บทที่ 12 สามข้อเรียกร้อง
ของสิ่งนั้น เมื่อมันได้สัมผัสกับนิ้วมือของเธอ มันก็ให้ความรู้
กเย็นๆ
ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรออกไป เธอก็ได้ยินเสียงของณัฐดัง เข้ามาในหูของเธอก่อนว่า “มันคือบัตรประจำตัวของผม
บัตรประชาชน?
มทิตาก้มลงไปมองมือของตัวเอง และก็เป็นอย่างที่คิด เธอเห็น บัตรประชาชนในมือของตัวเอง
ณัฐยังพูดต่ออีกว่า “ผมชื่อณัฐ โลหนันทน์ ปีนี้ผมอายุ 28 ปี ไม่เคยแต่งงาน และไม่มีลูก”
เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ จากนั้นก็ใช้ดวงตาดำสนิทจ้องมอง
มาที่เธอ อีกทั้งยังทำตัวสบายๆ ราวกับเกียจคร้าน
การกระทําเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขา มันมีเสน่ห์มากจริงๆ
นิ้วมือของมทิตาที่กำลังจับบัตรประชาชนอยู่ จู่ๆ มันก็ร้อนขึ้น
เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่?
เอาใจคนต่ำต้อยวัดท้องสุภาพบุรุษ
ถ้าจะให้พูดตามความจริง ที่เธอยังไม่ยอมเซ็นสัญญา ก็เพราะ เธอกลัว
กลัวว่าตัวเองจะโดนหลอก
แต่ตอนนี้ดูเหมือน เธอจะเป็นคนหน้าชื่อใจคดนะ
อินทัชที่ยืนอยู่ข้างๆ เมื่อเขาได้เห็นฉากตรงหน้าเขาก็เกิด อาการตัวสั่น
ประธานรุ่งโรจน์ กรุ๊ปผู้สง่างาม คุณชายตระกูลโลหนันทน์เขา กำลังแนะนำตัวเองกับเด็กนั่นจริงๆ เหรอ?
นี่มันวิธีอะไรกัน?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ อินทัชก็ยังสังเกตเห็นการแสดงออกที่ พิเศษของ ณัฐ
ไม่เพียงแต่เขาจะไม่โกรธ แต่ดูเหมือนว่า…..เขากำลังสนุก
“คุณลุงคะ ฉันอยากจะขอร้องอะไรคุณสักสองสามข้อได้ไหม คะ?” หลังจากที่ลังเลอยู่พักหนึ่ง เธอก็พูดมันออกไป
ขอร้อง?
อินทัชถึงกับพูดไม่ออก
เพราะการที่เธอได้แต่งงานกับณัฐนั่นก็ถือว่าเป็นพรที่พวกผู้ หญิงทั้งหลายไม่สามารถขอได้แล้ว
เธอโชคดีแค่ไหนแล้ว ที่ได้รับความสนใจจากคุณชาย? แล้วตอนนี้ เธอยังกล้าที่จะมาขอร้องอะไรอีกอย่างนั้นหรือ นี่มัน…จะมากเกินไปแล้วนะ
อินทัชอยากจะเปิดปากบอกตัวตนของคุณชายออกไป แต่ไม่ คิดเลยว่า ณัฐจะพูดขัดจังหวะเขาเสียก่อน “อือ”
แค่ค่าค่าเดียว ก็ทําให้เขาถึงกับเงียบเลยทีเดียว
เมื่อได้ยินคําตอบรับของเขา มหิตาจึงเริ่มพูดออกไปด้วยน้ำ เสียงเคร่งขรึมว่า “ข้อแรก ฉันยังเด็ก และฉันก็กำลังเรียนอยู่ เพราะอย่างนั้นฉันจึงไม่สามารถมีลูกได้”
“ข้อที่สอง ฉันไม่ได้เกลียดคุณลุง แต่ก็ไม่ได้รัก ดังนั้นฉันหวัง ว่าคุณลุงจะให้เวลาฉัน เพื่อให้ฉันยอมรับคุณอย่างช้าๆนะคะ”
“ข้อที่สาม……
มทิตายังคงพูดข้อเรียกร้องของตัวเองต่อไป โดยที่เธอเองก็ ไม่รู้เลยว่าบรรยากาศรอบๆ ตัวนั้นมันเปลี่ยนไป
เย็นยะเยือก น้ำแข็ง…ถูกกดขี่อย่างแรง และพร้อมที่จะลุยได้
ทุกเมื่อ
ก็เหมือนเชือกสตริงที่ตึงมาก แค่รอให้มันขาดออกมาจากกัน
มทิตาบัตรประชาชนไปมา พร้อมกับบ่นพึมพำอยู่นาน เธอ โบกมือไปมาอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็เหลือบมองไปที่ณัฐและพูด ออกไปว่า “ช่างมันเถอะค่ะ ไม่มีข้อที่สามแล้ว
ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็รู้สึกถึงความหนาวเย็นที่ปกคลุมรอบๆ ตัวเธอ
เมื่อรับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เธอก็ค่อยๆ ถอยห่างออกไปสองสามก้าว และรักษาระยะห่างจาก ณัฐเอาไว้
“คุณลุงคะ ฉัน…..ขอมากไปรึเปล่า?” มาตาถามออกไปอย่าง ไม่มั่นใจ
บนรถวีลแชร์ สายตาที่มืดมนและไม่ชัดเจนของ ณัฐที่จ้องมอง มาก็เป็นเหมือนกับตาข่ายที่แผ่ออกไปหาเธอ
“มะ…มีอะไรเหรอคะ?” มหิตารู้สึกตกใจ ราวกับว่าฝ่าเท้าของ ตัวเองมีรากออกงอกมาอย่างไรอย่างนั้น “ข้อที่สามคืออะไร?” ประเด็นของผู้ชายคนนี้อยู่ที่เรื่องนี้ เรื่อง
อื่นดูเหมือนจะไม่สำคัญ
ข้อที่สาม?
ความจริงแล้ว มทิตาอยากจะให้เขาปกปิดเรื่องการแต่งงาน
เอาไว้
แต่เมื่อเธอมาคิดๆ ดูแล้ว เธอก็คิดว่าช่างมันเถอะ
แต่ในตอนนี้ เมื่อเธอถูกถาม เธอก็รู้สึกอายนิดหน่อยที่จะพูด มันออกไป
ดวงตาของณัฐดูเหมือนจะมีเศษแก้ว ที่สามารถแทงทะลุผู้คน
ได้
เมื่อถูกสายตาที่แหลมคมจับจ้องมา มทิตาก็ยื่นมือออกไป หยิบหนังสือข้อตกลงการแต่งงานมาถือไว้ จากนั้นเธอก็พูดออก
ไปว่า “ลุงคะ ฉัน…ฉันจะเซ็นมันค่ะ”
เธอจงใจเดินเลี้ยง โต๊ะอาหาร และพยายามยืนอยู่ให้ไกลจาก ณัฐมากที่สุด
ทุกการกระทําของเธอ อยู่ในสายตาของณัฐตลอดเวลา
จากดวงตาที่มืดมนและน่ากลัว กลับแปรเปลี่ยนกลายมาเป็น ดวงตาที่อ่อนโยน…
เมื่อเขาได้ยินคําขอร้องจากเธอ ณัฐก็รู้สึกมีความสุขมากจริงๆ
เด็กผู้หญิงที่นิสัยดีแบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกกระหายเป็นอย่าง
มาก
หลังจากที่เซ็นสัญญาเสร็จ ก่อนที่เธอจะลุกขึ้น เธอก็ได้ยิน เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากหน้าประตู “พี่ครับ…
เสียงนี้มัน!
คือ… เอ็ม
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ