วิวาห์ร้อนเพลิงสวาท

1



1

Chapter 1

“วดีต้องแต่งงานกับคุณคืน เขาชอบวดีมาก ถึงกับมา ทาบทาม ขอวดีกับย่าด้วยตัวเอง” คุณหญิงนรากรเอ่ยเรื่อง สําคัญตรงประเด็นแบบไม่อ้อมค้อม

“แต่วดี…” ราชาวดีมีท่าทีตกใจและคาดไม่ถึงว่าเรื่องสำคัญ ที่ถูกผู้เป็นย่าเรียกมาพูดคุยคือเรื่องการแต่งงานกะทันหันแบบนี้

“เราจะใฝ่ต่ำเหมือนพ่อไง” พอได้ยินคำว่าแต่…ของหลาน สาวคนเดียว คุณหญิงนรากรก็อารมณ์ขึ้น ลูกชายทำให้ท่านผิด หวังมาครั้งหนึ่งแล้ว หลานสาวจะต้องไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง อีก

“คนที่คุณหญิงย่ากำลังดูถูกเป็นแม่ของวดี”

ราชาวดีเกลียดนักกับการที่มีใครมาดูถูกมารดา ถึงท่านจะ เป็นแค่สาวชาวบ้าน แต่ท่านก็คือผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ เป็นผู้หญิงที่รักเธอที่สุด เป็นผู้หญิงที่เสียสละและเป็นผู้หญิงที่ จิตใจดีงามที่สุดในความรู้สึกของเธอ

“ย่าจะไม่แตะแม่ของวดีก็ได้ แต่ตอนนี้เรากำลังมีปัญหา ทางการเงินอย่างหนัก คุณคินเขาเป็นคนเก่ง ย่ารู้จักกับเขามา นานแล้ว เขาจะเข้ามากอบกู้บริษัทของเราและทำให้ครอบครัว เราลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง”
เพราะท่านบริหารงานผิดพลาด เรื่องถึงได้เป็นแบบนี้ แต่คุณ หญิงนรากรไม่เคยโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง

“เพราะวดีไม่เอาไหน ทำงานไม่เป็น เราเลยมีปัญหาแบบนี้

คุณหญิงนรากรยังโทษคนอื่น แม้ราชาวดีเองจะสำนึกว่าเธอ ไม่เหมาะกับงานบริหาร เธอไม่มีหัวทางด้านนี้ เธอถนัดเย็บปัก ถักร้อย งานบ้านงานเรือน ทําอาหาร ศิลปะและการวาดรูป แต่ เธอจําใจต้องเรียนบริหารธุรกิจตามที่ผู้เป็นย่าสั่ง

หากไม่ใช่เพราะก่อนบิดามารดาจะสิ้นใจได้สั่งเสียเอาไว้ เธอคงไม่ต้องมาอยู่ภายใต้การดูแลของคนเป็นย่าผู้แสน เผด็จการและเอาแต่ใจตัวเองเช่นนี้

“เตรียมตัวเอาไว้ คุณคินจะมารับเราออกไปทานข้าวข้าง นอก ถ้ายังฉลาดก็อย่าทำให้ยาต้องลำบากใจไปมากกว่านี้ เพราะไม่เช่นนั้นย่าจะคิดว่าวดีเป็นคนอกตัญญู” เจอประโยคนี้ เข้า ราชาวดีถึงกับพูดไม่ออก

“ค่ะ คุณหญิงย่า”

ราชาวดีจําใจต้องรับคำ เธอไม่เคยรู้จักภาคินมาก่อน เพราะ ไม่ชอบสุงสิงกับใครและเก็บตัวอยู่กับบ้าน เธอไม่ชอบความ วุ่นวายหรือคบหาเพื่อนมากมาย กลับชอบชีวิตเรียบง่าย อยู่ที่ เงียบๆ คุยกับคนแค่คนเดียวและมีความสุขกับตัวเอง สมัยเรียน มหาวิทยาลัย ถึงเธอจะเรียนคณะบริหารธุรกิจ แต่เธอมักไปขลุก ตัวอยู่ที่คณะศิลป์ ถึงขนาดไปแอบลงเรียนวาดรูปและงานศิลปะที่ นั่น ทำให้เธอมีเพื่อนและรุ่นพี่รุ่นน้องที่คณะนั้นมากมาย แตกต่างจากคณะที่เรียนอยู่อย่างสิ้นเชิง

“ส่วนเรื่องรัชภาคย์ แกตัดใจไปซะเถอะ” คุณหญิงนรากรพูด เสียงเฉียบ สรรพนามเปลี่ยนไปตามอารมณ์ที่หงุดหงิด

“แต่พี่ภาค เป็นคนดี

“แกหุบปากไปเลยยัยวดี ยังไงแกกับเขาก็ไม่มีวันลงเอยกัน ได้ เพราะแกจะต้องแต่งงานกับคนที่ย่าหาให้เท่านั้น

แม้จะยอมรับว่ารัชภาคย์เอางานเอาการ พอเรียนจบก็กลับ มาช่วยบิดาบริหารงาน แต่ท่านก็คิดว่าภาคนมีฐานะที่เหนือกว่า รัชภาคย์ทุกอย่าง ที่สำคัญท่านพึงพอใจในตัวภาคินมากกว่า ชายหนุ่มข้างบ้านที่ไม่ค่อยมีสัมมาคารวะสักเท่าไหร่

ราชาวดีจะต้องทำตามที่ท่านสั่งทุกอย่าง ตอนลูกชายคน เดียวของท่านไปคว้าหญิงชาวบ้านมาเป็นเมีย อยู่กินกันที่บ้าน นอกคอกนาก็แทบจะอกแตกตายอยู่แล้ว ถ้าต้องให้ราชาวดีออก เรือนไปกับครอบครัวที่ไม่กินเส้นกัน ท่านคงตรอมใจตาย

ราชาวดีก้มหน้าเม้มปากแน่น เธอรู้ดีว่าคัดค้านไปก็เปล่า ประโยชน์อย่างไรแล้วผู้เป็นย่าก็ไม่เห็นดีเห็นงามกับเธอด้วย ประการทั้งปวง

“ฉันให้คนจัดเสื้อผ้าเอาไว้ให้แกแล้ว แกต้องแต่งตัวสวยๆ ไม่ใช่แต่งตัวซอมซ่อไม่สมกับเป็นหลานฉัน ผู้ชายน่ะเวลามองผู้ หญิง เขามองหน้าตาก่อนเป็นอันดับแรก แกจะไปแบบทุเรศๆ ลูก กะตา ฉันฆ่าแกแน่
คุณหญิงนรากรสั่งเสียงเงียบ ปมในใจของท่านคือลูกชาย ดันไปคว้าเมียที่ไม่มีสกุลรุนชาติลำบากยากจนมาเป็นสะใภ้ ดัง นั้นหลานสาวคนเดียวที่กำเนิดขึ้นมาจะต้องแต่งงานกับผู้ชายดีๆ ไม่อย่างนั้นท่านจะไม่ยอมเด็ดขาด ราชาวดีชอบแต่งตัวแปลกๆ เหมือนพวกข้างถนน เสื้อผ้าแต่ละชุดน่ารำคาญตา แล้วไหนจะ เครื่องประดับอีก รุงรังไม่น่ามอง

“ค่ะ คุณหญิงย่า” ราชาวดีจำต้องรับค่า ไม่อยากให้ท่าน โมโหไปมากกว่านี้ บางทีการดูตัวอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไรอย่าง คิดก็เป็นได้

“ดีมาก เดี๋ยวฉันให้คนเอาเครื่องเพชรไปให้ แกนี่ไม่เคยหัด แต่งเนื้อแต่งตัวให้มันดีๆ เมื่อไหร่จะมีผู้ชายดีๆ มาสนใจ เรื่องรัช ภาคย์ก็ลืมมันไปซะ ทำยังไงก็ได้ให้มันเลิกตอแยกับแก ถ้าแกทำ ไม่ได้ ฉันจะจัดการเอง

คุณหญิงนรากรพูดเสียงเฉียบตามนิสัยที่ไม่มีวันยอมอ่อนลง ให้ใคร แม้แต่ลูกชายคนเดียวที่ท่านรักหนักหนาก็ไม่เว้น ในตอน นั้นเมื่อลูกชายเลือกภรรยาที่ไม่คู่ควร ท่านก็ตัดหางปล่อยวัดไม่ ไปสนใจไยดีอีก จนกระทั่งเกือบสิ้นใจนั่นแหละ ถึงได้รับการ ติดต่อจากลูกชายอีกครั้ง พอได้เห็นหน้าหลาน ท่านก็ใจอ่อนยวบ ลงทันที

“ไม่ต้องค่ะ วดีจะจัดการเรื่องนี้เอง

ราชาวดีพูดเสียงตกใจ ไม่อยากให้ผู้เป็นย่าเข้ามายุ่งเกี่ยว กับเรื่องนี้ เพราะจะยิ่งยุ่งเหยิงกันไปใหญ่ เธอรู้นิสัยของคุณย่าข้อนี้ดี เธอเองก็ไม่อยากคบหากับรัชภาคย์ในฐานะคนรักอีกแล้ว เพราะยิ่งคบกันไปยิ่งอึดอัด เธอนับถือรัชภาค เป็นแค่พี่ชาย นานไปยิ่งถลำลึก อยากให้รัชภาคย์ตัดใจเสียตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่า ให้เขามาเสียเวลากับเธอแทนที่จะได้เจอกับผู้หญิงคนอื่นที่ดีกว่า

“ดี ถ้าย่ายังเห็นแกไปมาหาสู่กับมันอีก อย่าหาว่าฆ่าไม่ เตือน ย่ารู้ว่าแกไม่ได้คิดกับมันมากเกินกว่าพี่ชายน้องสาว ถ้าไม่ รักไม่ชอบก็บอกให้มันตัดใจไปซะ อย่าไปให้ความหวังลมๆ แล้งๆ เพราะความสงสารหรือเกรงใจ

ราชาวดีถอนใจเฮือกใหญ่เมื่อลับร่างของผู้เป็นย่า เธอก้ม มองโทรศัพท์อ่านข้อความของรัชภาคย์แล้วถอนใจอีกรอบ บางทีเธอก็สับสนในความรู้สึก ไม่แน่ใจว่าคิดยังไงกับรัชภาคย์ กันแน่ อาจเพราะตั้งแต่เธอย้ายจากบ้านนอกมาอยู่กับคุณหญิง ย่า รัชภาคยเป็นเพื่อนบ้านคนเดียวที่ดีกับเธอ เขาเหมือนพี่ชาย เหมือนเพื่อน และรับฟังเธอทุกเรื่อง เมื่อเขาขอคบเธอในฐานะคน รัก เธอจึงตกปากรับค่า เธอไม่เคยรู้สึกหึงหวงเขาเมื่อเห็นเขาอยู่ กับผู้หญิงคนอื่นเลย พอคบกันนานเข้าความรู้สึกยิ่งเด่นชัดว่า เรื่องของเธอกับเขามันเป็นไปไม่ได้

หญิงสาวตัดสินใจตอบข้อความรัชภาคย์กลับไปว่าขอเลื่อน นัดเป็นพรุ่งนี้ เพราะวันนี้เธอต้องออกไปทานข้าวกับภาคิน บางที หากเธอได้พูดคุยกับภาคิน เธออาจจะขอกู้เงินหรือทำอะไรสัก อย่าง

ใช่…เธอโง่จนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีให้บริษัทอยู่รอด และบาง ทีภาคนอาจจะไม่อยากแต่งงานกับเธอจริงๆ ก็ได้ เมื่อคิดจนปวดหัว เธอจึงสลัดมันออกไป ลองออกไปคุยกับเขาดูก่อน ดูนิสัย ใจคอกันเพื่อประเมิน บางทีเธออาจจะขอความอนุเคราะห์อะไร จากเขาได้บ้างไม่มากก็น้อย

ราชาวดีนั่งกอดอกอย่างหงุดหงิดกับการรอคอย เพราะคนที่ นัดเอาไว้ยังไม่มา แถมยังเลยเวลานัดมาพอสมควร ถ้าคิดว่ามา ไม่ได้ จะนัดมาทำไม หรือคิดว่าใหญ่โตร่ำรวยมาจากไหน ถึงได้ มาสายขนาดนี้

“ขอโทษนะครับ ที่ผมมาช้า

ราชาวดีเงยหน้าขึ้นเตรียมจะตำหนิ แต่เธอต้องเบิกตากว้าง เมื่อเห็นคนตรงหน้า เขายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน ดวงตาของเขา คมเข้มดูมีเสน่ห์ เธอกวาดมองใบหน้าเรียวคมสัน คิ้วเข้ม จมูก โด่งและริมฝีปากสีแดงสดของเขาแล้วใจสั่น เธอหลุบตาลงรู้สึก ถึงใบหน้าที่ร้อนผ่าวและมันคงจะแดงไปถึงใบหู เพราะรู้สึกร้อน จนต้องยกมือขึ้นลูบ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ