บทที่ 5 หญิงงามดุจดั่งเมฆา
“หวานเยววันนี้เป็นวันดีนะฉันมาที่นี่สาวๆ ทั้งหลายก็ยังไม่รู้เลย อีกอย่างนี้ก็ไม่ใช่เหล้าขาวอะไรแค่เหล้าดอกไม้ไม่มีดีกรีเอง
หลินชิงเยวมองไปยังเซิวที่ทำท่าจะหันไปขอความช่วยเหลือ จากมู่หรงหว่านเยว จึงรีบห้ามปรามไว้ก่อนแถมยังพูดยัดเยียด บีบบังคับอีก
“ใช่แล้วพี่ชายเหล้าดอกไม้นี่รสชาติดีมากเลยนะ หนูดื่มคน เดียวหนึ่งขวดยังไม่เป็นอะไรเลย” เสียวหมี่ก็พูดตามขึ้นมา เธอ คงยังไม่เห็นสีหน้าอมทุกข์ของตนกับสีหน้าลำพองใจของหลินชิง เยวที่นั่งอยู่ตรงข้ามสินะ
“เสี่ยวชิวเหล้านี้คงไม่มีอะไรหรอกแถมทุกคนก็ล้วนสนใจยอม เสี่ยงมาอยู่ตรงนี้เลยนะ” มู่หรงหว่านเยวมองไปยังทุกคนที่มอง มาที่เชิวอย่างรอคอย แม้กระทั่งคนที่ไม่พูดไม่จาอย่างลัวซื้อ หานก็จ้องมองมาที่เชิวอย่างประหลาดใจ ที่สุดแล้วผู้ชายที่ไม่ ดื่มเหล้าในสังคมนี้ก็มีอยู่น้อยจริงๆสินะ
เย่ชิวที่หัวรั้นไม่อยากเสียหน้าทำได้เพียงยื่นแก้วออกไป พอ หลินชิงเยว่เห็นแบบนี้มุมปากก็กระตุกยิ้มขึ้นมา จึงหันไปกินเหล้า ให้เย่ชิวจนเต็ม
“งั้นฉันก็ขอยกจอกคารวะหนุ่มหล่อของพวกเราก่อนหนึ่งแก้ว หลินชิงเยวที่เพิ่งรินเหล้าให้เยซิวจนเต็มได้ชนแก้วฉลองกับเขา
“งั้นหนูขอคารวะพี่ชายด้วย” อู๋เสียวหมี่ได้เข้ามาร่วมสนุกด้วย
พอเยซิวได้ดื่มเหล้าเข้าไปแก้วนึงหน้าก็แดงขึ้นมาทันที เขาไม่ เคยดื่มเหล้ามาก่อน ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเหล้าดอกไม้ดีกรี แต่ก็ ทำให้ใจเขาเต้นแรงขึ้นมา
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนอยู่ในสายตาของหลินชิงเยวทั้งหมด พอ เห็นเย่วเป็นแบบนี้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอก็เปลี่ยนมาเป็นใบ หน้าเจ้าเลห์หาใดเปรียบ
พอแก้วสองแก้วสามตามมา เชิวก็รู้สึกเหมือนทั้งร่างกายมัน ร้อนไปหมดแล้วยังมีแรงที่ไม่มีที่มาที่ไปมากดบนต้นขาอีก อีกทั้ง มันยัง…
เหมือนกับมีเท้าเปลือยเปล่าของใครบางคนมาอยู่บนขาของ
เขา
เย่ชีวก้มหัวมอง ใช้จริงด้วยไม่ใช่ตัวเองดื่มจนตาฝาดไปแน่
เชิวเงยหน้าขึ้นสบตากับหลินชิงเยว่ หญิงสาวคนนี้ก็มองเย วด้วยดวงตาหยาดเยิ้มมือข้างนึงก็เอากันคางใบหน้าแดงก่ำดูน่า รักจนอธิบายอารมณ์ความรู้สึกออกมาไม่ถูก
“น้องชายดื่มอีกแก้วเถอะ ฉันจะบอกไว้ก่อนนะในเจียงเฉิงนี้ นอกจากเหล้าดอกไม้ของที่นี่แล้ว ที่อื่นก็ไม่เลิศรสแบบนี้หรอก”
เมื่อเห็นเย่ชิวหยุดลงหลินชิงเยวก็รีบรินให้เต็มแก้วอีก
เมื่อเอาเท้าหดกลับไปแล้วเย่ชิวก็รู้สึกเหมือนในใจว่างโหวง ความรู้สึกเสียวปนจั๊กจี้นั้นได้หายไปแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะหลงไหลสัมผัสนั้นเข้าให้แล้ว
รอจนกระทั่งหลินชิงเยวนั่งลงก็รีบเอาเท้ายื่นออกไปทันที
เย่ชิวสบตากับหลินชิงเยวอย่างลำพองใจแล้วคิดที่จะเอาคืน บ้างค่อยๆยกขาตัวเองขึ้นเบาๆแล้วเตะไปทางหลินชิงเยว่
“เท้าใคร?” เชิวเพิ่งจะเอาเท้าไปโดน ก็มีเสียงร้องเย็นเยียบ ของ วอหานดังออกมา
“โทษทีเมื่อกี้ขามันชาเลยอยากขยับนิดหน่อย” เยซิวรีบ ขอโทษเมื่อเห็นท่าทางที่ดูน่ากลัวของลัวซื้อหาน เย่ชิวรู้สึกเกลียด หลินชิงเยวขึ้นมาทันที เกลียดซะจนอยากลากเธอไปกินตับซะ ตอนนี้เลย
ลัวซือหานที่ไม่ค่อยชอบเชิวอยู่แล้วพอถูกเตะแบบนี้ก็ยิ่งเย็น ชาขึ้นกว่าเดิมอีก ถ้าไม่เห็นแก่หน้าของมู่หรงหว่านเยวนะเกรงว่า คงจะจับคนยัดใส่กระเป๋าหนีไปนานแล้ว
“โห น้องชายเรา ช่างสุดยอดจริงๆ ไม่ใช่ว่าเล็งเจ้าหญิงน้ำ แข็งคนงามของเราอยู่เหรอ ทำไมถึงได้แอบไปโดนตัวเขาแบบ นั้นหล่ะ ฉันนั่งอยู่ตรงข้ามนายยังไม่เห็นจะโดนแบบนั้นบ้างเลย” หลินชิงเยว่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงน่าเอ็นดู ทำให้ทุกคนทยอย หันไปมองเย่วเป็นตาเดียว
“ใช่แล้วพี่ชาย พี่ไม่เห็นจะมาโดนตัวหนูบ้างเลย” เสียวหมี่ เบะปากพูด
เย่ชิวตอนนี้รู้สึกเหมือนน้ำท่วมปาก
“ซิงเยว่เธอพูดน้อยๆหน่อยก็ได้ฉันยังมองไม่เห็นถึงแผนที่เขา จะทำแบบนี้เลยนะ” มู่หรงหว่านเยวรีบเข้ามาพูดกู้หน้า
“หวานเย เธอคงจะไม่ได้กำลังช่วยน้องชายผู้ไม่ซื่อสัตย์คนนี้
อยู่หรอกนะ”
“ใช่แล้ว ผมมันไม่ซื่อสัตย์ ชิงเยวไม่ใช่พี่หรอกเหรอที่คิดไม่ ชื่อกับผมก่อนหน่ะ” เย่ชิวรู้สึกว่าถ้าตัวเองไม่พูดอะไรบ้างก็ไม่ สามารถที่จะอธิบายอะไรให้กระจ่างได้
คิดไม่ถึงเลยว่าพอพูดประโยคนั้นไปทุกคนก็หัวเราะออกมายก ใหญ่ขนาดวซือหานที่มีหน้าขรึมตลอดเวลายังยิ้มออกมาด้วย ในช่วงขณะนั้นเชิวก็หันไปสบตาหลินชิงเยวอย่างลำพองใจ
แต่หลินซิงเยวที่ผ่านประสบการณ์แบบนี้มาจนชินการโต้กลับ แบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บปวดอะไร แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อน หวานว่า “น้องชายทำไมถึงคิดว่าพี่สาวคิดไม่ซื่อหล่ะไหนลอง บอกมาซิ ดูว่าพี่สาวคนนี้จะยอมรับได้รึป่าว?”
หลินชิงเยวพูดจบก็มองเชิวด้วยท่วงท่าอ่อนช้อยเกินเบอร์ ตอนนี้เย่ชิวก็ไม่รู้จะเอาคืนได้ยังไงอีกยิ่งโมโหหน้าแดงขึ้นไป ใหญ่ ทำให้สาวน้อยทั้งหลายในที่นี้ยิ้มหัวเราะไม่หยุด
“ข็งยิ่งแก่ยิ่งร้อนแรง น้องชายของฉันเพิ่งมาจากชนบทก็ถูก พวกเธอแกล้งเข้าให้แล้ว” มู่หรงหว่านเยวมองไปยังเชิวที่พูด ด้วยความเจ็บใจและหน้าที่แดงจนไม่รู้ว่าเกิดจากเหล้าหรือความ อายกันแน่
หลังจากที่หลินชิงเยว่เห็นว่าเย่ชิวรับมือไม่ไหวแล้วนั้นก็ไม่ได้หาเรื่อง โจมตีอีก แต่ละคนจึงมานั่งพูดคุยปัญหาเรื่องงานบ้าง ความสวยความงามบ้างและทิ้งเรื่องเชิวไปก่อน
หลังจากทานอาหารกันเสร็จทุกคนจะไปร้องเพลงกันต่อที่คลับ ใกล้ๆ เพียงเข้าไปในห้องหลินชิงเยว่ก็ไม่ได้สนใจเชีวอีก ได้แต่ ลากรองเท้าส้นสูงตรงไปที่โซฟาแล้วนั่งลง
“หวานเยวตื่มเหล้ารอบก่อนเพราะร่างกายฉันไม่โอเคหรอก
นะถึงได้แพ้เธอ รอบนี้พวกเราจะต้องมาตัดสินชี้วัดกันให้ได้”
มู่หรงหว่านเยวมองใบหน้ารูปไข่ที่แดงของหลินซิงเยวที่ เข้าไปร่วมร้องเพลงกับบบรดาพี่สาวน้องสาวพวกนั้นขนาดเพลง ยังร้องไม่ค่อยถูกเลย
“ใครกลัวใครกันแน่ รอบก่อนแพ้แล้วรอบนี้จะต้องทำให้เธอ แพ้เหมือนเดิมให้ได้
“งั้นก็ดี พนักงานเอาเบียร์Budweiserมาสิบลัง” หลินชิงเยว่
โบกมือสั่งพนักงานที่เฝ้าอยู่ข้างนอกก็รีบลงมือจัดการให้ทันที
“พวกเธอก็เลือกเพลงเลือกของกินไปก่อนเลย ฉันจะไปพูด อะไรกับน้องชายสักหน่อย” มู่หรงหว่านเยยกมือหามไหล่เชิว ขึ้นและเดินตรงไปห้องน้ำที่อยู่ด้านหน้าแล้วพูดเสียงเบาว่า “เป็น ไงบ้างบรรดาพี่สาวน้องสาวพี่สวยทุกคนเลยใช่ปะ มีคนไหนที่ ชอบมั้ย บอกมา จะจัดการให้
พอเห็นหน้าตาที่จริงจังของมู่หรงหว่านเยว เย่ชีวก็รู้สึกผิดที่จะ เอ่ยปาก ร่างกายสั่นไปทั้งร่างมองมู่หรงหว่านเยวอย่างประหลาด ใจ ในใจคิดว่าพวกเธอชักจะเล่นสนุกกันเกินไปแล้ว
แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นเหล้าที่อยู่บนร่างตัวเองหรือร่างทรง หวานเยวกันแน่ อย่างไรก็ตามตอนนี้กลิ่นหอมที่อยู่บนร่างหญิง สาวกับกลิ่นเหล้าได้ตีกันวุ่นวายไปหมด ความรู้สึกนี้ช่างทำให้ คนลุ่มหลงได้ไม่ยาก
“พี่หว่านเยวพี่จริงจังเหรอ?” เย่ชิวหยั่งเชิงถาม อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่มาครั้งนี้แต่ละคนก็ช่างสวยสุดยอด
ถังสวยสง่าเพียบพร้อมจิตใจดี ลัวซื้อหานงดงามเยือกเย็น สูงส่ง หลินชิงเยวมีเสน่ห์ยั่วยวนใจแบบผู้ใหญ่แล้วยังเสียวหมี่ที่ ยังอายุน้อยแล้วนั้น ทุกคนก็ล้วนแต่ดูดีมากทั้งสิ้น
มู่หรงหว่านเยวเอามือสองข้างวางไว้บนไหลเยซิว ชั่วครู่ที่ทั้ง สองมองตากัน ใบหน้าแดงระเรื่อที่ดูงดงามนั้นใกล้เข้ามา
“นายคิดว่ามีครั้งไหนบ้างที่พี่หวานเยวโกหกนาย”
“งั้นก็ตามนั้น แค่เพียงนายชอบที่จะช่วยจัดการให้
เย่ชิวคิดทบทวนอีกรอบหนึ่งที่จริงแล้วไม่มีใครที่ไม่ชอบเลย จากนั้นจึงพูดออกมาอย่างมั่นใจว่า “ผมชอบหมดเลย”
ได้ยินคำตอบนั้นมู่หรงหว่านเยวก็ตื่นตระหนกไปทั้งร่างแล้ว มองเย่ชิวด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ