รักนี้อ้วนแล้วต้องผอม

ตอนที่4



ตอนที่4

วันนี้เป็นวันหยุดของฉันซึ่งวันเสาร์อาทิตย์ส่วนมากฉันก็จะอยู่ที่ บ้านตลอด ตั้งน้อง เสียงออดที่หน้าบ้านได้ดังขึ้น มีคนกด กริ่งที่บ้านของฉันฉันก็เลยเดินไปดูที่หน้าบ้าน

“พี่เองเปิดประตูให้หน่อยสิ วันนี้พี่จะพาหนูไปเที่ยว” พี่ เบสโบกมือทักทายฉัน วันนี้พี่เบสมาตั้งแต่เช้าเลย ฉันเปิด ประตูให้กับพี่เบสก่อนที่พี่เบสจะเดินเข้ามากอดฉัน

“คิดถึงจังเลยคิดถึงทุกๆวันเลยนะรู้ไหมเนี่ยอ้วน

แหมะคิดถึงทุกวันหวานตลอดเลย จากนั้นฉันก็พาเขาเข้า มาในบ้าน พี่เขาสวัสดีคุณพ่อและคุณแม่ของฉัน

“สวัสดีลูกเขยของพ่อ กินข้าวหรือยังมากินข้าวกันก่อน

จะทำอะไรค่อยว่ากันทีหลัง

พี่เขายิ้มให้กับคุณพ่อของฉันก่อนจะเดินเข้ามาแล้วก็ เข้าไปห้องกินข้าวกัน ระหว่างที่คุณแม่กำลังทำกับข้าวอยู่ คุณ พ่อก็เริ่มปล่อยคำถามใส่พี่เบส ถึงจะยอมรับยังไงก็ยังไม่ไว้ใจ พี่เบสอยู่ดี

“แล้ววันนี้จะพากันไปไหนหม?” คุณพ่อฉันถามพี่เบสไป ด้วยสีหน้าโหดๆ ถึงคุณพ่อจะหน้าโหดแต่ก็ใจดีนะ

“ผมจะพาน้องไปเที่ยวไปเดินครับแถวๆนี้แหละครับ ก็น่าจะเป็นพวกเซนแฟอะไรแบบนี้แหละครับ

พี่เบสพูดได้ดีเลยนะเนี่ย แต่คุณพ่อก็ยังไม่หมดคำถาม

“แล้วจะกลับกันกี่โมงล่ะ” คุณพ่อมองหน้าของพี่เบสแล้วก็ ทําคิ้วแปลกๆ ใส่

“ไม่เกิดหกโมงเย็นครับไม่ต้องห่วงผมจะดูแลน้องให้ดี

ที่สุดเลยครับ”

คุณพ่อกำลังจะถามต่อแต่ว่าคุณแม่ก็เดินเอาอาหารมาวาง กั้นเอาไว้พอดี

“พอแล้วถามเขาอะไรนักหนากินข้าวได้แล้ว เขาจะไปไหน ก็เรื่องของเขา แล้วเราอะตอนเย็นจะไปไหนไปกับใครบอกแม่ มาหน่อยสิ”

คุณพ่อโดนคุณแม่สวนกลับแล้วเอายังไงดีล่ะทีนี้ คุณพ่อ

เหงื่อแตกพร้อมกับยิ้มให้กับคุณแม่

“แหมะเมียจำไปทำงานตอนดึกไปกับพวกรุ่นน้องจ้าพวกที่ ทำงานนั่นแหละนะไม่มีอะไรหรอก กินกันเถอะพ่อไม่ถามพวก หนูแล้ว กินได้แล้วที่รักนั่งลงเถอะจ้ากินกัน

แม่มองตาขวางใส่พ่อก่อนจะนั่งลงข้างๆกับคุณพ่อ พี่เบส กลั้นหัวเราะฉันเห็นได้เลย แล้วจากนั้นพวกเราสองคนก็เริ่มกิน ข้าวกัน เมื่อกินข้าวกันเสร็จพี่เบสก็เก็บจานพร้อมกับฉันก่อนจะ พากันไปล้างจาน ทำแบบนี้กันประจำนั่นแหละเวลาที่มากินข้าว ที่บ้านของฉัน ถึงแม้ว่าแม่ของฉันจะบอกว่าไม่ต้องล้างแต่ว่าพี่เบสก็ไม่ยอมพยายามที่จะล้างจานแบบนี้จนแม่ของฉันยอมให้ ล้าง แบบนี้สิถึงมัดใจแม่ของฉันเอาไว้ได้ ในระหว่างที่เราสอง คนกำลังล้างจานกันอยู่ อยู่ๆพี่เบสก็พูดขึ้นมา

“อ้วนอยากจะไปเที่ยวที่ไหนดี พี่จะพาไปที่ไหนก็ได้ที่หนู อยากจะไป

จะไปไหนดีนะส่วนมากฉันก็คิดแต่ไปหาของกินแถวตาม

ทางด้วยสิ “อยากหาไรที่มันมีร้านกินอะสิ ไปเดินเล่นที่ตลาดแถวนี้

หรือพวกแฟที่ว่าก็ได้นะคะ

พี่เขาพยักหน้าให้แล้วพวกเราก็พากันล้างจานต่อ ใช้เวลา ล้างจานได้ไม่นานมากก็หมดแล้ว แล้วก็พากันไปเช็ดจานก่อน จะทำความสะอาดโต๊ะ ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อนฉันกับพี่เบสก็พา กันลาคุณพ่อกับคุณแม่แต่ว่าคุณพ่อก็ห้ามเราเอาไว้ก่อน

“อย่าพึ่งไปพ่อขอคุยกับเบสหน่อยแป๊บหนึ่ง” พ่อเขาจะ คุยอะไรกับพี่เบสกันนะ ฉันมองไปที่พี่เบส พี่เบสพยักหน้าให้กับ คุณพ่อก่อนจะพากันเดินออกไปข้างนอกกัน ฉันไม่ได้ไปด้วยแต่ ก็มองเหมือนกันว่าสีหน้าของพี่เบสจะเป็นยังไง แน่นอนว่า สีหน้าของพี่เบสดูตกใจกับสิ่งที่คุณพ่อได้พูดขึ้นมา แต่สีหน้า ของพ่อดูเหมือนจะหัวเราะตลอดเวลา พี่เบสเคอะเขินๆจาก สิ่งที่คุณพ่อพูดกับพี่เบส ก่อนคุณพ่อจะแตะไหล่เบาๆแล้วก็พา กันเดินกลับมาที่บ้าน

“เอาไปกันได้แล้วพ่อคุยกับเบสเสร็จแล้วล่ะ ดูแลลูกสาวของพ่อนะอย่าลอยขีดข่วนเด็ดขาดเลย

เบสยิ้มให้พ่อก่อนจะจับมือของฉันกันเดินออกไปหน้า บ้านแล้วไปรถ ก่อนจะออกมาพวกเราลาแล้วพากันออกมา ในระหว่างรถกำลังเคลื่อนที่ไปกัน อยู่ ก็คิด

พี่เบสขอถามอะไรหน่อยสิ

พี่เบสคุยเรื่องอะไรกับพ่อ

หรอ”

พี่เบสเบรกรถกะทันหันทำให้เกือบพุ่ง ดีนะใส่ที่ คาดเบลท์อยู่ไม่อย่างนั้นคง

“คือไม่อะไรหรอกเรื่องนิดๆหน่อยๆเอง เอาเป็นว่า เดี๋ยวพี่พาไปกินของหวานกันกว่าเนอะ

แล้วเขาต่อไปจากเมื่อเราสถานที่เซนเราก็ พากันไปชั้นสี่ ซึ่งชั้นที่จะเป็นชั้นของหวานอาหารตอนเรากำลังขึ้นไปอยู่นั้นระหว่างในลิฟท์ จะมีหญิงอยู่คนหนึ่ง ใส่ชุดแบบแนวเอวลอยขาผมยาวตัวเล็กน่า รัก คือไม่ได้อิจฉาแต่ว่าเธอน่าจริงๆ เล็กแบบนั้นก็ อยากหุ่นแบบนั้นบ้าง แต่ว่ามันก็คงถ้ายังอยู่ แบบอยู่ ฉันมองไปผู้หญิงคนนั้น ฉันเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นมอง เบสด้วยสายตาอย่างฉันไม่เอาเลย ๆลิฟท์กระตุกขึ้นมา ฉันจับเอาไว้พอดีเลยไม่ทำให้ฉันล้ม แต่ผู้ หญิงนั้นอยู่ข้าง

“โอ๊ย..อุ้ยขอโทษนะคะไม่ตั้งใจอะค่ะผู้หญิงล้มไปใส่เบสแล้วเบสก็จับไว้พอดี จากขอโทษพี่เบสยิ้มให้ก่อนจะส่งตาเป็นประกายใส่เขา ฉัน ว่าแล้วว่าพี่เบสต้องโดนแบบนี้

ไม่เป็นไรหรอกครับยินดีครับผม ^^ เบสไม่รู้สึกสา อะไรเลยว่ากำลังโดนเขาทำอยู่เนี่ย แปลกแล้วก็ตาก่อนจะยิ้มให้เบส

ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยไหมคะ

คนก็แบบนี้แหละมีคนรู้จักเยอะ รู้จักจนข้ามหัวเขาไปเลยเหอะพี่เบสพยักหน้าให้ก่อนที่ผู้หญิงจะหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาแล้วถือเซลฟี่ขึ้นมา พวกเราพากันพยุงตัวเองแทบไม่ทัน ทุกอย่างลงกลาย เป็นว่าลิฟท์ได้ค้างไปเลย

อ๊ายนี่มันเกิดอะไรขึ้นคะเนี่ยหนูกลัวจังเลยพี่เบส” ผู้หญิง คนนั้นวิ่งเข้าหาพี่เบสก่อนจะกอดเบสเอาไว้แล้วร้องไห้ ออกมา ฉันไม่เหมือนกันเธอคนนั้นกลัวจริงรึป่าว ฉันก็มอง เธอไปเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าเบสก็มองฉันเหมือนกันเพราะว่า เกรงใจฉัน ฉันเข้าใจเขานะเพราะเขาไม่ได้อยากจะทำแบบ นั้นหรอก แต่เหมือนว่าผู้หญิงคนกอดพี่เขาแน่นเลย แต่ พอมองผู้หญิงคนนั้นเรื่อยๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ยิ้มขึ้นมา ไม่ได้กลัวเลย แต่แค่เป็นกลัว จะได้กอดเบสเฉยๆ
“งั้นหนูขอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรก่อนนะ สงสัยคงอีก นานแน่เลยต้องโทรหาตำรวจไม่ก็หาอะไรสักอย่างให้มา จัดการแล้วล่ะ”

ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะโทรไปเบอร์ๆหนึ่ง ติด ติด

“ฮัลโหลสวัสดีครับมีอะไรให้พวกเราช่วยรึป่าวครับ

คุณตำรวจพูดขึ้นมาก่อนที่ฉันจะพูดเรื่องราวทุกอย่างออก ไป คุณตำรวจบอกว่าคงใช้เวลาประมาณสิบนาทีมาถึงที่นี่ น่า จะให้เจ้าหน้าที่มาช่วยกันเปิดประตูลิฟท์ ในระหว่างนี้ฉันและ อีกสองคนก็รอพี่ตำรวจมา

“เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะมาในอีกสิบนาทีนะคะ ทุกคนไม่ต้อง กลัวอดใจไว้แป๊บเดียวเองค่ะ”

ฉันนั่งลงก่อนพี่เบสจะดึงมือของผู้หญิงคนนั้นออกแล้วมา นั่งข้างๆฉัน เธอคนนั้นทำหน้ามุ่ยๆ บูดๆ ใส่พี่เบสแล้วก็เดินมา

นั่งข้างพี่เบสต่อ

“ฉันกลัวมาเลยฉันจะตายที่นี่รีบาว” เธอคนนั้นพูดขึ้นแล้ว ก็มากอดไหล่พี่เขา

“ไม่ต้องกลัวหรอกมันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน ตอนนี้ก็ แค่รอเวลาที่เจ้าหน้าที่จะมาที่นี่แค่นั้นเอง”

พี่เบสพูดปลอบเธอคนนั้นก่อนที่จะเอาหัวมาซบไหล่ของฉัน
“หนูชื่อว่านิลานะคะ ไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับพี่หรอกแต่ ว่าหนูอยู่โรงเรียนข้างๆกับพี่เลย โรงเรียนสตรีนะค่ะ

เธอคนนั้นบอกพี่เบสทั้งๆ ที่พี่เขาก็ยังไม่ได้ถามเลย ไม่มี

ใครถามเธอเลยนะรู้รึป่าว = =

“ครับ คงรู้จักชื่อพี่แล้วใช่ไหม งั้นชื่อปอยแฟนพี่เอง

ผู้หญิงคนนั้นอึ้งไปแล้วก็เงียบไปเลย ฉันยื่นขึ้นมาก่อนที่จะ เดินไปข้างหน้าของพี่เบส ดึงมือของผู้หญิงคนนั้นออก แล้วก็ แทรกเข้าไปนั่งตรงกลาง ให้พี่เบสไปอยู่ตรงมุมแทน ผู้หญิงคน นั้นมองฉันแล้วก็ถอนหายใจแรงๆออกมาทำฟุดฟิดฟุดฟิดใส่ แล้วก็ไปอยู่มุมที่มีปุ่มกดที่ข้างหน้าของพี่เบสแล้วยิ้มให้พี่เบส ฉันมองไปที่เธอคนนั้นก่อนที่จะเอาหัวไปซบที่ไหล่ของพี่เบสแล้ว ยิ้มออกมา นั่นคือการแสดงให้เห็นว่าฉันเป็นเจ้าของของพี่เบส ไม่ใช่จะมาทำอะไรก็ได้ต่อหน้าของฉัน ฉันไม่ใช่คนดีขนาดที่จะ ทนมองเห็นว่ามีคนมาทำอะไรแล้วจะอยู่นิ่งๆได้หรอกนะ จากที่ นางยิ้มให้พี่เบสก็หุบยิ้มลงแล้วก็หันไปทางอื่น ปิ้งๆ//

“สวัสดีครับพวกเราเจ้าหน้าที่มาช่วยแล้วนะครับกรุณา ถอยออกมาจากประตูลิฟท์ก่อนนะครับ พวกผมจะทำลายประตู ทิ้งแล้วนะครับ”

ผู้หญิงคนนั้นถอยออกมาจากมุมประตู มีคนกำลังมาช่วย เราแล้วดีใจจังเลย ใช้เวลาหลายนาทีได้ก่อนที่จะแยกประตู ลิฟท์ออกจากกัน เจ้าหน้าที่จับพวกเราออกมาจากที่ลิฟท์ อากาศที่บริสุทธิ์ทำให้ฉันสบายใจขึ้นมาก จากที่หายใจไม่ค่อยออกตอนนี้หายใจออกแล้วล่ะ

“เย่ออกมาได้แล้วดีใจจังเลย” เธอคนนั้นพูดขึ้นมาก่อนจะ วิ่งไปหาพี่เบส แต่ว่าพี่เบสตันวิ่งมาหาฉันแล้วกอดฉันเอาไว้ ก่อนจะกระโดดไปกระโดดมา

“ได้ออกมาแล้วดีใจจังเลย” พี่เบสพูดขึ้นมันทำให้ฉันดีใจ นะที่พี่เบสไม่ได้สนใจผู้หญิงคนนั้น เธอคนนั้นมองมาทางฉันฉัน รู้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นเริ่มไม่ชอบขี้หน้าของฉันแล้วล่ะ เธอเดินมา ที่พวกเราสองคนก่อนจะหยิบโทรศัพท์คืนให้กับพี่เบส

“ขอโทษนะคะพอดีเห็นตกไว้เลยเอามาให้อะค่ะ”

เธอยิ้มขึ้นมา พี่เบสยิ้มกลับไปก่อนจะรับโทรศัพท์ของพี่ เบสมา “ขอบคุณมากนะน้องนิลา ยินดีที่ได้รู้จักนะไว้เจอกันวัน

หลังก็แล้วกัน พี่กับแฟนพี่จะไปหาอะไรกินกันก่อน ตอนนี้คงจะ

หิวของหวานน่าดูเพราะกำลังกลัวใช้ไหมอ้วน ฮ่า ฮ่า”

คนที่กลัวไม่ใช่พี่เบสหรอ ตอนอยู่ในลิฟท์นี่สั่นจังเลยนะ แล้วพวกเราสองคนก็โบกมือลานิลาก่อนจะพากันเดินไปกิน ของหวาน แล้วพากันเที่ยวให้มันสนุกกันไปเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ