หนี้สวาทซาตานร้อนรัก

ตอนที่ 1



ตอนที่ 1

ที่บริษัท JKP แกสโซลีน ภายในห้องประชุมกว้าง นาย “จักรพงษ์ ประธานผู้บุกเบิกและก่อตั้งบริษัทมากับมือ ประกาศ ชัดถ้อยชัดค่าต่อหน้าพนักงานระดับผู้จัดการและหัวหน้าแผนก ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

“วันนี้ผมมีความจำเป็นต้องบอกให้ทุกคนรู้ว่านับจากนี้ไปคุณ “คารีม’ เจ้าของกลุ่มธุรกิจพลังงาน “คารีมปิโตรเลียมฟาร์อีสท์ จะเข้ามาบริหารงานแทนผม

สิ้นประโยคจากปากของชายวัยกลางคน พนักงานหันมามอง ตากันเลิกลักด้วยความตกใจ แต่มีบางรายที่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน หน้าก็นั่งนิ่งเงียบ สายตาจับอยู่ที่ใบหน้าของนายจักรพงษ์ด้วย ความรู้สึกเห็นใจ เพราะรู้ว่าผู้เป็นนายได้พยายามอย่างถึงที่สุด แล้วเพื่อซื้อสถานการณ์เอาไว้

ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงันชั่วขณะ กระทั่งเมื่อตั้งสติได้ ใบบัว’ หญิงสาวหน้าตาสะสวยซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของนาย จักรพงษ์ อุทานขึ้นเบาๆ

“อะไรนะคะคุณพ่อ?”

หญิงสาวภาวนาให้ตัวเองหูฝาด หากแต่อีกประโยคที่เอ่ยตาม มาจากปากของบิดา ก็ทำให้รู้ว่าทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป จากสิ่งที่เธอเข้าใจในตอนแรก
“อย่างที่ได้บอกไปแล้ว… นับต่อไปผมจำเป็นต้องยุติบทบาท ของผู้บริหารบริษัทแห่งนี้ ผมพยายามอย่างดีที่สุดแล้วเพื่อไม่ให้ พนักงานเดือดร้อน พวกคุณยังคงทำงานต่อไปได้ แต่ทุกอย่าง ต้องขึ้นตรงกับคุณคาม พรุ่งนี้เขาจะเข้ามาบริหารแทนผม

นายจักรพงษ์สรุป ก่อนปิดประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอย่าง เห็นได้ชัด

คนที่กำลังจะกลายเป็นอดีตผู้บริหารขององค์กร ก้าวออกมา จากห้องประชุมแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องทำงาน ถอนใจแรง แล้วทรุดร่างลงนั่งบนเก้าอี้หนังสีดำที่ตั้งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัว ใหญ่ กอดอกนั่งมองทุกอย่างด้วยแววตาอาลัย

วาบหนึ่งในความคิด สัจธรรมที่ว่า คนเราเอาอะไรไปไม่ได้ ก็ ผุดเข้ามาในความคิดคำนึง อันที่จริงตำแหน่งหน้าที่และบารมี ไม่ต่างอะไรกับการสวมหัวโขน เมื่อใดที่ต้องถอดก็ต้องยอมรับที่ จะปรับเปลี่ยนตัวเองไปสู่อีกบทบาท แม้ว่ามันอาจเป็นสิ่งที่ทำใจ ได้ยาก

ก๊อกๆ ๆ…

“เข้ามายัยหนู”

นายจักรพงษ์พอจะเดาได้ว่าน้ำหนักมือจากเสียงเคาะประตูคุ้น หู จะต้องเป็นลูกสาวของตนอย่างแน่นอน

“เกิดอะไรขึ้นคะคุณพ่อ”

สีหน้าของใบบัวดูมีความวิตกไม่น้อยไปกว่าบิดา
“พ่อพยายามอย่างดีที่สุดแล้วที่จะประคับประคองบริษัทเอาไว้ แต่การซื้อเอาไว้นั่นเอง… ที่ทำให้ธนาคารเร่งรัดหนี้สินเราเร็วขึ้น พ่อตัดสินใจดีแล้ว แต่หนูไม่ต้องห่วงอะไร หนูยังคงทำงานที่นี่ต่อ ไปได้”

ผู้เป็นบิดาบอกให้ลูกสาวคลายกังวลขณะกำลังเปิดลิ้นชักเก็บ ของส่วนตัวลงประเป๋าใบใหญ่ที่เตรียมเอามาจากบ้านเหมือนรู้ ชะตาตัวเอง

“หนูไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นหรอกค่ะ… ถ้าพ่อไม่อยู่หนูก็ไม่สนใจ อีกแล้ว หนูไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วละค่ะ หนูห่วงคุณพ่อ มากกว่า”

“พูดแบบนั้นได้ยังไงยัยหนู… ถ้าหนูไปจากที่นี่ พ่อจะยิ่งกลุ่ม

อย่างน้อยการที่มีหนูอยู่ที่นี่มันก็ทำให้พ่อรู้สึกว่าบริษัทของเราไม่

ได้หายไปไหน JPK แกสโซลีนเป็นความภาคภูมิใจของพ่อ

หยาดเหงื่อแรงงานและชีวิตของพ่อทุ่มเทให้มันจนหมดสิ้น แต่

พ่อผิดเองที่บริหารงานผิดพลาด ทำให้บริษัทตกอยู่ใน

สถานการณ์ย่ำแย่อย่างที่เห็น พ่อขอโทษ…

พูดจบหยาดน้ำตาใสๆ ก็ไหลออกมาอาบเนินแก้มของนาย จักรพงษ์ ใบบัวจ้องมองด้วยความรู้สึกใจหาย ตั้งแต่เกิดมาเธอ ไม่เคยเห็นบิดาของตัวเองร้องไห้ เรื่องนี้คงกระทบกระเทือนจิตใจ เขามาก

“รับปากพ่อนะลูก… ว่าหนูจะอยู่ทำงานที่นี่ต่อไป

ได้ยินแล้วใบบัวก็โผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ของบิดาแนบแน่นก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ พร้อมทั้งพยักหน้ารับปากด้วยน้ำเสียง สะอื้น

“ค่ะพ่อ… หนูสัญญาว่าจะทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปให้ถึงที่สุด หนูจะ อดทนค่ะ”

ใบบัวนึกในใจว่าที่ตอบหนักแน่นเช่นนี้ก็เพื่อต้องการยืนยันว่า ครั้งหนึ่งบริษัทนี้เคยเป็นของครอบครัว และบางทีเธออาจจะไม่ ต้องสูญเสียมันไป ถ้านาย “คารีม หน้าเลือดคนนั้นไม่เข้ามา เร่งรัดหนี้สินจนบิดาของเธอต้องยอมยกบริษัทให้ เพื่อให้ พนักงานได้ทํางานต่อไปภายใต้การบริหารงานของเขา

“พ่อขอโทษที่แสดงความอ่อนแอต่อหน้าลูก

คนเป็นบิดาฝืนยิ้มให้ลูกสาว หลังจากเช็ดน้ำตาจนแห้งสนิท “ไม่ใช่ความผิดของคุณพ่อหรอกค่ะ”

หญิงสาวเอื้อมมือออกไปรับผ้าเช็ดหน้าซึ่งเปียกชุ่มไปด้วย

นํ้าตามาจากมือของบิดา

“ขอบใจที่ลูกเข้าใจพ่อ

นายจักรพงษ์สูดหายใจแรง พยายามรวบรวมพลังชีวิตที่เหลือ อยู่ บอกตัวเองให้ข้ามผ่านเรื่องร้ายๆ นี้ไปให้ได้

“หนูสัญญาค่ะคุณพ่อ…ถ้าทำได้หนูขอให้สัญญาว่าจะกอบกู้ บริษัทคืนมาด้วยตัวของหนูเอง”

น้ำเสียงของใบบัวหนักแน่นเสียจนคนเป็นบิดารู้สึกหวั่นวิตกหากนายจักรพงษ์ก็เข้าใจได้ว่าลูกสาวของตนคงนึกโกรธคนที่ถือ โอกาสเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ของครอบครัว ด้วยครีมคง เล็งเห็นแล้วว่าเงินทุนมหาศาลและสายป่านซึ่งยาวกว่าของ คา รีมปิโตรเลียมฟาร์อีสท์ จะสามารถฟื้นฟูบริษัท JKP แกสโซลีน ให้ฟื้นตัวกลับมาทำกำไรได้ภายในระยะเวลาอันสั้น

“หนูเกลียดนาย คารีม” ค่ะพ่อ เกลียดเข้ากระดูก

ใบบัวกัดฟันกรอด ทั้งที่ก็ยังไม่เคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้เลย ด้วยซ้ำ

“อันที่จริงมันก็ไม่ใช่ความผิดอะไรของคุณคารีมนะลูก กฎ เกณฑ์ของการธุรกิจก็เป็นแบบนี้ บางครั้งมันออกจะโหดร้าย แต่ ปลาใหญ่ก็มักจะกินปลาน้อยเป็นเรื่องธรรมดา พ่อผิดเองที่ล้ม เหลวในการบริหาร

นายจักรพงษ์กล่าวยืดยาว สุดท้ายก็สรุปด้วยการโยนความ ผิดให้ตัวเอง ก่อนหันมามองหน้าลูกสาวด้วยแววตาเป็นกังวล ด้วยกลัวเหลือเกินว่าความเจ้าคิดเจ้าแค้นที่ลูกสาวของตน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ