บทที่ 13 แขกไม่ได้รับเชิญ
คนยังไม่ทันจะเข้ามา เสียงที่นำมาก่อนแล้ว มทิตาหยุดชะงักไปด้วยความตกใจ จู่ๆ เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองอย่างไรดี
เป็นไปไม่ได้
ทำไมมันถึงได้บังเอิญขนาดนี้ล่ะ?
หลังจากที่เธอเก็บเอกสารสัญญา และเงยหน้าขึ้น เธอเห็นเอ็ม เดินเข้ามาในห้องโถง วันนี้เขาแตกต่างไปจากทุกวัน เพราะเขาสวมเสื้อสูทสีขาวแนว
ตะวันตก ลำตัวของเขาสูงตรงราวกับต้นสน สว่างไสว และ
สะอาดสะอ้าน
“พี่ครับ คุณท่านปู่จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่บ้าน เขาอยาก จะให้ทุกคนในครอบครัวไปรวมตัวกัน แล้วพ่อก็ขอให้ผมมารับ
สายตาของเอ็มจับจ้องมาที่ณัฐตลอดเวลา เพราะอย่างนั้นเขา จึงไม่ได้สังเกตเห็นมู่มทิตาที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งเลยแม้แต่น้อย ดัง นั้นเขาจึงพูดต่อไปอีกว่า
“พี่ครับ พวกเราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะครับ”
“แผลที่ขาของพี่ดีขึ้นรึยัง?
เอ็มยืนอยู่ข้างๆ ณัฐจากนั้นก็เริ่มพูดเรื่อยเปื่อยออกมา
ส่วนทางด้านของมหิตาตอนนี้เธอทำได้แค่หลับตา เพราะเธอ ประหม่าจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
เมื่อเธอนึกไปถึงคืนนั้นที่เขาปฏิเสธคำสารภาพรักของเธอ ทันใดนั้นเองจู่ๆ เธอก็รู้สึกเขินอายขึ้นมา
เธอไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าเธอจะเผชิญหน้าเอ็มได้อย่างไร ในใจ ของเธอกำลังคิดว่าเธอควรที่จะหาโอกาสปลีกตัวขึ้นไปชั้นบน เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้
แต่ทุกอย่างมันกลับตรงกันข้ามกันสิ่งที่เธอคิดเอาไว้เพ ราะณัฐไม่ได้ตอบคำถามของเอ็มแต่เขากลับมุ่งความสนใจมาที่ เธอแทน
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะปลีกตัวออกไป ณัฐก็พูดออกไปก่อนว่า
“มทิตา…”
เสียงของเขาที่เปล่งออกมานั้นมันนุ่มนวลมากจริงๆ มันนุ่ม
นวลราวกับขนนก
ตั้งแต่ที่เอ็มเดินเข้ามาในบ้าน ณัฐก็ลอบสังเกตปฏิกิริยาของม ทิตาอยู่ตลอดเวลา
เมื่อเขาเห็นว่าเธอทำท่าจะปลีกตัวออกไป หัวใจเขามันก็เกิดความรู้สึกรู้สึกแปลกๆ
“อา?” มทิตาสะดุ้งตกใจ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่กล้าหันกลับ
มทิตา?
เอ็มรู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงหันมองตามไปสายตาของ
และเมื่อเขาได้เห็นใบหน้านั้น มันก็ปรากฏให้เห็นใบหน้าที่เขาคุ้นเคย
มทิตา?
มทิตา เปรมปรีดิ?
เป็นไปไม่ได้!
เอ็มมั่นใจว่า ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ณัฐจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อน หวานนุ่มนวลขนาดนี้มาก่อน
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ น้ำแข็งบางๆ ก็ เริ่มก่อตัวขึ้นมาบนใบหน้าที่เย็นชาของณัฐเขาจึงพูดออกไปด้วย น้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “มานี่”
เอ็มที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากณัฐจู่ๆ เขาก็รับรู้ได้ถึงลมหายใจที่คุ้น เคย กัดเซาะทุกเซลล์ในร่างกายของเขา
เมื่อผู้ชายคนนี้โกรธ ก็ไม่มีใครสามารถต้านทานเขาได้เลยจริงๆ
มท ากัดฟัน เธอคิดในใจว่า ในเมื่อพวกเขาทั้งสองคนเป็นพี่ น้องกัน เพราะอย่างนั้นไม่ช้าก็เร็ว ถึงอย่างไรเธอต้องได้เจอกับ เขา
เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอจึงหันหลังกลับมา จากนั้นก็เดินเข้าไป หาณัฐด้วยความระมัดระวัง
เมื่อเธอเดินมาหยุดยืนอยู่ๆ ข้างเขา เธอก็พูดออกไปว่า “คุณ
ณัฐไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาเพียงแค่ยื่นมือไปจับมือของเธอไว้
อุณหภูมิที่ปลายนิ้วของเขาที่ส่งผ่านมา เหมือนกับว่ามีกระแส ไฟฟ้าที่กระทบกันอย่างไรอย่างนั้น นั่นจึงทำให้มทิตาหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
เมื่อได้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เอ็มก็ตกตะลึงถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ใช่จริงๆ ด้วย เธอคือมทิตาผู้หญิงที่เคยมาสารภาพรักกับเขา แต่ทำไมณัฐถึงดีกับเธอขนาดนี้ล่ะ?
ณัฐมองไปที่เอ็มพร้อมกับพูดออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เธอคือพี่สะใภ้ของนาย
พี่สะใภ้?
เมื่อสองวันก่อนเธอยังมาสารภาพรักกับเขาอยู่เลย แต่มาวันนี้เธอกลายมาเป็นพี่สะใภ้ของเขาอย่างนั้นหรือ
เอ็มสงสัยว่า มหิตามีจุดประสงค์กันแน่
หรือว่า มันจะเป็นอย่างที่คนอื่นพูดกันจริงๆ มทิตาเป็นคนที่ พิสมัยในความฟุ้งเฟ้อ และเป็นผู้หญิงที่ชอบเล่นกับความรู้สึก ของคนอื่น?
ขณะที่เขาตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ณัฐก็บอกให้มทิต
ผลักรถวีลแชร์ของเขาเข้าไปในลิฟต์แล้ว
เมื่อเขาหันกลับไปเต็มที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เขากลับ เห็นเพียงแค่ประตูลิฟต์ที่ปิดลงแล้ว
เขาอยากจะตามพวกเขาขึ้นไป แต่เขาก็ถูกอินทัชหยุดเอาไว้ เสียก่อน: “คุณชายเอ็มคุณไม่สามารถควบคุมเรื่องของคุณชาย
ได้หรอกนะครับ”
ชั้นบน
ภายในห้องนอน
ณัฐยื่นมือออกไปจับมือของ มทิตาไว้ และดวงตาสีดำเข้มนั้นก็ จ้องมองไปทีมทิตา อย่างครุ่นคิด
ณัฐจึงถามเธอออกไปว่า “เรื่องงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่บ้าน ของคุณท่านผม คุณอยากไปไหม?”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ