่ยวเขือแบะๆปากไม่ได้พูดอะไร เธอไม่เชื่อคำพูดของจูห มึงเลยแม้แต่น้อย ยังไงจูหมิงก็อาศัยอยู่ที่บ้านของเธอมาสามปี แล้ว ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีเพื่อนที่มีความสามารถขนาดนี้ แถมถ้าเพื่อนของเขาสุดยอดขนาดนี้จริงๆ ป่านนี้ช่วยเขาหางาน ไปตั้งนานแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้พูดค้านอะไร แค่จูหมิงมีใจที่อยาก ช่วย เธอก็พอใจแล้ว
หลังจากอาหารเที่ยง หลินเสี่ยวเข่อออกจากบ้านท่ามกลาง ความวิตกกังวลของพ่อแม่ คนที่หลินเฉิงเจียส่งมาจับตาดูเธอได้ มารออยู่ด้านล่างบ้านของเธอเรียบร้อยแล้ว รถที่คนคนนั้นนั่งอยู่ ขับมาถึงฝ่ายโปรเจกต์ฝั่งตะวันตกของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ ทานชื่อ
“คุณหลินฝ่ายจัดการของบริษัท อสังหาริมทรัพย์หานซื่อเพิ่งจะ เข้าไปข้างใน พวกเรารีบกันเถอะ”
หลินเสี่ยวเข่อสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที แล้วเดินเข้าไป เพิ่ง จะเข้ามาในประตู ใจก็เต้นตึกตัก หันกลับไปก็พบว่าคนคนนั้น กำลังหยิบมือถือมาถ่ายเธออยู่
“คุณหลิน ประธานหลินสั่งไว้ว่า ต้องช่วยคุณบันทึกวีดิโอขั้น ตอนขณะที่กำลังเจรจา
อะไร? หลินเสี่ยวเบ่อเริ่มรู้สึกโมโห หลินเฉิงเจี้ยนี่เกินไปแล้ว จริงๆ กำลังดูถูกเธออยู่ว่าเธอเจรจาไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ