อาจารย์ผู้ทรงอ่านาจเข้าเมือง

บทที่ 9 เด็กหนุ่มที่ใช่มนุษย์แน่เหรอ?



บทที่ 9 เด็กหนุ่มที่ใช่มนุษย์แน่เหรอ?

ไม่รอให้เลือดไหลลงพื้น เยาวก็ยกขาบออกไปยังชายร่างใหญ่ คนนั้นกระเด็นไปเมตรกว่า ผู้ชายคนนั้นเอามือกุมท้องขอตัว ราวกับกุ้งที่ถูกผัดน้ำแดงจนตัวงอกจนพูดไม่ออก

และตอนนี้เยซิวก็รู้สึกโมโหขึ้นมาจริงๆ ไม่ต้องรอให้น้องชาย พวกนั้นลงมือมาตนเองก็เริ่มลงมือเอง ตรงเข้าไปจัดการพวกที่ อยู่ข้างหน้า มือข้างหนึ่งออกแรงบีบศีรษะของเจ้าสวะนี้แล้ว เหวี่ยงไปไกลประมาณสองเมตรกว่า จากนั้นก็กวาดขาลงไปบน พื้นทำท่ามวยจีนพวกผู้ชายที่ยังไม่ได้ โต้กลับพริบตาก็ลงไปกอง อยู่บนพื้น

พวกผู้ชายที่อยู่ด้านหลังก็มองมาอย่างตะลึงทยอยหาเพื่อน ร่วมทีม ในดวงตามีประกายอาฆาต เห็นแบบนี้แล้วก็ตัดสินใจว่า จะส่งเย่ชิวไปลงนรก ให้ได้

เชิวมีหรือจะให้โอกาสพวกมัน กระโดดถีบไปยังหน้าอก ผู้ชายที่อยู่ตรงกลาง มวลมหาชนก็ค่อยๆทยอยถอยหลัง เพียง แต่ว่าความเร็วเพียงเท่านี้หรือจะมาเป็นคู่ต่อสู้กับเย่ชิว ชายคน นั้นที่ถูกถีบยังไม่ล้มลงไป เย่ชิวจึงกระโดดหมุนร้อยแปดสิบองศา ไปยังขาของผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านข้างสองคน

ชั่วพริบตาก็เกิดความพินาศไปทั่วทุกที่ ผู้ชายสิบกว่าคนนั้นถูก จัดการไปกองรวมกันบนพื้น แล้วผู้ชายที่ถือแมวกวักคนนั้น ใบหน้าท่าทางก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“พี่ชายช่วยยืนยันให้ทีว่านี่หนูไม่ได้ฝันไป พี่หว่านเยวพี่ช่วย หยิกแก้มหนูที หนูจะดูว่าเจ็บมั้ย อ๊ะ เจ็บอ่า นี่หนูไม่ได้ฝันไปจริงๆ ด้วย”

อู๋เสียวหมี่ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกหลินชิงเยวบีบแก้มเข้าให้ยืนยัน

ว่าไม่ได้ฝันไปจริงๆ หญิงสาวเหล่านี้ก็ดูอึ้งตะลึงงันมองเชีวอ

ย่างตื่นตะลึง

เจ้าหนุ่มนี่ยังใช่มนุษย์อยู่มั้ยเนี่ย?

“เป็นไง? ตอนนี้จะให้ฉันช่วยสงเคราะห์แกหรือแกจะลงมือ เอง” เชิวเดินไปหน้าที่เปียวเห็นเขาตัวสั่นเพิ่ม

“ฉันจะลงมือเอง ฉัน” พี่เขียวหยิบแมวกวักขึ้นมาแล้วทุบลงไป บนหัวตัวเอง แต่ก็ไม่ได้เป็นลมลงไป

“ครั้งนี้ฉันจะช่วยแกเอง” เชิวแย่งแมวกวักขึ้นมา แล้วทุบลง

ไปบนศีรษะคนตัวใหญ่อย่างโหดเหี้ยม

เสียงปังดังขึ้น แมวกวักแตกไปแล้ว

“เดี๋ยวนี้ของพวกนี้คุณภาพต่ำจังเลย” มองเห็นคนร่างใหญ่มี เลือดออกมาจากหน้าผากแต่มองเห็นเชิวไม่ชัดเจนเหมือนเดิม ก็คือไม่เป็นลม เย่ชิวเริ่มรู้สึกร้อนรน

ชายร่างใหญ่ตอนนี้ในใจเหมือนพังทลายลงมา ถ้าหากเรานั้น ไม่ได้ฟ้องว่าเขากำลังขอร้องอยู่ แน่นอนว่าตอนนี้เขาต้องยิ่งใหญ่ หาที่สุดมิได้แน่
“พี่ชายยกโทษให้ฉันเถอะเมื่อครู่ฉันมีตาแต่ไม่รู้จักเขาภูเขา ไท” ชายร่างใหญ่พูดเสียงสั่นทำท่าคารวะขอความเมตตา

“เมื่อครูไม่ใช่ว่าแกทำเป็นเก่งอยู่หรอกเหรอ?” อู๋เสียวหมี่ที่ไม่ อยากให้โอกาสชายร่างใหญ่อยู่แล้วพูดขึ้น

“ดูสิ ผู้หญิงเหล่านี้เขาไม่อยากให้อภัยแกทั้งนั้น งั้นเอาแกไป ขอร้องพวกเธอ ถ้ามีคนยอมให้อภัยแกเกินครึ่งฉันจะยกโทษให้ ฉันเป็นพวกประชาธิปไตยอยู่แล้ว” เย่ชีวกลับกลายมาเป็นคน สะเพร่าเลินเล่อเหมือนเดิมอย่างก่อนหน้า

ฝั่งของ วซือหานนั้นสังเกตเย่ชิวอย่างไม่วางตา เธอรู้สึกว่า ชายคนนี้ต้องมีเรื่องราวมากมาย การพูดจาก็เปลี่ยนไปอย่าง รวดเร็ว ยากที่จะศึกษาอย่างละเอียด

ชายร่างใหญ่คนนั้นดูเหมือนจะมีความหวังอยู่รำไร รีบเข้าไป หาตรงหน้าจั่วซือหานพร้อมให้ว่า “สาวสวยให้อภัยฉันได้มั้ย เมื่อครู่ฉันตาบอดเองไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง….

ลั่วซือหานลึกๆแล้วก็เป็นคนใจดี พอเห็นชายร่างใหญ่คนนี้น้ำ หูน้ำตาไหลในใจก็เกิดความสงสารจึงพยักหน้าอย่างเงียบๆ

“ขอบคุณสาวสวยมาก คนดีมีความสุขตลอดชีวิต”

มองไม่ออกจริงๆว่าคนประเภทนี้เวลานี้กลับพูดคำที่คาดไม่ถึง แบบนั้น

หลังจากนั้นคนร่างใหญ่ก็เล็งเป้าหมายมาทางหลินชิงเยว่ “คน สวยเมื่อครู่พวกเราทุ่มบ่ามไปหน่อยทำให้เธอตระหนกตกใจขอโทษด้วยฉันผิดไปแล้ว”

หลินชิงเยว่เต็มไปด้วยความโกรธ “พูดไปไม่มีประโยชน์หรอก ฉันไม่รับคำขอโทษจากแก

ชายร่างใหญ่เห็นท่าทีเด็ดเดี่ยวของหลินชิงเยวทำได้เพียงยอม แพ้แล้วหันไปทางเสียวห

ผลสุดท้ายการยอมรับคำขอโทษนี้ก็ต้องผิดหวัง ทุกคนล้วน แต่ปฏิเสธ ปฏิเสธ แล้วก็ปฏิเสธ

ชายร่างใหญ่มีความรู้สึกว่าบนโลกนี้ใครบอกว่าคนที่มีอยู่

ถมไปกัน

“ขอโทษด้วยนะ แกก็เห็นแล้วว่าคนที่เป็นที่เคารพอย่างแก ตอนนี้ต้องมาถูกชกต่อย” เชิวไม่รอให้คนร่างใหญ่ขอโทษก็ยก เท้าถีบออกไปไกล เสียงร้องคารามของคนตัวใหญ่ยังตั้งอยู่บน บันได

“ไปเถอะ ต่อยเสร็จแล้วเลิกงานได้” เชิวตบมือเบาๆแล้วเดิน ไปอย่างสบายใจสุดๆ ตอนนี้ผู้หญิงเหล่านี้ก็ค่อยๆได้สติขึ้นมา แล้วรู้สึกว่าตัวเองเสียเวลาไปไม่น้อย

ตอนที่ออกมาจากหวางเจียคลับแล้วเยชิวก็หันกลับมาคราม อีกรอบ “คนที่อยู่ในนั้นจำไว้ฉันชื่อจ้าวเย่อเที่ยว ถ้าอยากจะมามี เรื่องกับฉันให้ไปหาที่คณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยเจียงเฉิง”

“จ้าวเย่อเที่ยว?” ผู้ชายที่อยู่ข้างในรู้สึกคุ้นๆกับชื่อนี้

“รีบมาประคองฉัน” ชายร่างใหญ่ที่อยู่บนบันไดนั้นทำสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก

บ้านของ วอหาน อู๋เสี่ยวหมี่และผู้หญิงอีกสองสามคนนั้นอยู่ ใกล้บริเวณนี้บางคนก็กลับบ้านด้วยกัน ทว่ามู่หรงหว่านเยวนั้น ดื่มเหล้าไปเยอะมาก ก่อนหน้าเป็นเพราะทักษะที่น่ากลัวของเย วจึงรู้สึกฮึกเพิ่มขึ้นมาพักหนึ่ง ตอนนี้ฤทธิ์เหล้าได้ลดลงไปแล้ว ร่างเมามไม่ได้สติจึงถูกเย่ชีวประคองมานั่งที่รถ เบนซ์g|350ของหลินชิงเยว่

“ไม่อยากจะบอกว่าความสามารถในการดื่มเหล้าของหว่าน เยวสู้ฉันไม่ได้หรอก” หลินชิงเยวพูดอย่างลำพองใจ ตอนนี้ แน่นอนว่าเธอดื่มแล้วขับร้อยเปอร์เซนต์ ถ้าไม่ใช่เพราะดึกแล้ว เขาก็ไม่กล้านั่งมาด้วยหรอก

“พี่สาว พี่ก็อย่าโม้ไปพี่หว่านเยวตอนหลังก็ดื่มไปเยอะอีกทั้ง ยังช่วงเย่ชิวดื่มอีก” หลินซินเยวที่นั่งข้างคนขับพูดขึ้นมาอย่าง ขอร้อง

“เจ้าเด็กน่าเกลียดนี่ทำไมข้อศอกถึงเป้ขนาดนั้นหล่ะ” หลินชิง เยว่พูดหยอกล้อ คอยจนกระทั่งไปส่งมู่หรงหว่านเยวถึงบ้านแล้ว หลินชิงเยวสองพี่น้องถึงค่อยกลับบ้าน

“เด็กสาวเอ๋ย ไม่ใช่ว่าเธอชอบเจ้าหนุ่มเย่ชิวเข้าแล้วเหรอ เมื่อ ก็ถึงได้พูดแก้ต่างให้หน่ะ ก่อนหน้าฉันก็สังเกตอยู่แล้วตอนที่เขา ชกต่อยคนหนะ ความเป็นห่วง ความดีใจมันฟ้องอยู่บนหน้าเธอ นะ” แม้หลินชิงเยว่จะมองถนนอยู่แต่ก็ยังคุยสัพเพเหระกับหลินซิ นเยวไปด้วย
“ที่ไหนกัน เพิ่งจะเจอกันครั้งแรกจะเป็นไปได้ไง” ใบหน้าน่ารัก ของหลินซินเยว่เป็นสีแดงรีบปฏิเสธทันควัน

“เธอไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไรต่อไปยังมีโอกาสอีกเยอะ เพียงแต่ ว่าเด็กหนุ่มเย่ชิวนั่นที่จริงน่าสนใจนิดหน่อย ฉันจะบอกอะไรให้ เจ้าจิตใจปีศาจหว่านเยวนั้น ในใจคิดอะไรอยู่ฉันก็พอรู้ ถ้าเธอ ชอบเขาจริงก็รีบลงมือซะ ไม่งั้นพอถึงเวลาก็จะถูกเสียวห ล้วซือหานพวกนี้แย่งไปแล้วจะมานั่งเสียใจทีหลังไม่ได้นะ

“พี่อ่ะ ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว” หลินซินเยวหน้าแดงราวแสง อาทิตย์อัสดง

ทางด้านมู่หรงหว่านเยวนั้นตอนนี้ก็กำลังทำให้เยซิววุ่นวายอยู่ สองสามวันนี้แม่บ้านขอลาหยุดในบ้านไม่มีใครสักคน เยซิวจึง ต้องกลายมาเป็นแม่บ้าน ให้ทรงหว่านเยวแทน ทั้งถอดรองเท้า ทั้งเช็ดหน้าให้และนาทีที่อุ้มมู่หรงหว่านเยวลงบนเตียงนั้น เย่ชิวก็ รู้สึกเหมือนบนสวรรค์ก็เทียบไม่ได้ ผิวหอมนุ่มนิ่มนี้เหมือนจะ ละลายหายไปในมือก็ไม่ปาน อีกทั้งมู่หรงหว่านเยวก็พึมพำอะไร ออกมาสักอย่าง อาการเมาไม่ได้สตินี้ช่างยวนใจคนเป็นพิเศษ

“เสี่ยวชิวทำไมนายถึงน่ารักอย่างนี้นะ” มู่หรงหว่านเยวพูด พิมพ์ากับเพดาน

“พี่หว่านเยวทีหลังอย่าดื่มเยอะแบบนี้อีกนะสุขภาพจะไม่ดีเอา”

“ไม่ดีตรงไหน ในใจพี่ดีใจมากเลยในที่สุดก็ได้พบนายแล้ว คุณนี่ก็เก่งจริงๆ สั่งสอนนายมาให้เก่งขนาดนี้ไม่รู้ว่าเมื่อกี้นายจะดึงดูดความสนใจของพวกน้องสาวไปมากแค่ไหนกันนะ” ห รงหว่านเย พูดอย่างหึงหวงหน่อยๆ

“โอเค รีบนอนได้แล้ว” เชิวเอาผ้ามาห่มให้มู่ทรงหว่านเยว เสร็จแล้วก็จะกลับไปนอนห้องตัวเอง แต่ก็ห่วงว่ากลางดึกทรง หวานเยวจะต้องการอะไรจะเรียกหาใครก็ไม่มีใครอยู่ข้างๆ จึง ตัดสินใจนอนที่พื้นที่เสียเลยหลังจากนั้นจึงเอาแต่มองมู่หรง หว่านเยวแล้วก็หลับไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ