เกิดใหม่เป็นไอดอลฝึกหัด

ตอนที่5 100%ว่าด้วยเรื่องของความเจ้าสำออยและ หาเรื่องเก่งงง!!



ตอนที่5 100%ว่าด้วยเรื่องของความเจ้าสำออยและ หาเรื่องเก่งงง!!

โอ๊ย!” เสียงอุทานที่ดังขึ้น ดึงความสนใจจากคนทั้งคลาส ไปมองที่ต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียงกัน พอผมหันไปก็พบ กับนายเอกผู้ใส่ชื่อกำลังนั่งกุมข้อเท้าอยู่ที่พื้น พร้อมแสดง ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวด

อ่อ…ขาพลิก คือนิยายตาหวานมันต้องมีแบบนี้สักฉาก สินะ แต่ถ้าถามว่าตอนเป็นเด็กฝึกเคยมีกรณีแบบนี้มั้ย คำ ตอบคือมีครับแต่น้อยมาก แล้วท่าล้มก็ไม่ได้เป๊ะเหมือน ตอนนี้ด้วย

“แทยัง!” แล้วพระเอกพระรองก็เข้าไปดูนายเอกพร้อมกัน ตามด้วยครูสอนเต้นและสองแฝด มีแต่ผมและฮิวโก้ที่ยืน มองเหตุการณ์เฉยๆ

และนี่ก็เป็นอีกฉากเบสิคที่ไปโผล่ในนิยายทุกเรื่องสินะ บางทีผมก็นึกสงสัยนะว่าแค่ขาพลิกหรือขาแพลงทำไม ต้องทำเหมือนอาการสาหัสเจียนตายขนาดนั้นด้วยก็ไม่รู้ ถ้าเป็นตอนที่ผมเป็นเด็กฝึกแล้วเพื่อนผมล้มแบบนี้ มันจะ หัวเราะเหมือนคนบ้าแล้วกลิ้งตัวไปเอาเจลเย็นมาประคบ เองเสร็จสรรพแล้วก็บ่นอุบอิบถึงความเซ่อซ่าของตัวเอง ต่อ…
เห้อ…. นิยายตาหวานก็คือนิยายตาหวานสินะ

ผมได้แต่ยืนกอดอกแล้วนอนอยู่แบบนั้น จนนาย หัสดินทร์ กขึ้นมา

“พี่พวกนายนายไม่คิดจะแสดงน้ำใจกันหน่อยหรอ?” พูด พร้อมหันมามองทั้งผมและฮิวโก้

ผมไม่ตอบแต่เลิกคิ้วด้วยความสงแทนก็แค่ผมไม่ไปดู อาการนี่คือผิดมากมั้ง แค่ขาพลิกเด้อ ไม่ได้หมดสติเด้อ ใจเย็นก่อนคร้าบบบ แล้วพวกตัวหลักเรื่องนี้มันยังไงเนี่ย! ชอบหาเรื่องคนจริงๆเว้ย นี่กะจะอยู่เฉยๆ ไม่ต้องเกี่ยวข้อง แวะอะไรแล้วนะ

“แสดงน้ำใจยังไงอ่ะ ต้องโทรเรียกรถพยาบาลให้ไหม? ไปห้องฉุกเฉินเลยรึเปล่า?” ผมตอบด้วยน้ำเสียงประชด ประชันออกไปพร้อมกับสีหน้าเบื่อหน่ายสุดฤทธิ์ ก็ช่วยไม่ ได้นะ มาหาเรื่องกันก่อน นี่ผมกะจะไม่เข้าไปยุ่งอะไรด้วย แล้วนะ ทำไมทำตัวเหมือนต้องการให้ผมเข้าไปยุ่งในชีวิต กันจัง คืออยู่อย่างสงบไม่ชอบ ชอบให้คนอื่นมาหาเรื่อง หรอ? ประสาทแดกมากครับบอกและ
“นี่มันจะมากไปแล้วนะโนอาร์!” อดีตเพื่อนสนิทตะคอก เสียงใส่ เหมือนไม่พอใจกับคำพูดผมเมื่อครู่ คนคนนั้น คืออัลฟ่าคนดีคนเดิมนั่นเอง ที่ผมแยกแฝดคู่นี้ออกเพ ราะอัลฟาจะย้อมผมสีชมพู ส่วนเบต้าจะยอมผมสีน้ำตาล เข้ม แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ที่ผมรู้สึกน้อยใจ นิดๆ เพราะความทรงจําของโนอาร์บอกผมว่าเขาเคยสนิท กับคู่แฝดคู่นี้ขนาดไหน แต่มาวันนี้คนที่เคยสนิทกันมากๆ แสดงกิริยารังเกียจเหยียดหยาม และไปเชื่อใจคนอื่นที่เพิ่ง รู้จักมากกว่าคนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแทน

แต่มันก็แค่ความรู้สึกชั่ววูบ อาจเป็นเพราะความทรงจำ ของโนอาร์ที่ยังเหลืออยู่ แต่ถ้าเป็นรู้สึกจริงๆของผม ผม เลือกที่จะเฉยชากับคนพวกนี้ไปตั้งนานแล้ว ในเมื่อเขาไม่ เห็นโนอาร์เป็นเพื่อน ผมก็จะไม่เห็นพวกเขาเป็นเพื่อนเช่น

“แล้วไงอ่ะ! ฉันก็อยู่ของฉันดีๆไม่เข้าไปยุ่งกับพวกนาย แล้ว แต่นายดินมาลากฉันเข้าไปยุ่งเอง ช่วยไม่ได้”

“นายมันเห็นแก่ตัว!”อัลฟาตอบกลับทันที แต่ผมก็ทำท่า ยักไหล่ ไม่สะทกสะท้านอะไรกับคำพูดของเขา เพราะผม นั้นหาความเมคเซ็นต์ของคำด่านี้ไม่ได้ เหมือนเขาด่าเพราะ สรรหาคำพูดที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว สักแต่จะด่าเอาสะใจตัว เองอย่างเดียวชัดๆ เหอะ!
เอาง่ายๆเลยนะครับทุกคน ผมจะสรุปการกระทำทั้งหมด ของดินและอัลฟ่าให้ทุกคนฟัง

พวกเขาแค่อยากได้ซีน…..

ไม่ก็ไรท์อยากให้มีบทเฉยๆ…

คิดได้แบบนั้นก็ขอกลอกตามองบนสักที นี่คุณแทยังครับ ปกติในสถานการณ์ที่ตัวเอกรุมด่าตัวร้ายแบบนี้คุณต้องทำ หน้าที่แล้วนะครับ

“พอเถอะครับทุกคน เดี๋ยวผมไปห้องพยาบาลเอง” นั่นไง! ผมพูดไม่ทันขาดคำ แทยังก็พูดขึ้นมาทันที

“เดี๋ยวฉัน/ผมไปส่ง!” อุต๊ะ! พระเอกพระรองพูดพร้อมกัน จ้า เอาแล้วเว้ย! ศึกชิงนายรอบที่ 1 เริ่ม!

สายตาของเกรย์และดินมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เพื่อนรักจะแตกคอกันเพราะแย่งผู้ชายคนเดียว นี่แหละ ความยูนิคของนิยายตาหวานล่ะ นึกแล้วขำเป็นบ้าฮ่าๆๆ

ผมเลิกสนใจกลุ่มคนพวกนั้นแล้วหันไปซ้อมเต้นกับฮิวโก้ ต่อ ซึ่งตัวประกอบอย่างฮิวโก้นั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อย่างน้อยก็มีนายคนเดียวสินะฮิวโก้…ที่ มีนิสัยปกติเหมือนคนทั่วไปมากที่สุด ไม่เหมือนพวกตัวเอก ในนิยายเรื่องนี้ที่…ประสาทแดก…….

ผลสุดท้ายคือนายเอกก็ต้องเลือกพระเอกอยู่แล้ว แล้ว พระรองก็ต้องพ่ายแพ้เพราะความเป็นพระรอง น่าสงสาร เขานะครับคุณหัสดินทร์เนี่ย เกรย์แบกแทยังขึ้นหลังไป ห้องพยาบาล และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมสงสัย แค่ขาแพลง ไม่ได้ขาหักทำไมพวกนายเอกหรือนางเอกถึงเดินเองไม่ ได้วะ หรือคาแรคเตอร์เจ้าสำออยเป็นสิ่งที่นายเอกหรือ นางเอกจึงต้องมี ผมได้แต่เพียงคิดแล้วก็สงสัย…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ