วิวาห์ตัวสำรอง ชุดเจ้าสาวพรห...

ตอนที่ 2



ตอนที่ 2

“เอ่อ… เรื่องมหาวิทยาลัยใช่ไหมคะ

เคลวินเคยบอกกับหล่อนเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว ว่าหลังจากที่ หล่อนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก เขาจะส่งหล่อนไปเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ทั้งๆ ที่หล่อนต้องการเรียนต่อแค่ที่ เชียงใหม่เท่านั้น

“ไม่ใช่”

ดวงตากลมโตของเฌอปรางเบิกกว้างเล็กน้อย และก็เต็มไป ด้วยความแปลกใจ เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องนี้ เคลวินยังจะมีเรื่อง อะไรคุยกับหล่อนอีกล่ะ ในเมื่อปกติแล้ว เขาไม่ค่อยจะสนใจ เสวนากับหล่อนสักเท่าไหร่

“เอ่อ… แล้วเรื่องอะไรเหรอคะพ่อเลี้ยง

ดวงตาสีน้ำตาลของเคลวินจ้องมองมาที่หล่อนนิ่งนาน นานจน หล่อนรู้สึกหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูก

เคลวินไม่เคยมองหล่อนด้วยสายตาแบบนี้ และไม่เคยมอง นานแบบนี้ด้วย

“หนูยินดีทำทุกอย่างตามคำสั่งพ่อเลี้ยงค่ะ”

หล่อนตัดสินใจพูดออกไป เพื่อให้ผู้ชายตรงหน้ายอมเฉลยสิ่ง ที่ค้างคาใจเสียที
หล่อนเห็นเขาพ่นลมออกจากปากเฮือกใหญ่สองสามครั้ง ก่อน ที่จะเริ่มต้นพูดขึ้น

“ฉันมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากเธอนะ

“ค่ะ”

ดวงตากลมโตจ้องมองเขา มองอย่างรอคอยใจจดจ่อ “เธอน่าจะพอรู้มาบ้างแล้วล่ะ เรื่องณิชาน่ะ”

“เอ่อ… หนู… พอ… พอทราบค่ะ

หล่อนอีกอักไม่อยากจะพูดออกไปนัก เพราะเกรงว่าจะกระทบ กระเทือนจิตใจของผู้ชายตรงหน้า

“มันเป็นเรื่องที่น่าบัดซบมากที่จู่ๆ ฉันถูกคนรักที่คบกันมาสิบ กว่าปีสลัดทิ้ง แถมยังได้รับการ์ดเชิญแต่งงานมาให้แสลงใจอีก

“พ่อเลี้ยงคะ… หนูไม่รู้จะช่วยพ่อเลี้ยงยังไง แต่หนูอยากให้พ่อ

เลี้ยงเข้มแข็งไว้นะคะ”

หล่อนคิดว่าเขาจะแสดงความเจ็บปวดออกมา แต่กลับไม่มีให้ เห็นเลย เพราะแววตาของเคลวินตอนนี้มีแต่กองไฟ และมันก็คือ ไฟแค้นที่น่ากลัว

“ถูกต้อง ฉันเจ็บปวด แต่ในความเจ็บปวดนั้นมันอัดแน่นไป ด้วยความแค้น”

“เอ่อ..”

“แล้วฉันก็ต้องการให้เธอช่วย
หล่อนคิดไม่ออกว่าเคลวินจะให้หล่อนช่วยเหลืออะไร ในเมื่อ ไม่ได้มีความสามารถอะไรมากนัก

“ถ้าหนูทำได้ หนูยินดีช่วยพ่อเลี้ยงทุกอย่างค่ะ

หล่อนเห็นริมฝีปากหยักสวยของเคลวินบิดเบี้ยว ก่อนที่เขาจะ ยิ้มเย้ยหยันออกมา

“เธอช่วยฉันได้แน่นอน เฌอปราง”

“เอ่อ….แล้วพ่อเลี้ยงจะให้หนูช่วยยังไงเหรอคะ”

ไฟร้ายในดวงตาสีน้ำตาลของเคลวินลูกโซนจนน่าหวั่นใจ แทนณิชา

“ฉันต้องการจ้างเธอมาแต่งงานด้วย

“A?!”

หล่อนต้องหูฝาดไปแน่ หรือไม่ก็… อาจจะได้ยินผิดไป ไม่มีทาง ที่เคลวินจะมีความคิดบ้าคลั่งแบบนี้หรอก

“ฉันต้องการแก้แค้นณิชา ด้วยการจ้างเธอมาแต่งงานด้วย

คราวนี้หล่อนรู้แล้วล่ะว่าตัวเองไม่ได้ฝากเพื่อน แต่สิ่งที่ได้ยิน มันดังออกมาจากปากหยักสวยของเคลวินจริงๆ

ดวงตากลม โตเบิกโพลง กลีบปากอิ่มสีแดงระเรื่อเผยอกว้าง ด้วยความตื่นตกใจ

“ฉันต้องการทำให้ณิชารู้ว่าฉันไม่ได้รู้สึกอะไรเลย กับสิ่งที่ ชาทําลงไป
“พ่อเลี้ยง… หนู…”

“ฉันรู้ว่าเธอตกใจมาก แต่ฉันมองไม่เห็นใครแล้วที่จะสวม บทบาทเมียของฉันได้แนบเนียนเท่ากับเธอ”

“my…”

“ถ้าเป็นเธอ ณิชาจะต้องไม่สงสัย เพราะเธออยู่ในไร่กับฉัน หล่อนจะทำยังไงดี…?

“หนูคิดว่า…ทางนี้มันไม่น่าจะทำให้อะไรดีขึ้นได้นะคะพ่อ

เลี้ยง”

หล่อนพยายามที่จะปฏิเสธอ้อมๆ แต่เคลวินไม่เห็นด้วย เขายัง ยืนยันคําเดิม

“ทางนี้แหละ ที่มันจะทำให้ณิชารู้ว่า แท้จริงแล้วคนที่จะต้อง

กระอักออกมาเป็นเลือดไม่ใช่ฉัน แต่เป็นตัวของณิชาเอง

น้ำเสียงของเคลวินอัดแน่นไปด้วยความคั่งแค้น จากนั้นเขาก็ จ้องหน้าหล่อนและถามหาคำตอบ

“ว่าไงล่ะ เธอตกลงไหม”

“ฉันไม่บังคับนะ แต่ฉันต้องการความช่วยเหลือจริงๆ

เฌอปรางก้มหน้าลงมองมือเล็กของตัวเองที่ประสานกันเอาไว้ บนตัก สมองกำลังสับสนอลหม่านราวกับถูกพายุพัดเข้าถล่ม
ถ้าหล่อนปฏิเสธ แล้วเคลวินจะเกลียดหล่อนไหม?

แล้วถ้าหล่อนตอบตกลงล่ะ หล่อนจะทำยังไงกับความรู้สึกของ ตัวเองที่จะต้องถลำลึกมากยิ่งขึ้น

“ฉันรอคำตอบอยู่นะ เฌอปราง

หล่อนค่อยๆ ช้อนตาขึ้นสบประสานกับดวงตาสีน้ำตาลสุดสวย

ของเคลวิน

หล่อนไม่ต้องการทําให้เคลวินผิดหวัง

“ค่ะ หนูตกลงค่ะ”

ริมฝีปากหยักสวยของเคลวินแย้มเผยอเป็นรอยยิ้ม พร้อมกับ เสียงขอบคุณที่ดังเล็ดลอดออกมา

“ขอบใจมากนะเฌอปรางที่ให้ความร่วมมือกับฉัน

“เอ่อ… แล้วหนูต้องทำยังไงบ้างคะพ่อเลี้ยง

“ไม่มีอะไรยากหรอก เราก็แค่แต่งงานกัน ทำให้ณิชารู้ว่าคนที่ เป็นฝ่ายถูกทิ้งน่ะไม่ใช่ฉัน

“เอ่อ…”

หล่อนก้มหน้าลงมองมือตัวเอง ก่อนจะกลั้นใจถามออกไป

“แล้วเรื่อง… เอ่อ…ห้องนอนล่ะคะ”

เขาเงียบไปเล็กน้อย ก่อนที่น้ำเสียงกระด้างจะดังกังวานออก มาให้ได้ยิน
“คำว่าแต่งงานของฉันคือการแต่งงานจริงๆ และก็ต้องใช้ชีวิต ร่วมกันจริงๆ”

หล่อนลืมตัวซ้อนตามองเขา พวงแก้มนวลเป็นสีระเรื่ออย่าง ห้ามไม่ได้ เมื่อนึกถึงเรื่องความสัมพันธ์ทางกายที่อาจจะเกิดขึ้น จริงๆ เมื่อการแต่งงานเดินทางมาถึง

“ตะ… แต่พ่อเลี้ยงแค่จ้างหนูแต่งงานไม่ใช่เหรอคะ”

“จ้างแต่งงานก็คือฉันจะจ่ายเงินก้อนหนึ่งซึ่งมันมากพอที่จะ ทำให้เธอใช้ชีวิตหลังจากที่ไม่มีฉันได้อย่างสบาย ส่วนเรื่องความ สัมพันธ์ทางกาย ฉันเป็นผู้ชายเต็มตัว และแน่นอนว่าฉันต้องการ มันจากเมียตัวเอง”

หล่อนหน้าแดงจัดยิ่งขึ้น หัวใจเต้นแรงระรัว นึกไม่ถึงว่าตัวเอง จะมีโอกาสมานั่งต่อรองกับเคลวิน ในเรื่องแบบนี้

“เอ่อ…”

“หรือว่าเธอมีเรื่องขัดข้องล่ะ”

“หนู… เอ่อ… หนูไม่มีอะไรขัดข้องค่ะ”

“ดีมาก งั้นเดี๋ยววันนี้ตอนเย็นมาเซ็นสัญญาจ้างงานนะ ฉันจะ

ร่างเอาไว้รอเธอ”

“สัญญาจ้างงาน?”

ใบหน้าหล่อจัดของเคลวินเปื้อนรอยยิ้มบางๆ ท่าทางของเขาดู ผ่อนคลาย ต่างจากหล่อนอย่างสิ้นเชิง
เขาทำเหมือนกับว่ากำลังเจรจาเรื่องธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องความ สัมพันธ์ทางกายอย่างนั้นแหละ

เฌอปรางอดน้อยเนื้อต่ำใจไม่ได้ แต่ก็จำต้องเก็บซ่อนเอาไว้

ให้ลึกที่สุด “ถูกต้อง เราต้องทำสัญญากันเอาไว้ เพราะในอนาคต อาจจะ

มีคนหนึ่งคนใดผิดสัญญาขึ้น จะได้ไม่ต้องมีปัญหากันไงล่ะ”

“ค่ะ”

หล่อนไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากตอบรับเขาออกไปด้วยน้ำ เสียงเบาหวิว

“ขอบใจเธอนะเฌอปรางที่ยอมช่วยเหลือฉัน”

เขาส่งยิ้มมาให้ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ฉันขอตัวไปร่างสัญญาก่อน แล้วเย็นนี้เจอกันหลังอาหารมื้อ

“เอ่อ… ค่ะ พ่อเลี้ยง

เขาส่งยิ้มให้หล่อนอีกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะก้าวเดินจากไป ด้วยท่าทางสง่างามตามบุคลิกประจำตัว

น้ำใสๆ ไหลคลอสองหน่วยตาของเฌอปราง เมื่อเหลือหล่อน อยู่เพียงลำพังภายในสนามหญ้าหลังบ้าน

แล้ว

แสงจากดวงตะวัน ในวันนี้ไม่ได้สวยงามเหมือนเช่นทุกวันอีก
หล่อนไม่ได้รังเกียจที่จะเป็นภรรยาของเคลวิน แต่สิ่งที่ทำให้ หล่อนเสียใจ คือการได้เป็นภรรยาจ้างที่ต้องจากไปเมื่อสัญญา จ้างงานสิ้นสุดลง

หากเลือกได้ หล่อนต้องการที่จะอยู่กับเขาในฐานะเดิม เด็กใน อุปการะแบบนี้ไปชั่วชีวิต เพราะมันทำให้หล่อนสามารถมองเขา เห็นเขาได้ทุกวันเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา

มือเล็กยกขึ้นป้ายน้ำอุ่นๆ ที่ไหลออกมาจากดวงตา กลีบปาก อิ่มสั่นสะท้านเมื่อก้อนสะอื้นเล็ดลอดผ่านออกไป

แต่หล่อนไม่มีทางเลือกอื่นใดอีก ในเมื่อมันคือความต้องการ ของเคลวิน ผู้ชายที่เปรียบประดุจเจ้าของลมหายใจ

แกรก…

เสียงกิ่งไม้แห้งหักดังแว่วมาในหู ทำให้เฌอปรางต้องรีบ จัดการกับหยาดน้ำตาบนแก้มนวล และเมื่อแน่ใจว่ามันแห้ง ดีแล้ว จึงหันไปมองยังต้นเสียง

“พี่นัท”

ดนัทธ์ ชายหนุ่มวัยยี่สิบสี่ปี เขาคือลูกชายของหัวหน้าคนงาน

ในไร่ชาของเคลวิน

ดนัทธ์ได้ทุนจากเคลวิน ให้ไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ กรุงเทพฯ และก็เพิ่งกลับมาอยู่ที่ไร่ชาได้เกือบๆ สองปีแล้ว

“พี่ไม่นึกว่าจะเจอน้องปรางที่นี่
ดนัทธ์เดินมานั่งบนเก้าอี้ไม้สีขาวตัวเดิมที่เคลวีนเพิ่งลุกจากไป เขาเป็นผู้ชายผิวขาว ปากแดง และมีหน้าตาหล่อเหลาถอดแบบ มาจากหนุ่มเกาหลีไม่มีผิด

“เอ่อ…พี่นัทมาเดินเล่นเหรอคะ”

“เปล่าหรอก พี่มาตามหาพ่อเลี้ยงน่ะ พอดีตอนเช้าจะมีคนเข้า มาเก็บใบชาน่ะ”

เด็กสาวฝืนยิ้มสดใส แต่กระนั้นคู่สนทนาก็เหมือนจะสังเกต เห็นความเศร้าในดวงตาของหล่อน

“พ่อเลี้ยงน่าจะอยู่ในบ้านนะคะ

“อืม ว่าแต่น้องปรางเถอะ เป็นอะไรไป ทำไมวันนี้หน้าดู เครียดๆ ชอบกล

“ปะ… เปล่าค่ะ

“ถ้ามีอะไรไม่สบายใจ ปรึกษาได้นะ พี่ยินดีรับฟังน้องปราง เสมอครับ”

หล่อนเสหลบสายตาที่แสดงความรู้สึกชัดเจนของดนัทธ์ลง มองมือเล็กของตัวเอง

“ขอบคุณพี่นัทค่ะ แต่ปราง… ไม่เป็นอะไรจริงๆ ค่ะ”

“โอเคครับ งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ เดี๋ยวเที่ยงๆ พี่จะแวะมาขอน้อง ปรางกินข้าวด้วยสักมื้อ

“เอ่อ… ได้ค่ะ”
ดนัทธ์ฉีกยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้นดีใจ “พี่ถือว่าน้องปรางรับปากแล้วนะครับ ห้ามเบี้ยวพี่ล่ะ

“ปรางไม่เบี้ยวพี่นัทหรอกค่ะ”

เฌอปรางฝืนยิ้มออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นโบกลาตอบดนัทธ์ที่ กำลังเดินจากไป

ทำไมหล่อนจะไม่รู้ล่ะว่าดนัทธ์คิดอะไรอยู่ แต่หล่อนไม่อาจจะ ตอบรับความรู้สึกของเขาได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ