บทที่ 16 นี่จะให้ทานข้าวหรือมานั่งดูพวกนายจู๋จี๋กัน ?
บทที่ 16 นี่จะให้ทานข้าวหรือมานั่งดูพวกนายจู๋จี๋กัน ?
เย็นหว่านรู้สึกว่าเขาสองคนพูดจาแปลกๆ เธอฟังไม่รู้เรื่อง ได้แต่ ก้มทานข้าวตัวเองอย่างเงียบๆ
บนโต๊ะอาหาร มีกับข้าวหลากหลายสิบกว่าอย่าง ส่วนมากจะเป็น อาหารรสชาติจืด มีแต่สองสามอย่าง ใส่พริก
เยันหว่านชอบกินเผ็ดตั้งแต่เด็ก แต่ตอนเธอเพิ่งจะใช้ตะเกียบ คลิกอาหาร ตะเกียบอีกคู่ก็คลิกลงอาหารที่เธอคลิกไว้
เธอเงยหน้าขึ้น เห็นว่าเป็นให้หลีเฉิน พอดีเลย ? เธอรู้สึกเป็น ฉิน ที่กำลังจะคลิกอาหาร เงยหน้าขึ้นก็เห็น
ตะเกียบของสองคนเกี่ยวเข้าด้วยกัน หน้าดำขึ้นมาทันที นี่จะให้ เขาทานข้าวหรือนั่งดูพวกเขาจู๋จี๋กันเนี่ย ?
เย้นหว่านรู้สึกเกรงใจ เธอรีบปล่อยอาหารลงแล้วหยิบตะเกียบ กลับมา แล้วจะไปคลิกอาหารอีกจานนึง เพิ่งคลิกลง
ไป ตะเกียบของให้หลีเฉินก็ตามมาคลิกของเธอไว้อีก ครั้งแรก อาจจะเป็นความบังเอิญ แต่ครั้งที่สองก็คงพูดยาก
เย้นหวานมองหน้าของโห้หลีเฉินอย่างงงสงสัย ก็เห็นว่าเขาก็ กำลังมองเธออยู่
แถมท่าทีก็ดูเผด็จการ เขาพูดขึ้นอย่างเสียงแข็ง “คุณทาน เผ็ด
ไม่ได้ “
ทำไม ? ฉันทานเผ็ดมาตั้งแต่เกิด
เย้นหว่านได้อึ้งไปสักพัก จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า เมื่อคืนเธอเป็นไข้ ตัวร้อนแล้วก็เป็นหวัดด้วย
ถึงตอนนี้ร่างกายจะดีขึ้นแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ต้องดูแลรักษา สุขภาพหน่อย
เขากำลังเป็นห่วงสุขภาพเธองั้นเหรอ ?
หน้าหล่อของโห้หลีเฉินได้รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที เขาเอา ตะเกียบกลับมา แล้วคลิกอาหารที่มีรสชาติจืดมา
ทานข้าวต่อด้วยความสุภาพ
ถึงโห้หลีเฉินจะไม่ได้มองเธอแล้ว แต่ใจของเธอก็เต้น “ ตุ้มๆ ต่อมๆ ” เร็วมากขึ้น
พอทานข้าวเสร็จ เธอก็เดินตามโหหลีเฉินออกจากห้องอาหาร มองเงาหลังที่ดูสูงสง่าของเขา เธอรู้สึกอึดอัดอย่าง
บอกไม่ถูก เธอเดินไปไม่กี่ก้าว ก็เริ่มพูดขึ้น “ ฉันยังต้องไป ทํางานต่อ งั้นฉันขอไปก่อนนะ”
“ผมไปส่งคุณ ”
ให้หลีเฉินพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย แล้วก็เดินก้าวเท้าใหญ่ออกไป
เลย
เย็นหว่านปฏิเสธโดยสัญชาตญาณ “ ไม่ต้องรบกวนคุณหรอกคะ
“เย้นหว่าน ผมก็ต้องไปทำงานเหมือนกัน ” ให้หลีเฉินเตือนสติ เธอขึ้น
เย้นหว่านพูดไม่ออกทันที เธอเพิ่งจะนึกได้ว่า เขาเป็นท่าน ประธานคนใหม่ของเธอ สถานที่ทำงานของพวกเขาก็
เดียวกัน เขาไปส่งเธอ ก็แค่ต้องผ่านอยู่แล้ว
หลังจากได้ขึ้นรถ เธอก็นั่งติดกับประตูรถ เหมือนกลัวที่จะเข้า ใกล้เขา หันหน้าไปทางหน้าต่างโดยไม่พูดอะไรสัก
คำ พยายามทำเหมือนตัวเองไม่มีตัวตน
ให้หลีเฉินมองเธอแล้ว แววตาดูแปลกๆ ไม่รู้คิดอะไร
จากนั้น เขาก็หยิบโน้ตบุ๊คออกมา ทํางานตัวเองไป ในรถไม่มี เสียงเลย ได้ขับมาอย่างเงียบตลอดทาง
ตอนกำลังจะถึงบริษัท เย้นหว่านรีบหันไปมองโห้หลีเฉิน พูดขึ้น “ฉันจะลงตรงนี้”
ให้หลีเฉินหันมองไปข้างนอกหน้าต่าง นี่มันยังห่างจากบริษัทตั้ง ไกล อีกอย่างทางก็เปลี่ยว บนถนนก็ไม่มีคนเดิน
ผ่านไปมา เธอเลือกที่จะลงรถตรงนี้ ก็เพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยว
ความสัพันธ์อะไรกับเขา
ให้หลีเฉินจ้องเธอไว้ เม้มปากขึ้นแล้วไม่พูดอะไร ท่าทางจะไม่ ค่อยพอใจ
เยันหว่านรู้สึกละอายใจ นึกว่าให้หลีเฉินคงชินกับอยู่สูงเหนือ กว่าคนอื่น ชอบให้คนไปประจบประแจเอาใจเขา
เธอทำแบบนี้คงทำให้เขาเสียหน้า
เธอเลยรีบอธิบาย “ฉันชอบดื่มน้ำเต้าหู้ของร้านข้างหน้านี้เป็น ประจําทุกวันก่อนไปทำงาน ปล่อยฉันลงตรงนี้
จะได้เดินไปซื้อได้พอดี “
จากนี้ไปถึงร้านน้ำเต้าหู้ มันก็ยังห่างกันทั้งสองสามร้อยเมตร เธอไปถึงตรงนั้นค่อยลงก็ยังได้หนิ
แต่ตรงนั้นมีคนล้อมอยู่เพียบ เผลอๆอาจจะมีคนของบริษัทด้วยก็ เป็นได้
หลังจากได้ฟังข้ออ้างของเธอ แววตาของให้หลีเฉินมืดลง แต่ก็
ไม่เปิดโปงเธอ
เขาสั่งขึ้น “ เว่ย เปิดประตูให้เธอ
เย้นหว่านถอนหายใจรู้สึกโล่ง เร่งรีบลงจากรถ พอคิดถึงเรื่อง เมื่อคืนและตอนเช้านี้ ที่เขาช่วยเหลือเธอ คิดอยากจะ
ขอบคุณให้หลีเฉิน
* ขอบคุณมากค่ะ คุณ…
เธอเพิ่งอ้าปาก ก็เห็นกระจกหลังรถได้ค่อยๆปิดขึ้นมาอย่างงั้น อีกครึ่งที่ยังไม่ทันปิด ก็เห็นหน้าด้านข้างที่เย็นชา
ของเขา และเขาก็ไม่มองเธอเลย
ดูสูงส่งและห่างเหิน
เธอยืนอึ้งไปครู่นึง หลังจากนั้นก็ไม่พูดอะไร ตาเธอมองรถของ เขาขับไป
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ