บทที่ 4 เธอบอกว่าจะแต่งงานกับผม
“omg ไม่คิดเลยว่าเด็กน้อยคนนั้นตอนนี้ได้กลายเป็นหนุ่มหล่อ แล้ว” เมื่อเยซิวอาบน้ำเป่าผมเสร็จ และกำลังสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว อยู่นั้น มู่หรงหว่านเยวก็เปิดประตูเข้ามาและตะลึงไปชั่วครู่
“ที่ไหนหล่ะ” เยชิวตอบอย่างอายๆ สิ่งที่ทรงหว่านเยวพูดไม่ ได้ทำให้เขามีความมั่นใจขึ้นแม้แต่น้อย มู่หรงหว่านเยวเปลี่ยน มาใส่ชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำ เผยให้เห็นลาดไหล่และแผ่นหลัง ขาวๆ อีกทั้งบนชุดเดรสก็ปักลวดลายงดงามและยังสวมรองเท้า ส้นเข็มสีดำไม่เหมือนกับการแต่งตัวเมื่อกลางวัน แต่กลับทำให้ดู เป็นหญิงสาวขึ้นมาไม่น้อย
“พี่หว่านเยวผมไม่ได้กินข้าวที่พี่ทำนานแล้วนะ วันนี้อยู่กินข้าว ที่บ้านไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้ กับข้าวฝีมือพี่หน่ะไว้วันหลังยังมีโอกาสกินเยอะแยะไป วันนี้พี่จะพานายไปเยี่ยมน้องสาวสักหน่อย รับรองว่าเป็นหญิง สาวสวยแท้แน่นอนทุกคน”
“ผมไม่เชื่อหรอกจะมีใครสวยไปกว่าพี่หว่านเยวได้ยังไงกัน?” เย่ชิวพูดอย่างจริงจัง
“มีคนสวยกว่าพี่เยอะแยะพี่สาวนายคนนี้หน่ะแก่แล้วไม่มีใคร เอาหรอก” เมื่อเริ่มพูดมู่หรงหว่านเยวก็พูดอย่างสบายๆ แต่ตอน หลังก็รู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป พอคิดว่าตอนนี้ตัวเองก็อายุ ยี่สิบเจ็ดปีแล้วควรถึงเวลาที่จะคิดเรื่องแต่งงานได้แล้วจริงๆ แต่คนๆนั้นของเธอไปอยู่ไหนแล้วหล่ะ?
อยู่ตรงหน้านี่เหรอ? แต่เจ้าเด็กนี่อายุเพิ่งจะยี่สิบกว่าเองนะ เขาจะเอาฉันเหรอ?
“พี่หว่านเยวพี่ไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย ในใจผมนะพี่ทั้ง สวยที่สุดและดูเด็กที่สุดเสมอ เย่ชีวสวมรองเท้าไปพลางพูดไป
พลาง
“ปากหวานตลอด เร็วหน่อยนะเดี๋ยวพี่ลงไปก่อน” มู่หรงหว่าน เยวเดินส้นสูงจากไปอย่างไม่ทุกข์ร้อนพอมองจากด้านหลัง แล้วเย่ชีวก็เผลอยกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ผู้หญิงคนนี้ถ้าหากถูก เขาปราบพยศได้ก็คงจะดีไม่น้อย
แต่ไม่รู้ว่าเธอจะยังจำคำพูดตอนเด็กนั่นได้อยู่รึเปล่า? ที่บอกว่าเธอจะแต่งงานกับผม
มู่หรงหว่านเยวพาเยวไปถนนคนเดินใจกลางเมืองเจียงเฉิง ที่นี่มีภัตตาคารอาหารที่มีผู้หญิงร้องเพลงบนเวทีภายในตกแต่ง สไตล์คลาสสิคสวยงาม โคมไฟที่แขวนอยู่มีกลิ่นอายแบบ โบราณ ยังไม่ทันเข้าไปก็มีหญิงสาวสวยแต่งกายด้วยชุดกี่เพ้าที่ ถูกคัดเลือกมาอย่างดีออกมาต้อนรับ
“เถ้าแก่ คนมาถึงแล้วนะ” มู่หรงหว่านเยวเพิ่งจะเดินเข้าไป คน หน้าเวทีก็รีบเดินเข้ามาพูดกับเธอ มู่หรงหว่านเยวคือหุ้นส่วน ใหญ่ของภัตตาคารแห่งนี้
“ดี แล้วหลินชิงเยวหล่ะ?”
“เธอบอกว่า ใกล้ถึงแล้ว
“ฉันน่าจะรู้นะว่าเธอไม่ค่อยตรงต่อเวลาเท่าไหร่” ทรงหว่าน
เยวบ่นได้ประโยคนึงก็ถูกคนหน้าเวทีพาไปห้องส่วนตัวด้านหน้า
“น้องชายนายต้องลองชิมเหล้าดอกท้อกับเหล้ากุหลาบของที่ นี่นะ” มู่หรงหว่านเยยังไม่ทันผลักประตูก็หันไปบอกเชิวก่อน
“พี่หวานเยวในที่สุดก็มาซะที
“ใช่แล้ว ให้ฉันรอได้ไง ระวังจะดื่มไม่ไหวเอานะ” มู่หรงหว่าน เยวเพิ่งจะเปิดประตูเข้าไป เสียงผู้หญิงที่อยู่ข้างในก็ดังออกมา อย่างไม่ขาดสาย ตอนนั้นเองที่เชิวถูกขวางไว้หลังประตู รู้สึกได้ ถึงหน้าที่ถูกชนจนปวดไปหมด
“ทุกคนอย่าเพิ่งรีบร้อน ฉันจะแนะนำหนุ่มหล่อให้ทุกคนรู้จัก เด็กหนุ่มเนื้อหอมคนนี้” มู่หรงหว่านเยวดึงเย่ชิวที่อยู่ด้านหลัง ออกมา “นี่คือน้องชายฉันเชิว เป็นไงหล่อป่ะ?”
เย่ชีวกวาดตามองงานเลี้ยงที่อยู่ตรงหน้ารู้สึกถึงลมหายใจที่ หยุดนิ่ง ทั้งกลุ่มนี้คือหญิงสาวสวยทั้งกลุ่ม แม้ว่าจะไม่ได้ให้ความ รู้สึกสไตล์ผู้ใหญ่อย่างมู่หรงหว่านเยว แต่รูปร่างหน้าตาแต่ละคน ก็ล้วนดูดีสูสีกันทั้งนั้น
“ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้” เย่ชิวคิด หญิงสาวที่เดินเข้าออกตาม สบายที่นี่ก็ล้วนแล้วดูดีกว่าพวกเน็ตไอดอลอะไรนั่นอีก
“หว่านเยวฉันไม่ได้มาสายใช่มั้ย?” ขณะที่เย่ชิวยังคงคิดอะไร ในใจอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นก็รู้สึกร่างกายตนเองทรงตัวไม่อยู่เพราะถูกผู้หญิงคนนึงผลักออกไปข้างๆ
“ไม่สายหรอก คุณสวยของฉันจะไปสายได้ยังไงกันหล่ะ” มู่ห รงหว่านเยอดที่จะพูดออกมาไม่ได้ หลังจากนั้นจึงหาที่นั่งใกล้ๆ แล้วนั่งลง
“หลินซิงเยว่?” เมื่อเยซิวได้เห็นหน้าแบบชัดๆก็รู้สึกแปลกใจ คนนี้ไม่ใช่ว่าเป็นผู้หญิงสวยๆที่เจอที่ร้านร้านไก่สไตล์คันทรี่ หรอกเหรอ?
จนกระทั่งตอนนี้เขาก็รู้สึกได้ว่านอกจากมู่หรงหว่านเยวแล้วก็ หลินชิงเยวนี่แหละที่สวยที่สุด
เพียงแต่ว่าตอนนี้หลินชิงเยวสวมชุดเที่ยวกลางคืนที่มีสาย พาดข้างไหล่สีดำรัดรูป อาจพูดได้ว่าหลินชิงเยวผู้หญิงที่แต่งตัว เก่งคนหนึ่ง พออยู่ใต้แสงไฟขาขาวยาวผุดผ่องของเธอก็ตัดกับ กระโปรงสีดำอย่างชัดเจน ทำให้มีกลิ่นอายของหญิงสาวที่เป็น ผู้ใหญ่เต็มตัว
หลินชิงเยวสบตากับเย่ชิวฉับพลันดวงตาก็เป็นประกาย เห็น ชัดเจนว่าจํากันได้แต่ก็ไม่พูดออกมา ทำเพียงแค่ส่งเสียงพูดออด อ้อนฉอเลาะออกมาว่า “นี่คือเด็กหนุ่มเนื้อหอมที่หว่านเยวคนงาม แนะนำมาเหรอ? อยากจะเปลี่ยนรสชาติมาลองชิมของสดใหม่ บ้างจัง”
หลินชิงเยว่พูดจบสาวน้อยใหญ่ทั้งหลายก็กลั้นรอยยิ้มบนหน้า ไว้ไม่อยู่
“พอแล้ว เธอหน่ะเก็บอาการหน่อยสิ หนุ่มหล่อของเราอาจจะยังไม่เคยเจอผู้หญิงแบบเธอมาก่อนก็ได้อย่าทำให้เขาตกใจ” ผู้ หญิงที่นั่งอยู่คนหนึ่งพูดขึ้น ผู้หญิงคนนี้มองไปก็เป็นคนที่สวยคน หนึ่ง แลดูค่อนข้างอวบอิ่มเสื้อผ้าที่สวมก็ดูทันสมัย
“พี่ชายสุดหล่อ สวัสดีค่ะหนูชื่ออู๋เสียวหมี่เรียกว่าหมีหมี่ก็ได้ ” เย่ชิวเพิ่งจะนั่งลงก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งขยับขึ้นมาแนะนำตัวข้าง หน้า เด็กผู้หญิงคนนี้น่าจะอายุไม่เกินสิบห้าสิบหก ส่วนสูง ประมาณหนึ่งร้อยหกสิบ ใบหน้าอ้วนกลมรูปไข่แลดูมีน้ำมีนวล ดู โดยรวมแล้วก็เป็นคนที่งดงามคนหนึ่ง สวมเสื้อทีเชิ้ตสีขาวสกรีน ลายหัวตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ที่ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกน่ารักน่าชัง
“สวัสดีพีชื่อเย่ชิว” ที่จริงแล้วในใจเชิวก็รู้สึกเหมือนทำอะไร ไม่ถูก พอได้อยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่สวยงามมากมายขนาดนี้ แม้ว่า จะเป็นคนใจแข็งแค่ไหนก็ตามแต่ก็ไม่อาจคิดเรื่องไม่ดีได้เลย
“พี่ชายพี่มีแฟนยังอ่ะ?”
“ไม่มี”
“งั้นก็ดีเลยหนูก็ยังไม่มีแฟนหนูพอจะเป็นแฟนพี่ได้มั้ยคะ?” อู๋ เสียวหมีทำแก้มป่องแล้วมองเชิวอย่างจริงจัง การกระทำที่ได้ เดียงสา ทำให้คนตกหลุมรักไม่ยากเลย
“หมีหมี่ตอนนี้เธอยังเด็กเอาไว้เข้ามหาวิทยาลัยได้เมื่อไหร่ ค่อยมีความรักนะ” มู่หรงหว่านเยวบีบคางที่มีแก้มของ เสียวหมี่
“ใช่แล้ว เธอก็ไปบอกพี่ชายคนนี้ให้รอเธอเข้ามหาวิทยาลัยสิ เวลานี้อยู่ๆหลินชิงเยว่ก็พูดขึ้นมาแต่ดูจากน้ำเสียงของเธอแล้วไม่ได้แนะนำแบบจริงจังหรอก แต่แค่อยากเห็นคนอื่นเป็นทุกข์แค่ นั้นเอง
ช่างเหมาะเจาะเหลือเกินที่หลินชิงเยวกับเยซิวนั่งตรงข้ามกัน ท่าทางที่ยิ้มน้อยๆนั้นอยู่ในสายตาของหลินชิงเยวทั้งหมด พอ เห็นเขาเป็นแล้ว หลินชิงเยวก็นึกถึงแผนการของตัวเองขึ้นมาครั้ง แรกที่ตัวเองหยอกเขาที่แม็คโดนัลด์ ครั้งนี้ก็อยากจะใช้แผนเดิม อีกครั้ง
“เอาหล่ะเสี่ยวชิวฉันจะแนะนำเธอให้รู้จัก ที่นั่งอยู่ข้างฉันคือถัง มี ส่วนอะไรยังไงนั้นค่อยมีโอกาสได้ทำความรู้จักกันทีหลัง
เยวกับถังมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน ผู้หญิงคนนี้ดูไปก็ไม่เลว อีกทั้งยังดูสวยเพียบพร้อมอีกต่างหาก ให้ความรู้สึกไม่ต่างจา กทรงหว่านเยวเท่าไหร่
“คนนี้คือ วอหานเรียนที่มหาวิทยาลัยเจียงเฉิงสาขา วรรณคดีเหมือนกัน ไม่แน่ว่าพอถึงเวลาอาจจะเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะ เดียวกันกับนายก็ได้ต้องไปผูกสัมพันธ์กับเธอให้ดีหล่ะ” เชิวยิ้ม ให้รั่วซือหานแต่เธอกลับไม่แสดงอาการอะไรออกมา ทำให้คน รู้สึกว่าเธอค่อนข้างเย็นชา ไม่ใช่เย็นชาแบบทรงหว่านเยวเวลา อยู่บริษัทแล้วทำท่าขรึมแต่เป็นความเย็นชาแบบไม่สนอะไรทั้ง สิ้น
แต่ว่าจากนี้ไปถ้าจะมีหญิงสาวสวยมาเรียนที่เดียวกับตัวเอง เย่ชิวก็รู้สึกมีความสุขมากแล้ว
มู่หรงหว่านเยวยังคงแนะนำเขากับคนอีกสองสามคนทั้งหมดล้วนเป็นสาวสวยทั้งสิ้นต่างแค่เพียงขนาดหน้าอกเท่านั้น ในที่สุด เชิวก็สัมผัสได้ว่าทั้งหมดมันเป็นแต่ละครฉากหนึ่งที่เอาไว้ ลวงตาผู้คนแค่นั้นเอง!!
“ในเมื่อเราเพิ่งจะได้พบกับน้องชายสุดหล่อคนนี้ครั้งแรก ทุก คนมีใครอยากจะดื่มบ้าง?” หลินชิงเยวเทเหล้าให้ตัวเองจนเต็ม จากนั้นจึงถือขวดเหล้าแล้วมองไปที่เชิว ดวงตาเต็มไปด้วย ความลำพองใจ
“ผมดื่มเหล้าไม่ได้อ่ะ พี่หวานเยวพี่ก็รู้นี่นาช่วยผมอธิบาย หน่อยสิ” เพียงครู่หน้าของเชิวก็หมั่นลง ตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่ เคยดื่มเหล้าเลยสักนิด!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ