ตอนที่ 19 เด็กดี คืนนี้ผมจะกลับไปทำร้ายคุณ
คำพูดของฉัน ทำให้จิณณามีสีหน้ากระอักกระอ่วนขึ้นมา แต่ว่า ดนัยไม่สนใจฉันเลย
เขาโอบเอวหญิงสาว เอนกายแล้วจูบหล่อน เด็กดี คืนนี้ผมจะ กลับไปทําร้ายคุณนะ”
ปฏิสัมพันธ์ที่อ่อนโยนระหว่างคน2 คน และฉันที่ยืนอยู่ข้างๆ
ราวกับเป็นส่วนเกิน
คำสาบานตนที่เพิ่งจะพูด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเปลี่ยนเป็นการ เสียดสีที่ยิ่งใหญ่จนไม่มีอะไรเปรียบได้ไปแล้ว
ในที่สุด ดนุมัยยังคงไปส่งจิณณา และเดินเข้าประตูบ้านสุทร รศน์รังสสีกับฉัน
พวกเราเปลี่ยนรองเท้าเมื่อเดินเข้าไป และคนรับใช้พาพวกเรา
ไปยังห้องโถงใหญ่
ตอนที่กำลังเดิน รู้สึกว่ามือขวาของฉันอุ่นขึ้นมา
ก้มหน้าลง ฝ่ามือใหญ่จับมือของฉันไว้อย่างอบอุ่น สีหน้าเป็น เฉย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หัวใจของฉันเต้นอย่างรุนแรง
ตอนที่พวกเราไปถึงห้องโถง ในบัติ คุณปู่ของคนนัยรอพวก เราอยู่ที่นั่นแล้ว มาถึงด้านหน้า ดนัยจึงปล่อยมือฉัน แนะน่าฉันต่อในบัต
หลังจากพวกเรานั่งลงแล้ว ในบัติถามบางคำถามกับฉัน ฉัน ตอบทุกอย่างตามความเป็นจริง
ตลอดกระบวนการนี้ บางครั้งตนนัยก็จะขยับมาอย่างใกล้ชิด หรือไม่ก็ช่วยฉันจัดผม หรือไม่ก็โอบเอาฉัน
ในเวลาที่ทนบัตถามบางคำถามที่ตอบได้ยาก เขาใช้น้ำเสียง
ที่อ่อนโยนแก้ไขให้ฉัน
ช่วงเวลาอาหารเย็นก็เช่นเดียวกัน คนนัยหยิบจานอาหารให้ ฉัน และเลาะก้างปลาให้กับฉัน
เวลาล่วงมาถึง 4 ทุ่มครึ่ง ฉันกับคนนัยจึงออกมาจากบ้านของ
ในตอนที่กล่าวลา ทินบัติตบที่ไหล่ของดนัยแล้วพูดว่า “ผู้ หญิงคนนี้ไม่เลวเลย พึงพอใจมาก พวกเธอรีบเข้าเถอะ ให้ กำเนิดหลานตัวอ้วนๆแก่ในปีหน้าได้แล้ว!
พูดจบ ดนัยก็ดึงตัวฉันไปใกล้ จนใบหน้าใกล้กันกับฉัน พูดด้วยน้ำเสียงที่กำกวมว่า”ได้ยินคุณปู่พูดแล้วใช่ไหม? วันนี้ กลับไป พวกเราตั้งใจทํากันเถอะ”
เขาอยู่ใกล้ฉันมาก ลมร้อนพ่นอยู่ข้างหู ฉันหน้าแดงขึ้นมา อย่างช่วยไม่ได้
พอมองเห็น ทินบก็เข้าใจ พูดเร่งว่า “ดีดี อย่าอยู่นี่เลย รีบไป
เถอะ!” ตนนัยพาฉันออกมาที่ประตู ฉันอยู่ในอ้อมแขนของเขา เป็น ความอบอุ่นที่คาดไม่ถึงจนน่าอึดอัดใจ
ตอนที่พวกเราออกมาจากบ้านสุทรรศน์รังสี เมื่อประตูบ้าน ได้ปิดลงชายหนุ่มก็ปล่อยมือทันที หมุนตัวและเดินตรงไปยังรถ
ฉันที่โง่เขลาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ยังตามเขาไปที่รถ ดนัย หันหน้ามา พูดพร้อมทำหน้าขยะแขยงว่า “ไปให้พ้น
ถึงแม้ว่าจะฉันจะเข้าใจดีว่าตอนที่เข้าไปในบ้านนั้น ทั้งหมดที่ ดนัย คือการแสดง แต่ท่าทีของเขาเปลี่ยนเร็วเกินไป ทำให้ ฉันไม่สามารถตอบรับได้ในทันที
ฉันยืนอยู่ที่เดิม มองดูรถยนต์ที่เครื่องยนต์แผดเสียงคำราม ผ่านไป คิดได้ว่าเขาคงจะไปหาจิณณา
คิดถึงสิ่งที่พวกเขารอที่จะทำแล้วนั้น…. ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดในใจ
เมื่อคิดถึงเรื่องซื้อของในตอนบ่ายวันนี้ ฉันรีบเร่งไปยัง สถานีตำรวจท้องที่ใกล้ๆ ถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
แต่ตอนนี้ ตารวจเปลี่ยนเวรแล้ว ทำให้ฉันต้องมาอีกทีในวัน
พรุ่งนี้
ทำอะไรไม่ได้อีกฉันจึงต้องขอลางานตอนเช้าในวันรุ่งขึ้น ฉัน ไปสถานีตำรวจก่อนเพื่อหานายตำรวจที่เป็นคนสอบถาม เหตุการณ์ตอนนั้น สุดท้ายแล้ว พวกเขาให้คำตอบแก่ฉันว่าจริงๆแล้วเป็นเรื่อง เข้าใจผิด ดังนั้นจึงไม่มีการตรวจดูกล้องวงจรปิด
แต่ว่าฉันไม่ยอมรับการแก้ปัญหาแบบนี้ ภายใต้การร้องขออีก ครั้งของฉัน รวมถึงเหตุการณ์ที่ตนนัยเข้ามาร่วมด้วย เขาจึงไม่ กล้าที่จะเป็นเฉยฉันอีก ทำได้เพียงแค่ไปที่ห้างสรรพสินค้า กับฉัน อีกครั้ง
ท้ายที่สุด พวกเราหาผู้จัดการจนพบและแจ้งว่าต้องการที่จะดู กล้องวงจรปิด ผู้จัดการรีบเห็นด้วยทันที
แต่ว่า สิ่งที่ทำให้ฉันคิดไม่ถึงก็คือ กล้องวงจรปิด ใช้ไม่ได้เสีย
แล้ว!
ผู้จัดการเห็นว่ากล้องวงจรปิดดูไม่ได้ ใช้น้ำเสียงพูดอย่างเป็น จริงว่า “ตายแล้ว กล้องวงจรปิดพังเสียแล้ว รีบให้คนมาซ่อมเร็ว
ช่วงเวลานั้น ฉันเข้าใจได้ทันที จิณณาอาจจะคิดได้ว่าฉันต้อง กลับมาดูกล้องวงจรปิด ดังนั้นจึงเตรียมพร้อมไว้แต่ต้น
อย่างไรก็ตามกล้องวงจรปิดนี้ไม่ได้รับการซ่อมแซม
คนงานซ่อมบำรุงของที่นั่นไม่ว่างเลยเป็นเวลาครึ่งค่อนวัน จึง จบลงด้วยความล้มเหลว
ฉันไม่เต็มใจเลย หลังจากนายตำรวจไปแล้ว ฉันไปหา พนักงานอีกครั้งเพื่อถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในเวลานั้น
พนักงานเลิกลักไม่เป็นสุขอยู่นาน จึงบอกว่าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้น ได้อย่างไร ไม่มีทางเลือกอื่น ฉันทำได้เพียงจากมา แต่ในขณะที่ฉันกำลัง จะลงบันไดเลื่อน กลับเห็นผู้จัดการลงลิฟต์มา แล้วเดินไปที่ร้าน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ