รักไม่มีวันลืม

บทที่ 2 พวกเขาอยู่ด้วยกัน



บทที่ 2 พวกเขาอยู่ด้วยกัน

หลังจากที่เฆี่ยนโบยเธอเสร็จ กลิ่นจันทร์จึงสลบไป

ปวรรุจมองเธอด้วยนัยน์ตาที่เย็นชา จากนั้นก็ผายมือ สั่งให้คนลากเธอกลับเรือนเล็กไป พอเห็นคุณชายคนนี้ ไม่ได้ทำดีกับสะใภ้ของเขาเลย ลูกน้องต่างก็ทำนัยน์ตาที่ ดูถูก จากนั้นก็ตัวกลิ่นจันทร์ไปข้างนอก

ลำตัวของเธอถูกลากจนทำให้เลือดแดงสดแปด เปื้อนพื้นและลากยาวออกไปข้างนอกเป็นเส้นตรง

ในเรือนเล็ก มีสาวใช้ที่ชื่อนวลอุ้มกลิ่นจันทร์ที่ยังคง สลบอยู่ จากนั้นก็ร้องห่มร้องไห้เสียงดัง

“คุณหนูอย่ากลัวเลยนะคะ นวลจะไปตามหมอมา เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องกลัว…….

นวลเช็ดน้ำตาตัวเอง แล้ววางกลิ่นจันทร์ไว้ดีๆ จาก นั้นก็วิ่งไปทั่วเพื่อขอให้คนไปตามหมอมา แต่เพราะว่า นายหญิงของเธอไม่ได้รับการโปรดปราน คนใช้ในบ้าน เกษมสันต์จึงไม่มีใครมาสนใจเธอ……

ตอนที่กลิ่นจันทร์ตื่นขึ้นมา ก็คือเที่ยงของอีกวันแล้ว นอกหน้าต่างมีฝนโปรยเล็กน้อย กลิ่นจันทร์เหม่อมลอย บบโบยยงสักพัก เจ้าได้สติกลัยมา จากนั้นก็พยายามจกชื้นจากเโบยยง

นวลเห็นจึงรีบพูดขึ้น “คุณหนูระวังหน่อยค่ะ คุณ หนูตื่นแล้ว โธ่ คุณหนูขยับไม่ได้นะคะ แผลตรงแผ่นหลัง สาหัสเกินไป ต้องพักผ่อนเยอะๆนะคะ……”

กลิ่นจันทร์ไม่สนใจความเจ็บปวดนี้ จึงถามด้วยสีหน้า ที่ขาวซีด

“เขาล่ะ? เขาแตะต้องผู้หญิงคนนั้นหรือยัง?”

สีหน้าที่นวลไม่แปรเปลี่ยน จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยเสียง แผ่วเบา “คุณหนูคะ เราอย่าไปยุ่งเรื่องของพวกเขาได้ ไหม คุณหนูพักฟื้นตัวเองให้หายจะเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่สุด”

“ไม่!! กลิ่นจันทร์เปิดผ้าห่ม แล้วพยายามลงจาก เโบยยง “ฉันจะไปหาปวรรุจ พาฉันไปเจอเขา”

นวลทำนัยน์ตาที่แดงระเรื่อทันที “คุณหนู……

“นวล” นัยน์ตาของกลิ่นจันทร์เต็มไปด้วยน้ำใสๆ แล้วมองนวลด้วยความน่าสงสัย “ครั้งสุดท้าย ครั้งสุดท้าย จริงๆ พาฉันไปหน่อยเถอะ”
นวลหลับตาลง น้ำใสยังคงค้างในนัยน์ตา “คุณหนู ค่ะ ไม่ต้องไปแล้วค่ะ เมื่อคืนคุณผู้ชายนอนห้องเดียวกับ คุณหนูสอง ตอนเช้าก็ออกจากห้องของคุณหนูสอง……”

จู่ๆกลิ่นจันทร์จึงหยุดชะงักไป เธอแค่รู้สึกว่าทั้ง ร่างกายของเธอนั้นหนาวจนตัวสั่น

“เธอว่ายังไงนะ พวกเขา……” กลิ่นจันทร์ยิ้มทั้ง นํ้าตา “เขาแตะต้องตัวเธอ”

นวลไม่อยากให้เธอเสียใจ แต่กลับไม่อยากจะโกหก เธอ “ใช่ค่ะ”

กลิ่นจันทร์รู้สึกโมโหมากๆ จากนั้นเธอจึงอาเจียนออก มาเป็นเลือด เธอค่อยๆหลับตาลง แล้วน้ำตาก็ไหลรินลง มาจากนัยน์ตา

นวลรู้สึกตกใจมากๆ “คุณหนู!”

“คุณกลิ่นจันทร์” ตอนที่นวลกำลังรู้สึกตกใจและ หวาดผวา ก็มีคนเข้ามาจากนอกห้อง

พอคนเดินเข้ามาใกล้ ก็เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาและ อ่อนโยนของมารุต นวลจึงรีบไปหาเขาแล้วร้องไห้พลาง เอ่ยพูดขึ้น “คุณชายมารุต คุณมาสักที รีบช่วยคุณหนูหน่อยค่ะ”

สายตาของมารุดจับจ้องไปที่กลิ่นจันทร์ แล้วเขาจึง ขมวดคิ้วเป็นปม และพูดด้วยเสียงแหบพร่า “ทำไมถึง ปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นแบบนี้?”

“ฉันไม่เป็นไร” กลิ่นจันทร์เอาผ้ามาเช็ดคราบเลือด ตรงมุมปาก แล้วพูดด้วยเสียงอ่อนแรง “คุณมาได้ยังไง?”

มารุตไม่ได้เอ่ยพูด นวลจึงพูดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้น “คุณหนู นวลเรียกคุณชายมารุตมาเอง เมื่อวานคุณหนู โดนเฆี่ยนแรงเกินไป จนสลบหมดสติไป นวลไปตามหา คนทุกที่ ให้พวกเขาตามหมอมาให้ แต่ แต่……แม้แต่คุณ ท่านยังไม่ช่วย นวลจึงทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจาก คุณชายมารุต ขอโทษด้วยนะคะ นวลไม่ได้เรื่องเอง”

กลิ่นจันทร์หยุดชะงักไปแล้วยื่นมือขวาออกมาเช็ด น้ำตาของนวล แล้วพูดด้วยเสียงเรียบเฉย “ไม่หรอก ฉัน ไม่ได้เรื่องเอง ที่ทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาไปด้วย คราว หน้าไม่ต้องไปหาพ่อฉันอีก เขาได้เอาชื่อฉันออกจากวงศ์ ตระกูลแล้ว เขาไม่มีหน้าที่ต้องดูแลฉันอีก”

“ค่ะ นวลรู้แล้วค่ะ”

นวลตอบรับด้วยเสียงต่ำ จากนั้นก็เช็ดน้ำตา และหาข้ออ้างว่าจะไปต้มยาสมุนไพร

มารุตจึงไปเทน้ำให้กลิ่นจันทร์ กลิ่นจันทร์รับแล้ว แล้ว ดื่มไปสองคำ จากนั้นก็วางไว้ข้างโต๊ะ “มักจะไปรบกวน คุณบ่อยๆ ฉันรู้สึกเกรงใจมาก”

มารุตมองเธอไปสักพักแล้วถอนหายใจ “ทำไมต้อง ทรมานตัวเองด้วย?”

กลิ่นจันทร์ก้มหน้าลง แล้วยิ้มอย่างหมองเศร้า และไม่ ได้ตอบกลับใดๆ

“ตอนนั้นคุณเป็นคนช่วยเขาไว้ ทำไม…….

“คุณชายมารุต เรื่องที่ผ่านไปก็ปล่อยให้ผ่านไปเถอะ ตอนนี้ไม่มีประโยชน์จะพูดถึงมันอีก” เธอเงยหน้ามอง มารุต “แค่กลิ่นจันทร์อยากขออะไรหน่อย หวังว่าคุณจะ ตอบตกลง”

“คุณว่ามาสิ แค่ผมช่วยยได้ ผมจะช่วย

กลิ่นจันทร์ละสายตาไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาที่ลุ่ม

ลึกของเขา

“นวลเป็นคนที่ไม่คิดอะไร บางทีเธออาจจะไม่มีมารยาท วันข้างหน้าถ้าเธอไปขอความช่วยเหลือก็ไม่ต้อง สนใจเธอ ตอนนี้ชื่อเสียงฉันป่นปี้แล้ว และคุณก็คือผู้มี พระคุณกับฉัน ฉันไม่อยากทำให้คุณพลอยลำบากด้วย”

มารุตทำนัยน์ตาที่ลุ่มลึก จากนั้นมองเธอแล้วเปลี่ยน เรื่องคุย “คุณคิดถึงเขาตลอดเวลา ทำไมเขาไปขอน้อง คุณเป็นเมีย? กลิ่นจันทร์ที่ผมรู้จักใจกว้างขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อ ไหร่?”

กลิ่นจันทร์เหมือนถูกมีดแทงเข้าไปในลำคอ แม้แต่ หายใจยังรู้สึกเจ็บ ‘ไม้ก็ค่อยๆก่อเป็นเรือลำหนึ่ง……”

เห็นเธอเป็นแบบนี้ เขารู้สึกเจ็บปวดใจและสงสารเธอ

มาก

จากนั้นก็เอายากระปุกหนึ่งออกจากกระเป๋าเสื้อสูท “คุณเองก็ต้องรักตัวเองหน่อย ทายานี้ จะได้ไม่ทิ้งรอย แผลเป็น”

ผ่านไปสักพัก เขาก็ถอนหายใจพูดขึ้น “วันนี้ตระกูล เกษมสันต์กลายเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองเอ ปวร รุจกลายเป็นประธานของบริษัทตระกูล อำนาจทุกอย่างอยู่ ในมือของเขา เราห้ามไปผิดใจกับเขาเด็ดขาด คุณต้อง ดูแลตัวเองดีๆ วันข้างหน้าผมก็จะไม่มาบ่อยๆ ทำให้ไม่ ต้องทำให้คุณลำบาก”
นัยน์ตาของกลิ่นจันทร์เต็มไปด้วยน้ำตา แล้วเงยหน้า กล่าวขอบคุณจากใจจริง “ขอบคุณนะ คุณชายมารุต”

ต่างหน้าของห้องไม่ได้ปิด ข้างนอกมีปวรรุจที่กำลัง ทำสีหน้าที่หม่นหมอง แล้วมองท่าทางที่สนิทสนมกันของ พวกเขาสองคนในห้อง

ข้างๆของเขามีคนๆหนึ่งยืนอยู่ นั่นก็คือทอแสง

ทอแสงกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดด้วยความ ดูหมิ่น “ดูๆแล้ว คุณพี่จันทร์กับคุณชายมารุตมีความ สัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันจริงๆ คุณพี่จันทร์ได้รับบาดเจ็บหน่อยๆ คุณชายมารุตมาวิ่งมาดูแลเธอ ใครไม่รู้ก็คงจะนึกถึงพวก เขาเป็นสามีภรรยาที่รักกันมากๆ……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ