ร้อยเล่ห์ เกมรัก

ตอนที่ 1 ชื่อเฟินเฟินเหรอก็งั้นๆ



ตอนที่ 1 ชื่อเฟินเฟินเหรอก็งั้นๆ

ภายในโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ เด็ก เสิร์ฟต่างกำลังยุ่งกับการเตรียมเสิร์ฟอาหาร

* เฟินเฟินนำอาหารจานนี้ไปเสิร์ฟท์ *

เซฟในห้องครัวเอ่ยเรียกขณะที่มือยังคงเคลื่อนไหวไม่ หยุด

” ค่ะ ”

หญิงสาวรีบไปรับอาหารแล้วยกไปวางบนโต๊ะที่ถูกจัด เตรียมไว้อย่างดี ไม่นานงานเลี้ยงก็เริ่มขึ้น เหล่าผู้บริหาร ต่างเริ่มทยอยเข้ามาในงาน

เฟิร์นรู้สึกเหนื่อยล้าและเพลียเธอจึงเดินออกมาพักข้าง นอกกับเพื่อนสาวของเธอในระหว่างที่ผลักเปลี่ยนกันพัก กับคนอื่นที่ตอนนี้คอยดูแลแขกในงาน

” หนิงฉันจะไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าสักหน่อยไปด้วยกัน

มั้ย”

เธอเอ่ยถามเพื่อนสาวข้างๆ เพื่อนสาวก็ตอบอย่าง

รวดเร็ว
‘ อื้มไปสิ อยากเข้าอยู่เหมือนกัน ”

ทั้งสองเข้าไปทําธุระในห้องน้ำพอหนิงทําธุระเสร็จก่อน เธอก็บอกเพื่อนสาวว่า

” เฟินเฟิน ฉันออกไปรอข้างนอกก่อนนะไม่ต้องรีบ ”

พูดจบเธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เสียงโทรศัพท์ใน กระเป๋าก็ดังขึ้นเธอก้มลงเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋า กางเกงเพื่อรับโทรศัพท์

แต่เธอดันชนเข้ากับของแข็งบางอย่างทําเอาเธอตกใจ จนโทรศัพท์ตกพื้นแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ

เธอมองชิ้นส่วนของโทรศัพท์ที่แตกกระจัดกระจายด้วย ความเจ็บปวดหัวใจ

โทรศัพท์ฉัน โอ้วลูกรัก ฉันจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อใหม่ เนี่ย ”

พอได้สติเธอค่อยๆเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนช้าๆด้วย ความโมโหทำให้รู้ว่าสิ่งที่เธอชนนั้นคือรูปร่างของคน

เธอตั้งใจจะด่าให้สมกับที่ทำให้เธอตกใจทำให้เธอโมโห แถมโทรศัพท์ที่เพิ่งซื้อใหม่ก็มาแตกอีก เธอกำมือแน่นกัดฟันพูดขึ้นด้วยความโกรธในขณะที่ยังมองไม่เห็น หน้าตาของอีกฝ่าย

คุณไม่มี…..” ตารึไงบ๊ะ!

แต่ค่าหลังเธอไม่ได้พูดออกมา ได้แต่ตกตะลึงจ้องเขาไม่ กะพริบตา เพราะใบหน้าที่กําลังจ้องมองเธอนั้นหล่อเหลา ไร้ที่ติ

[ จมูกโด่งสวย ดวงตาคมสีดำน้ำตาลมีเสน่ห์ราวกับ เหยี่ยวที่กำลังจ้องมองเหยื่อ ริมฝีปากไม่หนาไม่บางได้รูป เข้ากันกับใบหน้า ทรงผมก็ถูกจัดทรงอย่างดีส่งให้ใบหน้า ดูหล่อเหลารวมๆแล้วเพอร์เฟคสุดๆ

อกอิแม่จะแตก หุ่นก็แซ่บได้สัมผัสซิกแพคแน่นๆเป็น มัดๆ กลิ่นตัวหอมมีระดับแถมตัวสูงเอามากๆอีก โอ้ว! นี่ มันเทพบุตรชัดๆสวรรค์เล่นตลกอะไรกันเนี่ย การแต่งตัว ดูภูมิฐาน หล่อชนิดไม่อยากจากไป ยอมตายคาตีนเลยก็ ย่อมได้ ]

หนิงพรรณนาถึงคนตรงหน้าในใจด้วยท่าทาง เคลิบเคลิ้มล่องลอย

ท่าทางของหนิงทำให้คนตัวสูงรู้สึกรำคาญจนหงุดหงิด ใจอารมณ์เสียที่ใครก็ไม่รู้มาชนเขาแล้วยังมายืนขวาง ทางเขาอีกขอโทษสักคำก็ไม่มี
หน่งยืนจ้องไม่กะพริบราวกับกำลังฝันถึงเทพบุตรรูปงาม ตรงหน้าแบบไร้สติไปชั่วขณะกว่าจะรู้สึกตัวก็ถูกผลัก ออกไปเธอทรงตัวไม่ได้เซจนเกือบล้มไปถึงพื้นแล้ว

ดีที่เฟิร์นมาเห็นเข้าพอดีเลยรีบคว้าเธอไว้ทันทำให้เธอมี สติขึ้นมาอีกครั้ง เฟิร์นถามเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วงว่า

” เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า ”

” ฉัน ฉันไม่เป็นไร ไม่เจ็บตรงไหนเลย

คนตัวสูงเหลือบมองคู่สนทนาแวบหนึ่งอย่างเย็นชาก่อน จะเดินผ่านสองคนนั้นไปด้วยท่าทางสูงส่งสง่างาม

แต่เขาเพิ่งจะก้าวขาออกไปได้สามก้าวก็มีเสียงตะโกน ดังมาจากทางด้านหลัง

คุณ หยุดนะ! ”

เฟิร์นโกรธมากเธอเห็นเพื่อนสาวถูกผู้ชายคนนี้ผลัก อย่างไม่ปราณีเต็มสองตาเธอจะไม่ทวงความยุติธรรมให้ เพื่อนได้ยังไงกัน

แต่แม้เธอจะบอกให้เขาหยุดเขาก็ไม่ฟังที่เธอพูดและยังคงเดินตรงไปยังห้องน้ำต่อไปยิ่งทำให้เธอโกรธมาก ขึ้นไปอีก เธอเดินก้าวเท้าออกไปยาวๆตามหลังชายตัวสูง พร้อมกับกัดฟันพึมพำ

* ผู้ชายไร้มารยาทไร้ความเป็นผู้ชายทำร้ายผู้หญิงแล้ว ไม่ขอโทษอย่างงั้นเหรอ ดี! ”

จากนั้นเธอวิ่งไปขวางเขาไว้ยืนประจันหน้ากับเขา ใบหน้าสวยขาวใสไร้เครื่องสำอางติด แต่แก้มกลับแดง ระเรื่อเพราะความโกรธดวงตากลมโตเอาเรื่อง มือกำแน่น ด้วยความโมโห

ชายหนุ่มมาดรวยยืนสำรวจหญิงสาวตรงหน้าจากนั้นก็ ยิ้มเยาะขึ้นที่มุมปากเอ่ยเบาๆอย่างไม่ใส่ใจแล้วเอ่ยเป็น ภาษาจีนว่า

* หึ ใจกล้าไม่เบาหนิ ”

เมื่อเห็นท่าทีที่สุขุมเย็นชาวางมาดรวยเฟิร์นก็รู้สึกหมั่น ไส้ เธอเลยเปลี่ยนท่าทางเสียใหม่หันมากอดอกแทนเดิน สำรวจรอบตัวคู่กรณีแล้วเอ่ยปากพูดเป็นภาษาจีนที่เธอ คาดว่าเขาคือเจ้าของภาษาเพราะเธอได้ยินเขาว่าเธอใจ กล้าเมื่อครู่

* ชื่อ ใจกล้าไม่เบาหนิ เป็นผู้ชายแต่กลับผลักผู้หญิงแล้ว ไม่ขอโทษ แบบนี้บ้านฉันเขาไม่เรียกผู้ชายนะแต่เขาเรียกหน้าตัวเมีย ”

พูดจบเธอก็ผลักเขาคืนเหมือนที่เขาผลักเพื่อนเธอแต่ ผู้ชายฉลาดนักธุรกิจอันดับหนึ่งอย่างคุณชายหล่อหาน มีหรือจะยอมถูกด่าฟรีและยอมล้มคนเดียวจังหวะที่หญิง สาวผลักจนเขาเซเขาคว้าตัวเธอมาดึงไว้ในอ้อมอก กอด เธอแน่นและพลิกตัวเธอลงสู่ใต้ร่างของเขาไม่พอยังจูบ เข้าที่ปากเธอเต็มๆเพื่อเป็นการสั่งสอน

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ตกอยู่ในสายตาของสองผู้ช่วยที่อยู่ ไม่ไกลออกไป

ส่วนหนิงตกตะลึงอ้าปากค้างที่เพื่อนสาวถูกจูบเฟิร์นเอง ก็ตกใจไม่แพ้กันเธอตกใจจนลืมไปว่าที่ตรงนี้ไม่ได้มีแค่ พวกเขาสองคนดวงตาเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจใจ เต้นแรงตุบๆไม่หยุด

ส่วนผู้ชายหน้าหล่อร่างใหญ่อย่างหล่อหานกลับรู้สึก สะใจที่ได้จูบผู้หญิงที่กล้ามาด่าทอเขาความรู้สึกนี้เขา ชอบแบบแปลกๆ

เขาค่อยๆพละปากออกจากปากเธอเผยรอยยิ้มชั่วร้าย พร้อมกับคำพูดที่กระตุ้นความโกรธของเฟิร์นเบาๆว่า

” หึ เคลิ้มเลยละสิ นี่คือจุดจบของคนที่กล้าด่าผมจำเอา ไว้ ”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนจัดระเบียบเสื้อผ้าตัวเอง

หนิงที่อยู่ข้างหลังรีบวิ่งมาพยุงเพื่อนสาวอย่างห่วงใย

” เฟินเฟินเธอโอเคมั้ย จะกลับบ้านก่อนก็ได้นะฉันจะ บอกหัวหน้าให้ ”

หลื่อวี้หานจัดระเบียบเสื้อเสร็จได้ยินที่ทั้งคู่คุยกันก็ เหลือบมองเฟิร์นแว่บหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น

* ชื่อเฟินเฟินหรอ ก็งั้นๆ ”

หนี้เก่ายังไม่ได้ชำระเอาหนี้ใหม่มาทับเฟิร์นตาคมกริบ ขึ้นมาทันทีราวกับใบมีดที่พร้อมเฉือน สายตาจ้องไปที่ จังหวะการก้าวเท้าของชายตรงหน้าจากนั้นเธอก็สไลด์ตัว ถีบไปที่ขาของหลี่อวี้หานอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้เขาได้ ทันตั้งตัว

” คุณชายระวัง! ”

ไม่ทันแล้วเฟิร์นเร็วกว่าคำพูดของผู้ช่วยเขาอีกแต่หลี่ อวี้หานนักธุรกิจข้ามชาติอันดับหนึ่งอย่างเขาก็ผ่านการ ฝึกฝนมาอย่างดีพลาดแต่ก็คงความสง่าและดูดีได้อีกนั่น ทำให้เฟิร์นหมั่นไส้กว่าเดิมแต่ทำไงได้เมื่อเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ ของเธอทางเดียวคือวิ่งหนี
เธอจับมือเพื่อนสาวแล้วรีบวิ่งออกไปจากสถานที่แห่งนี้ เข้าไปอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพนักงานหนิงพูดขึ้นด้วย สีหน้าที่ไม่ดีเพราะเธอเป็นห่วงเพื่อนสาวที่ปกป้องเธอจน ถูกลวนลาม

” เฟินเฟินฉันว่านะเธอกลับบ้านไปดีกว่าเธอไปมีเรื่อง กับคนหน้าตาดีมีฐานะคนนั้นฉันว่าเขาไม่น่าปล่อยเธอไป ง่ายๆแน่ หนีไปตอนนี้ยังทันนะ ”

” อืม ฉันก็คิดเหมือนเธอ งั้นฉันกลับก่อนเธอดูแลตัวเอง ดีๆ มีอะไรอย่าตกใจจนเสียสติยืนมื้อให้เขารังแกอีกล่ะ ”

” อืม ฉันรู้แล้วขอบคุณมากนะฉันรักเธอ ”

หนิงเอ่ยพร้อมกับกอดลาเพื่อนสาวด้วยความซาบซึ้ง

* อื้ม ฉันก็รักเธอ ไปละ บาย

เธอผละออกจากการกอดแล้วโบกมือลากัน เฟิร์นหันไป บิดลูกบิดเตรียมเปิดประตูเดินออกไปจากโรงแรมพอเปิด ประตูก็พบเข้ากับหัวหน้างาน

เฟิร์นคิดว่าไหนๆก็เจอแล้วลาเองตรงนี้เลยละกันจึงเอ่ย ขึ้น
* เอ่อ หัวหน้าคะวันนี้เฟิร์นขอลาค่ะพอดีรู้สึกไม่ค่อย สบายตัวมากๆ”

หัวหน้างานสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่พูดออกมาอย่างไม่ สบอารมณ์ เฟิร์นขอกลับบ้านก่อนเพราะเธอไปสร้าง วีรกรรมไว้จนถูกคนใหญ่คนโตระดับอภิมหาเศรษฐีเรียก พบ กล้องวงจรเขาก็ได้ดูแล้วเขาช่วยเธอไม่ได้แล้วจริงๆ

* เฟิร์นเดี่ยวค่อยกลับแล้วกันนะ ท่านประธานใหญ่ของ บริษัทข้ามชาติอันดับหนึ่งเรียกพบน่ะ ไปพบเขาสักหน่อย ค่อยๆอธิบายให้เขาเข้าใจนะว่าเธอไม่มีเจตนาทำร้าย หลานชายเขา ”

เมื่อได้ฟังเฟิร์นและหนิงเข้าใจทันทีหนิงเข้ามาจับมือ เฟิร์นไว้แน่นด้วยความกังวลและเป็นห่วง

” เฟินเฟินฉันไปเป็นเพื่อนเธอนะฉันจะช่วยเธออธิบาย เองเพราะฉันเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ ”

เฟิร์นตบมือเพื่อนสาวเบาๆพร้อมกับเอ่ยปลอบว่า

” ไม่ต้องหรอกเรื่องแค่นี้เองฉันคนเดียวสบายมาก ถึง เธอจะไปช่วยพูดก็ไม่มีประโยชน์ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะดู จากกล้องวงจรปิดมาหมดละไม่งั้นคงไม่เร็วขนาดนี้หรอก เธอไปทํางานเถอะสบายใจได้ฉันเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว

หัวหน้างานก็พูดแทรกขึ้นมาทันทีว่า

” จริงอย่างที่เฟินเฟืนพูดหนิงเธอไปทำงานเถอะเฟินเฟิน มีฉันคอยอยู่เป็นเพื่อนอยู่ไม่ต้องห่วงถ้าซวยก็ซวยไปด้วย กันทั้งหัวหน้าและลูกน้องนี่แหละ ”

คำพูดของหัวหน้าส่วนหนึ่งคือพูดให้สบายใจแต่อีกส่วน หนึ่งก็เผื่อใจไว้เช่นกัน

หลังจากที่หนิงออกจากห้องไปทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังห้อง รับรองพิเศษสำหรับผู้บริหารระดับสูงทันที

เมื่อไปถึงก็มีบอดี้การ์ดสองคนเฝ้าอยู่หน้าห้องและเปิด ประตูให้เฟิร์นเข้าไปคนเดียว

ขออภัยครับนายใหญ่สั่งไว้ให้คุณผู้หญิงเข้าไปคน เดียว คนอื่นรอด้านนอกครับ ”

หัวหน้างานกังวลใจมากเอ่ยกระซิบเบาๆว่า

‘เฟินเฟินเธอต้องพูดให้ตัวเองรอดและดูไม่ผิดให้ได้นะ ฉันเชื่อใจเธอ ”
เฟิร์นตอบกลับไปว่า ” หัวหน้าสบายใจได้เลยค่ะ ”

เธอมั่นใจมากเธอไม่ผิดเธอไม่ยอมแน่นอนเธอจึงเดิน เข้าไปอย่างสง่างาม เธอถูกผู้ช่วยที่มารอพาเธอไปพบกับ ประธานใหญ่ทันที

” มาแล้วเหรอ หนูชื่ออะไรล่ะ ”

ชายชราเอ่ยถามพร้อมกับใบหน้ายิ้มอย่างเป็นมิตร ผิด คาดเลยสำหรับเธอ

” เฟิร์นค่ะ คุณเรียกพบดิฉันเป็นการส่วนตัวมีอะไร 11 เปล่าคะ ”

เฟิร์นตอบพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งสงบ สุขุมทําให้ชายชรายิ่งแปลกใจและสนใจในตัวหญิงสาว มากขึ้นไปอีก ชายชราเผยรอยยิ้มบนใบหน้าอีกครั้ง พร้อมกับหันไปทางผู้ช่วยส่วนตัวเป็นอันรู้กันผู้ช่วยจึงเอ่ย ขึ้น

” ที่ท่านประธานใหญ่เรียกพบคุณ เพราะท่านอยากร่วม งานกับคุณ โดยคุณจะต้องทำให้คุณชายที่คุณชนเมื่อกี้นี้ เลิกกันกับแฟนให้สำเร็จภายในเวลาหนึ่งปี ”

เฟิร์นแอบบ่นพึมพำในใจ ” แบบนี้เขาเรียกร่วมงานที่ไหน กันบ้านฉันเขาเรียกใช้งานต่างหากล่ะ ”
เห็นหญิงสาวนิ่งเงียบชายชราจึงเอ่ยขึ้นอย่างสุขุมดุจ ราชาที่อยู่เหนือทุกสิ่งราวกับเป็นเจ้าชีวิตคนและมีผู้ช่วย

ส่วนตัวยืนอยู่ข้างดูองอาจน่าเกรงขาม

” ผมเลือกคุณเพราะคุณดูฉลาดมีไหวพริบกล้าหาญ ท้าทายและซื่อตรงดี ”

ขอบคุณค่ะ ” เธอกล่าว

“ถ้าคุณทำให้พวกเขาเลิกกันได้ผมจะให้เงินคุณก้อน หนึ่งโอนเข้าบัญชีคุณทันที ยิ่งพวกเขาเลิกกันเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเป็นอิสระเร็วมากขึ้นเท่านั้น ”

เธอในชุดพนักงานเสิร์ฟยืนกุมมือตัวเองแน่นใบหูตั้งใจ ฟังคำพูดของชายชราตรงหน้าดวงตาคู่งามจ้องมองคู่ สนทนาพร้อมกับใช้สมองคิดตามอย่างรวดเร็ว

“ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ ”

ผู้ช่วยได้ยินเช่นนั้นก็รีบพูดขึ้นทันทีว่า

” ถ้าคุณปฏิเสธคงจะเป็นความคิดที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย คงไม่มีงานไหนง่ายสบายและได้เงินเยอะเท่านี้อีก เกรง ว่าทั้งชีวิตของคุณคงจะไม่เคยเห็นเงินจำนวนมากเท่านี้ อีกแล้ว เว้นแต่คุณจะถูกรางวัลที่หนึ่ง ”
ที่ผู้ช่วยพูดนั้นเป็นความจริงขนาดเขาเป็นผู้ช่วยยังไม่ เคยมีเงินเยอะเท่านี้ แม้จะเป็นความจริงแล้วยังไงล่ะคน ฟังอย่างเฟิร์นมีหรือที่จะไม่อารมณ์เสียเพราะเธอไม่ชอบ ให้ใครมาดูถูก แต่ความโกรธกดเอาไว้ก่อนเพราะเธอก็ อยากรู้เหมือนกันว่าที่ผู้ช่วยคนนั้นพูดว่ารางวัลที่หนึ่งนั้น จะเป็นอย่างที่เธอคิดหรือเปล่า

” ถ้าฉันรับงานนี้คุณจะบอกฉันได้มั้ยว่าได้เงินทั้งหมด เท่าไหร่ สวัสดิการมีอะไรบ้าง ฉันจะเชื่อคําพูดพวก คนรวยอย่างคุณได้อย่างไร ”

ผู้ช่วยเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้านั้นช่างกล้าเกินไปแล้ว ใช้ คำพูดไม่ให้เกียรติเจ้านายของเขาเขาไม่พอใจมากโดย เฉพาะคำว่า พวกคนรวย

“นี่! คุณ” คุณทันที ในระหว่างทำงานคุณจะได้รับการดูแลช่วย เหลือให้คำแนะนำจากผู้ช่วยของผมตลอดจนกว่าจะ สำเร็จ คุณสบายใจได้ ระหว่างนั้นคุณอยากได้อะไร ต้องการอะไรขอให้บอกผู้ช่วยลู่คุณจะได้รับทันที ”

แต่เขายังไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องสงบนิ่งไว้เพราะท่าน ประธานใหญ่ของเขานั้นหันมองทางเขาพร้อมกับเผยรอย ยิ้มที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจอย่างชัดเจน

แต่สำหรับเฟิร์นแล้วเมื่อกี้ผู้ช่วยที่พูดจาดูถูกเธอแต่กลับ ไม่ถูกตำหนิจากผู้เป็นนายเธอนั้นยอมไม่ได้จึงตั้งใจเรียก เขาว่าพวกคนรวย

” ถ้าคุณทำงานนี้สำเร็จ ผมจะโอนเงินสิบล้านเข้าบันชี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ