บทที่ 4 หนีตามกันไป? กระโดดผา?
บทที่ 4 หนีตามกันไป? กระโดดผา?
ชูว์ !
องครักษ์คนอื่นๆ ที่รับได้สัญญาณจากจื่อเฟิง ไปยังสถานที่ที่เย่ แจ๋หยิ่งอยู่โดยเร็วที่สุด
“ปิดกั้นทางออกของหุบเขา ตามหาหญิงที่บาดเจ็บสาหัสมาให้
ข้า
เย่แจ๋หยิ่งทอดสายตามองไปยังข้างหลุมตื้นๆ หลุมใหม่ หรี่ตา เล็กน้อย นางบ้านั่น ทุ่มสุดตัวขุดหลุมนี้ก็เพื่อฝังเขา
รอจับนางได้ ให้นางนอนลงไปนอนเอง……..
“ขอรับ ! ”
ได้ยินรับสั่งจากเจ้านายตนเอง องครักษ์ทั้งหมดถึงกับงง สิ่ง สำคัญที่สุดในตอนนี้ของเจ้านายคือควรตามหาเบื้องหลังของคน ที่วางพิษไม่ใช่หรือ?
ทำไมไปผัวพันกับผู้หญิงคนหนึ่งได้ ?
ไม่เคยเห็นปฏิกิริยาที่แย่ขนาดนี้ของเจ้านายมาก่อน ดูเหมือนว่า ผู้หญิงคนนั้นได้ทำสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย
นึกถึงจุดนี้ องครักษ์แต่ละคนปฏิญาณต่อตนเอง ต้องจับผู้หญิง คนนั้นเป็นคนแรกให้ได้ จากนั้นคาดคั้นถามเธอว่าได้ทำอะไรกับ เจ้านาย?
หลังจากรับคำสั่ง องครักษ์แยกย้ายอย่างรวดเร็ว
เหลือจื่อซีผู้มีความรู้ทางการแพทย์เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่กับ เย่แจ๋หยิ่ง
“เจ้านาย ข้าน้อยขอตรวจดูอาการของท่านได้หรือไม่?” จื่อซี ถามอย่างนอบน้อม
“อืม ! ”
จื่อซีมองดูบาดแผลที่ห่อแล้วบนร่างกายเจ้านายแวบหนึ่ง ดวงตา สว่างเล็กน้อย จากนั้นก็จับชีพจร ดวงตาเบิกกว้างขึ้นทันที
“เจ้านาย พิษของท่านถูกถอนแล้ว”
“ทีม ? ” เย่แจ๋หยิ่งได้ยินตกใจเล็กน้อย สายตาเย็นชามองไปยัง จื่อซี พูดด้วยเสียงเรียบ: ไม่มีพิษตกค้างหรือ?”
“ไม่มีขอรับ ! ”
จื่อซีตื่นเต้นในใจเล็กน้อย พิษในตัวเจ้านาย รุนแรงและก็แพร่เร็ว มาก ด้วยความรู้ทางการแพทย์ของเขาก็มิอาจรับรองได้ว่าจะล้าง พิษหมดในครั้งเดียว
นอกเสียจากเจ้านายเจอหมอเทพ?
“หึ น่าสนใจดี ! ” เย่แจ๋หยิ่งหรี่ตาเล็กน้อย ยิ้มมุมปากเย็นชา อย่างหน้าเลือด
ผ่านไปหนึ่งช่วงยาม
องครักษ์มารายงาน พวกเขาเกือบจะค้นทั่วทั้งหุบเขา ก็ไม่เจอ ร่องรอยของหญิงผู้นั้น เธอสามารถกางปีกและบินได้งั้นหรือ?
“แม้ว่าจะพลิกแผ่นดินก็ต้องตามหานางให้เจอ!” เย่แจ๋หยิ่งพูด อย่างเย็นชา
บนโลกนี้ไม่มีใครที่เขาหาไม่เจอ โดยเฉพาะมนุษย์ที่เหมือนตายทั้งเป็นอย่างนางบ้านั่น
เย่แจ๋หยิ่งกำมัดแน่น กวาดสายตาไปยังหลุมตื้นข้างๆ ที่เพิ่งขุด เสร็จใหม่นั้น….…
ยามใกล้พลบค่ำ ดวงอาทิตย์ตกดิน
จวนแม่ทัพมีสิงโตหินขนาดใหญ่สองตัวยืนอยู่ทั้งสองข้างที่หน้า ประตู สง่าและน่าเกรงขาม ดูเหมือนว่าจะแสดงให้เห็นถึงอำนาจ ของจวนนี้
ผู้หญิงผอมอ่อนแอคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูโดยไม่พูดอะไร บาดแผลที่ปิดมัดในร่างของเธอเต็มไปด้วยเลือด
หลายเยาเยาที่ใบหน้าซีดเซียวดูแผลตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงตาหรี่เล็กน้อย
ในที่สุดก็กลับถึงที่แห่งอันตรายแล้ว…….
เพื่อหลีกเลี่ยงการไล่ล่าของลูกน้องชายคนนั้น เธอปืนขึ้น หน้าผาด้วยเถาวัลย์จากข้างล่าง
หลานเยาเยาเดินไปยังหน้าประตู ยื่นมือจับที่ห่วงประตูแล้วเคาะ
ประตู เคาะต่อเนื่องไม่หยุด
ในไม่ช้าก็ได้ยินเสียงฝีเท้า
จากนั้นก็มีเสียงเปิดประตู “แอ๊ด” ดังขึ้น และตามด้วยเสียงอันไม่ พอใจของชายวัยกลางคน :
“มาแล้วมาแล้ว ใครกัน ? ไม่รู้หรือว่าจวนนี้มีงานมงคล ? รบกวน องค์ชายรัชทายาท………คุณ คุณหนูหก ? ”
เห็นสภาพที่ที่ทนดูไม่ไหวของหลานเยาเยา พ่อบ้านแทบจำไม่ ได้ หลังจากยืนยันว่าเป็นหลานเยาเยา พ่อบ้านสีหน้าไม่ดี
“ทำไม ? เจ้าตกใจที่ข้ายังมีชีวิตอยู่หรือ ? ”
พ่อบ้านผู้นี้ก็คือคนของคุณหญิงแม่ทัพนิ่งซื่อ อย่าคิดว่าเขาหน้า ใสซื่อ แต่เป็นคนที่เห็นแก่เงิน อันธพาลโหดเหี้ยม
ความตายของเจ้าของร่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาไม่น้อย !
“เป็นคุณหนูหกนี่เอง ! ดีใจมากที่คุณหนูกลับมาแล้ว ข้า
น้อยจะไปแจ้งนายท่านและคุณหญิงเดี๋ยวนี้เลย”
พูดอยู่ พ่อบ้านที่ฝืนยิ้มก็จะปิดประตู แต่ถูกหลานเยาเยาขวางไว้ ก่อน จากนั้นผลักประตูออกทันที ทำให้พ่อบ้านตกใจ
คุณหนูหกตรงเบื้องหน้าบาดเจ็บไปทั่วร่างกาย ซีดเซียวอ่อนแรง ดูท่าแล้วจะบาดเจ็บสาหัส จะมีแรงผลักประตูที่เขาตั้งใจจะปิดได้ อย่างไร?
และแรงเยอะจนน่าตกใจ !
เขาเป็นถึงคนที่เคยเรียนศิลปะการต่อสู้……
หลานเยาเยามองพ่อบ้านค้อนไปที่หนึ่ง ท่าทางไม่แยแส พูด ด้วยสายตาเย็นชา: “ข้ากลับจวนของข้าเจ้ายังต้องแจ้งหรือ ? ”
ไปรายงานความคืบหน้าสินะ !
สายตาที่เยือกเย็นทำให้พ่อบ้านกลัวใจสั่น เหมือนมีกระแสลม เย็นพัดผ่านที่คอ
“เชอะ ! ”
ก็แค่ไอ้ขี้ขลาดกล้าดียังไงมาอวดเก่งต่อหน้าเธอ ?
หลังจากหลานเยาเยาเพียงแค่มองเขาเท่านั้น แล้วเดินไปใจจวน เดิมทีเธอต้องการกลับไปที่ลานขนาดเล็กทรุดโทรมนั่นของตน และพักผ่อนให้เต็มที่
แต่คิดไม่ถึง……..
เดินไม่กี่ก้าว ก็เห็นคนสี่คนกําลังเดินมา ชายสองหญิงสอง แต่ ตัวหรูหรา ใบหน้าของพวกเขาแต่ละคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส
หลังจากเห็นเธอ รอยยิ้มของสี่คนนั้นก็หายไปทันที ลักษณะ ท่าทางเปลี่ยนไป !
“ขอทานนี่มาจากไหน ? กล้ารุกล้ำเข้ามาในจวนแม่ทัพ พ่อ บ้านยังไม่ขับไล่ออกไปอีก ? น้ำเสียงอ่อนโยนที่เต็มด้วยความ ขยะแขยงเป็นที่สุด
ที่พูดคือหลานชิวหยุนคุณหนูสี่แห่งจวนแม่ทัพ ใบหน้าเธอเนียน สวยงาม ผิวพรรณเรียบเนียน สวมชุดสีชมพูอ่อนทั้งตัว ไม่ได้ ตกแต่งมากเป็นเศษ แต่ก็สวยสง่าโดดเด่น
เธออยู่ข้างๆ ชายรูปงานคนหนึ่ง และมือที่นุ่มนิ่มจับแขนของเขาเบา ๆ
ชายผู้นั้นก็คือองค์ชายรัชทายาท !
ใบหน้าของเขาชัดเจนเหมือนรูปแกะสลัก ใบหน้าเข้มขรึมที่ งดงามผิดปกติ รูปร่างสูงเพรียว เป็นที่รู้จักในชายรูปงามที่สุดแห่ง จักรวรรดิ
เขาเห็นสภาพของหลานเยาเยาในเวลานี้ ความรังเกียจและเย้ย หยันในสายตามากยิ่งขึ้นไปอีก !
หลานชิวหยุนมองแวบแรกก็ดูออกว่าคนที่อยู่หน้าประตูคือใคร หลานเยาเยาคนนั้นที่เป็นแค่ลูกเมียน้อย สถานะไม่สูงส่งเท่าเธอ มีชีวิตอยู่รันทดยิ่งกว่าสุนัข แต่ก็สามารถเป็นคู่หมั้นกับองค์ชาย ราชทายาทตั้งแต่เด็ก
นาง…..มีสิทธิ์อะไร?
โดดลงผาแต่ไม่ตาย………
เกลียดนัก !
“คุณหนู ขอรับ นางคือ……
พ่อบ้านยังตอบไม่เสร็จ ก็ถูกหลานชิวหยุนชำเรืองมองแรก เสียงเงียบทันที
คุณหญิงแม่ทัพข้างๆ หรี่ตาลงเล็กน้อย ประกายแห่งความชั่ว ร้ายแวบเข้ามาในดวงตา ท่าทางเปลี่ยนไปทันที น้าตาประกายใน ดวงตา พูดอย่างไม่น่าเชื่อว่า
“เยาเยา นั่นเจ้าใช่ไหม? เจ้าหนีไปกับชายผู้หนึ่งแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมกลายเป็นแบบนี้? ใครก็ได้เร็วเข้า ! ไปตามหมอมา เร็วเข้า
นิ่ง อพูดคำว่าหนีตามสองคำนี้เสียงดังฟังชัด จากนั้นก็เดินมา ตรงหน้าหลานเยาเยาอย่างรวดเร็ว ดูรอบตัว แต่บาดแผล ใบหน้า ที่ซีดเซียว ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วง
หลานเยาเยาหลบมือของนิ่งชื่อที่จะจับแขนของเธอทันทีอย่าง ไม่วางใจ ทันใดนั้นดวงตาก็เย็นชาอีกครั้ง
นิ่ง อคนนี้ ทั้งๆ ที่เห็นว่าบนแขนของเธอได้รับบาดเจ็บหลาย จุด และยังคงมีเลือดซึมออกอยู่ ยังเล็งที่จะจับแขนของเธอ จุด ประสงค์นี้
หลานเยาเยาถอนหายใจอย่างหมดหนทาง พูดเบาๆ :
“เห้อ ! ก็ไม่รู้ว่าต้นหอมดั่งต้นไหนสั่งการให้องครักษ์ที่อายุสั้น สองคนนั้นมา บังคับให้ข้าโดดผา แต่ก็ตกไม่ตาย เจ้าว่าข้าควรจะ โกรธหรือไม่? ข้าเลยต้องหอบบาดแผลปืนขึ้นมาจากใต้หน้าผา
ขณะนี้คนที่ถูกหลานเยาเยาเปรียบเหมือนต้นหอมกำลังกำหมัด แน่น เล็บแทบเจาะที่เนื้อแล้ว
นิ่ง อขมวดคิ้ว
เธอรู้เลยทันทีว่าองครักษ์สองคนนั้นคือคนลูกสาวที่รักของเธอ ส่งไป แต่คิดไม่ถึงว่าหลานเยาเยาจะกล้าด่าคน
โกรธเคืองในใจ กำลังจะพูด ถูกชายวัยกลางคนถามขึ้นอย่าง เสียงดุขัดจังหวะเสียก่อน
“โดดผา ? องครักษ์ล่ะ ? ”
พอเห็นหลานเยาเยาหลานเฉินแม่ทัพหลวงก็แสดงสีหน้าเย็น ชาตลอดในที่สุดก็ถามขึ้น……..
(จบบทนี้)
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ