รักหวานๆของนายปีศาจ

บทที่ 10 ได้แต่แอบชอบอยู่ในใจลึกๆ



บทที่ 10 ได้แต่แอบชอบอยู่ในใจลึกๆ

ร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง

นกสรนั่งอยู่บนโซฟา ในมือถือนิตสารเล่มหนึ่งไว้ แต่สายตา กลับดูเหม่อลอย

เธอออกนอกประเทศไปสี่ปี แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจติดตามข่าวคราว ของนทจรเท่าไหร่นัก และไม่ได้เจอกับเขาเลย และก็ไม่อยากจะ มาเจอในสถานการณ์แบบนี้ด้วย

เพราะรู้ว่าเขามั่นหมายกับนกสรแล้ว เพราะฉะนั้นเธอถึงได้ เจียมเนื้อเจียมตัว ได้แต่แอบชอบอยู่ในใจลึกๆ

พนักงานขายเดินเข้ามา โค้งตัวทำความเคารพแล้วพูดว่า : “คุณผู้หญิงคะ สามีของคุณเปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้วค่ะ คุณผู้หญิงคิด ว่าเป็นยังไงบ้างคะ?

ส่วนใหญ่คนที่ทําอาชีพพนักงานขายต่างมีวิธีทำยอดของตัว เอง รู้ว่าผู้หญิงมีความพิถีพิถันมากกว่า เมื่อเห็นว่าสามีภรรยามา ซื้อเสื้อด้วยกัน ก็ต้องเอาอกเอาใจลูกค้าผู้หญิงที่มาด้วยกันก่อน เมื่อลูกค้าผู้หญิงมีความสุขแล้วรู้สึกพึงพอใจแล้ว ผู้ชายเองก็รัก ศักดิ์ศรี ต่อให้แพงแค่ไหนก็ต้องซื้อมันเอาไว้

“ค่ะ ดีค่ะ…… นภสรดึงสติกลับมา พอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับ ปองพลที่ยืนมองเธออยู่หน้ากระจก

ดูเหมือนว่าเขาจะชอบสีดำมาก เห็นเขาครั้งแรก เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ วันนี้ก็เสื้อเชิ้ตสีดำ แม้แต่เสื้อที่มาเลือกซื้อ ก็ยังเป็นสีดำ

อีก

ปองพลเป็นคนรูปร่างสูง กะจากสายตาก็น่าจะสูงประมาณร้อย เก้าสิบเซนติเมตร เหมือนเกิดมาเพื่อเป็นหุ่นลองเสื้อดีดีนี่เอง แทบไม่ต้องเลือกอะไรเลย จะใส่อะไรก็ดูดีไปหมด

“เป็นยังไง?” ตอนแรกปองพลกะจะเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อตัว ใหม่ แต่เห็นว่าเธอเอาแต่จ้องเขาอยู่อย่างนั้น ก็เลยถามขึ้นมา เพิ่ม

นกสรเองก็รู้สึกตัวว่าตัวเองจ้องปองพลนานเกินไปหน่อย จึง ตอบไปลวกๆ : “อั้ม ก็…… กว่านี้” ก็ดีแหละมั้ง เปลี่ยนสีสักหน่อยน่าจะดี

เมื่อมองหาไปรอบๆ เธอก็ลุกเดินไปหยิบเสื้อตัวสีขาวมา : “ลองสีขาวหน่อยมั้ยล่ะ?”

ปองพลขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็รับเอาเสื้อเข้าไปลอง

ประตูห้องแต่งตัวเพิ่งจะปิดลง นภสรจึงนั่งลงอย่างโล่งอก เหมือนเดิม แต่ว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลงดีๆ เธอก็ถูกนทจรที่จู่ๆ ก็วิ่ง เข้ามาลากตัวเธอออกไป

นทจรลากเธอไปจนถึงทางเดินบันไดของตึกที่ไร้ผู้คน ถึงปล่อย มือจากเธอ ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความผิดหวัง : “สร เธอกลาย เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

บรมนบอกอะไรนายเหรอ?”
เมื่อนภสรสอนได้ยินคำพูดนี้ ก็เอาออกเลยว่านชมนพูดอะไร ต่อหน้าเขาไปบ้าง

แล้วยิ่งคิดย้อนไปถึงเมื่อหลายวันก่อนแล้ว สีหน้าของเธอก็ชัด เผือดขึ้นมาทันที

ในบางครั้ง เธอเองก็รู้สึกสงสัย อยู่ในบ้านไชยกาลก็ได้รับการ เอาอกเอาใจมากกว่านรมน อยู่นอกบ้านเป็นคนที่เป็นที่รักของ คนอื่นๆมากกว่าก็คือนรมน แล้วทำไมหล่อนถึงยังต้องการจะแข่ง ทุกอย่างกับเธอด้วย

นทจรขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ : “นรมนเป็นพี่สาวของเธอนะ เขาเป็นห่วงเธอมาก ทำไมถึงไม่ยอมเข้าใจเขาบ้าง?

“เข้าใจเหรอ?” นภสรหลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ : “เธอมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากจริงๆ ยากลำบากในการ พยายามที่จะทรมานฉัน และนายก็เอาแต่เชื่อคำพูดของหล่อยมา ตลอด!”

“นภสร!” นทจรเริ่มรู้สึกโมโห ตอนเด็กๆ เป็นเด็กผู้หญิงที่ เรียบร้อยแท้ๆ แต่ทําไมโตมาถึงไม่ฟังใครแบบนี้

นกสรรู้สึกเศร้า ทำไมเธอถึงได้หลงรักนทจรมาได้นานหลายปี ขนาดนี้

“หล่อนบอกว่าฉันขโมยเงินที่บ้าน นายเชื่อหล่อน! หล่อนบอก ว่าฉันทำแท้ง นายก็เชื่อหล่อน! หล่อนพูดอะไรนายก็เชื่อหมด ใน เมื่อมีค่าตอบในใจอยู่แล้ว แล้วยังจะมาหาฉันเพื่ออะไร?
เธอนึกถึงสภาพของปองพลที่แสดงอาการโมโหนักข่าว แล้ว หันมามองบทจรที่อยู่ตรงหน้า และ เขาขนาดนั้นแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ชอบ

“เธอ…… ” บทจรถูกเธอถามซะจนไปกิน ทำได้แต่อธิบายเสียง ต่ำ : “นรมนเป็นคนใจดีไร้เดียงสามาตั้งแต่เด็ก เขาไม่มีทางพูด โกหกได้หรอก และฉันก็เชื่อว่า เธอจะไม่ทำแบบเดียวกับพ่อของ

เธอ……”

“หุบปากนะ!” นภสร โกรธจนตัวสั่น

ที่แท้ นี่ก็เป็นเหตุผลที่นาจรเลือกที่จะเชื่อนมนนั่นเองสินะ

เพราะว่าเธอมีพ่อที่ติดอยู่ในคุก ดังนั้นไม่ว่านรมนจะใส่ร้าย ป้ายสีอะไรเธอ เขาก็จะเชื่อคำพูดของนรมนอย่างไม่มีเงื่อนไข ใดๆ และไม่คิดแม้แต่จะเชื่อเธอบ้างเลยสักนิด

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองสินะ

นทจรก็พึ่งรู้สึกว่าตัวเองได้พูดอะไรที่ไม่สมควรจะพูดออกไป แต่เขาเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เขาก้มหัวขอโทษใคร ไม่เป็นจริงๆ ทำได้แค่เพียงฝืนพูดมันต่อไป : “จริงๆแล้ว หาก ไม่ใช่เพราะว่าพ่อของเธอ ในใจฉัน……..

“คุณชายนทจร”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ