บทที่ 12 เข้าจวนอ๋องเ
บทที่ 12 เข้าจวนอ๋องเย่
“อืม! ข้าทราบแล้ว”
หลานเยาเยานำยาพิษออกมาหนึ่งขวด เปิดฝา แล้วนำยาพิษ หยดลงบนเข็มเงิน เช่นนี้ถึงจะออกจากห้องได้อย่างวางใจ
ขอให้ความรู้สึกที่สัมผัสถึงแรงสังหารก่อนหน้านี้ เป็นเพียงการ เข้าใจผิดด้วยเถิด
ในไม่ช้า
หลานเยาเยาถอดหมวกผ้าคลุมออก ถือกระเป๋าพยาบาลเดินตาม ท่านหานมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของอ๋องเย่ เห็นท่านหานทำ ที่จะหันหลังเดินกลับ นางจึงรีบถามว่า :
“ท่านไม่เข้าไปกับข้าหรอกหรือ?”
แตก แตก อ่องเย่ไม่ชอบคนพลุกพล่าน เจ้าวางใจเถอะ อ๋องเป เข้ากับคนง่าย” กล่าวเช่นนี้หมายความว่าให้นางเข้าไปคนเดียว
เข้ากับคนง่าย?
อย่ามาหลอกซะให้ยาก!
แต่เมื่อท่านหานพูดจบ ก็เดินจากไปทันที
หลานเยาเยาสูดหายใจลึกๆหนึ่งครั้ง แล้วจึงเคาะประตู
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก…………..
“อ๋องเย่ ข้านำกระเป๋าพยาบาลมาให้ท่านแล้ว”
แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือความเงียบ หลานเยาเยากลอกตาหนึ่ง ครั้งด้วยความเบื่อหน่าย มีคนอยู่ข้างในแท้ๆ แต่กลับไม่ยอมขาน ตอบ แย่จริงๆ
สูงส่งสักแค่ไหนกันเชียว
ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่มุกเย่หมิง นางไม่มีทางยอมอ่อนน้อมให้ เช่นนี้แน่
เช่นนั้น!
นางจึงแลบลิ้นปลิ้นตาอยู่ที่ประตู “แบร่ แบร่ แบร่” เพื่อแสดง ความดูถูก
“แอ๊ด……
ทันใดนั้นเอง ประตูก็เปิดออก สัมผัสได้ถึงลมเย็นยะเยือกที่พัด ออกมา เมื่อมองเข้าไปข้างใน ก็มีบุรุษสวมหน้ากากสีเงินปรากฏ ตัวขึ้นต่อหน้านาง ดวงตาที่ดูลึกซึ้งคู่นั้นกำลังจ้องมองนางอยู่ ร่างกายของนางสัมผัสได้ถึงลมหายใจของคนแปลกหน้า
“แคก แคก……….
หลานเยาเยาสำลักน้ำลายจนเกือบจะกัดลิ้นตัวเอง
แต่ว่า!
ดวงตาของนางกลับเป็นประกายขึ้นทันที
ท่วงท่าที่ดูสง่างาม รูปร่างที่ชวนให้หลงใหล ผิวกายที่ขาว เกลี้ยงเกลา ไม่รู้ว่ารูปลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากนั้นจะเป็น อย่างไร
“อ๋องเย่ นี่กระเป๋าพยาบาลของท่าน หลานเขาเขาพยายามเก็บ อาการ แล้วส่งมอบกระเป๋าพยาบาลให้ด้วยรอยยิ้มอันแสนหวาน
เย่แจ๋หญิงหรี่ตาลง ในแววตาสะท้อนให้เห็นถึงความอันตราย อากาศหนาวโดยรอบเริ่มทวีขึ้น ยังไม่ทันรู้ตัว ก็มีมือเข้ามาโอบอยู่ ที่เอวเสียแล้ว
“อ๋องเย?”
เมื่อเห็นว่าอ๋องเย่ไม่พูดอะไร หลานเขาเขายิ่งถามด้วยความ ระมัดระวัง ถึงแม้บนใบหน้าจะฉาบด้วยรอยยิ้ม
แต่ว่า……
บนหน้าผากกลับเต็มไปด้วยเหงื่อ
เป็นเวลานานพอสมควร กว่าที่อ๋องเย่จะตอบกลับมาคำหนึ่งว่า “อืม” หลังจากนั้นก็หายตัวไปจากด้านหน้าของหลานเขาเขา และ ไปปรากฏตัวอยู่บนเก้าอี้ภายในห้อง ยกแก้วชาขึ้นจิบหนึ่งคำ
“เข้ามาสิ!”
ว้าว!
เป็นอะไรที่เห็นได้ยากยิ่ง
ตอนนี้หลานเยาเยารู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย จากก่อนหน้าที่ สัมผัสได้ถึงความรู้สึก ที่มุ่งจะสังหารอย่างรุนแรง
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด อ๋องเย่เอง ก็เลิกล้มความคิดที่จะฆ่านางเช่น
กัน
เพิ่งพบกันครั้งแรก คงไม่ทำให้เขาขุ่นเคืองหรอกนะ? หรือว่าเขาเป็นพวกกระหายเลือด เห็นใครก็อยากจะฆ่า?
ดูเหมือนว่าที่นี่ ไม่เหมาะที่จะอยู่นานๆ เมื่อได้มุกเย่หมิงแล้วก็ ควรไปทันที อ๋องเย่ท่านนี้ ดูช่างอันตรายนัก
เมื่อหลานเยาเยาตัดสินใจได้เช่นนี้แล้ว จึงเดินเข้าไปด้วยท่าทีที่ สงบ เมื่อไปถึงเบื้องหน้าของอ๋องเย่ ก็วางกระเป๋าพยาบาลลงบน โต๊ะ หลังจากนั้นจึงลบรหัสลายนิ้วมือของตนเองทิ้ง และใส่รหัส ลายนิ้วมือของอ๋องเย่เข้าไปแทน
“อ๋องเย่ โปรดนำนิ้วมือของท่านวางลงด้านบนนี้ด้วย!
หลานเยาเยาไปตรงจุดที่ใช้บันทึกรหัส เห็นอ๋องเย่จ้องมอง กระเป๋าพยาบาลตาเขม็ง สายตาเหมือนสงสัยอะไรบางอย่าง
ในที่สุดก็วางนิ้วชี้ลง
“ติ๊ง บันทึกลายนิ้วมือสำเร็จแล้ว!”
หลานเขาเขายิ้มมุมปากเล็กน้อย และพูดอย่างยินดีว่า
“ท่านอ๋อง เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มีแต่ท่านที่ใช้งานมันได้” หลังจากนั้น นางก็ยืนรอมุกเย่หมิงจากอ๋องเย่ แล้วนางก็จะไป
แต่ว่า……
อ๋องเย่มัวแต่ง่วนอยู่กับกระเป๋าพยาบาล จนลืมเรื่องมุกเย่หมิงไป
ซะสนิท
ไม่นาน
หลานเยาเยาก็อดรนทนไม่ไหว จึงคิดที่จะส่งเสียงเตือน
ในตอนนั้นเอง!
มีมีดเล่มหนึ่งทะลุหน้าต่างเข้ามา พุ่งไปที่หน้าของนางอย่าง รวดเร็ว หลานเยาเยาหรี่ตาลงเล็กน้อย เอี้ยวตัวหลบและใช้มือปัด อาวุธทิ้ง แล้วนางจึงซัดเข็มเงินกลับไปตามทางที่อาวุธลอยมา
ได้ยินเพียงเสียงฮัดฮัด หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก
หลานเยาเยาดึงอาวุธที่ปักอยู่ที่เสาหินออกมา แล้วรีบเดินมาหา อ๋องเย่: “ท่านอ๋อง มีนักฆ่า รีบหนีเร็ว”
“อืม!”
เย่แจ๋หยิ่งหยิบกระเป๋าพยาบาล และลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน ทำ ราวกับว่าไม่เห็นเหตุการณ์ที่มีอาวุธพุ่งเข้ามา
หลังจากนั้นก็เดินไป
“อ๋องเย่ คือว่า……..
อ๋องเย่ซึ่งเดินไปถึงประตูแล้ว หยุดเดินและหันกลับมามองนาง ด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดด้วยริมฝีปากบางๆของเขาว่า : “มีเรื่อง อะไร?”
เอ่อ……
ยังจะถามอีกว่ามีเรื่องอะไร?
ก็มุกเย่หมิงไงล่ะ ยังไม่ได้มอบมุกเย่หมิงให้นางไม่รู้หรือ?
ในใจของหลานเยาเขากำลังกัดฟันด้วยความโมโห แต่ต้อง แสร้งทำทีท่าไร้เดียงสา แล้วหันไปพูดเตือนแบบยิ้มๆ
“มุกเย่หมิงของข้าล่ะ?”
“อยู่ที่จวน!” พอพูดจบ เขาก็เดินไป
จวนอ๋องเย่?
หมายความว่านางจะต้องตามอ๋องเย่เข้าจวน เพื่อไปเอามุกเย่หมิ งอย่างนั้นหรือ?
ถึงตอนนี้ก็รู้แล้วว่า ถ้าอยากได้มุกเย่หมิง มีทางเดียวคือนางต้อง ตามอ๋องเย่เข้าจวนโดยไม่มีข้อแม้
เพื่อมุกเย่หมิงแล้ว ต่อให้ต้องบุกเข้าถ้ำเสือก็ยอม อ๋องเยี่ผู้คน เคารพนับถือ ถูกยกย่องให้เป็นถึงเทพเจ้าแห่งสงคราม คงไม่ฆ่า คนปิดปากเพื่อมุกเย่หมิงเม็ดเดียวหรอกกระมัง?
ดังนั้นหลานเยาเยาจึงกัดฟันตามเขาไป
เพิ่งก้าวออกจากประตูร้านประมูลเงินดู ก็เห็นอ๋องเยี่ขึ้นนั่งอยู่บน รถม้าที่สวยงามเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งคนขับบรถม้าก็กำลังลงแส้ เพื่อบังคับม้าออกไป
เห็นดังนั้น!
หลานเยาเยารีบวิ่งด้วยความเร็วสูงไปยังรถม้าที่กำลังจะออก และกระโดดขึ้นไปนั่งข้างๆคนขับรถม้า
คนขับรถม้าหนุ่มหันไปมองนางอย่างระแวดระวัง มือข้างหนึ่งกุม บังเหียน ส่วนมืออีกข้างลูบกริชที่เหน็บอยู่ที่เอว
“พี่ชาย ข้าจะไปเอามุกเย่หมิงที่จวนอ๋องเย่ ขอติดรถไปด้วยนะ ท่านอ๋องของท่านก็อนุญาตแล้ว”
เป็นเพราะอ๋องเย่ไม่ชอบพูดมาก อีกทั้งนางเองก็ไม่ได้เข้าไปนั่ง ในรถม้า เดาว่าอ๋องเย่คงขี้เกียจที่จะเปิดปากไล่นาง
ดังนั้น
คนขับรถม้าหันมามองนางอย่างพิจารณาสองสามครั้ง แล้วจึง บังคับรถม้าออกไป
ไม่นานก็มาถึงจวนอ๋องเยอันสง่างาม มีกำแพงสูงล้อมรอบ ประตูเป็นสีแดงสด มีทหารยามที่ดูท่าทางเคร่งขรึม ช่างแสดงถึง เกียรติของจวนอ๋องเย่อย่างแท้จริง
เมื่อตามอ๋องเย่เข้าไปในจวน หลานเผาเขาก็ถูกดึงดูดความ สนใจด้วยสิ่งที่อยู่ภายใน ไม่ว่าจะเป็นศาลา ดอกไม้ใบหญ้า พืช นานาพรรณ ทุกอย่างล้วนจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบและดูสง่า งาม
ทันใดนั้นเอง!
หลานเยาเยา ผู้ที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการชมสิ่งต่างๆรอบตัว ก็ต้องเผชิญกับปัญหาเข้าให้แล้ว
อ๋องเย่ที่แสนจะดูเหี่ยวเฉาผู้นั้นหายไปไหนแล้ว เหล่าองครักษ์ ที่เดินไปมาก็หายไปกันหมด มีเพียงเสียงลมพัดใบไม้แห้ง และ เสียงของนกที่ฟังดูโดดเดี่ยวอ้างว้างดังมาเป็นระยะ
“คนล่ะ?”
ไปไหนกันหมดแล้ว?
เขาคงไม่ได้คิดจะฆ่าคนเพื่อปิดปากจริงๆหรอกใช่ไหม?
หลายเยาเยามองไปทั่วทุกด้าน แม้แต่เงาของคนสักคนก็ไม่เห็น
เมื่อเดินหาอยู่สักพักหนึ่ง ก็ไม่รู้ว่าเดินถึงตรงไหนแล้ว ทันใดนั้น จึงหยุดเดิน แล้วเงี่ยหูฟัง
“แตก แตก…..
มีเสียงไอดังมาเป็นระยะๆจากที่ไกลๆ ดูเหมือนจะเป็นเสียงของผู้ หญิง เป็นเสียงที่ฟังดูอ่อนแรง และน่าจะทรมานมาก
หลังจากนั้นบรรยากาศโดยรอบก็เริ่มแปลกไป
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ