เธอทำให้ชีวิตฉันมีความหมาย

บทที่ 9 เป็นผมเองที่หุนหันพลันแล่น



บทที่ 9 เป็นผมเองที่หุนหันพลันแล่น

“คุณ…คุณทําอะไรคะ?” เธอพูดอย่างไม่เข้าใจ

เป็นเพราะเขา ที่ทำให้เธอกระทำเรื่องน่าอายแบบนั้น

“คนบ้าแบบนี้ คุณจะสนใจทำไม?” เขาโมโหอย่างที่สุด

ช่างหมั่นไส้กับความไร้เดียงสาของเธอนัก คนดีพร้อม ขนาดนี้แบ่งเข้าบ้านเขาแล้ว ทำไมยายแก่บ้านั่นยังเอา เปรียบรังแกเธอแบบนี้

“คุณไม่เข้าใจ เอาโทรศัพท์คืนมา ฉันต้องรีบโทรกลับ ไปอธิบายให้เขาเข้าใจ

วัยรุ่นอย่างเขา จะมาเข้าใจความซับซ้อนของชีวิต ครอบครัวได้ยังไง? ชีวิตหลังแต่งงานไม่ได้สวยหรู เรียบ ง่ายเหมือนคู่รัก คนตั้งหลายคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แล้ว อยากอยู่อย่างสงบ ก็ต้องมีสักคนที่ต้องอดทนและเสีย สละ

“ไม่ให้ ไม่มีอะไรที่ต้องอธิบาย แบตรถหมด เป็นความ ตั้งใจของคุณหรือไง? หรือคุณอยากให้ฝนตก? คุณฟังที่ เค้าพูดสิ ไม่มีใครตายเพราะตากฝน แล้วทำไมฝนถึงไม่ เปียกโดนตัวเค้า? เค้ายังเห็นคุณเป็นคนอยู่ไหม เค้าทำ อย่างกับคุณเป็นทาส”

คำพูดของเขาทำให้เธอเจ็บปวดใจมาก ใช่ เธอรู้ทุก อย่าง เขาพูดไม่ผิด
เจ็ดปีแล้ว ดูเหมือนเขาจะเป็นคนแรกที่ช่วยพูดระบาย ความในใจของเธอ ทำให้เธอรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองโดน กระทํายังมีคนรับรู้

ในใจรู้สึกซาบซึ้ง อบอุ่น เมื่อมองดูเขา ดวงตาก็แดงขึ้น

มา

เขานึกว่าเธอเอาโทรศัพท์คืนมาไม่ได้ก็เลยโกรธ รีบ คว้ามือเธอมา แล้ววางมือถือบนมือเธอ

“เอาล่ะ เอาล่ะ คืนให้คุณ ดูคุณสิ จะต้องโกรธขนาดนี้ ทำไม?” น้ำเสียงเขาอ่อนโยน เหมือนกำลังพูดเอาใจเด็ก น้อย

เธอทั้งอยากนําทั้งอยากร้องไห้ ดูเหมือนความสัมพันธ์ ระหว่างเขากับเธอสนิทกันยิ่งขึ้น เขาดูเหมือนเป็นคน เอาใจเก่ง

แต่ ความจริงก็คือความจริง เธอก็ยังต้องโทรกลับไป อธิบายอยู่ดี

“เสื้อผ้าของฉันต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะแห้งคะ? ฉันต้องบอกเวลาที่แน่นอนให้กับแม่ยาย

“อืม คืนนี้คงไม่ทันแห้งแล้วครับ ถ้าต้องรีบกลับไป ก็ กลับไปอย่างนี้แหละ ก็ไม่เลวนะ”

เมื่อคิดว่าเธอจะต้องจากไป เขารู้สึกทำใจไม่ได้ จึง แกล้งพูดล้อเธอเล่น สายตาจ้องมองเธอ
เมื่อสบตาเขา ตัวเธอเองก็ก้มหน้าต่ำลงอย่างเก้อเขิน เสื้อเชิ้ตเขาไม่มีกระดุมแล้ว เธอจับรัดไว้แน่น แต่ตรงต้น ขาไม่ได้ถูกปกคลุม ใส่เสื้ออยู่ก็เหมือนไม่ได้ใส่

เฮ้อ ไม่น่าอาบน้ำเลย ยิ่งไม่น่าใส่เสื้อเชิ้ตของเขา เสีย ใจจริงๆ

“อย่าล้อเล่นเลยค่ะ ถ้าฉันไม่กลับบ้าน พรุ่งนี้ฉันต้อง โดนถลกหนังแน่ค่ะ” สีหน้าเธอจริงจัง

“เดี๋ยวก็แห้งแล้วครับ อย่าคิดมาก ผมให้เค้ารีบอบแห้ง ให้คุณอย่างเร็วที่สุด เดี๋ยวคุณทานบะหมี่เสร็จ ผมก็น่าจะ ไปเอามาให้คุณได้แล้วครับ”

เธอกดเปิดเครื่องอย่างตื่นเต้น รู้ดีว่าคราวนี้แม่ยายต้อง ไม่ปล่อยเธอแน่

หายใจเข้าลึกๆ แล้วกดโทรออกอย่างกล้าๆกลัวๆ

“เธอรู้จักปิดเครื่องด้วยหรือ? เดี๋ยวนี้จะพูดนิดพูด หน่อยไม่ได้เลยใช่ไหม? เธออยู่ที่ไหนกันแน่? ดึกดื่นไม่ ยอมกลับบ้านแบบนี้ คงไม่ใช่ว่าแอบไปทำอะไรลับหลัง สามี..….……

“คุณแม่พูดอะไรอย่างนั้นคะ? ฉันเคยออกมาตอนดึกดื่น ที่ไหนกันคะ? ฉันอธิบายแล้ว แค่มาชาร์จแบตรถ เดี๋ยวก็ กลับแล้วค่ะ” เธอกดวางสายแม่ยายอย่างโมโห เห็นเธอ

เป็นคนแบบไหนกัน แต่งงานมาเจ็ดปีแล้ว เธอเรียบร้อย เชื่อฟังอยู่ในกรอบที่ดีมาตลอด เคยคิดถึงชายอื่นที่ไหน? แม้เพียงนาทีก็ไม่ เคย

แม่ยายคิดไม่ถึงว่าลูกสะใภ้จะกลายเป็นคนสู้คนขึ้นมา อึ้งจนลืมตอบโต้ ตอบรับไปอย่างงุนงง

เธอเองก็เพิ่งคิดได้ว่า เมื่อกี้ตอบแม่ยายไปอย่างรวดเร็ว เกินไป จนลืมไปว่าคืนนี้เธอได้กระทำเรื่องที่ไม่ให้เกียรติ สามีไปแล้ว

หมดกัน ความดีไม่มีที่ติของเธอ หวนกลับไม่ได้อีกแล้ว ไม่เพียงรู้สึกเสียใจ ยังรู้สึกว่าตัวเองช่างต่ำทรามจริงๆ

ดู๋หยุนฮุยจ้องมองหน้าเธออยู่ตลอดเวลา พิจารณาดู สีหน้าที่เปลี่ยนแปลงของเธอ เธอเสียใจ บนใบหน้าเธอ ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน

“ผมขอโทษ เป็นผมเองที่หุนหันพลันแล่น

เขาเพิ่งรู้ว่า ตัวเองเอาแต่ใจแค่ไหน เธอมีครอบครัวแล้ว เขากลับยั่วเย้าเธอ ดีที่มีสายนี้โทรเข้ามา ไม่อย่างนั้นทั้ง สองคงทำลายเส้นกั้นนั้น อย่างไม่มีทางหวนคืน

หยุนฮุย ดูสินายทำอะไรลงไปบ้าง เธอคงเป็นผู้หญิง ที่ดีรักนวลสงวนตัว เป็นเพราะความหุนหันของเขาแท้ๆ ทำให้เธอต้องโทษแม้กระทั่งตัวเอง

ทั้งที่อยากรักและทะนุถนอมเธอ กลับคิดไม่ถึงว่า ยิ่ง ทะนุถนอมเธอกลับยิ่งทำให้เธอยิ่งเจ็บปวด
“ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ” ในใจเธอยิ่งรู้สึกผิด

“ทำไมพูดแบบนี้ครับ? ผมต่างหาที่ตีสนิทคุณ” เธออย่างข้องใจ เขาถาม

“เพราะคุณอายุยังน้อย ยังเป็นเด็ก….ไง”

เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเขากระชาก เธอไม่ทันได้ระวัง จึงล้มลงนั่งบนตักเขาแล้วร้องขึ้นมาเสียงดังด้วยความ ตกใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ