ราชาแห่งรบ

บทที่ 5 การสืบสวนของตำรวจสาว



บทที่ 5 การสืบสวนของตำรวจสาว

เป็นครั้งแรกที่ฉินปิงปิงได้เจอกับผู้ต้องสงสัยที่ปากแข็งแบบ หยางล่อ จนทำให้เธอคันไม้คันมือแทบอยากจะอัดหยางล่อขึ้น มา

นายตำรวจที่อยู่ข้างๆ ก็เหงื่อไหลเต็มหน้าผาก เพราะนี่ก็เป็น ครั้งแรกของเขาเช่นกันที่มีผู้ชายกล้าทำอะไรไม่เกรงใจต่อหน้า ฉินปิงปิงแบบนี้

ฉินปิงปิงสูดหายใจเข้าลึกก่อนพูดขึ้น มันต้องเกี่ยวกับฉัน : แน่นอนอยู่แล้วสิ!”

“คุณไม่ได้เป็นอะไรกับผมสักหน่อย แล้วคุณจะยุ่งเรื่องผม ทําไมกัน?” หยางล่อจ้องมองฉินปิงปิงพลางยิ้มเยาะ หรือว่า คุณชอบผมเข้าแล้ว? ก็เลยอยากจะยุ่ง อยากจะรู้ว่าผมกลับมา ทําไมสินะ”

“ไปตายซะ!” ฉินปิงปิงกัดฟันตะโกนด้วยความโกรธ ซึ่งเธอ โกรธอย่างมากจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ไหว

หยางล่อพลันเผยรอยยิ้มออกมาอย่างร่าเริง เมื่อได้เห็นท่าทาง โมโหของฉินปิงปิง ถึงแม้ว่าฉินปิงปิงจะเป็นคนที่ดูเผด็จการแค่ ไหน แต่แค่หยอกนิดหยอกหน่อยมันก็น่าสนุกดีเหมือนกันนะ

พลันฉินปิงปิงก็พูดขึ้น : “จะบอกอะไรนายให้นะว่า ช่วงนี้มักจะ มีบุคคลอันตรายเข้ามาในเมืองเจียงเฉิงอยู่หลายคน ฉันก็เลยสงสัยว่านายอาจจะเป็นบุคคลอันตรายที่มาจากเมืองนอกแบบ นั้น เพราะฉะนั้นก็บอกฉันมาได้แล้วว่ากลับมาทำอะไรกันแน่?

พอได้ยินคำพูดของฉินปิงปิง หยางล่อก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตายิ้ม “ดูเหมือนว่าคนพวกนี้จะหูตาไวเสียเหลือเกินนะ ถึงได้ดมกลิ่นมา ถึงได้เร็วขนาดนี้” หยางล่อแอบคิดในใจเงียบๆ

พอคิดได้แบบนั้น แววตาของหยางล่อก็ฉายแววเยือกเย็นออก มา “บุคคลอันตรายอะไรกันล่ะครับ ผมไม่รู้เลยว่าคุณกำลังพูดถึง อะไรอยู่?”

แน่นอนว่าหยางล่อไม่มีทางที่จะยอมรับว่าตัวเองเป็นบุคคล อันตรายแน่นอน ดังนั้นเขาก็เลยต้องแกล้งโง่ตามน้ำไปก่อน

พอเห็นว่าหยางล่อยังไม่ยอมพูด ฉินปิงปิงก็ทำหน้านิ่งแล้วพูด ขึ้น : “ตอนนี้นายควรจะอธิบายมาให้ชัดเจนดีกว่านะ ไม่อย่าง นั้นฉันกักตัวนายไม่ปล่อยแน่ๆ

ซิ! หยางล่อพลันกลอกตามองพอได้ยินคำพูดของเธอ คำพูด พวกนั้นของฉินปิงปิงแทบไม่ได้ทำให้เขาตกใจกลัวเลยสักนิด

“พูดมา นายกลับมาทำอะไรกันแน่?” ฉินปิงปิงถามด้วยสีหน้า

ฉุนเฉียว

พอเห็นท่าทางดึงดันของฉินปิงปิงแบบนั้น หยางล่อก็ถอนหาย ใจเบาๆ เฮือกหนึ่งก่อนจะพูดขึ้น : “ผมกลับมาก็เพื่อมาหาพี่สาว อย่างไรล่ะ!”

“พี่สาว? ใครคือพี่สาวของนายกัน?” ฉินปิงปิงถามขึ้นต่อ
หยางล่อเห็นสีหน้าของฉินปิงปิงแบบนั้นก็ถามขึ้นอย่างแปลก ใจ : “คุณจะเอาใจใส่ผมอะไรขนาดนั้น? หรือว่าชอบผมเข้าแล้ว จริงๆ?”

“ไปตายซะเหอะ!” ฉินปิงปิงกัดฟันกรอด : “รีบบอกมา!”

หยางล่อเองก็ตอบอย่างจนปัญญา : “เฉินเซ่ คนที่เป็นประธาน ของบริษัทการ์เม้นท์คนเสน่ห์นั่นไง!

“หือ? เฉินเสีที่เป็นประธานของบริษัทการ์เม้นท์คนเสน่ห์เป็นพี่ สาวของนายงั้นหรือ?” คำพูดของหยางล่อทำให้ทั้งฉินปิงปิงกับ นายตำรวจคนนั้นนิ่งอึ้งไป

พลันฉินปิงปิงก็แค่นเสียงออกพูด : “นายจะพูดโกหกอะไรก็ให้ มันเนียนๆ หน่อยได้ไหม? เฉินเสีที่เป็นถึงประธานของบริษัทการ เม้นท์คนเสน่ห์เป็นพี่สาวของผู้ชายน้ำหน้าอย่างนายเนี่ยนะ? นี่ นายฝันไปอยู่แหงๆ”

ฉินปิงปิงรู้แน่นอนอยู่แล้วว่าเฉินเส่เป็นใคร เธอเป็นถึงประธาน ของบริษัทการ์เม้นท์คนเสน่ห์ที่สง่างาม แถมเป็นสาวงามเบอร์ ต้นๆ ของเมืองเจียงเฉิงอีกด้วย พอหยางล่อมาบอกว่าเธอเป็นพี่ สาวของเขา มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออย่างมาก เธอจึงคิดได้ว่า หยางล่อคนนี้ต้องพูดโกหกแน่ๆ

หยางล่อน ตอนนั้นเองก็หมดคำจะพูดจริงๆ นี่ขนาดเขาพูด ความจริงแล้วยังไม่มีใครเชื่ออีกหรือเนี่ย!!

พลันหยางล่อก็พูดขึ้นอย่างจนปัญญา : “เฉินเส่เป็นพี่สาวของ ผมจริงๆ นะ เป็นพี่สาวที่สนิทแบบนั้นเลยนะ พวกคุณต้องเข้าใจ!” หยางล่อหรี่ตามองฉันปิงปิงอย่างชั่วร้าย

นายตำรวจที่อยู่ข้างๆ เองก็มองมาที่หยางล่ออย่างดูถูก เดินเล่ เป็นผู้หญิงที่อยู่ในใจของผู้ชายทุกคนเลยนะ แล้วหมอนกลับมาบ อกว่าอยากจะแต่งงานกับเฉินเส่งั้นหรือ ที่ สมองไม่ปรกติแล้ว จริงๆ!

“ถ้าพูดมั่วซั่วอีกล่ะก็ ฉันอัดนายแน่!” ฉินปิงปิงออกแรงทุบโต๊ะ

หลังจากนั้นก็เดินมาตรงหน้าของหยางล่ออย่างรวดเร็ว

“หวังว่าคุณคงไม่เอากฎหมายมาใช้ความรุนแรงหรอกนะ!” หยางล่อพูดอย่างกังวลเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางโมโหโกรธาของ ฉินปิงปิง

ถึงแม้จะพูดได้ว่าหยางล่อไม่ได้กลัวฉินปิงปิงเลยสักนิด แต่ฉิน ปิงปิงก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง แถมยังสวยอีกด้วย เขาคงไม่กล้า ไปลงมือกับดอกไม้แสนสวยนั้นได้จริงๆ!

“ไปตายซะ!” ฉินปิงปิงตะโกนด้วยความเดือดดาล จากนั้นก็ ใช้เท้าเหวี่ยงเตะมาทางหยางล่อ

คือ? หยางล่อคิดไม่ถึงเลยว่าฉินปิงปิงจะทำจริง แบบนี้เธอยิ่ง ดูเหมือนสัตว์ประหลาดเข้าไปใหญ่เลยน่ะสิ! ขณะที่หยางล่อ กำลังจะเตรียมตั้งท่ารับอยู่นั้นเอง ประตูห้องสอบสวนก็ถูกเปิด ออกขึ้นอย่างกะทันหัน

“หยุดเดี๋ยวนี้ ฉินปิงปิง!” สิ่งที่เห็นก็คือมีตำรวจวัยกลางคนๆ หนึ่งตะโกนห้ามเอาไว้
ฉินปิงปิงมองไปที่ตำรวจนายนั้นก่อนจะซักเท้าถอยมาอย่างไม่ เต็มใจ : “มีเรื่องอะไรกันคะหัวหน้า?” พอเห็นฉินปิงปิงถอยกลับ ไปแล้ว หยางล่อก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก

ที่แท้นํารวจวัยกลางคนๆ นั้นก็คือหัวหน้าหาย แห่งกองกำลัง ปราบปรามของเมืองเจียงเฉิงนั่นเอง

พลันหายก็พูดขึ้น ปิงปิง เธอปล่อยหยางล่อเดี๋ยวนี้เลย “ทําไมกันคะ?” ฉินปิงปิงถามอย่างไม่พอใจเท่าไหร่

“พวกเราเพิ่งจะตรวจสอบได้ชัดเจนแล้ว ก็แค่เหตุทะเลาะวิวาท ธรรมดาเท่านั้น อีกอย่างคนที่ถูกซ้อมก็บอกแล้วว่าไม่เอาเรื่อง หยางล่อ ดังนั้นเธอก็รีบปล่อยเขาได้แล้ว” กู่ห่ายพูด

“ไม่ค่ะ!” ฉินปิงปิงส่งเสียง : “ประวัติของหยางล่อคนนี้ไม่ ชัดเจนเลย ฉันก็เลยสงสัยว่าเขาจะเป็นบุคคลอันตรายที่มาจาก เมืองนอกนะคะหัวหน้า” พอได้ยินแบบนั้นหยางล่อก็เหงื่อไหล ท่วม ดูเหมือนว่าฉินปิงปิงคนนี้จะไม่ยอมปล่อยเขาไปจริงๆ

กู่ห่ายพลางจ้องเขม็ง : “อย่าก่อเรื่อง ทำตามคำสั่งซะ ไม่อย่าง นั้นฉันจะส่งเธอไปที่หน่วยตำรวจจราจรแน่!” พอคิดว่าตัวเองต้อง ถูกย้ายไปที่หน่วยนั้น ฉินปิงปิงก็ปล่อยหยางล่อลงอย่างไม่ เต็มใจ

หยางล่อเองก็ยิ้มพูดแล้วมองไปทางฉินปิงปิง : “คุณตำรวจ สาวครับ ถ้ามีโอกาสไว้พวกเรามาคุยกันใหม่นะ!”

“ไสหัวไปซะ!” พอเห็นใบหน้ากระหยิ่มยิ่งย่องของหยางล่อ ฉันปิงปิง กัดฟันกรอด

“ฮ่าๆๆๆ!” หยางล่อหัวเราะลั่น หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไป จากห้องสอบสวนทันที

“ไอ้โรคจิต!” พอเห็นหยางล่อที่เดินจากไปนั้น ฉินปิงปิงก็อดไม่ ได้ที่จะกําหมัดทุบลงไปบนโต๊ะอย่างแรง

ปัง!

เสียงที่ดังสนั่นนั้น ทำให้นายตำรวจอีกคนที่อยู่ข้างๆ ตกใจ กลัว

“ไอ้สารเลว คอยดูนะ ครั้งหน้าอย่าให้ถึงมือฉันอีกก็แล้วกัน ไม่งั้นฉันจะทำให้นายตายทั้งเป็นแน่ๆ” ฉินปิงปิงพูดอย่างโหด ร้าย นายตำรวจที่อยู่ข้างๆ พอได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยจิต สังหารแบบนั้นของฉินปิงปิง ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทิ้มไปด้วยความ กลัว ขณะเดียวกันก็สงบนิ่งให้กับหยางล่อสามวินาที ถูกแม่สัตว์ ประหลาดคนนี้หมายหัวไว้ ชีวิตคงจะลำบากแหงๆ

พอหยางล่อเดินออกมาจากสถานีตำรวจ เขาก็สังเกตเห็นว่า หลินเยี่ยืนรอเขาอยู่ที่ประตูพอดี

“ไฮ สวัสดีคนสวย!” หยางล่อโบกมือพลางยิ้มพูด

“หยางล่อ นายออกมาแล้ว!” พอเห็นหยางล่อเดินออกมา หลิน

เย่ก็วิ่งตะโกนมาหาเขาด้วยสีหน้าดีใจ พอหยางล่อเห็นหลินเย่เป็นแบบนั้นก็ยิ้มถามขึ้น “นี่คุณช่วยผมออกมางั้นหรือ?”
หลินเย่เองก็ยิ้มตอบอย่างปลื้มปีติใจ : “พอเห็นว่าคุณถูก ตำรวจจับไป ฉันก็รีบโทรหาทนายที่เป็นเพื่อนของฉันทันทีเลย

หยางล่อเองได้ยินแบบนั้นก็ประหลาดใจอยู่หน่อยๆ เขาคิดไม่ ถึงเลยว่าหลินเย่จะใจดีกับเขาขนาดนี้ มันเกินกว่าที่เขาคาดไว้ จริงๆ

ขณะที่หลินเย่กำลังคุยกับหยางล่ออย่างกระตือรือร้นนั้น บรรยากาศในห้องทำงานของหัวหน้าหน่วยสืบสวนสอบสวนป่าย ซีหลิงของสถานีตำรวจเขตเหนือของเมืองเจียงเฉิง ก็กำลังเต็มไป ด้วยความตึงเครียด

ป้ายชีหลังทำสีหน้าเคร่งขรึม ในมือเล่นต่างหูมรกตไปมา แวว ตาราวกับนกเหยี่ยว พลันคิดไปถึงการถูกปฏิเสธอย่างเย็นชา จากฉินปิงปิงเมื่อเช้านี้ มาตอนนั้นกลับมีผู้ชายคนหนึ่งกล้ามา ลวนลามฉินปิงปิงอีกทั้งยังเล็ดลอดจากสถานีตำรวจเขตเหนือไป ได้อีก เรื่องนี้ทำให้ในใจของป้ายซีหลิงรู้สึกไม่สดชื่นอย่างมาก

“ตรวจสอบคนๆ นั้นออกมาได้แล้วหรือยัง?” อายุของฝ่ายชี หลิงยังไม่เกินยี่สิบปี รูปร่างหน้าตาของเขาดูขาวสะอาด แถมยัง หล่อเหลา เพียงแต่สีหน้าของเขาตอนนี้บูดบึงอย่างมาก

“เสี่ยวว้างที่เป็นเพื่อนร่วมงานของหัวหน้าฉันบอกไว้ว่า ข้อมูล ของเจ้าหมอนั่นว่างเปล่าหมดเลยครับ ไม่มีอะไรอยู่เลย” ตำรวจ ผู้ช่วยคนหนึ่งพูดขึ้น

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีประวัติอะไรเลยสินะ หาโอกาสทำให้เจ้า หมอนั่นมันได้ลิ้มรสซะ ให้มันรู้ว่าที่เมืองเจียงเฉิงเองก็มีขอมีแปพอป้าย หลังพูดจบ เขาก็กำหมัดทุบลงไปบนโต๊ะ เพราะเขา จริงจังกับฉินปิงปิงจริงๆ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ยอมมาเป็นตำรวจ ในสถานีตำรวจเล็กๆ นี่ แทนที่จะเป็นคุณชายอยู่ที่บริษัทตระกูล ป้ายหรอกนะ

ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็ตบปากรับค่าเบาๆ ก่อนที่ป้ายหลัง จะส่งสัญญาณมือบอกให้เขาออกไป พลันผู้ชายคนนั้นก็หันหลัง เดินออกไป ปิดประตูลง จากนั้นก็หยิบมือถือออกขึ้น โทรทันที

หลินเยู่กับหยางล่อไปหาที่กินข้าวเย็นอย่างง่ายๆ ด้วยกัน ต่อ จากนั้นถึงแม้หยางล่อพยายามที่จะขอไปส่งหลินเย่กลับบ้าน แต่ กับคนที่เพิ่งพบกันได้เพียงครู่เดียวนั้น ก็เลยรู้สึกเกรงใจที่จะ รบกวนหยางล่อมากไป เพราะเธอรู้สึกว่าวันนี้เธอทำให้เขา ลําบากมามากพอแล้ว ดังนั้นหลังจากที่ออกมาจากร้านอาหาร หลินเยเรียกรถกลับไปที่โรงเรียนกังฟูหางทันที

พอหลินเย่จากไป ก็มีเสียงเรียกเข้าจากมือถือของหยางล่อดัง ขึ้น หยางล่อพลันกดรับขึ้นทันทีโดยไม่ได้มองเบอร์ที่โทรมาก่อน เลย ก่อนจะพูดอย่างขี้เกียจ “ทำไมกันหรือพี่สาว? คิดถึงผมขึ้น มาหรือไง?”

“หึ อย่างเธอไม่มีคุณสมบัตินั้นหรอกนะ” เสียงไม่พอใจจากอีก ฝั่งดังขึ้น

“ถึงผมจะเป็นหรือไม่ แต่อย่างไรก็คือพี่สาวผมอยู่ดีไหมล่ะ?” หยางล่อพูดอย่างไม่ลดละ

“เอาเถอะ เลิกพูดมากได้แล้ว เป็นอย่างไรบ้างล่ะ? ได้งานบ้างแล้วหรือยัง?”

“เรื่องนั้น…ก็ใกล้แล้วล่ะ” หยางล่อรู้ดีว่าไม่ว่าอย่างไรเงินเก็

ต้องถามเรื่องนี้กับเขาแน่นอน

“นี่จงใจจะปั่นหัวพี่สาวคนนี้เล่นๆ ใช่ไหมเนี่ย? เธอจะทำเป็น ไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปแบบนี้ต่อไปไม่ได้หรอกนะ นี่เธอจำไม่ได้หรือ ว่าเธอเองก็เคยมีชีวิตชีวา ไม่ยอมใครกว่านี้ตั้งเยอะ ทำไมตอนนี้ ตั้งแต่กลับมาจากกองทหารก็กลายมาเป็นแบบนี้เสียแล้วล่ะ?” น้ำเสียงของเฉินเสู่อีกฝั่งดูเสียดาย

“ผมรู้แล้วล่ะน่าพี่ พวกเราก็ตกลงกันแล้วว่าให้เวลาหนึ่งอา ทิตย์นะ? ถ้าในหนึ่งอาทิตย์แล้วยังหางานไม่ได้ ก็ไปเริ่มงานที่ บริษัทของพี่ไง ใช่ไหม?” หยางล่อเองก็รู้ว่าเฉินเส่เป็นห่วงตัวเอง ดังนั้นจะให้อกตัญญูต่อความหวังดีของคนอื่นไม่ได้

“นี่มันก็เหลือแค่หกวันแล้วนะ อย่ามัวแต่เถลไถลเลย อีกอย่าง อยู่ข้างนอกก็ไม่คุ้นเคยเท่ากับที่ๆ พี่อยู่นี้หรอกนะ” น้ำเสียงของ เฉินเสดูน่าฟังราวกับดอกไม้ในหุบเขาอย่างไรอย่างนั้น

“รู้แล้วล่ะน่าพี่ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วผมขอไปหางานใน อินเทอร์เน็ตก่อนล่ะนะ” จิตใจของหยางล่อตอนนี้รีบร้อนขึ้นมา ทันที เพราะสุดท้ายแล้วเขาไม่มีทางยอมถูกบังคับไปขายชุดชั้น ในผู้หญิง ที่บริษัทของเฉินเสีแน่ๆ

“งั้นก็ดี อีกอย่าง ถ้าไม่มีเงินให้รีบบอกพี่เลยนะ” พอพูดจบ เฉินเสก็วางสายไป

หยางล่อยกมือขึ้นลูบจมูกอย่างเก้ๆ กังๆ เขารู้สึกได้ว่าหลายปีมานี้เหมือนกับตัวเองกำลังฝันอยู่เลย คิดไม่ถึงเลยว่าจากคนที่ ยอดเยี่ยมที่กองทหารต้องถูกไล่ออกมาเพราะลูกข้าราชการบ้า นั่น ทำให้ชีวิตของหยางล่อที่อยู่ในกองทหารมานานหลายปี คุ้นชินกับชีวิตสนามรบที่เต็มไปด้วยกลิ่นดินปืนและเลือดนั้น พอได้มาอยู่ในเมืองใหญ่ๆ แบบนี้แล้วทำให้รู้สึกไม่ชินจริงๆ

“เฮ้อ ช่างมันเถอะ ในเมื่อเขาไม่ต้องการเรา เราก็ไม่ต้องเอา หน้าไปตามติดก้นของเขาเสียหน่อย” หยางล่อทอดถอนใจอย่าง เจ็บปวด พลางเดินกลับที่พักของตัวเองไปทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ