รักไม่มีวันลืม

บทที่ 6 ขออย่าได้เจอกันอีกทุกชาติทุกภพ



บทที่ 6 ขออย่าได้เจอกันอีกทุกชาติทุกภพ

ปวรรุจเตะอย่างแรง ทำให้นวลกระเด็นออกไปไกล มุมปากของเธอมีเลือดไหลออกมา

ทอแสงมองดูนวลด้วยความเกลียดชัง จากนั้นส่ง สายตาให้กับมณี

มณีพยักหน้า จากนั้นนำผ้าออกมายัดปากของนวล

เอาไว้

ผ่านไปเพียงไม่นาน แผ่นหลังของกลิ่นจันทร์ก็เต็ม ไปด้วยบาดแผล แต่สายตาของเธอกลับว่างเปล่าจนทําให้ คนที่มองนั้นรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา

ริมฝีปากของเธอซีดขาว แล้วเอาแต่พึมพำพูด ประโยคหนึ่ง “ดวงดาวบนฟากฟ้า สองเรารักใคร่ อยู่กิน กันจนแก่เฒ่า…”

เธอนึกถึงสิ่งที่ปวรรุจเคยพูดเมื่อตอนเด็กๆ “กลิ่น จันทร์ พวกเราคงเป็นคู่ที่ฟ้าลิขิตมาให้รักกัน ”

กลิ่นจันทร์ไม่เข้าใจ “ทำไมคะ?”

เขายิ้มแล้วพูดขึ้น “ดวงดาวบนฟากฟ้า สองเรารัก ใคร่ อยู่กินกันจนแก่เฒ่า…”

กลิ่นจันทร์ขนาดล้ำ และ? ใครเป็นคนคิดคำพูดขึ้นรอคะ?

เขายิ้มร่า “นายปวรรุจ เกษมสันต์”

หลังจากที่ได้ยินประโยคที่เขาพูดนั้น กลิ่นจันทร์ก็ หน้าแดงก่ำ เธอเอามือมาปิดหน้าเอาไว้แล้วพูดขึ้น “ใคร จะรักกับคุณจนแก่เฒ่า คนบ้า ! ”

ปวรรุจจับมือของเธอด้วยความรักใคร่ “นอกจากคุณ แล้ว จะมีใครได้อีก?”

“ไม่แน่หรอกค่ะ ถ้าวันไหนที่คุณมีคนอื่น ฉันไม่มีวันที่ จะฝืนทนอยู่กับคุณต่อไปแน่”

“ผมไม่มีวันมีใครนอกจากคุณ”

“คะ?”

“ชีวิตนี้ ผมจะไม่มีวันทรยศหักหลังคุณ”

กลิ่นจันทร์ยิ้มร่า “ค่ะ คุณต้องจำคำพูดของตนเองใน วันนี้ให้ดี ถ้าวันไหนที่คุณทรยศหักหลังฉัน ฉันจะหนีไปใน ที่ที่คุณหาไม่เจอ จะไม่เจอคุณอีกทุกชาติทุกภพ”
กลิ่นจันทร์พูดประโยคสุดท้าย “สองเรารักใคร่ อยู่ ร่วมกันจนแก่เฒ่า” เธอรู้สึกเจ็บรวดร้าวไปทั้งตัว ความคิด ของเธอว่างเปล่า

เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองไปยังผู้ชายที่เธอรักสุด หัวใจ ตอนนี้เขากอดผู้หญิงคนอื่นเอาไว้ และผู้หญิงคนนั้น กำลังยิ้มเย้ยหยันตน

คนที่เคยบอกว่าจะรักเธอจนแก่เฒ่า มาวันนี้กลับโอบ กอดผู้หญิงที่เธอเกลียดที่สุด

เขาคงคิดไม่ถึง ว่าสุดท้ายแล้วเธอจะไปในที่ที่เขา ไม่มีวันหาตัวเจอ….

สามสิบ พอดิบพอดี ไม่มากไม่น้อย

กลิ่นจันทร์ถูกลากมาตรงหน้าของปวรรุจ เลือดเปื้อน อยู่เต็มพื้น

เธอเป็นผู้หญิงที่หยิ่งทระนงตน ตอนที่ทอแสง ทำให้เท้าของเธอหัก เธอก็ไม่เคยยอมก้มหัว ตอนนี้ก็เช่น เดียวกัน

นวลมองไปที่กลิ่นจันทร์ เธอเอาแต่ร้องไห้
ทอแสงก้มหน้าลงแล้วมองไปที่กลิ่นจันทร์ด้วยความ สะใจ “ทอแสงบอกแล้วไงคะ พี่สาวร่างกายแข็งแรงมาก โดนโบยไปสามสิบทีเธอก็ไม่เป็นอะไร

ทอแสงก้มหน้าลงแล้วมองไปที่กลิ่นจันทร์ด้วยความ สะใจ “ทอแสงบอกแล้วไงคะ พี่สาวร่างกายแข็งแรงมาก โดนโบยไปสามสิบทีก็เหมือนว่าพี่กลิ่นจันทร์จะไม่เป็น อะไรเลยค่ะ ดูแล้วคนในเรือนน่าจะสงสารพี่กลิ่นจันทร์ ก็ เลยโมยไม่แรง”

คำพูดหนึ่งคำ แต่กลับอ้อมค้อมไปมา

“กลิ่นจันทร์ขอบคุณสำหรับการลงโทษของคุณชาย ปวรรุจด้วยนะคะ” กลิ่นจันทร์ไม่ได้สนใจทอแสง มองไปที่ ปวรรุจ “ตอนนี้ ฉันพาตัวนวลไปได้หรือยังคะ?”

คุณชายปวรรจ?

ปวรรุจหรี่ตาลง ดวงตาสีนิลของเขายากที่มองออกว่า กําลังรู้สึกยังไง

พึ่งได้เจอกับคุณชายมารุต ก็ไม่อยากจะข้องเกี่ยวกับ เขาแล้วใช่ไหม?

เขาโมโหมาก “ไสหัวออกไป
กลิ่นจันทร์คลายยิ้มบางๆ ไม่ได้พูดอะไรอีก

เธอพยายามที่จะลุกขึ้นยืน แต่ไม่สามารถที่จะยืนได้ จริงๆ เพราะเธอขาอ่อนและหมดแรงแล้ว

จนกระทั่งนวลวิ่งเข้ามาหา “คุณหนู… คุณหนู…

นวลพยุงกลิ่นจันทร์ลุกขึ้น เธอเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด

ก่อนที่จะเดินไปนั้น กลิ่นจันทร์หันไปมองปวรรุจ “งานวิวาห์ของคุณเมื่อวาน ฉันไม่ทันได้อวยพร ถ้าอย่าง นั้นขอถือโอกาสนี้ในการอวยพรนะคะ”

“กลิ่นจันทร์ขอให้พวกคุณทั้งสอง รักใคร่กลมเกลียว อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า”

พูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินออกไป

เลือดไหลไปตามทางที่เธอเดิน พื้นหญ้าสีเขียวข เปื้อนไปด้วยเลือด

ภายในใจของปวรรุจรู้สึกปวดร้าว เชาจ้องมองไป ที่แผ่นหลังของเธอ ภายในใจของเขารู้สึกโหวงขึ้นมา เหมือนว่าตนเองกำลังจะสูญเสียของบางอย่าง เหมือนว่า ของรักของเขากำลังจะหายไป…
เขาทำผิดไปแล้วหรอ?

ไม่ เธอต่างหากที่เป็นคนทรยศในความรักของเขา เขาไม่ผิด !

มือทั้งสองกำหมัดแน่น เขาหมุนตัวหันหลังแล้วเดิน

ออกไป

ทอแสงมองดูกลิ่นจันทร์ด้วยความเย้ยหยัน จากนั้น รีบเดินตามปวรรุจไป “คุณปวรรุจคะ รอทอแสงด้วยค่ะ”

หลังจากที่เดินออกมาได้ไม่ไกล กลิ่นจันทร์ก็ไอออก มาเป็นเลือด เธอรู้สึกว่างเปล่าไปหมด เกือบที่จะเป็นลม ล้มลงไป

เธอทรุดตัวอยู่บนพื้น นวลเอาแต่ร้องไห้อย่างไม่อาจ ช่วยได้ พยายามใช้แรงที่มีในการพยุงตัวคุณหนูของตน ขึ้นมา

เดินไปเพียงไม่กี่ก้าว กลิ่นจันทร์คลายยิ้มบางๆ

ครั้งนี้ เธอไม่มีความหวังอะไรอีกแล้ว ระหว่างเธอกับเขา เราจบกันแล้ว……”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ