รักพลิกล็อค

บทที่ 4 เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น



บทที่ 4 เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น

มทิตาพูดด้วยความยินดีโดยไม่เปลี่ยนหน้า

และจงใจดูดหายใจเข้าไป แกล้งทำเป็นไม่สบาย

นักข่าวมองหน้ากัน คงไม่คิดว่าเธอจะเปิดเผยขนาดนี้

เป็นแค่สาวน้อย แต่ทำไมพูดจาไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่

ตั้งแต่ต้นจนจบ ณัฐไม่ได้พูดสักคำ

เขานั่งอยู่บนรถเข็น นิ้วมือประสานเข้าเบา ๆ

เขาไม่ได้พูดอะไร แต่มุมปากของเขามีรอยยิ้มที่เห็นไม่ชัด หลังจากได้รับข้อความสารภาพรัก เขาก็ส่งคนไปตรวจสอบ ข้อมูลของมทิตาแล้ว

ฐานะครอบครัวเธอดี คนในครอบครัวมีความประพฤติดี มี อาชีพที่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เคยก่ออาชญากรรม

เธอมีนิสัยร่าเริง แจ่มใส

สิบปากว่าไม่เท่ากับตาเห็น เป็นอย่างนั้นจริงๆ

เขาไม่เคยต้องการการปกป้องจากใคร แต่ตอนนี้ เขารู้สึก สบายใจมาก

เขามองไปด้านข้าง จ้องมองที่แก้มของหญิงสาวข้างๆ เขา
เป็นคนง่ายๆ บริสุทธิ์ ใจดี

เธอ มือน้อยๆของเธอไว้ ตัวแน่น รับมือกับนักข่าวเหล่านั้น

ก็เป็นเพราะคำพูดของคนอื่นว่าณัฐมีปัญหาทางการเพศ หัวใจที่เหมือนภูเขาน้ำแข็งนั้นค่อย ๆ ละลายไป และรู้สึก อบอุ่นใจมาก

นักข่าวบางคนยังถามต่อไปว่า “ขอถามหน่อยว่าความ สัมพันธ์ระหว่างคุณกับคุณณัฐเป็นยังไงคะ

ไมโครโฟนถูกส่งไปที่ริมฝีปากของเธอ และมทิตาต้องตอบ

รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอค่อยแสดงออกมา หน้าแดง เป็น อาย หันหน้าเข้าหากล้อง ไม่ถ่อมตัวหรือเอาแต่ใจ “แน่นอนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างลุงกับฉันเป็นแฟนกัน

ยิ้มบนใบหน้า แต่ร้องให้ในใจ

มทิตา โกรธมาก ทำไมเธอถึงได้ตกลงแต่งงานกับลุงคนนี้แล้ว

เธอเจอผู้ชายคนนี้เพียงครั้งเดียว

แบบนี้ก็ให้ตัวออกไปให้เขาแล้ว ไม่คุ้มมาก

เมื่อเธอยังหงุดหงิดอยู่ นักข่าวก็เปลี่ยนไมโครโฟนไปทางณัฐ

“ขอถามหน่อยค่ะ คุณณัฐ ไม่ทราบว่าเมื่อกี้ที่ผู้หญิงคนนี้พูด เป็นเรื่องจริงหรือพูดเล่น

“ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ คุณณัฐตอบนิดหนึ่งได้ไหมคะ”
ไมโครโฟนนับไม่ถ้วน แทบรอไม่ไหวที่จะเสียบเข้าไป ณัฐไม่ได้พูดอะไร แค่นั่งอยู่รถเข็นเฉยๆ

ดวงตาของเขาลึกล้ำ เขาหลับตาลงเบาๆ ความอารมณ์ที่ หรูหราสง่างามนั้นไม่สามารถปกปิดได้ และที่ปกปิดไม่ได้ของ เขาทำให้นักข่าวกลั้นหายใจ

มทิตากัดริมฝีปาก และมองผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธออย่างไม่รู้ อะไร

ถ้าเขาพูดอะไรบางอย่างว่าเธอเป็นล้อเล่น

งั้นไม่ใช่แสดงว่าเธอโกหกทุกคนหรอ

ต้องอับอายมาก

ในขณะนี้ ผู้ชายที่เฉยเมยอยู่เดิม ๆ ขดริมฝีปาก แล้วเหลือบ มองไปที่เธอ หัวเราะเบา ๆ ว่า “สิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง ครับ”

แค่ประโยคเดียว ก็ทำให้คนในนั้นกระซิบกันทันทีไปหมด

ก่อนที่นักข่าวจะถามต่อแบบไม่หยุด ณัฐพูดต่อไปว่า “เธอชื่อม ทิตา เป็นแฟนของผม และเป็นคู่หมั้นของผมด้วย สายตาของคนสองคน เชื่อมโยงกันในอากาศ คนหนึ่งตก ใจ อีกคนหนึ่งยิ้มแบบเบา ๆ
ก่อนที่นักข่าวจะถามเพิ่ม เขาจ้องไปทีมที่ตา และพูดว่า “ไปกัน เถอะ”

ผลักออกจากฝูงชน ผลักรถเข็น อยากจากไป

แต่นักข่าวจะปล่อยให้เขาสองคนไปง่ายๆ ได้ยังไง “คุณณัฐ ขอถามหน่อยค่ะว่าคุณคบกับผู้หญิงคนนี้เมื่อไหร่คะ นักข่าวยังคงถามเรื่อยๆ

นักข่าวก้าวร้าว ทำให้เขารู้สึกน่ารําคาญ

สีหน้าของณัฐมืดมน และเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เขายึดตัวตรง เหยียดมือ ดันไมโครโฟนออกไป จ้องมองไปที่ นักข่าวคนนั้น เขาพูดอย่างทีละคำว่า “ผมไม่มีความอดทนละ ความพลังของเขาแรงเกินไป ทำให้ทุกคนหายใจไม่ออก

มหิตายืนอยู่ข้างหลังเขา และถูกตกตะลึงเหมือนกัน

ยังไม่มีเวลาปฏิกิริยา เสียงเบาๆ และเหมือนแม่เหล็กไหลเข้าหู ของมทิตา “มทิตา ไปเถอะ”

มทิตาเข็นรถเข็น เพิ่งไปพ้นจากความถูกผิดของที่นี่ ยังไม่ได้ขึ้นรถ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เป็นพี่สาวพนิตาโทรมา

พี่สาวของเธอเป็นคนที่ไม่มีธุระไม่มา จู่ๆ โทรหาเธอทำไม เธอรับสาย พี่สาวของเธอก็ถามแบบกระตือรือร้นและรีบร้อนว่า”มทิตา แกกลับมาเร็วๆ มีเรื่องเกิดขึ้นที่บ้าน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ