เดือนประดับทราย

บทที่ 2



บทที่ 2

พันไมล์แสดงสีหน้าเหมือนไม่ค่อยจะเชื่อคำพูดของพี่ชาย “ขนาดนั้นเลยหรือ… โหดหน้าดู

“แต่เขาก็ยุติธรรม และใจกว้างกับเพื่อนทุกคน เขาจึงเป็นที่รัก ของเพื่อนๆ ในรุ่น” ฟังน้ำเสียงของพี่ชายที่เล่าอย่างภาคภูมิใจ ในตัวเพื่อนคนนี้แล้ว พันไมล์ก็รู้สึกหมั่นไส้ท่านชีคคนนี้ขึ้นมา ทันที เธอพยักหน้าเข้าใจ

“ยุติธรรมในแบบของเขานะสิ

“เรามันอคติไม่เลิก” แทนไทตำหนิ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายประชด

“อคติที่ไหน พายก็พูดไปตามเนื้อผ้า เธอย่นจมูกดูถูก “เชอะ!

กฎของเขา”

คราวนี้แทนไทหัวเราะ พร้อมถามด้วยความสงสัย “กฎของเขา มันเป็นยังไง!?”

“มันบ่งบอกว่า คคนนี้มีนิสัยเอาแต่ใจและบ้าอำนาจ ใครทำ อะไรไม่ถูกใจก็จะใช้วิธีรุนแรง จัดการกับคนพวกนั้น โดยไม่คิดจะ ฟังใครนะพี่แทน”
แทนไทเขกหัวแม่ตัวยุ่งอีกครั้งอย่างอดใจไว้ไม่อยู่ “เรานี่มัน จริงๆ เลย ยังไม่เคยพบหน้าเขา แต่ขอมีอคติไว้ก่อน”

พันไมล์ตวัดตาคมค้อน พร้อมกับลูบศีรษะของตนเอง “ถ้าพี่

แทนเขกหัววายอีกครั้งเดียว โดนเอาคืนแน่” น้องสาวข “พายแตะต้องเขาไม่ได้เลยนะคะ พี่แทนเป็นต้องแก้ตัวและ ออกรับแทนกันตลอด”

“เรายังไม่เคยเจอเขาสักครั้งแต่ก็ตั้งป้อมต่อต้านไว้ก่อนแล้ว พี่ ว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับเขา” แทนไทกล่าว

“และการเดินทางมาบารัชในครั้งนี้ ซีคอัมรานเขาก็ดูแลใน เรื่องค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด เรื่องที่พักเราก็ไม่ต้องวิตกกังวลอะไร เพราะเพื่อนของพี่เขามีบ้านใหญ่โตมากพอ ที่จะให้เราไปพักอยู่ ร่วมกับเขาที่นั่นได้อย่างสะดวกสบาย เรียกว่าฟรีตลอดทริปเลย นะแม่ตัวยุ่ง แล้วยังจะไปตั้งป้อมมีอคติกับเขาอีก

“มันดีตรงฟรีนี่แหละ แบบนี้สิที่พายชอบ” พันไมล์หัวเราะจน ตาหยี

“งักไม่เลิกเลยนะเรา

“ใครบอกว่าพายงก เขาเรียกว่าประหยัดต่างหาก”
ในระหว่างที่ทั้งสองคุยกันรถจี๊ปก็วิ่งเข้าสู่ตัวเมือง พันไมล์ตื่น ตาตื่นใจกับบ้านเรือนสีขาว สีน้ำตาลน้อยใหญ่ที่ปลูกเรียงราย อย่างเป็นระเบียบอยู่ริมถนน หญิงสาวเหลียวซ้ายแลขวาไม่หยุด

“นี่หรือเปล่าคะบ้านที่พี่แทนบอกว่าทํามาจากดิน” เธอเอ่ย ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าบ้านที่พายเห็นเรียงรายอยู่นี้จะทำมา จากดิน แต่ก็สวยและก็คลาสสิกไปอีกแบบหนึ่ง

“คนที่นี่เขาเก่งและมีความชำนาญหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง การต่อสู้ ถ้าพายได้เจอเพื่อนของพี่พายอาจจะทิ้ง ตอนอยู่อังกฤษ พี่เคยเห็นเขาล้มฝรั่งร่างยักษ์ด้วยมือเปล่ามาแล้ว

แทนไทกล่าวยกย่องเพื่อนซีคด้วยความภาคภูมิใจ

“ฟลุคหรือเปล่าคะ” พันไมล์เหล่มองพี่ชายด้วยสีหน้าไม่เชื่อ

ถือคําพูดของเขา

“เรื่องจริง พวกนั้นมาดูถูกคนเอเชีย เขาเลยจัดการสั่งสอนซะ ให้เข็ด เวลาจะพูดอะไรจะได้ใช้หัวคิดก่อน ไม่ใช่สักแต่ว่าพูดจา พล่อยๆ ”
“กะแค่ล้มฝรั่งคนเดียวทําเป็นคุย

“ใครบอกว่าคนเดียว สามต่อหนึ่งต่างหาก” พี่ชายยกมือ ประกอบ “และมือเปล่า”

ตรงจุดนี้เองที่สามารถดึงความสนใจของพันไมล์ไว้ได้ เพราะ เธอเองก็ชื่นชอบและฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบอยู่เสมอ หญิงสาวจึงหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องหาโอกาสหยั่งเชิงฝีมือกับ เพื่อนของพี่ชายสักครั้ง

แล้วจะได้รู้กันว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ จะขอประกาศศักดาของ หญิงไทยใจห้าวหาญ ให้พวกเขาได้ทิ้งและประจักษ์ด้วยสายตา ของตัวเอง’ พันไมล์นึกในใจ

เธอเองก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสยาม และเป็นคนที่มีฝีมือมาก พอตัวคนหนึ่งเหมือนกัน เพราะมักจะหาเวลาไปฝึกซ้อมศิลปะการ ต่อสู้อยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ

จากนั้นพันไมล์ก็เพลินไปกับการนั่งมองตึกรามบ้านช่อง แม้ว่า บารัชจะรับเอาอารยะธรรมของชาวตะวันตกมาบ้าง แต่ก็ถือได้ว่า ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของชาวอาหรับไว้ได้เป็นอย่างดี อย่างการปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนที่ทำมาจากดินของชาวบา รัชที่เห็นเรียงรายอยู่นี้ ก็ได้มีการนำเอาอารยะธรรมทางตะวันตก มาผสมผสานกับเอกลักษณ์ของชาวอาหรับได้อย่างลงตัว

“อีกไกลไหมคะพี่แทนกว่าจะถึงที่พัก

“ไม่ไกลหรอก อีกไม่เกินยี่สิบนาทีเราก็คงจะไปถึงที่นั่น

เมื่อเห็นอีกฝ่ายนัยน์ตาพราวระยับกับสถานที่แปลกใหม่ เขา จึงได้เอ่ยแซว “ทำเป็นตื่นเต้น จะคุยกับพวกเขารู้เรื่องไหมก็ยัง ไม่รู้

พันไมล์หันมาค้อนควับทันที “ไม่มีปัญหา ก่อนจะเดินทางมาที่ นีหายไปทบทวนภาษาอาหรับกับมัสตารีมาตั้งเดือนกว่า รับรอง ได้ว่าพายสื่อสารกับพวกเขารู้เรื่องชัวร์”

เมื่อรู้ตัวว่าจะมาเที่ยวบารัชพันไมล์จึงไปเยี่ยมพี่เลี้ยงเก่าแก่ เพื่อทบทวนและฝึกพูดภาษาอาหรับอยู่เป็นเดือน ทำให้มั่นใจว่า เธอสามารถพูดและฟังภาษานี้ได้อย่างไม่ติดขัด

“ฉลาด รู้จักเตรียมพร้อมด้วย..” คราวนี้แทนไทหัวเราะไม่ คิดว่าน้องสาวจะไปหาพี่เลี้ยงสมัยเด็กที่เชียงใหม่เพื่อทบทวน ภาษาอาหรับ

สมัยเด็กบิดามารดาเคยเดินทางมาดูแลธุรกิจเหมืองแร่ใน คาบสมุดรอาหรับ ได้นำเขาและพันไมล์เดินทางมาด้วย ขณะนั้น พันไมล์อายุเพียงสองขวบ มารดาจึงจ้างพี่เลี้ยงชาวอาหรับมา ช่วยดูแลพันไมล์และตัวเขาเพื่อความสะดวก แต่อยู่ได้เพียงสองปีก็จำต้อง ย้ายกลับเมืองไทย เพราะมารดาป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ฝุ่นทะเล ทราย แต่ใครจะคิดว่าพี่เลี้ยงสาวที่มารดาจ้างมาจะผูกพัน และ หลงรักเด็กหญิงพันไมล์จนถึงขนาดขอติดตามกลับมาเมืองไทย ด้วย เพื่อทําหน้าที่ดูแลสองพี่น้อง เธอได้สอนให้พวกเขาพูด ภาษาอาหรับอยู่เกือบสิบปี ก่อนจะแต่งงานกับหนุ่มไทยและย้าย ครอบครัวไปอยู่ที่เชียงใหม่ แต่ทั้งสองครอบครัวก็ยังคงผูกพัน และไปมาหาสู่กันเสมอไม่เคยขาด

“พายมีครูดี ที่สำคัญพายเป็นคนฉลาดและมีสมองอันยอด เยี่ยม เรียนรู้อะไรแล้วไม่มีลืมง่ายๆ” น้องสาวคุยโว่

คราวนี้แทนไทหัวเราะ “นึกว่าลืมหมดแล้วซะอีก แบบนี้ค่อย หมดห่วงหน่อย”

ทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาในเขตอาณาจักรของชีคอัมราน คาราส

จัสติน หรืออีกนัยหนึ่งคือจัสตินพาเลซ แทนไทก็ได้หันไปบอกกับ

น้องสาวที่นั่งอยู่ข้างตัว

“เป็นไงอาณาจักรของเพื่อนพี่

พันไมล์ จ้องมองอย่างตื่นตะลึง รู้สึกตื่นตาตื่นใจเพราะไม่คิด ว่าที่พักเพื่อนของพี่ชายตนเองซึ่งเป็นเพียงผู้นำเผ่าเล็กๆ อย่างบารัช จะยิ่งใหญ่อลังการถึง เพียงนี้

ใจกลางพื้นที่กว้างใหญ่ มีปราสาทสีขาวถูกสร้างและตกแต่ง ไว้อย่างงดงาม สองข้างทางที่รถขับผ่านจะเห็นได้ว่ามีต้นไม้เขียว ขจีปลูกเรียงรายไว้อย่างเป็นระเบียบ ดูก็รู้ว่าได้รับการดูและเป็น อย่างดี บ่งบอกได้ว่าเจ้าของที่นี่น่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบต้นไม้

เมื่อสองหนุ่มสาวก้าวลงจากรถก็พบว่า มีคนมาตั้งแถวยืนคอย ต้อนรับเขาและเธอ หนึ่งในนั้นคือจาบในองครักษ์คนสนิทของค อัมราน ว่าที่ผู้นำเผ่าคนใหม่ของบาร์ซ

แทนไททักทายจาบรินด้วยความสนิทสนม ก่อนจะแนะนำให้ เขารู้จักกับน้องสาวของตนเอง จากนั้นจาบรินได้เอ่ยเชื้อเชิญสอง หนุ่มสาวเข้าไปด้านใน

“นั่งพักให้หายเหนื่อย และทานน้ำชากันก่อนนะครับ ส่วน

กระเป๋าผมได้สั่งให้คนนำไปไว้ที่ห้องพักเรียบร้อยแล้ว” จาบริน

บอกพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งในห้องรับแขก

“ขอบคุณค่ะ” พันไมล์ทรุดตัวลงนั่ง มือเอื้อมหยิบถ้วยชามาจิบ ก่อนจะเบ้หน้า

“ขมไปหรือครับคุณพาย”
“ไม่ชินกับรสชาติมากกว่าค่ะ” พันไมล์ตอบกลับไปเป็นภาษา ถินของบารัชได้อย่างเป็นธรรมชาติ

แม้ว่าสำเนียงของหญิงสาวจะสู้แทนไทไม่ได้ แต่ก็นับว่าเธอ

สามารถสื่อสารและเข้าใจภาษาบาร์ซได้เป็นอย่างดี เพราะโดยส่วนตัวเธอเป็นคนชอบดื่มน้ำเปล่า มากกว่าพวกน้ำ ชาหรือกาแฟ แม้รสชาติชาของที่นี่จะเข้มข้นขมไปสักนิด แต่ก็ไม่ ถึงกับดื่มไม่ได้

หลังจากวางถ้วยชาสีสวยไว้ที่เดิม สายตาของพันไมล์จับจ้อง และสํารวจไปรอบๆ ด้วยความสนใจ

“ถ้าอย่างนั้นผมจะสั่งให้เด็กนำน้ำเปล่ามาให้คุณพายนะครับ จาบรินบอกอย่างใส่ใจ

พันไมล์แย้มรอยยิ้มออกมา “ขอบคุณค่ะ คุณจาบริน”

จาบรินยิ้มตอบอย่างเผลอไผล เขานึกชื่นชมรอยยิ้มหวาน

ละมุนของเธอ และเผลอแสดงออกนอกหน้าจนเพื่อนรักจับได้

“อะแฮ่ม!”

จาบรินสะดุ้งเล็กน้อย หันมามองแทนไทด้วยสายตาเป็นคําถาม

“ท่านช็คของนายไม่อยู่เหรอ” แทนไทถามขึ้น หวังเรียกสติองครักษ์หนุ่ม

แม้พันไมล์จะไม่ใช่ผู้หญิงหน้าตาสะสวย ที่ใครๆ เห็นแล้วจะ ต้องตะลึง แต่น้องสาวเขาคนนี้ก็ใช่ว่าจะขี้เหล่ ปากคอคิวคาง สอดรับกันเหมาะเจาะ เสริมให้ใบหน้าเรียวดูน่ารักไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะริมฝีปากแดงระเรื่อ โดยธรรมชาตินั้น เวลาแย้มยิ้ม ออกมาคราวใดหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เป็นอันตกตะลึงทุกรายไป

จาบรินเห็นสายตาดุๆ ของแทนไทที่จ้องมองเหมือนจะปราม เขาก็หัวเราะเก้อๆ

“ชายแดนมีปัญหานิดหน่อย ท่านก็เลยต้องไปตรวจดูความ เรียบร้อย ค่ๆ นายก็คงจะได้เจอ

ในขณะที่สองหนุ่มพูดคุยกันอยู่นั้น พันไมล์ก็ตื่นตะลึงในความ สวยงามวิจิตรของสถาปัตยกรรม และการตกแต่งภายในพาเลซ แห่งนี้ โดยเฉพาะงานฝีมือการแกะสลักซึ่งได้ลงรักปิดทองคำแท้ ที่มีลวดลายอ่อนช้อยด้วยความประณีตบรรจง ช่างเป็นความ สวยงามที่ยากจะลืมเลือนอย่างแท้จริง

“พวกนายเพิ่งจะเดินทางมาเหนื่อยๆ กลับขึ้นไปพักผ่อนก่อนดี ไหม ถ้าท่านเดินทางมาถึงเมื่อไร ฉันจะให้คนขึ้นไปส่งข่าว จาบรินกล่าวขึ้นหลังจากเห็นว่าได้เวลาพอสมควรแล้ว
“ไม่ต้องห่วงเรา นายไปทํางานของนายเถอะ”

จาบรินขอตัวกลับไปทำงานต่อ เพื่อปล่อยให้สองพี่น้องได้พัก ผ่อนกันตามสบาย

ดวงตากลมโตมองตามหลังองครักษ์หนุ่มไป ปากก็พูดขึ้นว่า

“พายเชื่อแล้วว่าเพื่อนพี่แทนรวยอย่างที่เคยคุยไว้จริงๆ แต่พี่ แทนเคยเล่าว่าบารัซเป็นเพียงเผ่าเล็กๆ ที่ดำรงชีพด้วยการเลี้ยง สัตว์ แล้วทําไมเพื่อนของพี่แทนถึงมีเงินมากมายขนาดนำมาส ร้างปราสาทราชวังที่งดงามวิจิตรได้ถึงเพียงนี้ละคะ” พันไมล์เอ่ย ถามด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความงุนงงสงสัย

แทนไทยมให้น้องสาวของเขาอย่างเป็นต่อก่อนที่จะเอ่ย “ทีนี้เชื่อแล้วใช่ไหมว่าพี่พูดจริง ไม่ได้โม้อย่างที่เรากล่าวหา หญิงสาวพยักหน้าแต่ยังไม่วายพูดโต้แย้งกลับไป

“จะให้พายเชื่อคําพูดของพี่แทนง่ายๆ โดยไม่มีหลักฐานได้ยัง ไง อย่างน้อยก็ต้องมาเห็นด้วยตาของตัวเองก่อนสิ พายถึงจะ เชื่อ”
พันไมล์ขยับตัวใกล้พี่ชายพร้อมกับชะโงกหน้าเข้าไปกระซิบ

กาม

“ว่าแต่เพื่อนพี่แทนคนนี้ทำมาหากินอะไร ถึงได้รวยไม่เกรงใจ

ใครแบบนี้” แทนไทยมขำ “ทำไมเราต้องกระซิบกระซาบด้วย แล้วอยู่ดีๆ มาเบียด ทําไม”

“ก็จะได้ใกล้ชิดกันไงคะ” พันไมล์พูดพร้อมเบียดไหล่เข้าไป ใกล้พี่ชายยิ่งขึ้น

“เรานี่ นับวันจะล้นใหญ่แล้วนะ ไอ้พฤติกรรมขาดๆ เกินๆ ของ เราเก็บไว้หน่อยดีไหม ที่นี่บารัชนะไม่ใช่เมืองไทย” แทนไทเอ่ย เตือน

พันไมล์เบ้าหน้าก่อนตอบเสียงใส โดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวพี่ ชายสักนิด

“หลอกด่ากันอีกละ พี่แทนยังไม่ชินอีกหรือคะ ที่ผ่านมาไม่ว่า พายจะพูดหรือทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจพี่แทนสักที”

“บ่นอะไร” แทนไทถามเสียงเริ่มเข้ม

เมื่อเห็นว่าแทนไทเริ่มชักสีหน้าไม่พอใจ พันไมล์จึงยิ้มหวาน เพื่อประจบประแจงพี่ชาย พร้อมกับย้อนถามคำถามเดิมเพราะยัง ไม่ได้รับคําตอบ

“ตกลงเพื่อนพี่แทนเขาทำมาหากินอะไรคะ ทำไมถึงได้มีเงินมากมายขนาดนี้”

“เหมืองแร่ทองคำ

“โอ้!” พันไมล์ทำปากจู๋ นัยน์ตาลุกวาวทันทีที่ได้ยินคำตอบ ของพี่ชาย

“พูดไม่ออกละซิ” แทนไทเย้ยยิ้มขำ นานๆ ที่จะเห็นแม่ตัวยุ่ง จุกแบบนี้

“อย่าคิดว่าที่นี่มีแต่ทะเลทรายนะ เผ่านี้เขามั่งคั่งเพราะมีบ่อน้ำ มัน นอกจากบ่อน้ำมันแล้วก็ยังมีเหมืองแร่ทองคำอยู่หลายแห่ง ที่ สำคัญเหมืองทองเหล่านั้นเป็นของตระกูลคาราส จัสตินแทบทั้ง สิ้น และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงร่ำรวยล้นฟ้า จนสามารถสร้าง จัสตินพาเลซออกได้อย่างงดงามอย่างที่เราเห็น

หลังจากอ้าปากค้างอยู่นานพอควร พันไมล์จึงเอ่ยขึ้น “ขนาดนั้นเลย…พายเชื่อละว่าเขารวยจริง

“จัสตินพาเลซแม้จะไม่โอ่อ่าเท่ากับพระราชวังในแถบยุโรป แต่ความสวยงามของที่นี่ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันแถมยังมี เอกลักษณ์มากกว่าด้วยซ้ำ เพราะเขาเน้นอารยะธรรมอาหรับ ที่ สำคัญวังนี้สร้างจากดินซะเป็นส่วนใหญ่ อิฐทุกก้อนที่ถูกนำมา ปลูกสร้างนั้นบ่งบอกได้ถึงความเก่าแก่ ที่นี่ถูกสร้างกว่าร้อยแล้ว

พันไมล์นิ่งด้วยความและเข้าขั้นหลงใหลในอารยะธรรมของประเทศต่างเฉพาะ ของเก่าแก่ในนี้อาหรับก็ถือคุ้มค่า แม้ผิดหวังอยู่บ้างไม่ได้นอนในกระโจม ผ้าตามแบบความงดงามของจัสตินพาเลซก็ที่จะชดเชย ความผิด หวังเหล่านั้นได้เหมือนกัน

เอ้า ฟังเพลินตาปรือเชียว” แทนไทจิ้มหน้าผากนูนสวย ของน้องสาวเบา“เหนื่อยหรือไงเรา

เพลีย เมื่อคืนพายมัวแต่ตื่นเต้นที่ได้เดินทางมาที่เลย

นอนไม่หลับ และอาจเป็นเพราะเวลาที่แตกต่าง

“นั่นสิ เวลาทีบารัชห่างจากเมืองไทยราวชั่วโมง ร่างกายพายคงปรับไม่ทัน พี่ว่าพายไปพักก่อนดีไหม

ไมล์พยักหน้า เหมือนกันค่ะ แล้วแทนละคะจะไปพักด้วยกันไหมคะ”

“อืม…พี่อยากอาบน้ำเหนียวตัวเต็มทน และว่าจะเอนหลังสัก หน่อย” แทนไทหันไปบอกพันไมล์ “พายเองก็ไปนอนงีบเอาแรง ก่อนดีกว่า ตื่นมาแล้วค่อยว่ากัน

“ตกลงค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ