เกิดใหม่เป็นไอดอลฝึกหัด

ตอน 7 100% ว่าด้วยเรื่องของตัวประกอบทหลอ เกินไป



ตอน 7 100% ว่าด้วยเรื่องของตัวประกอบทหลอ เกินไป

ข้อเสียเปรียบของผมก็คืออย่างที่ผมบอกนั่นแหละครับ คือผมไม่รู้ว่าที่นี่พอมีเพลงอะไรที่ผมจะใช้เต้นได้บ้าง ผม เลยขุดความทรงจำของโนอาร์ขึ้นมาพร้อมกับฟังเพลงที่ โนอาร์ใช้ในเครื่องเล่นmp3ที่นี่ไม่มีใครได้ใช้โทรศัพท์ มี แต่mp3เอาไว้เปิดเพลงที่โหลดมาซ้อมเท่านั้น แต่ผมรู้สึก ไม่ค่อยชอบเพลงพวกนี้เท่าไหร่ และก็คงไม่มีเพลงอื่นที่ สนุกกว่านี้แล้วด้วย เพราะถึงแม้จะพยายามนึกหาเท่าไหร่ก็ ไม่มีภาพความทรงจำไหนให้คำตอบผมได้เลย แสดงว่านัก เขียนเรื่องนี้ไม่ได้ลงรายละเอียดในเรื่องของเพลงไว้ในมิติ ของนิยายสินะเลยทำให้เพลงในนิยายไม่สนุกแถมมีน้อย อีก

ไม่ได้การละ แล้วผมจะเอาเพลงที่ไหนมาเต้นเนี่ย

แต่เอ๊ะ! เหมือนผมจะคิดได้ ในเมื่อไม่มีเพลงไหนที่ผม โอเค ผมก็คงต้องสร้างขึ้นมาเองแล้วล่ะ

เพลงที่ผมจะใช้ซ้อมเต้นในครั้งนี้คือเพลงของผมเอง ที่มาจากร่างเดิม ผมจำได้ว่าที่ท้องของโนอาร์มีอุปกรณ์ ทำเพลงอยู่ แถมยังมีเครื่องมิกซ์อะไรต่างๆนาๆเสร็จสรรพ และผมก็ยังจำทำนองเพลงของตัวเองได้ดีเสมอ เพราะผม เป็นคนเขียนมันขึ้นมาเอง คิดท่าเส้นเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเองหมด

ครั้งนี้ผมจะทำเพลงใหม่ขึ้นมาในโลกของนิยายนี่แหละ และใช้มันในการแข่งขันพรุ่งนี้

ในเมื่อเพลงของผมมันติดหูคนในมิติร่างเดิมได้ แสดง ว่าเพลงของผมก็ต้องติดหูคนในโลกนิยายเหมือนกัน แน่นอน…

ผมพยายามทวนท่าเต้นของเพลงตัวเอง พร้อมกับปรับ ไลน์เต้นของโนอาร์ไปด้วย ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นดี.. ถ้าไม่มีนายเอกเข้ามาลุ้นจ้าน… อีกครั้ง…

“คุณโนอาร์นี่เต้นเก่งขึ้นเยอะเลยนะครับ ว่าแต่คุณโนอาร์ จะเต้นเพลงอะไรหรอครับ” ผมพยายามที่จะไม่ตอบ เพื่อ เซฟตัวเองจากเรื่องวุ่นวาย ผมสนใจกับการซ้อมเต้นของ ตัวเองต่อไป ปล่อยให้นายเอกของเรื่องยืนเก้อ ก่อนที่เจ้า ตัวจะเดินกลับไปซ้อมกับหัสดินทร์ต่อเอง
อีกด้าน

“อัลฟา นายว่าวันนี้ในอาร์ดูแปลกๆไปไหม เมื่อวานยัง ปกติดีอยู่เลย” แฝดน้องเดินไปสะกิดแฝดพี่ให้มองตาม

พอแฝดพี่ได้ยินก็หันทอดสายตาไปมองโนอาร์ทันที ภาพ ที่เห็นถึงกับทำให้พวกเขามองหน้ากันแล้วขมวดคิ้วด้วย ความแปลกใจ

ตอนแรกอัลฟ่าคิดว่าโนอาร์อาจแค่ต้องการเรียกร้อง ความสนใจเกรย์ด้วยการเดินเฉยและไม่สนใจ

แต่เขาไม่คิดว่าโนอาร์จะมีความอดทนได้มากขนาดนี้ปกติ ถ้าแทยังเข้าไปทักนิดทักหน่อย ก็โดนด่ากลับมาแล้ว แต่นี่ คือเลือกที่จะเพิกเฉย สีหน้าแววตาดูไม่เหมือนเมื่อก่อน

นี่มันเกิดอะไรกับอดีตเพื่อนเขากันแน่ อะไรที่ทำให้ใน อาร์เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เปลี่ยนไปอย่างกับคนละคนอัลฟาได้แสดงคำถามว่า นโนอาริกาลังแสดงเพื่อเรียกร้อง ความสนใจใคร หรือกำลังปรับเปลี่ยนนิสัยตัวเองจริงๆ ซึ่ง คำตอบก็เอนเอียงไปอย่างหลังมากกว่า เพราะแววตาของ โนอาร์ที่แสดงออกมาตอนนี้เหมือนแสดงออกอย่างชัดเจน ว่าเขาไม่ได้เฟค ไม่ได้แกล้งทำ และไม่ได้เพื่อเรียกร้อง ความสนใจจากใครทั้งนั้น แต่มันคือการแสดงออกที่มาจาก ใจจริงๆ แต่ถึงแม้โนอาร์คนนี้จะดูไร้พิษสงแต่พวกเขามี ความรู้สึกลึกๆว่าโนอาร์คนนี้อาจน่ากลัวกว่าคนเดิมมาก… เขา… โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนเดียว…

” แม่งเอ้ย!” เสียงสบถอย่างหัวเสียดังขึ้นมาจากข้างๆตัว จนผมต้องหันไปมองด้วยความสงสัย ภาพที่เห็นคือฮิวโก้ขมวดคิวแน่นแล้วนั่งลงกับพนเพื่อสงบสติอารมณ์ ซึ่ง ผมก็พอจะเดาได้แหละว่าเขาหัวเสียกับเรื่องอะไร ผมเห็น เขาพยายามเต้นตั้งแต่เมื่อกี้แล้วเหมือนในหัวเขาจะพอคิด ท่าออก แต่เต้นไม่ได้สักทีเลยได้แต่นั่งหัวเสียกับตัวเอง แบบนั้น

พอผมเห็น ก็ได้แต่แสยะยิ้มแล้วเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรง หน้าตัวประกอบสุดหล่อที่ไม่น่าจะเป็นแค่ตัวประกอบ

“เต้นไม่ได้หรอ” ผมนั่งยองๆแล้วเอียงคอถามเพราะอีก ฝ่ายก้มหน้าอยู่

พอฮิวโก้ได้ยินผมถามก็เงยหน้าขึ้นมองผมด้วยสายตา ไม่เป็นมิตรเหมือนเดิม จากความทรงจําเก่าของโนอาร์บอก ผมว่าฮิวโก้นั้นโดดเด่นในเรื่องการแร็ปมาก แต่เรื่องการ เต้นแทบจะไม่ได้เรื่องเลย

“มึงไม่ต้องมายุ่งกับกูหรอก กลับไปตามติดไอ้ตาญี่ปุ่นไป น่ารำคาญ” เจ้าตัวว่าก่อนจะนั่งชันเข่าแล้วฟุบหน้าลงไป สงบสติอารมณ์ต่อ

“คนจะช่วยสอนแล้วยังมาไล่อีก โอเค!ไม่สอนก็ได้” ผม พูดน้ำเสียงประชด
“พูดอย่างกับมึงเอาตัวเองรอดอ่ะ” ฮิวโก้เงยหน้าขึ้นมา พูดอีกครั้ง แต่คราวนี้แววตาของเขาไม่ได้แสดงความดุร้าย ออกมาแล้ว

“ถ้าไม่รอดจะมาสอนมั้ยล่ะ” ผมเลิกคิ้วขึ้นกวนๆก่อนจะพูด ต่อ “นี่สอนให้ฟรีเลยนะ เห็นว่าคนกันเองเหอะ ไม่มีใครมา สอนคู่แข่งตัวเองแบบนี้หรอกนะบอกเลย”

“….” ฮิวโก้ไม่ตอบแต่กลับมองหน้าผมอย่างชั่งใจ

เห้อ…ตอนผมอยู่ในร่างเดิม ใครๆก็อยากเรียนกับฟิล์มภ วินทร์ คอร์สสอนเต้นสอนร้องเพลงของผมแต่ละคอร์สนี่ แพงๆทั้งนั้น แต่ถึงแม้จะแพงก็มีคนมาลงเรียนเยอะจนผม แทบไม่มีเวลาว่าง เพราะฉะนั้น…ฮิวโก้! นายควรจะภูมิใจที่ ได้เรียนกับฉันแบบฟรีๆ

“จะไม่รับข้อเสนอตามใจนะ งั้นฉันไปซ้อมต่อละ” ผมยัก ไหล่พูดก่อนจะหันหลังเตรียมกลับ

“ถ้าสอนได้ก็สอน” พอสิ้นเสียงของอีกฝ่ายผมก็ยืนหัวเราะ ในลําคอ ก่อนจะรีบหันกลับไปทางฮิวโก้ทันที

พอผมหันไปก็พบกับใบหน้าแสยะยิ้มของอีกฝ่ายอยู่ก่อนแล้ว บ้าเอ๊ย!ขนาดผมเป็นผู้ชายแท้ยังแอบหวั่นไหว เลย ดาเมจแรงชิบ นี่แค่แสยะยิ้มนะครับ ถ้าพี่แกยิ้มจริงนี่ ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะน่ามองแค่ไหน

มีเสน่ห์จริงๆ…

ผมรู้สึกเสียดาย และตั้งคำถามในใจว่า ทำไมเขาถึงเป็น ได้แค่ตัวประกอบนะ…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ