บทที่ 8 พี่สอง ให้ฉันดื่มอะไร
“อานหยานกลับมาแล้ว? นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ให้เธอลงมา เร็วๆ!”
กู้หญิงห้าวที่เพิ่งกลับเจ้ามาได้ยินว่าอานหยานอยู่ด้านบน
โมโหมาก
เขานึกว่าลูกสาวคนเล็กเกิดอะไรขึ้น หรือว่าอยู่กับคุณชาย ใหญ่ แต่ว่า เธอกลับหนีกลับมาคนเดียว?
นี่คือหนีงานหมั้นหรือ?
ไม่มีสมองจริงๆ! หน้าตาหน้าเกลียดแบบนี้ ดีที่คุณชายใหญ่ ยอมแต่งงานด้วย ยังไม่รู้จักพอใจอีก
ทำให้คุณชายใหญ่ตระกูลมโกรธ พวกเขาตระกูลจะอยู่ยังไง
ต่อในเมืองเปียหลิง? จะมาตายเพราะเธอจริงๆหรอ
ภรรยาของเขาเยี่สุ่ยชิงจ้องสาวใช้ พูดอย่างโมโห “ยังไม่รีบ
ไปเรียกกู้อานหยานลงมาอีก?
“ค่ะ คุณผู้หญิง!” สาวใช้รีบขึ้นไปด้านบน ไปเชิญคุณหนูสาม ลงมา
กู้เวยจือรีบเดินเข้ามาในบ้าน ก็ได้ยินว่าอานหยานกลับ
มาแล้ว
เธอเห็นเย่สุ่ยซิง แล้วก็พยักให้
เวยจือรีบเดินเข้ามา พยุงหมิงห้าวที่ดูเหมือนโมโหจนจะ เป็นบ้า พูดอย่างอ่อนโยน “พ่อคะ พ่อความดันสูง อย่าโมโห มากเลย จะเสียสุขภาพเอา
กู้หญิงห้าวจะใจเย็นได้ยังไง?
“อานหยามหนีจากงานกลับมาบ้าน ครั้งนี้ เราจะทำยังไงให้ คุณชายใหญ่ตระกูลมู่ล่ะ?
“พ่อคะ คุณย่าของตระกูลหมายความว่า ให้เราสองบ้านแต่ งงานกัน คืนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น คง…คุณชายใหญ่คงจะได้เอา อานหยานแล้ว”
ผ่านไปสักพัก เวยมือค่อยพูดขึ้น ทั้งสองบ้านไม่สามารถแต่ งงานกันได้ คุณย่าของตระกูลมู่ ต้องโกรธมาแน่ๆเลย พ่อคะ เรา จะให้งานหมั้นถูกยกเลิกไม่ได้
กู้หญิงห้าวกลับทำหน้าตาผิดหวัง “เธอก็บอกแล้วว่าคุณชาย ใหญ่ไม่มีทางเอาอานหยานแล้ว เรื่องงานหมั้นจะทำยังไงได้ อีก?”
“อาจจะ….. หน้าของเวยจือแดงขึ้น มีคำพูดบางอย่างให้เธอ หญิงสาวที่สวยและดีที่สุดในเมืองเป่ยหลิงมาพูด ก็ดูจะไม่เหมาะ
เยี่สุ่ยชิงรู้แน่นอนว่าลูกสาวของเธอหมายความว่ายังไง รีบพูด ต่อ: “ครั้งแรกที่บอกว่าให้สองบ้านแต่งงานกัน คงจะเป็นความ หมายของคุณย่าตระกูลมู่ จากที่ฉันดูแล้ว คุณชายใหญ่ก็ไม่ได้ดู ว่าชอบอานหยานสักเท่าไหร่”
“หมายความว่าไง?” เหมือนว่าหมิงห้าวจะฟังไม่เข้าใจ
เย่สุ่ยซิงรีบพูด: “ถ้าเปลี่ยนเป็นคุณหนูอีกคนของตระกูล แล้วยังจะสวยกว่าเรียบร้อยกว่า คุณชายใหญ่อาจจะชอบ ก็ได้…”
“ใช่สิ แบบนี้ พี่สองก็สามารถแทนฉัน เป็นว่าที่คู่หมั้นของ คุณชายใหญ่”
กู้อานหยานที่เดินลงมาจับตรงบันไดไว้ ดูเวยถือด้วยสีหน้า ยิ้มไม่ยิ้ม: “แต่ว่าพี่สอง พี่ไม่ใช่คบกับคุณชายสองของตระกูล หรอ?”
“เธอ..เธออย่ามาพูดมั่ว คุณชายสองตามจีบฉัน แต่ฉันไม่ได้ ตกลง”
เวยถือเงยหน้าขึ้น มองหน้าของอานหยานอย่างชัดเจน ใจ
ของเธอก็เริ่มสั่นขึ้นมา
เธอเริ่มลนแล้ว: “อานหยาน เธอ…ทำไมเธอถึงไม่แต่งหน้า เธอ….”
เย่สุ่ยซิงเองก็ตกใจกับใบหน้าที่ขาวสะอาดของอานหยาน ดังนี้ทําไมถึงกล้าเปิดเผยใบหน้าอันแท้จริง?
“กลางคืนจะนอนแล้ว? ทำไมยังต้องแต่งหน้า?
รอยยิ้มบนใบหน้าของอานหยานหายไป จ้องเวยถือไว้ ด้วยสีหน้าที่ใสซื่อไม่เข้าใจ
“พี่สอง เมื่อก่อนพี่สอนฉันแต่งหน้ามาโดยตลอด บอกว่าผู้ หญิงไม่แต่งหน้าออกไปเจอคนไม่ได้ แต่ว่า ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า ตอนที่ฉันไม่แต่งหน้าสวยกว่าตอนที่แต่งหน้า
กู้หญิงห้าวเองก็ตะลึงอยู่ ลูกสาวของเธอที่ชอบแต่งหน้าตัวเอง เหมือนพี่ตลอด ทำไม…ทำไมหลังจากที่ไม่แต่งหน้า สวยขนาดนี้?
ในใจของเวยจือกลนขึ้น เผชิญหน้ากับสีหน้าของคุณพ่อที่แส ดงถึงความสงสัย เธอทําได้แค่ฝืนยิ้ม
“ไม่ ไม่ใช่เพราะว่าอานหยานอยากจะแต่งหน้าเองหรอ?
พี่…พี่เคยพูดแบบนั้นเมื่อไหร่กัน?”
พอพูดวนไปวนมา เธอก็รีบเปลี่ยนเรื่อง “อานหยาน คืนนี้ ตกลงว่าเป็นยังไงกันแน่? เธอไปไหนมา? ทำไมถึงไม่อยู่ในงาน หมั้น?”
อยู่ต่อหน้าของอานหยาน เธอก็ยังคงเป็นพี่สองที่อ่อนโยน หน้าที่แสดงความเป็นห่วง ก็แสดงหน้าที่พี่สาวได้ดีมาก
กู้อานหยานยิ้มในใจ ชาติที่แล้ว ก็เพราะคนที่เสแสร้งเป็นคน ดีอย่างเวยคือ ไม่ใช่แค่ทำลายทั้งชีวิตของเธอ และยังทำให้ มู่เฟิงจิ่นต้องตาย
ตอนนี้ ฟ้าให้โอกาสเธออีกครั้ง เธอไม่ตอบแทนพี่สาวคนนี้ดีๆ ก็คงจะดูไม่ให้เกรียติการเกิดใหม่ครั้งนี้?
กู้อานหยานกระพริบตาโตๆของเธอ ดูเธอไว้ “พี่สองไม่รู้ว่า เพราะอะไร ฉันดื่มน้ำที่พี่ให้ ก็เริ่มเวียนหัว ร้อนไปทั้งตัว
เธอนวดตรงปลายนิ้ว ท่าทางเหมือนไม่มีแรง
“ฉันกลัวว่าจะทำอะไรไม่ดีในงาน ก็เงยรีบกลับมาอาบ ก่อน ตอนนี้ก็ยังรู้สึกไม่สบายอยู่
เธอก้มหน้าลง จ้องตาของเวยจ๋อ เหมือนจะยิ้มไม่ยิ้ม แต่ว่า ใบหน้าที่ใสชื่อนั้น กลับทำเหมือนสงสัย
“พี่สอง ตกลงพี่ให้ฉันดื่มอะไรกันแน่? ทำไมร่างกายถึงรู้สึก แปลกๆ?”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ